เนื้อแท้จิตใจของหลี่ซื่อนั้นแข็งแกร่ง แต่หานรั่วเสวี่ยนั้นต่างออกไป ด้วยนิสัยใจคอของหานรั่วเสวี่ยแล้ว ไม่น่าจะไม่รู้สึกผิดโดยสิ้นเชิงไปแบบนี้สิ!
คิ้วของหานอวิ๋นซีขมวดแน่น ใครจะรู้ว่าในเวลานี้หลี่ซื่อจะพูดขึ้นมาว่า “รั่วเสวี่ย อย่าใส่ร้ายหวังเฟย หากเป็เื่ที่หวังเฟยรับปากแล้ว จะไม่มีทางกลับคำอย่างแน่นอน!”
หลี่ซื่อไม่คาดคิดว่าบุตรสาวของนางจะรู้เื่การเดิมพัน แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหานอวิ๋นซี นางก็ไม่รังเกียจที่จะเพิ่มประโยคเพื่อขัดขวางการตัดสินของหานอวิ๋นซี
คำพูดของหลี่ซื่อทำให้หานอวิ๋นซีขมวดคิ้วแน่นขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ให้ตายเถอะ การคาดเดาของนางสรุปมันถูกหรือผิดกันแน่?
ตอนนี้เวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่จ้องมองมาที่หานอวิ๋นซีเพื่อรอคำตอบของนาง ในขณะที่หลี่ซื่อกำลังรอดูการสั่นคลอนของนาง
หานอวิ๋นซีจะเลือกอย่างไร?
ยอมรับ แก้ตัว หรือจะปฏิเสธ?
ทันใดนั้น หานอวิ๋นซีมองไปที่ฝูงชนและพูดเสียงดังว่า “เป็ความจริง ข้ามีข้อตกลงนี้กับคุณหนูหลิวเยวี่ย ข้าขอเชิญหมู่เฟยและทุกคนที่อยู่ที่นี่ร่วมเป็พยาน!”
ไม่ว่าจะมีอะไรมาขัดขวางมากมายขนาดไหน นางยังคงมีความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นว่าการคาดเดาและการตัดสินของตนเองถูกต้อง เชื่อมั่นว่ากระป๋องชาเป็หลักฐานของยาพิษ!
นางไม่เพียงเดิมพันกับมู่หลิวเยวี่ยเท่านั้น แต่ยังเดิมพันกับหลี่ซื่อ และแม้แต่กับตัวนางเองด้วย!
นางรำคาญกับใบหน้าของคนเหล่านี้เหลือเกิน จนอยากจะปิดปากพวกเขาทั้งหมดในทันที!
ไม่มีใครคิดว่าหานอวิ๋นซีจะยอมรับเช่นนี้ อย่างไรก็ตามหานอวิ๋นซีไม่เพียงยอมรับ แต่เสียงของนางยังดังขึ้นอีกด้วย แต่ละคำพูดก็มีพลัง “ไม่ต้องรออีกสามวันหรอก”
ตอนนี้มีคำตอบแล้วหรือ?
พระเ้า!
ด้วยเช่นนี้จึงเกิดความโกลาหลขึ้นมาทันใด ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งต่างๆ จะเลยเถิดมาถึงจุดนี้
มู่หลิวเยวี่ยใ หัวใจของนางเต้นแรงอย่างมาก เป็เช่นนี้ไปได้อย่างไร?
ตอนนี้มีคำตอบแล้ว ทำไมหานอวิ๋นซีไม่รีบมาหานางล่ะ? ด้วยนิสัยใจคอของหานอวิ๋นซี คงไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ ใช่หรือไม่?
ไม่นะ!
มู่หลิวเยวี่ยส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว หานอวิ๋นซีต้องโกหกแน่นอน ต้องจงใจทำให้นางใแน่นอน!
หลี่ซื่อที่ไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจได้ชั่วขณะ นางไม่เคยคาดคิดว่าหานอวิ๋นซีจะไม่เพียงไม่โดนโจมตีเท่านั้น แต่จิติญญาแห่งการต่อสู้ของนางยังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ตอนนี้ได้คำตอบแล้ว นางไปเอาคำตอบมาจากไหนกัน?
