“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ด——”
ภายในห้องผ่าตัดอันแสนยุ่งเหยิงผสานกับเสียงจากเครื่องจับสัญญาณชีพจรหัวใจที่สัญญาณชีพขาดลง
แพทย์แสดงความเสียใจผ่านสีหน้าจางๆ “เสียใจด้วยครับ ผู้ป่วยเสียเืจากอุบัติเหตุมากเกินไป เราพยายามอย่างเต็มที่แล้วครับ”
เสิ่นม่านสะดุ้งในใจ เธอยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ไม่ใช่หรือ? ทําไมหมอถึงประกาศว่าเธอสิ้นใจแล้ว?
คุณหมอ ฉันคิดว่าน่าจะยังพอช่วยชีวิตได้นะ!
เสิ่นม่านไม่สามารถลืมตาได้ เธอพยายามลุกขึ้น แต่กลับถูกผ้าขาวคลุมศีรษะ ไม่รู้ว่าเพราะสับสนทางความคิดหรืออย่างไร ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กน้อยดังขึ้น
ทั้งยังเรียกเธอว่า แม่?
ฟ้าดินเป็พยาน นางสาวเสิ่นม่านอายุยี่สิบแปด สถานะโสด แล้วทำไมถึงมีลูกชายโผล่มาได้
แม่ครัวสาวชั้นเลิศในศตวรรษที่ยี่สิบสองอย่างเสิ่นม่าน กลับต้องมาตายในอุบัติเหตุทางรถยนต์แสนธรรมดาแบบนี้จริงหรือ?
ช่างเป็ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ!
เสิ่นม่านทั้งโกรธทั้งอยากร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมา ร่างกายเบาหวิว จากนั้นแปรสภาพกลายเป็สายลม
ไม่กี่วินาทีก่อนที่สติของเธอจะหายไปอย่างสมบูรณ์ เสิ่นม่านะโคำพูดจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ถนนหลายพันเส้นทาง แต่เส้นทางของความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ”
“การขับรถประมาท นำมาซึ่งน้ำตาของคนในครอบครัว!”
......
“ฮือๆ ท่านแม่กินอะไรหน่อยเถิด ท่านสนใจต้าเป่าหน่อยได้หรือไม่ รีบๆ หาย ขอเพียงท่านตื่นขึ้น ต้าเป่าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง...”
ต้าเป่าหรือ? เช่นนั้นฉันคงเป็ เคล็ดลับ SOD [1] สินะ!
เสิ่นม่านตื่นมาเกือบสิบนาทีแล้ว ข้างหูยังคงมีเสียงเด็กน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
เด็กน้อยร้องไห้พลางเอาบางสิ่งยัดใส่ปากของเธอ
สิ่งแรกที่จมูกสามารถรับรู้ได้คือกลิ่นตุๆ ที่ยากจะพรรณนา
วินาทีถัดมา ภายในปากก็เต็มไปด้วยบางสิ่งที่เหนียวเหนอะ รสชาติเปรี้ยวฝาดและแฝงความขมไว้! เธอพยายามขืนตัวต่อต้านและเบี่ยงหน้าหลบไปอีกทาง
“เอาออกไป ฉันไม่กินอุจจาระ...”
เสียงนั้นแหบแห้งและเป็เสียงที่ไม่คุ้นเคย ทันใดนั้นสมองของเสิ่นม่านพลันตื่นตัว
นี่มัน…
เธอลืมตาขึ้นอย่างฉับพลัน
้าคือหลังคาที่มีรูรั่วเต็มไปหมด หยากไย่ห้อยระย้า แสงตะวันสาดส่องผ่านรูรั่วหลายรอยตกกระทบบนศีรษะพอดี แสงหนึ่งส่องลงบนหน้าเธออย่างจัง ทำให้เธอแสบตาเป็พิเศษ
เสิ่นม่านค่อยๆ หรี่ตาลง ศีรษะน้อยแสนสกปรกชะเง้อเข้ามาใกล้
นอกจากนี้้าริมฝีปากยังมีน้ำมูกโป่งออกมา กะโหลกศีรษะที่ไม่ค่อยมีเนื้อหนังอะไร ดวงตากลมโตที่ดูหวาดกลัวกำลังจ้องมองเธอตาปริบๆ “ท่านแม่ ท่านตื่นแล้วหรือ?”
