บทที่ 88 สถานการณ์สิ้นหวัง?
“ฟุ่บ!”
ฉู่อวิ๋นคว้าสือเหล่ยไว้ ย่ำเท้ากวาดกระบี่ไปตามเส้นทางนองเื วิ่งไปยังใจกลางฝูงชนด้วยความเร็วสูงสุด
ข้างหลังเขามีมู่หรงซิน พ่านพ่านและเสี่ยวหวงติดตามมาอย่างใกล้ชิด แม้ว่าผู้หญิงสองคนและสัตว์ปีศาจหนึ่งตัวจะหวาดกลัวอยู่บ้าง ทั้งร่างกายยังเปื้อนไปด้วยเืของสัตว์ปีศาจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับาเ็
เมื่อมีฉู่อวิ๋นเป็ผู้นำ หลายคนที่บุกต่อสู้เพื่อออกจากค่ายก็เริ่มกลับมา ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจเข้าจังๆ พวกเขาก็ค่อนข้างปลอดภัย
หากไม่ต้องหยุดชายร่างใหญ่ที่บ้าบิ่นคนนี้ พวกเขาก็อาจจะกลับมาได้เร็วขึ้น แต่สือเหล่ยมีความจริงใจเป็ที่ตั้ง ซ้ำกลุ่มัเหล็กก็ใจดีกับฉู่อวิ๋น ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางทิ้งเขาเอาไว้เช่นนั้น
ด้วยเสียงกระทบกันเล็กน้อย กระบี่แสงดาวก็เปล่งประกาย พลังปราณพุ่งออกมา สัตว์ปีศาจจำนวนมากถูกฆ่าตาย ฝนเืตกลงมาจากท้องฟ้า ฉู่อวิ๋นนำคนสองสามคนพุ่งเข้ามาอย่างเร็วรี่ เข้าใกล้พื้นที่ปลอดภัยที่เต็มไปด้วยผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฉู่...สหายฉู่ เ้า...ถูกคนมากมายไล่ตามแต่กลับไม่ตายหรือ? ข้าเห็นผีอยู่หรือเปล่า?”
ในเวลานี้ สือเหล่ยถูกฉู่อวิ๋นหิ้วเหมือนไก่ เขาก็อดใไม่ได้
นี่ไม่น่าเชื่อเกินไปแล้ว ตอนนั้นสือเหล่ยวุ่นวายอยู่กับนักรบกลุ่มหมาป่าและไม่ได้สนใจสถานการณ์ในค่าย เขาคิดว่าฉู่อวิ๋นตายไปแล้วเพราะเสื้อผ้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยเื เขาคิดว่าตัวเองคงตกนรกอยู่
นั่นคือนักรบยี่สิบคนที่อยู่ในระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณเชียวนะ! ถือว่าเป็แกนนำของกลุ่มหมาป่า แต่ฉู่อวิ๋นคนนี้กลับไม่เป็ไรเลย?
อีกทั้งในตอนนี้ยังมีฝูงสัตว์ปีศาจเข้าโจมตี ูเาซากศพและทะเลเืมีอยู่ทั่วบริเวณ หากเขาตายไปด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ดีคงตลกร้าย แต่ตอนนี้ฉู่อวิ๋นไม่เพียงแต่จะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีเท่านั้น เขายังสามารถล้มสัตว์ป่าระดับเก้าได้ด้วย?
“อะแฮ่ม...พี่สือ ข้าเป็คน! อย่ามองข้าแบบนั้น...เืบนเสื้อผ้าของข้าก็เป็ของศัตรู!” ฉู่อวิ๋นพูดไม่ออก ชายร่างใหญ่คนนี้คิดว่าเขาเป็ผีไปแล้วจริงๆ
ในเวลานี้ สือเหล่ยลืมตาขึ้นมา มองฉู่อวิ๋นขึ้นๆ ลงๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่เชื่อ
ผีตัวนี้ยังพูดได้! เขาคิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“พรึ่บ!”
