สถานที่ที่หยางเฉินแนะนำแก่เฉินป๋อคือบาร์โรสบาร์แห่งนี้เป็บาร์ขนาดกลาง และเฉียงเวยเองก็ไม่ได้มีข้อตกลงที่เข้มงวดใดๆบาร์แห่งนี้เป็บาร์ที่แม่เธอทิ้งไว้ให้ มันจึงมีความหมายทางจิตใจเป็อย่างมาก
หลังจากเอากระเป๋าของเฉินหรงไปไว้ที่อะพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กของเฉินป๋อพวกเขาก็แวะทานอาหารที่ร้านแถวนั้นแล้ว ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังบาร์โรสบรรยากาศของบาร์ในตอนกลางวันนั้นช่างเงียบเหงา ไม่มีใครอื่นนอกจากพนักงาน
เฉินป๋อเห็นหยางเฉินนำทางมาที่นี่ก็ถามขึ้นด้วยความกังวล
"หยางเฉินที่นี่ดูไม่ค่อยปลอยภัยเท่าไรนะ"
"ฉันคิดอยู่แล้วว่านายต้องพูดแบบนี้แต่ฉันสนิทกับเ้าของที่นี่ ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลเื่ความปลอดภัยหรอกนะ"
เฉินป๋อไม่ได้พูดอะไรอีกเขาเดินเข้าไปในบาร์ และกวาดสายตามองไปรอบๆ ภายในบาร์ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขาพยักหน้าดูเหมือนว่าบาร์แห่งนี้จะมีมาตรฐานการจัดการที่ดี
เสี่ยวจ้าวยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์สวมเครื่องแต่งกายเด็กเสิร์ฟเมื่อเขาเห็นหยางเฉินเดินเข้ามา เขาก็รีบเข้าไปหาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
"พี่หยางพี่มีเวลามาตอนกลางวันด้วยงั้นเหรอ แถมยังพาเพื่อนมาด้วย?"
"เฉียงเวยอยู่ไหม?"
"บอสเพิ่งตื่นจากการงีบหลับ่บ่ายผมจะไปตามให้นะครับ"
ที่อยู่อาศัยของเฉียงเวยไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปหยางเฉินจึงรอข้างนอกกับพี่น้องตระกูลเฉิน
ไม่นานนักเฉียงเวยก็เดินออกมา เธอสวมชุดกี่เพ้าลายพระจันทร์สีขาว ภายใต้แสงไฟสลัวกลิ่นอายความเป็ผู้ใหญ่ของเธอและรูปร่างที่สง่างามน่ามองนั้นช่วยขับเน้นเสน่ห์ของเธอเพิ่มมากขึ้น
เฉินป๋อและเฉินหรงจ้องมองไปที่เฉียงเวยอย่างงงงวยเล็กน้อยพวกเขาไม่เคยคิดว่าเ้าของบาร์แห่งนี้จะเป็สาวงามเช่นนี้
"หยางเฉินคุณมาที่นี่เพื่อแนะนำคนให้กับฉันเหรอคะ"
"นี่เป็น้องสาวของเพื่อนผมเองเธอก็มาจากเสฉวนพวกเขามีปัญหาบางอย่างที่บ้าน ดังนั้นเธอจึงพักการเรียน และมาที่จงไห่เพื่อหางานผมนึกถึงที่นี่เป็อันดับแรกเลยล่ะ"
เฉียงเวยเข้าใจสิ่งที่หยางเฉินบอกแล้วใช้สายตาพิจารณาเฉินหรงอย่างถี่ถ้วน
เมื่อเฉินหรงได้ฟังน้ำเสียงของเฉียงเวยแล้วเธอคิดว่าเสียงของเธอนั้นช่างไพเราะเหมือนกับเสียงของเทพธิดาเธอก้มหน้าลงอย่างขวยเขิน ไม่กล้าที่สบตากับเฉียงเวย
"เธอชื่ออะไรเหรอ?"เฉียงเวยเดินเข้าไปใกล้ถามอย่างอบอุ่นเป็กันเองเหมือนทักทายเพื่อนบ้านคนใหม่
"เฉินหรงจากโรงเรียนเหลียนค่ะ"เฉินหรงเม้มริมฝีปากตอบออกไป
เฉียงเวยคลี่ยิ้มน้อยๆและกล่าวว่า
"ทำตัวให้สบายแล้วฟังฉันนะถึงแม้ว่าหยางเฉินจะพาเธอมา แต่เธอก็ยังคงได้เริ่มงานในระดับล่างสุดอย่างเสิร์ฟอาหาร กวาดพื้น ทั้งหมดนี้อาจทำให้เธอเหนื่อย และสกปรกบางครั้งลูกค้าก็อารมณ์เสียใส่ ดุด่าเธอ ได้ยินแบบนี้แล้วเธอยังอยากทำงานที่นี่หรือไม่"
"ฉันทำได้ค่ะฉันทำงานที่บ้าน และยังเคยทำพพิเศษที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดด้วย"เฉินหรงรีบตอบ