ท่านแม่…
เสิ่นม่านหวาดกลัวจนปัสสาวะแทบราด เธอพยายามลุกขึ้นนั่ง ขยับหนีไปยังมุมห้อง
เด็กน้อยเขยิบตามเข้ามาใกล้ แต่ถูกมือของเธอยันศีรษะไว้ก่อน
“อย่าเข้ามานะ” เธอเหลือบมองไปรอบๆ อย่างหวาดหวั่น หลังคาที่ลมฝนสามารถผ่านทะลุเข้ามาได้ ในห้องมีไหแตกอยู่หลายใบ หญ้าฟางและฟืน อากาศที่แฝงด้วยกลิ่นแปลกประหลาด ซึ่งเป็กลิ่นขับของเสียของมนุษย์…
เสิ่นม่านทรุดตัวลง!
จีนแผ่นดินใหญ่กระตุ้นความเจริญรุ่งเรืองจนได้มาตรฐานแล้วไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมสถานที่แห่งนี้กลับดูน่ากลัวยิ่งกว่าในละครโทรทัศน์เสียอีก?
ลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจ…
เสิ่นม่านกลืนน้ำลายก่อนจะส่งเสียง “พลังงานปาลาลา?”
เสียงหุ่นยนต์ผู้หญิงที่คุ้นเคยดังขึ้นในสมอง “ฉันอยู่นี่”
โชคดีที่ระบบอัจฉริยะยังอยู่ด้วย เสิ่นม่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอหลับตา ภาพในสมองฉายภาพจอเสมือนจริง
ในศตวรรษที่ยี่สิบสอง โทรศัพท์มือถือจะถูกแทนที่ด้วยระบบอัจฉริยะ ทุกคนจะมีระบบอัจฉริยะหนึ่งชุดติดตัวั้แ่เกิดและเติบโตพร้อมกับโฮสต์ ซึ่งความสามารถในแต่ละด้านจะค่อยๆ สมบูรณ์เติบโตตามเ้าของของมัน
มีระบบอยู่ด้วย เสิ่นม่านวางใจกว่าเดิม จากนั้นจึงถาม “ช่วยฉันสืบหน่อย ระบบของเธอขัดข้องอะไรหรือเปล่า?” มิฉะนั้น ทำไมถึงมีภาพเหตุการณ์เช่นนี้ให้เธอต้องเผชิญ ยิ่งไปกว่านั้น ััที่ได้ก็ค่อนข้างสมจริงอีกด้วย
ใครจะรู้ว่าคำตอบของระบบกลับน่าใยิ่งกว่า
“คุณได้ข้ามมิติแล้วค่ะ”
เสิ่นม่าน “?”
เธอใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการทบทวนรายละเอียดที่มาที่ไปของเื่นี้
เดิมที เธอกำลังจะไปเป็แขกรับเชิญรายการแข่งทำอาหารรายการหนึ่ง ปรากฏว่าระหว่างทางระบบเกิดขัดข้อง ส่งผลให้เธอขับรถเร็วเกินกำหนดและเสียชีวิต
โดยไม่คาดคิด หลังเสียชีวิต เธอก็ข้ามมิติมาในสถานที่ที่เป็ยุคสมัยของราชวงศ์ฮั่นหยวนและอาศัยอยู่ในร่างของสตรีนางหนึ่งที่ชื่อ เสิ่นม่าน
เสิ่นม่านเหนียง [2] ไม่ใช่สตรีเพียบพร้อมอะไร อายุสิบหกก็ตั้งครรภ์ก่อนแต่ง ทั้งยังให้กำเนิดบุตรชายชื่อว่า ต้าเป่า
ส่วนพ่อของเด็กนั้นไม่ทราบ บวกกับหลังจากให้กำเนิดบุตรชาย รูปร่างของเสิ่นม่านจึงบวมราวกับวอวอโถว [3] น้ำหนักพุ่งขึ้นไปมากกว่าหนึ่งร้อยหกสิบชั่ง [4] !