ในที่สุด หลี่ซื่อก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมา ทว่านางก็ยังไม่แสดงออก
ไม่มีทาง!
นางไม่เชื่อเช่นกัน หานอวิ๋นซีต้องถูกบีบจนกลายเป็หมาจนตรอก ถึงได้พูดโกหกออกมาเช่นนั้น นางกำลังทำให้มู่หลิวเยวี่ยกลัว หรือไม่ก็กำลังทดสอบนางด้วยวิธีนี้
ไม่ว่าอย่างไร นางก็ไม่สามารถเผยจุดอ่อนออกไปได้ และห้ามให้หานอวิ๋นซีทดสอบนางได้ หานอวิ๋นซีไม่มีความสามารถในการตรวจจับพิษงูหมื่นตัวในใบชาได้อย่างแน่นอน! ไม่มีทาง!
หานอวิ๋นซีซึ่งตัดสินใจได้แล้ว ก็มองไปที่หลี่ซื่ออย่างจริงจัง นางตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ละความพยายาม อย่างไรก็ตาม เหลือเวลาอีกเพียงสามวัน ถ้าสองแม่ลูกตระกูลหานไม่ใช่ฆาตกร นางจะต้องค้นหาเบาะแสอีกครั้ง เวลาสามวันนั้นไม่เพียงพอ แต่การทำให้มู่หลิวเยวี่ยอารมณ์เสียและทำให้มู่หรงหว่านหรูและอี้ไท่เฟยตกอยู่ในปัญหาที่นี่ ดีกว่าปล่อยมันไป!
เมื่อเห็นหานอวิ๋นซีมองมา การเต้นของหัวใจของหลี่ซื่อก็เร่งขึ้นอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้ สองดวงตาสบกัน รอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงดังมากมาย แต่ระหว่างพวกนางกลับไม่มีเสียงและเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ทันใดนั้น มู่หรงหว่านหรูก็คว้ามือหานอวิ๋นซี แสร้งทำเป็มีความสุขและพูดเสียงดังว่า “พี่สะใภ้ ตอนนี้มีคำตอบแล้วอย่างนั้นหรือ? ท่านพบผู้กระทำความผิดตัวจริงแล้วหรือ? เยี่ยมไปเลย รีบพูดออกมาสิ ท่านจะได้ไม่แพ้!”
คำพูดเหล่านี้เตือนสติมู่หลิวเยวี่ยขึ้นมาทันที นางจึงรีบพูดออกมาว่า “หากเป็เช่นนี้ โปรดหวังเฟยแสดงหลักฐานและบอกผู้กระทำความผิดตัวจริงออกมา! พวกเราทุกคนจะตั้งใจฟังและตั้งตารอดู!”
หานอวิ๋นซีเหล่ตามองไปและตอบโดยไม่ลังเลว่า “ตกลง! เปิดหูของเ้าแล้วฟังให้ชัดล่ะ!”
เมื่อเห็นนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ มู่หลิวเยวี่ยที่แต่เดิมมั่นใจ จู่ๆ ก็รู้สึกร้อนรนเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้มันยากที่จะลงจากหลังม้า นางกัดฟันและตอบเสียงดังว่า “พูดมาเลย!”
ท่ามกลางฝูงชนที่เงียบสงบ เสียงของทั้งสองจึงดังเป็พิเศษ ถึงจะอยู่ไกลออกไปก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน
ความสนใจของทุกคนจดจ่ออยู่ที่หานอวิ๋นซี พวกเขากังวลอย่างมากและตั้งตารอ รู้สึกเพียงว่าบรรยากาศในฝูงชนนั้นตึงเครียดอย่างมาก
แต่ใครจะรู้ เมื่อหานอวิ๋นซีกำลังจะเล่าเกี่ยวกับใบชา จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้ามฝูงชนและเดินมาอยู่ระหว่างหานอวิ๋นซีและมู่หลิวเยวี่ย คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่ทัพมู่ชิงอู่!