จนกระทั่งฉู่อวิ๋นวิ่งไปถึงข้างเฟิงเยี่ยนและโยนสือเหล่ยที่ตกตะลึงลงบนพื้น เขาจึงได้สติขึ้นมา นี่คือความจริงหรือ?
“พี่สือ อย่าเพิ่งตะลึง! หัวหน้าซ่งแข็งแกร่งมาก เขาถูกต้นไม้ปีศาจฆ่าได้อย่างไร? เรายังต้องอดทนรอ จะมาตายอย่างเปล่าประโยชน์ที่นี่ไม่ได้!” ฉู่อวิ๋นพูดเสียงดัง
หลังจากถูกฉู่อวิ๋นเรียกสติ ในที่สุดสือเหล่ยก็สงบลงเล็กน้อย
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอับอาย เขาก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “อา! ข้า... เมื่อกี้ข้าตื่นเต้นมาก! สหายเ้ามารับข้าไปจากประตูนรก..."
ยามนี้ เมื่อคิดถึงใบมีดที่แหลมคมและอันตรายของเถาวัลย์ใบมีดเมื่อครู่ สือเหล่ยก็หวาดกลัวขึ้นมา เขาตบหน้าอกตัวเองซ้ำๆ เหงื่อกาฬไหลอาบร่างกายบึกบึน
ถ้าฉู่อวิ๋นมาคว้าตัวเขาไว้ไม่ทัน ชายร่างใหญ่คนนี้คงถูกเถาวัลย์ใบมีดสับเป็ชิ้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
“เ้าหินโง่เขลา แม้ว่าพี่ซ่งจะถูกเถาวัลย์ปีศาจนั่นฆ่าตายไปจริงๆ เ้าพุ่งเข้าไปจะช่วยแก้แค้นได้หรืออย่างไร? ข้าโกรธจะตายอยู่แล้ว!” เมิ่งซานเดินเข้ามากระแทกไหล่สือเหล่ยอย่างแรง ดูโกรธมาก
ในกลุ่มัเหล็กทั้งคู่มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นที่สุด พวกเขาเป็เพื่อนที่ดีต่อกัน และถือว่าเป็พี่น้องกันมานาน
ก่อนนี้ เมิ่งซานคิดว่าสือเหล่ยกำลังจะตายจึงร้องไห้อย่างหนัก แต่ตอนนี้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและอยากจะทุบอีกคนสักหมัด สือเหล่ยเกาหัวแกรก เขาเองก็รู้สึกเสียใจ จึงหดตัวเป็ก้อนเล็กๆ เท่าที่จะทำได้
“เ้าก้อนหิน โง่จริงๆ!” เฟิงเยี่ยนก็ะโด่าเช่นกัน จากนั้นเขาก็กะพริบตาและพูดด้วยความประหลาดใจ “แต่ว่านะ จอมยุทธ์ฉู่ เ้าไม่เป็ไรนั้นดีที่สุดแล้ว! แต่ข้าไม่คิดว่าเ้าจะยังมีพลังเต็มเปี่ยมขนาดนี้... ไม่น่าเชื่อจริงๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ประหลาดใจเช่นกัน หลังจากการต่อสู้อันหนักหน่วง พลังปราณของทุกคนก็หมดลงจนแทบจะหมดแรงอยู่รอมร่อ
แต่ฉู่อวิ๋นกลับยังคงหายใจได้อย่างสบาย ทั้งยังสามารถต่อสู้จนกลับมาที่ค่ายได้ น่าเหลือเชื่อจริงๆ
“เอ่อ... เื่มันยาว ทุกคนมาตั้งใจสู้กันก่อนเถอะ!” ฉู่อวิ๋นอธิบายอย่างใจเย็น เขาไม่คิดจะบอกทุกคนเื่ิญญายุทธ์กระบี่บาป์ของตนเองและไม่จำเป็ต้องทำเช่นนั้น