ั้แ่นั้นมาผู้หญิงคนนี้ได้ประสบความสำเร็จในการเป็สาวพลัสไซซ์ที่ออกจากเตาร้อนๆ ไม่มีผู้ใดกล้ามาขอนางแต่งงานอีก
ด้วยภูมิหลังเช่นนี้ เสิ่นม่านเหนียงจึงทำให้พ่อแม่ตรอมใจตายในเวลาไม่กี่ปีต่อมา เดิมทีนางยังมีพี่ชายอีกหนึ่งคน ทว่าหกปีก่อนถูกจับไปเป็ทหาร และขาดการติดต่อไปอย่างไร้ร่องรอย เป็ตายไม่ทราบ
นางได้แต่เลี้ยงลูกและอาศัยอยู่กับนางโจว พี่สะใภ้หม้าย
แต่นางโจวเกลียดชังเสิ่นม่านเหนียงที่เกียจคร้านตัวเป็ขน หลายวันก่อนจึงจัดฉากใส่ร้ายนางว่าขโมยเงิน จากนั้นก็ทุบตีนางอย่างโหดร้ายและขับไสไล่ส่งออกมา
เสิ่นม่านเหนียงจึงได้แต่หอบลูกมาอยู่ในบ้านเก่าที่ถูกปล่อยร้างมานานหลายปี ไม่รู้ว่าเพราะถูกพี่สะใภ้ทุบตีหรือเพราะความหิว แต่ถึงอย่างไรนางก็สิ้นใจไปทั้งอย่างนั้น
หลังจากทำความเข้าใจภูมิหลังของเ้าของร่างอย่างแจ่มแจ้ง เรี่ยวแรงของเสิ่นม่านก็ค่อยๆ ฟื้นกลับคืนมา
เสิ่นม่านหยิก ‘แพยาง’ หนาสามชั้นบนรอบเอว กระนั้นก็ยังดื้อรั้นไม่ยอมรับความจริง
ถ้าฉันเป็คนบาปก็ขอให้เง็กเซียนฮ่องเต้ลงโทษฉันเลยเถิด แต่ไม่ใช่การข้ามมิติที่กำลังเป็ที่นิยมอะไรแบบนี้!
จับฉันข้ามมิติมาในที่ที่แม้แต่นกยังไม่อุจจาระไม่พอ ยังซ้ำเติมด้วยการมอบร่างที่พิกลพิการแบบนี้มาให้ ทั้งยังต้องเลี้ยงดูเ้าภาระตัวน้อยที่น่าสงสารนี่อีก!
เวรกรรมจริง!
เสิ่นม่านร้องไห้โดยปราศจากน้ำตา เธอถามระบบว่ายังสามารถข้ามมิติย้อนกลับไปได้หรือไม่
“ความน่าจะเป็เท่ากับศูนย์ ร่างกายของคุณถูกใส่เตาเผาเรียบร้อยแล้วค่ะ” คำตอบที่ระบบให้มาทำให้เธอสิ้นหวัง
ให้ตายเถิด!
เสิ่นม่านเริ่มคลุ้มคลั่ง เธอลุกพรวดขึ้นมานั่งและทุบเตียงคั่ง [5] ด้วยความโมโห!
เด็กน้อยที่ยืนอยู่ไกลๆ เห็นท่าทางของเธอเช่นนั้น ถึงกับสะดุ้งจนอ้าปากหวอ ก่อนจะเอ่ยห้ามทั้งน้ำตา “ท่านแม่ ท่านเลิกทุบได้แล้ว อีกเดี๋ยวเกิดมันพังขึ้นมา กลางคืนเราคงต้องนอนในกองไฟแทนนะขอรับ”
ฮือๆ… มือก็ปริแตก สภาพจิตใจก็ปริร้าวเช่นกัน
“นังเด็กสารเลว ยังไม่ตายนี่นา?”