คิดไม่ถึงว่ามู่ชิงอู่เองก็มาเช่นกัน มู่ชิงอู่เป็เหยื่อของคดีนี้ ดังนั้นเขาก็สมควรที่จะมา
มู่หลิวเยวี่ยคว้าแขนของมู่ชิงอู่ทันที “ท่านพี่ หวังเฟยบอกว่านางพบผู้กระทำความผิดตัวจริงแล้ว ท่านเองก็ต้องตั้งใจฟังนะว่าใครเป็คนทำร้ายท่าน”
มู่ชิงอู่ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนเกี่ยวกับใบชา หานอวิ๋นซีคิดว่าการที่เขามา ต้องได้รับคำสั่งให้มาจับกุมสองแม่ลูกหลี่ซื่ออย่างแน่นอน
“แม่ทัพใหญ่ ฆาตกรตัวจริง...”
หานอวิ๋นซีที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มู่ชิงอู่กลับพูดขัดขึ้น “หวังเฟย คดีฆาตกรรมเป็เื่สำคัญมากและมีผลกระทบอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะพูดถึงในฝูงชนจำนวนมาก”
มู่ชิงอู่ที่ได้ยินการโต้เถียงระหว่างสองคนนี้จากระยะไกล คิ้วก็ขมวดด้วยความวิตกกังวล กระป๋องชานั้นตรวจแล้วไม่พบสารพิษใดๆ และไม่มีหลักฐาน นั่นเป็สาเหตุที่ฉินอ๋องยังไม่จับกุมนาง!
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานใดๆ ความน่าสงสัยของสองแม่ลูกหลี่ซื่อก็ยังคงมากที่สุด ในเวลานี้ เื่ของใบชาจะคงทำให้หลี่ซื่อตื่นตระหนกอย่างแน่นอนและจะเป็การยากที่จะสืบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีไม่เข้าใจคำพูดของมู่ชิงอู่ นางโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เป็ไปได้หรือไม่ที่ชายผู้นี้้าปกป้องน้องสาวของตนเองใน่เวลาสำคัญเช่นนี้? เขาเคยสัญญากับนางว่าจะจัดการกับมันอย่างยุติธรรมไม่ใช่หรือ!
แต่มู่หลิวเยวี่ยกลับมีความสุขอย่างมาก ไม่มีใครรู้จักพี่ชายของนางที่เล่นกับนางั้แ่ยังเด็กได้ดีไปกว่านาง เขาพูดเช่นนั้นเพราะ้าปกป้องฉินหวังเฟยอย่างแน่นอน แล้วก็ยังไม่เจอผู้กระทำความผิดที่แท้จริง
ดีมาก!
หานอวิ๋นซี ครั้งนี้ถึงจะติดปีกก็บินหนีไปไม่รอด!
“ท่านพี่ คดีฆาตกรรมได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็ต้องปิดบัง จะเป็การดีกว่าที่จะให้คำอธิบายแก่ทุกท่านเพื่อให้ทุกคนรู้สึกสบายใจ และไม่ให้ผู้คนในเมืองหลวงตื่นตระหนก ผลกระทบเองก็จะยิ่งน้อยลง!” มู่หลิวเยวี่ยพูดเสียงดัง
“เ้าจะไปรู้อะไรกัน? หุบปากเสีย!” มู่ชิงอู่ตำหนิด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ท่านพี่ หรือว่าท่าน้าปกป้องหวังเฟย? แม้ว่าหวังเฟยจะเคยช่วยท่านมาก่อน แต่บุญคุณก็คือบุญคุณ และการเดิมพันก็คือการเดิมพัน จะเอามาเป็เื่เดียวกันไม่ได้!” มู่หลิวเยวี่ยยังคงส่งเสียงดังมาก ให้ตายอย่างไรนางก็ไม่ยอมปล่อยไป
มู่ชิงอู่ที่กระวนกระวาย ก็ตำหนิด้วยความโกรธ “เ้าหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว กลับไปเสีย!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็ตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในขณะเดียวกันฉู่ซีเฟิงก็รีบวิ่งมาข้างๆ และกระซิบว่า “หวังเฟย แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ใบชาไม่มีพิษ!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของหานอวิ๋นซีก็ซีดลงทันที
ไม่มีพิษ?