เพราะหากผ่านคืนนี้ไปไม่ได้ ทุกอย่างก็จะหายวับไปคล้ายไม่เคยมีสิ่งใดอยู่
“จอมยุทธ์ฉู่พูดถูก ตอนนี้เรายังต้องสู้กับสัตว์ปีศาจอยู่ ทุกคนตั้งสติไว้! รอจนกว่าหัวหน้าซ่งจะกลับมา!” ใบหน้าของเฟิงเยี่ยนเคร่งเครียด กระชับมีดบินที่อยู่ในมือ เขายิงนกดำหางดาบระดับต่ำไปหลายตัวจนหมอกเืฟุ้งกระจาย
ในฐานะหนึ่งในนักรบขั้นมหาสมุทรไม่กี่คนที่นี่ เขาต้องรวมกลุ่มกันใหม่และรอให้ซ่งอี้กลับมา
อย่างไรเสียก็มีสัตว์ปีศาจคอยเฝ้าอยู่ทุกทิศทุกทาง มีเสือครามทองจำนวนมากแยกเขี้ยวกางกรงเล็บดักรออยู่ที่อีกฝั่งของแม่น้ำโลหิต มีเถาวัลย์ใบมีดคอยเคลื่อนที่โจมตีสัตว์ตัวอื่นๆ ไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังบางตัวที่เข่นฆ่ากันแย่งอาหาร
ที่นี่เต็มไปด้วยอันตราย แทบไม่มีทางหลบหนี อีกทั้งค่ำคืนมืดมิด แม้แต่การมองเห็นก็พร่ามัว หากวิ่งออกไปสุ่มสี่สุ่มห้า มีแต่จะถูกสังหารเท่านั้น
โชคดีที่เถาวัลย์ใบมีดเคลื่อนที่ช้ามาก และเสือครามทองที่อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำเองก็ไม่ถูกกับน้ำ ทำให้ทุกคนมีพื้นที่ในการต่อสู้ มิฉะนั้นคงถูกโจมตีและสังหารไปนานแล้ว
“อาฮู้ว มีสัตว์ปีศาจเยอะเลย! ข้า... ข้าอยากกลับบ้าน!” พ่านพ่านที่ได้รับการปกป้องจากฉู่อวิ๋นยืนแอบอยู่ข้างหลังเขา กระซิบด้วยน้ำเสียงสั่นระริก
นางเกิดในป่าสีเื แม้ว่าจะเคยเห็นกระแสสัตว์ปีศาจมาก่อน แต่คืนนี้เป็ครั้งแรกที่นางได้ัักับมันโดยตรง แม้ว่านางจะมีประสบการณ์การล่าสัตว์มากมาย แต่ก็ยังปกปิดความหวาดกลัวในแววตาไม่มิด
เพราะมีสัตว์ป่าและสัตว์ปีศาจมากมายอยู่ข้างแม่น้ำโลหิต พวกมันพุ่งเข้ามาราวกับระลอกคลื่น ภายใต้การเข่นฆ่าอย่างต่อเนื่อง พวกมันก็ปรากฏตัวคล้ายไม่มีที่สิ้นสุด
โอกาสที่ทุกคนจะรอดชีวิตมีน้อยลงเรื่อยๆ
“จิ๊ดจิ๊ด…” เสี่ยวหวงเองก็ตัวสั่นเช่นกัน
เดิมทีมันก็ขี้ขลาดอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มาได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ปีศาจที่อยู่รอบตัวอีกก็ยิ่งกลัวไปใหญ่ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร หมอกเืฟุ้งกระจายไปทั่ว มันใมากจนมุดเข้าไปในอ้อมแขนของพ่านพ่านทันที
ถัดมา มู่หรงซินเลิกคิ้วมอง เ้าเสี่ยวหวงนี่สมควรถูกทุบแล้วจริงๆ เสียทีที่นางดูแลมาตั้งนาน!