เฉียงเวยยิ้มหวานด้วยความเอ็นดูพลางหยิกแก้มใสๆ ของเฉินหรง
"จากนี้ไปเธอสามารถทำงานที่นี่ได้เลยนะเสี่ยวจ้าวจะคอยชี้แนะให้เธอเอง หากมีปัญหาอะไรเธอก็ไม่ต้องเกรงใจฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพนักงานของฉัน"
"ค่ะ"เฉินหรงน้ำตาซึมยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจ
หลังจากนั้นเสี่ยวจ้าวจึงนำเฉินหรงไปเซ็นสัญญา
"ขอบคุณคุณผู้หญิงมากนะครับผมรู้ว่าหยางเฉินเป็คนดี และคุณที่เป็เพื่อนของเขาย่อมต้องเป็คนดีด้วยเช่นกันดังนั้นผมจึงเชื่อใจคุณ โปรดดูแลน้องสาวของผมด้วยนะครับ!"เฉินป๋อที่เงียบไปก่อนหน้านี้ได้พูดฝากฝังน้องสาวของตนด้วยความรวดเร็วจนแทบลืมหายใจจากนั้นจึงโค้งคำนับให้
เฉียงเวยเห็นดังนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะอยู่ในอารมณ์เช่นไรดี
"น้องสาวของคุณนั้นใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนน้ำในฤดูใบไม้ผลิจากูเาซึ่งหาได้ยากในสังคมปัจจุบันขอบอกตามตรงฉันอยากให้น้องสาวคุณมาเป็ผู้ช่วยถ้าหากเธอยินดี ฉันจะให้เธออยู่ข้างกาย และสอนทุกเื่ให้เธอรู้แต่ฉันกลัวว่าพี่ชายอย่างคุณจะคัดค้าน"
เมื่อได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็สะดุ้งมองไปที่เฉียงเวยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้นึกว่าเธอจะอยากรับผู้สืบทอดเพราะเหตุนี้เองเฉียงเวยถึงมองเฉินหรงด้วยสายตาพิจารณาอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อนแค่คิดว่าเฉินหรงจะถูกหญิงสาวในโลกใต้ดินอบรม หยางเฉินก็รู้สึกสนุกขึ้นมาทันที
เฉินป๋อไม่ทราบว่าตัวตนของเฉียงเวยนั้นเป็ถึงจักรพรรดินีแห่งโลกใต้ดิน เขาคิดว่าเธอคงจะฝึกงานให้น้องของเขาดังนั้นเขาจึงยิ้มและรีบกล่าวว่า
"ตราบใดที่เป็ความ้าของเสี่ยวหรง ผมในฐานะพี่ชายจะสนับสนุนเต็มที่ครับ"
"ทำไมคุณถึงเชื่อใจฉันและหยางเฉินมากขนาดนี้ล่ะ"
เฉินป๋อพยักหน้าหนักแน่น
"ผมมันแค่คนไร้ประโยชน์แต่หยางเฉินก็ดูแลผม ต่างจากคนอื่นที่มองมาที่ผมอย่างดูถูก ถ้าผมไม่เชื่อใจเขาป่านนี้สภาพผมคงเลวร้ายยิ่งกว่าหมูและสุนัขเสียอีก!"
เฉียงเวยไม่สามารถช่วยอะไรได้หล่อนได้แต่หัวเราะและพูดว่า
"คุณนี่น่าสนใจมากกว่าหยางเฉินซะอีกแถมคำพูดของคุณยังตรงไปตรงมาอีกด้วย... ในเมื่อคุณพูดอย่างนี้ฉันจะถือว่าคุณอนุญาตแล้ว จะมากลับคำในภายหลังไม่ได้นะ"
เฉินป๋อหัวเราะอย่างขวยเขิน
"ไม่...ไม่แน่นอนครับ ผมหวังเช่นกันว่าบอสเจี่ยงจะไม่ผิดคำพูดเช่นกัน...นอกจากซีอีโอบริษัทของผมแล้ว คุณเป็ผู้หญิงอีกคนที่สวยที่สุดที่ไม่ดูถูกคนเช่นผม... ฮ่าๆๆ"
"ซีอีโอบริษัทของนายน่ะหรือ?"ในตาของเฉียงเวยส่องประกายมองไปที่หยางเฉิน "ใช่คนที่งดงามดั่งนางฟ้าหรือเปล่า?"
เหงื่อเย็นเม็ดโตปรากฏขึ้นบนหน้าผากหยางเฉินเขาไม่กล้ามองเฉียงเวยตรงๆ แต่ไม่ใช่กับเฉินป๋อ เขารีบพูดขึ้นด้วยความเคารพ
"ใช่ครับครั้งแรกที่ผมเห็นท่าน ผมใมาก เช่นเดียวกับที่เห็นคุณในวันนี้เลยพนักงานในบริษัทของเราต่างเคารพเธอเหมือนเป็ไอดอลของพวกเรา"
เฉียงเวยพยักหน้าด้วยรอยยิ้มหวานหยดแล้วหันมาพูดกับหยางเฉิน "หยางเฉินฉันมีบางอย่างที่ต้องคุยด้วย คืนนี้คุณว่างหรือไม่?"
