หลังจากรับใบแสดงผลการเรียน หมี่หลันเยว่ตั้งใจจะกลับร้าน แต่กลับถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนล้อมเอาไว้
"หมี่หลันเยว่ เธอจะอะไรขนาดนั้น กลับมาก็ที่หนึ่งทุกที"
"พวกเธอนี่มันคนหรือเปล่าเนี่ย คว้าที่หนึ่งไปสี่ห้องรวด นี่จะไม่ให้พวกเรามีที่ยืนเลยใช่ไหม"
เพื่อนร่วมชั้นเรียนรู้กันดีว่าหมี่หลันเยว่กับหมี่หลันหยางเป็พี่น้องกัน สนิทกับเฉียนหย่งจิ้นและหลินเผิงเฟย พวกเขาสี่คนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ความสัมพันธ์ดีจนไม่ต้องพูดถึง แต่พวกเขาต้องกวาดที่หนึ่งไปสี่ห้องเลยเหรอ ทั้งชั้นปีมีแค่หกห้องเองนะ!
"อะไรกัน สี่ห้องสี่ที่หนึ่ง ที่ไหนกันล่ะ หนิวเถียจู้ห้องห้า สอบได้ที่สองของห้องนะ"
หนิวเถียจู้ ั้แ่ประสานงานให้หนิวต้าลี่ ได้ของจากโรงงานของหมี่หลันเยว่ไปขาย เขาก็ติดหนึบเฉียนหย่งจิ้น ทุกวันจะตามเฉียนหย่งจิ้นมาหาหมี่หลันเยว่ที่ห้องเรียน ราวกับกลายเป็สมาชิกใหม่ของกลุ่มเล็กๆ นี้ไปแล้ว
หมี่หลันเยว่เห็นแก่หน้าหนิวต้าลี่ เลยไล่เขาไม่ให้ตามไม่ได้ ทำได้แค่ปล่อยให้เขาตามพวกเธอเข้าๆ ออกๆ ร้าน หมี่หลันเยว่ไม่ได้กลัวว่าเขาจะเห็นความลับอะไร ร้านก็แค่ขายเสื้อผ้า ลูกค้าทั่วไปยังเดินเข้ามาได้เลย หนิวเถียจู้จะดูหรือไม่ดูมันเกี่ยวอะไรกัน
แต่การที่เขาคอยช่วยเหลืองานจิปาถะอยู่ทุกวัน ทำให้หมี่หลันเยว่ไม่รู้จะจัดการกับคนคนนี้ยังไง จะนับเขาเป็สมาชิกในกลุ่มเล็กๆ แล้วปฏิบัติต่อเขาในฐานะพนักงาน หรือจะแกล้งทำเป็มองไม่เห็นความทุ่มเทของเขา รอให้เขาเบื่อแล้วถอนตัวออกไปเอง?
"ฉันดูแลแค่ตัวเองก็พอแล้ว พวกเขาคือพวกเขา ฉันคือฉัน พวกเขาทำไมถึงสอบได้ที่หนึ่ง พวกเธอก็ต้องไปถามพวกเขาสิ"
สอบปลายภาคเสร็จ หมี่หลันเยว่รู้สึกโล่งอกเป็พิเศษ ในที่สุดก็สอบได้คะแนนดี มีคำตอบให้ตัวเอง มีคำตอบให้พ่อด้วย
หลายเดือนมานี้เธอวุ่นวายมาก พ่อแม่ไม่ได้ไม่สนใจเธอ เพราะผลการเรียนของเธอดีมาตลอด ตัวเธอเองก็ไม่เคยสร้างเื่อะไร พ่อแม่เลยไม่รู้จะจัดการกับเธอยังไง ได้แต่หวังว่าอย่าให้เื่นี้ทำให้เสียการเรียน ตอนนี้มีใบแสดงผลการเรียนใบนี้ กลับบ้านไปก็คุยได้เต็มปากเต็มคำ ในที่สุดก็ไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
"พวกเราดูแลเพื่อนต่างห้องไม่ได้หรอก เพื่อนของเธอก็ยิ่งไปกันใหญ่ แต่เธอน่ะคนห้องเรานะ หลันเยว่เธอสอบได้ที่หนึ่ง เธอต้องเลี้ยง พวกเราทุกคนกลายเป็ตัวประกอบของเธอ เธอต้องสนใจหน่อยสิ"
มีเพื่อนที่สนิทกับหมี่หลันเยว่เริ่มส่งเสียงโห่ร้อง ทุกคนรู้ว่าหมี่หลันเยว่ไม่ขี้เหนียว แถมยังมีเงิน เด็กๆ มักมีความอยากกินมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในเวลาที่ตนเองไม่สามารถตอบสนองความอยากนั้นได้
"เอาล่ะๆ ฉันเลี้ยงข้าวโพดคั่วพวกเธอดีไหม?"