แต่ในตอนนี้ทุกคนกำลังต่อสู้กัน นางไม่สามารถพูดอะไรได้ ทำได้เพียงชักธนูขึ้นยิงเพื่อโจมตีสัตว์ปีศาจ
“ชึบ ชึบ ชึบ——”
เืและเนื้อกระเซ็นไปทุกที่ เสียงคำรามสั่นะเืท้องฟ้า และพลังปราณก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง หมาป่าปีศาจเพลิงทมิฬหลายตัวถูกสังหาร บางตัวก็ตายในกระแสสัตว์ปีศาจและกลายเป็กระดูกในทันที
ที่นี่มีแต่ความโกลาหล เมื่อเวลาผ่านไป วงล้อมของผู้คนก็หดแคบลงเรื่อยๆ มีศพล้มนอนลงกับพื้น ทุกคนใกล้จะบ้าเข้าทุกที สัตว์ปีศาจฝูงนี้ดูเหมือนจะฆ่ากันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุด
เป็เวลานานหลังจากการต่อสู้นองเื บางคนเหนื่อยล้าจนหมดแรง พวกเขายอมแพ้ ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นท่ามกลางฝูงชนและส่งเสียงหัวเราะคิกคัก
คนในกลุ่มหมาป่าบางคนมีดวงตาสีแดงและบ้าคลั่ง เมื่อหันไปมองรอบๆ ก็สังเกตเห็นพ่านพ่านจึงโกรธขึ้นมา
“เ้ายังบอกว่าไม่ได้ขโมยทาสหญิงของเราอีกหรือ! น่าขยะแขยง! สารเลว!”
“ถ้าไม่ช่วยนาง คืนนี้เราคงไม่ต้องมาที่นี่ คงไม่ต้องมารอความตายอย่างตอนนี้!”
“ทั้งหมดเป็ความผิดของเ้า!”
หินหนึ่งก้อนเกิดคลื่นนับพัน และในทันใดนั้น นักรบทั้งหมดของกลุ่มหมาป่าก็ะโเสียงดังด้วยความเกลียดชังปรารถนาที่จะสังหารกลุ่มัเหล็กให้สิ้นซาก
มีแม้กระทั่งคนที่เข้ามาใกล้พ่านพ่านด้วยใบหน้าที่น่ากลัวและดวงตาที่ดุร้าย ราวกับิญญาชั่วร้ายที่อยากจะทำอะไรบางอย่าง
“ในเมื่ออย่างไรก็ต้องตาย เช่นนั้นก็ขอข้าสนุกกับคนป่านางนี้ก่อนตายก็แล้วกัน!” หนึ่งในนักรบกลุ่มหมาป่าะโขึ้นมา
“ได้สนุกกับคนป่าก่อนตายก็ดีเหมือนกัน! ฮ่าๆๆ!”
“ใช่แล้ว มาสนุกด้วยกันเถอะ!”
บางคนส่งเสียงอย่างตื่นเต้นและบ้าคลั่งออกมา
ทันใดนั้น ทั้งสามคนก็รุมวิ่งไปหาพ่านพ่านที่ยืนอยู่ในกำแพงมนุษย์ น้ำลายไหล แลดูอนาจาร พยายามผลักนางลงไปกับพื้น นางกลัวมากจนต้องนั่งยองๆ กุมหัวแล้วกรีดร้อง
“ฮึ่ม! ถ้าพวกเ้าอยากสนุกมากขนาดนั้น ก็ไปสนุกกันในท้องสัตว์ปีศาจเสีย!”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็ะโด้วยความโกรธ หลังจากฆ่าแรดเขาทองได้แล้ว เขาก็หันกระบี่ชื่อยวนแทงทั้งสามคนเข้าด้วยกัน จากนั้นก็สะบัดแขนแล้วโยนคนบ้าทั้งสามเข้าไปในกลางดงหมาป่าปีศาจเพลิงทมิฬที่อยู่ห่างออกไป
“ฉึก!”