เสิ่นม่านยังคงจมอยู่กับอารมณ์ที่ซับซ้อนกับการข้ามมิติมาใน่แรก จู่ๆ เสียงแหลมปรี๊ดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
เธอเงยหน้าขึ้นเห็นสาวร่างใหญ่ โหนกแก้มค่อนข้างสูง และริมฝีปากหนาคนหนึ่งเดินเข้ามา สตรีนางนั้นแต่งกายด้วยผ้าหยาบเรียบง่ายและเต็มไปด้วยเนื้อหนังที่เบียดเสียดกันอยู่ สันนิษฐานว่านางคงเป็พี่สะใภ้ของเ้าของร่างเดิม
ทันทีที่นางโจวเดินเข้ามาก็เขกกะโหลกของเด็กน้อยและกัดฟันกรอด “เ้าบอกว่านางใกล้ตายแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงยังมีชีวิตอยู่? เ้าเด็กพันทาง เป็เด็กเป็เล็กกล้าโกหกผู้ใหญ่! สันดานเหมือนแม่ไม่มีผิด!”
ชามในมือเด็กน้อยแตก สิ่งเหนียวเหนอะในนั้นสาดกระจายไปทั่วพื้น ร่างบางของเขาเองก็ล้มลงกับพื้นเช่นกัน “ท่านป้าสะใภ้ อย่าตีแม่ข้าอีกเลย เมื่อครู่แม่ข้าสลบไปจริงๆ ...”
“ไม่ตีก็ได้ คืนเงินมา!”
เด็กน้อยเงยหน้าสกปรกมอมแมมขึ้นมา น้ำตาเม็ดใหญ่ผสมน้ำมูกไหลย้อยลงมาทันที “ท่านแม่ข้าไม่มีเงินจริงๆ …”
“ไม่มีเงิน?” ท่าทางของนางโจวเปลี่ยนเป็ดุร้ายทันที “ไม่มีเงิน เช่นนั้นวันนี้ข้าจะขายเด็กอัปรีย์อย่างเ้าให้รู้แล้วรู้รอด น่าจะได้เงินสักสองตำลึง จากนั้นจะขายบ้านโทรมๆ หลังนี้ของพวกเ้าเสีย น่าจะพอมีราคาอยู่บ้าง!”
หญิงใจร้ายยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น จากนั้นบิดหูของเด็กน้อยจนแทบจะเด็ดศีรษะของเขาลงมาให้ได้ ก่อนจะกระชากเขาออกไปทางประตู
ทันใดนั้นก็มีมือใหญ่มาคว้าคอของนางไว้ด้วยความรุนแรงจากด้านหลัง
-----
เชิงอรรถ
[1] ต้าเป่า เคล็ดลับ SOD (大宝SOD蜜) อ้างอิงมาจากยี่ห้อครีมบำรุงผิวชื่อดังในประเทศจีน ยี่ห้อ ต้าเป่า ส่วน SOD ย่อมาจาก Superoxide dismutase (ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตส) เป็สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง มีสรรพคุณหลากหลาย เช่นเป็สารหน้าเด็ก ช่วยชะลอความชรา
[2] เหนียง 娘 มีความหมายว่า มารดา เป็คำเรียกของยุคโบราณบางยุคสมัย (ตามที่นักเขียนได้คัดสรรมาใช้) ใช้เติมท้ายชื่อสำหรับเรียกหญิงที่มีบุตรแล้ว
[3] วอวอโถว 窝窝头 เป็อาหารที่ทำจากแป้ง (面食 miànshí) ซึ่งใช้เป็อาหารหลักพบได้ทั่วไปในภาคเหนือของจีน โดยปกติแล้วจะทำจากแป้งข้าวโพดชนิดหยาบ (cornmeal) มีลักษณะเป็โคนมีหลุมตรงกลาง สีเหลืองนวลสวย ทานเป็จานหลักอย่างเดียวกับหมั่นโถวนั่นเอง เพียงแต่ราคาย่อมเยากว่ามาก
[4] ชั่ง 斤 (จิน) เท่ากับ 500 กรัม เป็มาตรวัดที่จีนใช้กันโดยทั่วไป 2 ชั่งเท่ากับ 1 กิโลกรัม
[5] เตียงคั่ง 炕 คือเตียงสมัยโบราณของครอบครัวยากจนถึงปานกลาง ก่อด้วยอิฐหรือดิน ด้านล่างมีช่องไว้สำหรับก่อไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้