เป็ได้อย่างไร...ทำไมถึงเป็เช่นนี้ไปได้?
นางผิดจริงๆ หรือ? นางแพ้พนันจริงๆ หรือ?
ไม่มีทาง นางไม่เชื่อ เป็ไปได้อย่างไร?
“เ้าแน่ใจหรือ?” หานอวิ๋นซีกระซิบ
“พ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่ท่านกับท่านอ๋องจะกลับมา กระหม่อมได้หาหมอพิษมาตรวจไม่ต่ำกว่าสิบคน เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องเองก็นัดหมอพิษมาตรวจอีก ทว่าไม่มีพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ! สำหรับแผนในตอนนี้ อย่าเพิ่งทำให้หลี่ซื่อไหวตัว เื่นี้ยังต้องสืบสวนเพิ่มเติมพ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่ซีเฟิงชำเลืองมองที่สองแม่ลูกหลี่ซื่อโดยไม่ได้ตั้งใจ และลดเสียงให้เบาลง แต่หานอวิ๋นซีก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน ใจของนางก็ค่อยๆ จมดิ่งลง
“ท่านพี่ ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไร ท่านทำอะไรลงไปหรือไม่? หรือว่ามีเื่น่าอายเกี่ยวกับเื่นี้? หวังเฟยเป็คนพูดเองว่านางสามารถประกาศผลลัพธ์ได้ แล้วก็ไม่มีใครบังคับให้นางทำเช่นนั้นด้วย ทำไมล่ะ ตอนนี้จะกลับคำอย่างนั้นหรือ?”
มู่หลิวเยวี่ยผลักมู่ชิงอู่ออกไปและเข้าไปหาหานอวิ๋นซี “หวังเฟย รีบพูดมาสิ! เมื่อครู่ไม่มีใครบังคับเ้าไม่ใช่หรือไร?”
ในสถานการณ์เช่นนี้ คนฉลาดจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
อี้ไท่เฟยเป็คนแรกที่พูด “หานอวิ๋นซี คนในจวนฉินอ๋องของข้ารักษาคำพูดเสมอ เ้าคงไม่คิดที่จะกลับคำจริงๆ ใช่หรือไม่?”
อี้ไท่เฟยพูดมาขนาดนี้ ใครจะไม่กล้าท้าทายหานอวิ๋นซีอีกล่ะ?
ต้องรู้ว่าผู้คนในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็คนที่ชอบดูถูกคนที่ล้ม
“หมู่เฟย พี่สะใภ้จะไปเป็คนแบบนั้นได้อย่างไรกัน พี่สะใภ้ต้องบอกฆาตกรตัวจริงอย่างแน่นอน พี่สะใภ้ ท่านรีบพูดออกมาเร็วๆ สิ เมื่อครู่ท่านจะพูดอยู่ไม่ใช่หรือ?” น้ำเสียงของมู่หรงหว่านหรูนั้นช่าง “น่าฟัง” เหลือเกิน
หานรั่วเสวี่ยเองก็อดใจรอไม่ไหวเช่นกัน “ใช่ๆ พี่หญิง ทำไมท่านไม่พูดล่ะ หรือว่าเมื่อครู่ท่านแค่...แค่...ขู่ให้กลัวอย่างนั้นหรือ?”
หลี่ซื่อที่รู้สึกร้อนตัวตอนแรกก็กลับมาโล่งใจดังเดิม นางไม่พูดอะไรใดๆ สายตามองดูความลำบากใจของหานอวิ๋นซีอย่างเ็าและต่อสู้กับนาง สตรีผู้นี้ยังคงอ่อนหัด พิษที่นางวางจะไปตรวจเจอง่ายๆ ได้อย่างไรกัน!
มู่ชิงอู่และฉู่ซีเฟิงที่เผชิญกับการปิดล้อมของฝูงชนต่างรู้สึกกระวนกระวาย แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าหวังเฟยกำลังขี่หลังเสือแล้วลงยาก[1] แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลงให้ได้!