ก่อนที่ทั้งสามจะร่วงหล่นถึงพื้น หมาป่าปีศาจเพลิงทมิฬที่แข็งแกร่งหลายตัวก็กระโจนขึ้นไปในอากาศ เปิดปากและกัดทึ้ง ทำให้เืไหลรินมาจากท้องฟ้า
ในเวลานี้ แม้ว่านักรบคนอื่นๆ ที่รอดชีวิตในกลุ่มหมาป่าจะไม่ชอบใจนัก แต่พวกเขาก็จ้องมองไปที่ฉู่อวิ๋นและยังคงปกป้องตัวเองจากสัตว์ปีศาจต่อไปโดยไม่มีคำพูดตำหนิใด ๆ
เพราะทุกคนที่ยังมีสติและรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการต่อต้านสัตว์ปีศาจ พวกเขารู้ดีว่าถึงแม้พวกเขาจะไม่มาที่นี่ ยังไงก็คงถูกสัตว์ปีศาจโจมตีอยู่ดี
นักรบทั้งสามคนเมื่อครู่นี้มีอาการทางจิต พวกเขารังแต่จะเป็เพียงภาระ ทั้งยังจะไล่ฆ่าทุกคน
“พี่เฟิง แม่นางพ่านพ่านเกือบถูกกลุ่มหมาป่าทำให้แปดเปื้อน เป็ข้าที่ช่วยนางแล้วซ่อนไว้จากทุกคน ขอโทษท่านจริงๆ!” กระบี่ของฉู่อวิ๋นเปล่งแสงอยู่ในมือของเขา ปากก็ยังคงอธิบายกับเฟิงเยี่ยน เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ควรมีใครถูกปิดบังไว้จากเื่นี้
“ซ่อนไว้?” ร่างของเฟิงเยี่ยนเคลื่อนตัวเข้าฆ่าค้างคาวผีหกปีกไปอีกหลายตัว เขายิ้มบางๆ อยู่กลางอากาศแล้วพูดว่า “จอมยุทธ์ฉู่ เ้าไม่ต้องโทษตัวเองหรอก เปลี่ยนเป็ใครสักคนในกลุ่มัเหล็กของเรา หากเจอเื่เช่นนั้นเข้าก็ต้องยื่นมือเข้าช่วยเช่นกัน!”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามพรรคพวกเราที่อยู่ตรงนั้นดูสิ”
ทันทีที่เฟิงเยี่ยนพูดจบ ฉู่อวิ๋นก็สะดุ้งเล็กน้อย ในขณะที่แกว่งกระบี่ฆ่าสัตว์ปีศาจที่วิ่งเข้ามา เขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ด้วยหางตาเช่นกัน
มองเห็นเหล่านักรบของกลุ่มัเหล็กต่างยกยิ้มที่ใสซื่อมาให้ บางคนถึงกับยกนิ้วโป้งให้เขาด้วยซ้ำ
“จอมยุทธ์ฉู่ ดวงความรักของเ้านี่แข็งแกร่งจริงๆ ฮ่าๆ!” กระทั่งมีคนล้อเลียนทั้งที่ยังมีเืไหลออกมาจากมุมปาก
“อย่าโทษตัวเองเลย เ้าเป็แบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นเรา ที่ทั้งกล้าหาญและชอบธรรม!” บางคนตรงไปตรงมา แม้ว่าจะเต็มไปด้วยาแ แต่ก็ยังมีพลังยุทธ์ที่ไม่สิ้นสุด
“ไม่ว่าอย่างไร คืนนี้สัตว์ปีศาจก็ต้องบุกเข้ามาแน่ ข้าไม่เสียใจที่ได้เป็เพื่อนกับเ้า เรามาสู้กันให้สนุกดีกว่า! ฮ่าๆๆ!” ใครบางคนพูดด้วยรอยยิ้มที่กล้าหาญ แสงหอกเปล่งประกาย เืของสัตว์ปีศาจสาดกระเซ็น
ยามนี้ เมื่อได้ยินคำพูดที่กล้าหาญของทุกคนที่ต่อสู้อย่างหนัก ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกถึงกระแสเืในร่างกาย ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยประกายไฟพลุ่งพล่าน!
อยากจะสู้
เขาอยากจะสู้ต่อไป!