ยุคนี้ข้าวโพดคั่วทำจากเมล็ดข้าวโพดหรือข้าวโพดบดหยาบ เทลงในหม้อเหล็กหนาพิเศษที่มีมือหมุน ด้านล่างก่อไฟ ข้างๆ ด้ามหมุนจะมีมาตรวัดแรงดันติดอยู่ พอแรงดันถึงจุดที่กำหนด ก็หันปากหม้อไปทางท่อลมที่ทำจากยาง แค่ได้ยินเสียง 'ปัง' ข้าวโพดคั่วทั้งหม้อก็จะกระเด็นออกมา
"ดีเลยๆ กินข้าวโพดคั่วกัน"
เพื่อนๆ สะพายกระเป๋าหนังสือ แย่งกันวิ่งไปที่ประตูโรงเรียน ที่ปากซอยเล็กๆ ตรงข้ามประตูโรงเรียน มีแผงขายข้าวโพดคั่วตั้งอยู่เป็ประจำ
หมี่หลันเยว่ช้าไปครึ่งก้าว รอจนพี่ชาย เฉียนหย่งจิ้น หลินเผิงเฟย หนิวเถียจู้ และคนอื่นๆ มาถึง ถึงค่อยออกจากประตูโรงเรียนด้วยกัน ตรงข้ามประตูโรงเรียน มีกลุ่มคนกำลังโบกมือเรียกหมี่หลันเยว่อยู่
"หมี่หลันเยว่ ทางนี้ๆ"
"อะไรน่ะ โดนเชือดอีกแล้วเหรอ"
เฉียนหย่งจิ้นมองดูเพื่อนๆ ที่กำลังล้อมหม้อข้าวโพดคั่วด้วยท่าทางใจจดใจจ่อ ก็รู้ว่าหมี่หลันเยว่ต้องโดนเพื่อนร่วมห้องรุมเร้าอีกแล้วแน่ๆ
"จะโทษฉันได้ไง ใครใช้ให้พี่สอบได้ที่หนึ่งของห้อง พวกเขาไม่มีที่ระบาย เลยมาลงที่ฉันไงล่ะคะ"
เฉียนหย่งจิ้นและคนอื่นๆ หัวเราะ ไม่นึกว่าเื่นี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเองด้วย
"ก็ช่วยไม่ได้นะน้องสาว เธอต่างหากที่ทำให้พวกเราต้องสอบให้ได้คะแนนดี เธอโดนเชือดก็ไม่เสียเปล่าหรอก ก็เธอเป็ต้นเหตุนี่นา"
หลินเผิงเฟยอดที่จะหัวเราะเยาะไม่ได้ แต่หนิวเถียจู้ที่อยู่ข้างๆ กลับมีแววตาแปลกๆ
คนอื่นไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางที่ผิดปกติของเขา แต่หมี่หลันเยว่เริ่มแอบสังเกตหนิวเถียจู้ั้แ่ตอนที่เฉียนหย่งจิ้นพูดแล้ว เห็นจริงๆ ว่าเขามีสีหน้าแปลกๆ แถมยังกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว หมี่หลันเยว่จึงพยักหน้าในใจ ที่สองกับที่หนึ่ง แม้จะต่างกันแค่ก้าวเดียว แต่ก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน
หมี่หลันเยว่คิดเื่หนิวเถียจู้มาตลอด อยากใช้งานเขาก็ไม่รู้จะดีหรือเปล่า จะปล่อยก็กลัวจะทำร้ายศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ตอนนี้ได้ยินว่าผลการเรียนของเขาก็ไม่เลว ที่สองของห้อง และยิ่งไปกว่านั้น เขายังแสดงให้เห็นถึงความไม่ยอมแพ้ มีใจอยากก้าวขึ้นไปข้างหน้า ดูแล้วเป็คนที่มีความทะเยอทะยานอยู่ไม่น้อย อาจจะลองใช้คนคนนี้ดู
"รีบไปเถอะ เพื่อนเธอรออยู่นะ"
เห็นน้องสาวไม่รู้คิดอะไร ยืนเหม่ออยู่ที่ข้างประตูโรงเรียน หมี่หลันหยางจึงดันหลังเธอเบาๆ เตือนให้เธอรีบไป อย่าให้คนอื่นรอนาน
"ค่ะ พวกพี่รอฉันก่อนนะ"
หมี่หลันเยว่มองดูว่าบนถนนไม่มีรถวิ่ง รีบวิ่งข้ามถนนไป ซื้อข้าวโพดคั่วสองหม้อให้เพื่อนๆ ขนมเล็กๆ น้อยๆ ราคาแค่สองเหมา แต่แลกมาด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขมากมายขนาดนี้ หมี่หลันเยว่ยังรู้สึกว่าคุ้มค่ามาก
"หมี่หลันเยว่ เจอกันเทอมหน้านะ"
เพื่อนๆ ต่างคนต่างถือข้าวโพดคั่วของตัวเองไว้ แล้วโบกมือลาหมี่หลันเยว่ หมี่หลันเยว่ยืนอยู่ที่นั่น ส่งเพื่อนๆ ไปทีละคน
"ฉันว่าเธอน่าจะอายุน้อยที่สุด แต่กลับดูเป็ผู้ใหญ่ที่สุดเลยนะ"
ลุงที่คั่วข้าวโพดคั่ว พูดกับหมี่หลันเยว่อย่างคาดไม่ถึง หมี่หลันเยว่ก็ยิ้ม ไม่คิดจะอธิบายอะไรกับลุงคนนี้มาก โบกมือลาอย่างสุภาพ
"ไปก่อนนะคะคุณลุง"
"พวกเราไปกันเถอะ"
หมี่หลันเยว่วิ่งกลับไปที่ฝั่งตรงข้ามถนน รวมตัวกับทุกคน แล้วเดินไปที่ร้านตามถนนตรงๆ เวลายังเช้าอยู่ ทุกคนเลยเดินเท้ากลับไปที่ร้าน
"เป็ยังไงๆ สอบได้เท่าไหร่กันบ้าง?"