หากให้หวังเฟยถอยไปหนึ่งก้าว มู่หลิวเยวี่ยเองก็คงถอยหลังไปหนึ่งก้าวเช่นกัน อย่าไปกระตุ้นความระแวงของหลี่ซื่อมากเกินไป มู่ชิงอู่ที่คิดเช่นนั้น ก็ลากมู่หลิวเยวี่ยกลับมาอีกครั้ง เมื่อกำลังจะบอกนางถึงความร้ายแรงของเื่คนทรยศ ใครจะรู้ว่า ในขณะเดียวกัน มู่หรงหว่านหรูกลับขยิบตาให้ฝูงชนและหลายคนก็โห่ร้องขึ้นมาทันที
“ทุกคนดูสิ หวังเฟยจะกลับคำพูด!”
“ถ้าหาตัวผู้ร้ายตัวจริงไม่เจอก็อย่ามาอวดเก่งที่นี่เลย ยังมีเวลาอีกสามวันก่อนจะถึงกำหนด จะอวดดีไปเพื่ออะไรกัน! ไร้ความสามารถแล้วยังจะอวดอีก!”
“คิดไม่ถึงว่านางจะเป็สตรีแบบนี้ สิ่งที่พูดไปก่อนหน้านี้เกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของนางก็คงเป็ข่าวลือทั้งหมด ดูแล้วข้าว่านางเป็คนหน้าหนา ปากเก่งเสียมากกว่า”
“ไอ้หยา นางไม่ได้หน้าหนาแค่เื่วันนี้หรอก วันอภิเษกก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ? ฮ่าฮ่า...”
…
การเยาะเย้ยถากถางเหล่านี้ทำให้ฉู่ซีเฟิงและมู่ชิงอู่ที่ฟังอยู่โกรธเคือง มู่ชิงอู่คว้ามู่หลิวเยวี่ยด้วยมือข้างหนึ่งและกำหมัดแน่นด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เขาโกรธจนพูดไม่ออก
แต่ในเวลานี้ หานอวิ๋นซีก้มหน้าลงและเงียบจนน่ากลัว!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางถูกคนรอบข้างมองและเยาะเย้ย แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นๆ ครั้งนี้นางบอกว่าจะเปิดเผยคำตอบและหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม…
นางคิดผิดและแพ้...
แต่! นางยอมรับความพ่ายแพ้เมื่อไรกัน?
หูทั้งสองข้างได้ยินแต่การเยาะเย้ยและการเย้ยหยันต่างๆ นานา แต่ในขณะนี้หานอวิ๋นซีได้ยินเพียงเสียงเดียว ซึ่งเป็เสียงจากส่วนลึกของหัวใจตนเอง “ข้าไม่มีทางยอมแพ้!”
ถึงแพ้ก็ต้องแพ้อย่างมั่นใจ แต่ตอนนี้นางไม่อยากแพ้แค่ลมปาก แล้วจะไปนับประสาอะไรกับใจ!
ใบชาไม่มีพิษใช่หรือไม่?
ดีจริงๆ นางยังไม่ได้ตรวจมันด้วยตัวเอง มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าไม่มีพิษ?
แม้ว่าการตรวจหาพิษจากใบชาจะเป็เื่ง่ายๆ และมักจะไม่มีข้อผิดพลาด แต่คราวนี้นางไม่เชื่อ
ทันใดนั้น หานอวิ๋นซีเงยหน้าขึ้น เผชิญหน้ากับการจ้องมองที่เหยียดหยามและท่าทางเยาะเย้ยของทุกคน นางเชิดคางขึ้นสูงและดูถูกสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เปล่งเสียงออกมาอย่างเสียงดัง “ผู้ร้ายที่วางพิษตัวจริงอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ข้ามีใบชาเป็หลักฐาน!”
------------------------------
[1] ขี่หลังเสือแล้วลงยาก เป็สำนวนที่หมายถึง กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วพบอุปสรรค แต่ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ดำเนินต่อไปจนถึงที่สุดโดยไม่อาจหยุดกลางคันได้