ฉู่ซินเหยาที่อยู่ห่างไกลยังคงรอให้เขาไปช่วยที่เมืองชุยเสวี่ย
ใกล้ๆ กันมีพี่น้องจำนวนนับไม่ถ้วนจากกลุ่มัเหล็กที่รู้จักกันใน่เวลาสั้นๆ แต่กลับมีความชอบธรรมที่ยิ่งใหญ่และจริงใจต่อกันอย่างยิ่ง
ในเวลาเดียวกัน เขายังต้องปกป้องผู้หญิงสองคน มู่หรงซินและพ่านพ่าน และแน่นอนยังมีเสี่ยวหวงที่ลึกลับและสุดแสนจะขี้ขลาดรวมอยู่ด้วย
เขายังตายไม่ได้! กระบี่ยังหักไม่ได้!
“ย๊า!”
ด้วยเสียงะโอันโกรธแค้น ฉู่อวิ๋นะโขึ้นไปในอากาศ วาดกระบี่เป็วงกว้าง และฟันลงสังหารแรดเขาทองขนาดใหญ่หลายตัว แสงดวงดาวแตกสลายหายไปพร้อมกับฝนเืที่หลั่งไหลและหมอกเืที่ไร้จุดสิ้นสุด
เขาจะสู้จนถึงที่สุด!
ข้างแม่น้ำ อาวุธาบินว่อนทั่วท้องฟ้า พลังปราณพลุ่งพล่าน เสียงะโเข่นฆ่า และเสียงคำรามของสัตว์ปีศาจลุกฮือขึ้นมาพร้อมกัน ราวกับว่าโลกกำลังจะแตกสลาย
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ จำนวนสัตว์ปีศาจก็มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อตัวเป็ทะเลที่สาดคลื่นขึ้นสู่ท้องฟ้า สั่นะเืแผ่นดิน! ในเวลาเดียวกัน ร่างของมนุษย์ก็เริ่มไร้เรี่ยวแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ศพเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น หลั่งเืสีสดไหลลงสู่แม่น้ำโลหิต
มองเห็นฉู่อวิ๋นต่อสู้อยู่ตรงหน้า ประกายกระบี่วาบวับอย่างดุเดือด ร่างกายของเขาย้อมสีแดง ไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ใด สัตว์ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนก็จะถูกสังหาร บัดนี้ สัตว์ปีศาจจำนวนมากคล้ายมองดูเขาด้วยความหวาดกลัว
มนุษย์หนุ่มคนนี้น่ากลัวเกินไป ราวกับบุตรของสัตว์ปีศาจโบราณที่คอยควบคุมโลกหล้าและ้าฆ่าฟันไปทุกทิศทาง!
“ฟ่อ!”
แต่ในขณะที่สัตว์ปีศาจยังคงพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ซากศพกองพะเนินเป็ูเา เถาวัลย์ใบมีดก็กำลังจะโจมตีเข้ามาเช่นกัน
นี่เป็วินาทีสุดท้ายที่ทุกคนกำลังจะยอมแพ้ ยกเว้นฉู่อวิ๋นที่ยังคงเข่นฆ่านองเือยู่ เขาลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง และออกแรงฟันกระบี่อย่างรุนแรง
เกิดเสียงกระทบดังขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้น แสงอันเยือกเย็นก็ส่องประกายออกมา เสียงลมพัดหวีดหวิวดังจนหนวกหู มองเห็นว่าใบของเถาวัลย์ใบมีดพุ่งเข้าหา ทั้งยังมีเถาวัลย์อีกหลายสิบเส้นที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและกำลังจะฆ่าทุกคน ในขณะนี้ สายตาทุกคู่ดูสิ้นหวังและเศร้าโศก
“อ๊าก!” ฉู่อวิ๋นจ้องมองอย่างโกรธเคือง เขายังคงสู้ต่อไป เขาจะไม่ยอมแพ้!
ทันใดนั้นก็มีเสียงะโดังมาจากไกลๆ พร้อมกับพลังที่น่าใ
“ทุกคนในกลุ่มัเหล็กอย่าถอดใจ! ซ่งอี้อยู่ที่นี่แล้ว มาต่อสู้ร่วมกัน!”
การรอคอยมาถึงแล้ว!