พอกลับมาถึงร้าน หลิวเสี่ยวหว่านก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อแล้ว เธอเป็ห่วงผลการเรียนของหลานชายตัวเองมาก เธอก็รู้ดีว่าเฉียนหย่งจิ้นต้องมาที่นี่ก่อน ไม่กลับบ้านก่อนแน่นอน
"น้าครับ หนีเวรตอนทำงาน เดี๋ยวจะโดนหักเงินเอานะครับ!"
เฉียนหย่งจิ้นจงใจจะทำให้น้าของเขาร้อนใจ นอกจากจะไม่ให้เธออ่านใบแสดงผลการเรียนแล้ว ยังฉวยโอกาสจับจุดอ่อนน้ามาแกล้งขู่เสียอีก
"กฎหมายก็ยังมีข้อยกเว้น หมี่หลันเยว่น่าจะเข้าใขความร้อนใจของฉันนะ ใช่ไหม หลันเยว่?"
หมี่หลันเยว่ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับาระหว่างน้าหลาน รีบวิ่งไปหาหลิวลี่ ทำท่าทางเหมือนกำลังตรวจบัญชีอยู่ แอบมองดูสองคนนั้น ไม่รู้ว่าใครจะเป็ฝ่ายได้เปรียบ
"รีบเอาใบแสดงผลการเรียนออกมา เธอกล้าดียังไงถึงไม่เห็นน้าเป็ผู้ใหญ่ รีบๆ หน่อย อย่าให้ฉันต้องลงมือนะ"
หลิวเสี่ยวหว่านทำท่าทางเหมือนกำลังจะถลกแขนเสื้อ เตรียมพร้อมที่จะลงมือ
"พอเลยน้า ถ้าเอาจริงผมไม่กลัวน้าหรอก"
เฉียนหย่งจิ้นก็ยืดอก ทำท่าทางว่าลองมาสิ แล้วก็เห็นหลิวเสี่ยวหว่านเอื้อมมือมาตบที่คอของเขา เฉียนหย่งจิ้นก็หงอไปทันที รีบหยิบใบแสดงผลการเรียนออกมาจากกระเป๋าหนังสือ ยัดใส่มือน้าของเขา
"เ้าเด็กนี่ ไม่สั่งสอนสักหน่อยก็ไม่รู้ว่าใครใหญ่"
หลิวเสี่ยวหว่านยังคงพูดจาแข็งกร้าว แต่ตัวคนกลับวิ่งไปอีกทาง เปิดดูใบแสดงผลการเรียนของเฉียนหย่งจิ้น แล้วก็เห็นใบหน้าของเธอค่อยๆ บานเป็ดอกไม้
"หลานรัก สอบได้ดีมากเลย เดี๋ยวฉันจะให้พี่สาวให้รางวัลเธอนะ"
พออ่านใบแสดงผลการเรียนของเฉียนหย่งจิ้นจบ หลิวเสี่ยวหว่านก็ดีใจมาก รีบให้สัญญา เฉียนหย่งจิ้นชอบฟังคำพูดแบบนี้มาก เขากอดคอน้าสาว แล้วขอบคุณยกใหญ่
"พอแล้วๆ ทำเป็เด็กๆ ไปได้"
หลิวเสี่ยวหว่านผลักเฉียนหย่งจิ้นออกไป ให้เขาไปเล่นอีกทาง แล้วก็เริ่มสนใจผลการเรียนของคนอื่นๆ โดยเฉพาะหมี่หลันเยว่
"ไม่ต้องถามพวกเขาหรอก พวกเราสี่คนเหมาที่หนึ่งของห้องหนึ่ง สอง สาม สี่ ไปแล้ว น้าว่าพวกเราเท่ไหมครับ?"
เฉียนหย่งจิ้นยืดอกเดินไปเดินมาในบ้านอย่างภูมิใจ จนหัวแทบจะหลุดออกมา
"ขี้โม้จริงๆ"
หมี่หลันเยว่ค้อนเขา แล้วชี้ไปที่หนิวเถียจู้ พูดกับหลิวเสี่ยวหว่านว่า
"พี่เถียจู้ก็ไม่เลว ที่สองของห้องห้า"
หนิวเถียจู้มองหมี่หลันเยว่อย่างซาบซึ้ง แต่ก็หน้าแดงนิดหน่อย ต่อหน้าคนที่ได้ที่หนึ่ง เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย ในใจก็ให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบๆ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน เทอมหน้าจะต้องสอบให้ได้ที่หนึ่ง ล้างแค้นให้ได้
"พี่เถียจู้ ตอนนี้ก็ปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว พี่มีแผนอะไรไหม?"
หนิวเถียจู้ส่ายหัว เขาอยากจะมาช่วยงานที่นี่ต่อ แต่พอปิดเทอม เขาก็ไม่สะดวกที่จะตามเฉียนหย่งจิ้นมาตลอด ดังนั้น ตอนนี้เขาเลยไม่รู้ว่าอยากจะทำอะไร
"ยังไม่มี ฉัน..."
เขาพูดความจริง แล้วเกาหัว จัดระเบียบความคิด อยากจะถามหมี่หลันเยว่ว่าเขาจะมาที่ร้านใน่ปิดเทอมได้ไหม แต่ไม่รู้จะพูดออกมายังไง
"ถ้า่ปิดเทอมฤดูหนาวนี้พี่ไม่มีเื่ที่จำเป็ต้องทำ พี่อยากจะมาช่วยงานที่ร้านของเราไหม ถ้าพี่ตกลงมาช่วยงานที่นี่ พี่ก็จะเป็สมาชิกอย่างเป็ทางการของพวกเรา ร้านนี้ก็จะกลายเป็ร้านของเรา พี่เต็มใจไหมคะ?"
"เต็มใจ เต็มใจสิ!"
หมี่หลันเยว่พูดยังไม่ทันจบ หนิวเถียจู้ก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกดีมากที่ได้อยู่กับคนกลุ่มนี้ พวกเขาดูเหมือนจะมีพลัง มีเป้าหมาย ทำให้หนิวเถียจู้เหมือนจะค้นพบทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้า
"เอาล่ะ ยินดีต้อนรับการที่ได้ทำงานด้วยกันนะคะ"
หมี่หลันเยว่ยื่นมือออกไป หนิวเถียจู้ชะงักไปครู่หนึ่ง รีบยื่นมือออกไปจับมือหมี่หลันเยว่ ราวกับว่าทำแบบนี้เขาถึงจะรวมเป็หนึ่งเดียวกับทีมนี้ได้อย่างแท้จริง
เฉียนหย่งจิ้นยื่นกำปั้นไปชนที่ไหล่ขวาของเขา นี่คือวิธีที่ผู้ชายแสดงความเป็มิตร หนิวเถียจู้ต่อยกลับ แล้วก็หัวเราะคิกคัก หมี่หลันหยางและหลินเผิงเฟยก็เข้ามาแสดงความยินดีกับเขาเช่นกัน หลังจากคบหากันมาได้เดือนสองเดือน คนคนนี้ก็ไม่เลว พวกเขาเลยไม่มีอะไรที่จะกีดกัน
"งั้นจากนี้ไป พี่ก็คือสมาชิกใหม่ของพวกเรา มีอะไรไม่เข้าใจหรือไม่รู้วิธีทำ ก็ต้องเรียนรู้จากพวกเขาสามคนเยอะๆ พรุ่งนี้เริ่มงานอย่างเป็ทางการ ส่วนงานที่ทำ พี่ตามพี่หย่งจิ้นไปก่อน เดี๋ยวฉันจะจัดแจงให้ทีหลัง"
หนิวเถียจู้ตื่นเต้นจนหน้าแดง พยักหน้าตอบรับรัวๆ เขาก็กลายเป็สมาชิกของกลุ่มนี้แล้ว ต่อไปก็จะทำประโยชน์ให้กับกลุ่มนี้เหมือนอย่างหย่งจิ้นและคนอื่นๆ ทันใดนั้น เขาก็ยื่นมือไปหาหย่งจิ้น
"ฉันเป็สมาชิกใหม่ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ!"