หยางเฉินเห็นคำว่า''ถ้าไม่ว่างเอ็งตาย''ปรากฏชัดบนใบหน้าของเฉียงเวย เขาฝืนยิ้มอย่างยากลำบากพลางกล่าวว่า "ผมว่างแน่นอนฮ่าๆ..."
หลังจากเฉินหรงเซ็นสัญญาแล้วสองพี่น้องก็กลับไปที่อะพาร์ตเมนต์อย่างอารมณ์ดีเฉินป๋อต้องช่วยเฉินหรงทำความสะอาดห้องจึงลางานในวันนี้
หยางเฉินไม่มีอะไรทำระหว่างรอพบกับเฉียงเวยในเวลากลางคืน ถ้าเขาไปเยี่ยมหลินรั่วซี และหลี่จิงจิงเขาอาจเลยเถิดจนเลยนัดเฉียงเวยได้ตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้คงต้องกลับไปเล่นเกมที่ออฟฟิศ
ในขณะที่กำลังจะกลับบริษัทนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรมาหยางเฉินก็ขมวดคิ้วเป็ถังถังนั่นเอง และเมื่อหยางเฉินรับโทรศัพท์เสียงแหลมใสของถังถังก็ดังขึ้นทันที
"ลุงอยู่ไหนคะ?"
"มีอะไร"หยางเฉินรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้คงหาเื่มาให้เขาอีกแล้ว
"วันนี้หนูมีสอบ่บ่ายเลยว่าง หนูเลยตัดสินใจว่าจะพาลุงไปกินข้าว ลุงห้ามปฏิเสธนะ"
หยางเฉินไม่อยากมีปัญหาเขาลูบท้องและตอบว่า "ฉันยังไม่หิวไว้คราวหน้าละกัน"
"ไม่ได้นะ!ลุงมากับหนูได้ไหม หนูเดินคนเดียวข้างฟุตบาทแล้วตอนนี้หนูเบื่อมากด้วย มาเล่นกับหนูนะ แล้วอีกสองชั่วโมงเราค่อยไปหาอะไรกินกัน"ถังถังส่งเสียงอ้อนวอนมาจากปลายสาย
หยางเฉินมีปัญหากับความหลากอารมณ์ของสาวน้อยผู้นี้เขาลังเลเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า
"เธอควรจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ได้แล้ว"
"ฮึ่มพวกเขาไม่มีเวลามาดูแลเด็กอย่างหนูหรอก ไม่มีใครรักหนูหรอก พวกเขาเอาแต่ทำงาน"
"แล้วเพื่อนของเธอล่ะ?"
"พวกนั้นหน่อมแน้มจะตายไป...ลุงมาหาหนูเถอะ" ถังถังฉลาดไม่ใช่น้อยเธอรู้ว่าไม่อาจบังคับหยางเฉินได้ จึงใช้วิธีขอร้องแทน
หยางเฉินรู้สึกหดหู่มิใช่น้อยต่อเด็กที่น่าสงสารเช่นนี้เธอไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ คล้ายกับเขาเมื่อก่อน แม้เธอจะได้ขับรถพอร์เชอ แต่ดูเหมือนว่าในใจลึกๆ เธอคงเหงาอยู่ไม่ใช่น้อย
"เอาล่ะเธออยู่ที่ไหน? ฉันจะไปรับ"หยางเฉินไม่มีอะไรทำอยู่แล้วไปกับเด็กน้อยนี่ก็อาจไม่แย่ซะทีเดียว
"ระหว่างถนนสายที่3 และ 14รีบมาเลยนะคะหนูสวมกระโปรงสั้นสีชมพู!"ถังถังเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะก่อนจะวางสายไป
หยางเฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
"เด็กคนนี้ดูไม่ได้เลยต่อให้เธอมาแก้ผ้าอยู่ข้างหน้าก็ตาม" หยางเฉินบ่นอุบพลางเหยียบคันเร่งจนมิดเท้า...
ไม่นานนักหยางเฉินก็สังเกตเห็นถังถังยืนอยู่ริมฟุตบาท เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน่ารักสีชมพูสวยหวานสมวัย หมวกเข้าชุดใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่น่ารักไร้เดียงสา มันเป็เื่ยากที่จะจินตนาการว่าเด็กตัวแสบในวันนั้นจะกลายเป็เด็กสาวที่น่ารักในวันนี้
"ตอนนี้เธอดูดีมากเมื่อก่อนนี้อย่างกับเด็กใจแตก"
ถังถังเบ้ปากกล่าวว่า
"มันเป็สไตล์ของหนูลุงไม่เข้าใจหรอก สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับหนู คือการทำตัวเป็สาวน้อยสดใสและบริสุทธิ์ทุกครั้งที่พบกับลุง"
"มันมีช่องว่างระหว่างวัยอยู่"หยางเฉินพึมพำก่อนถามว่า
"เราจะไปที่ไหนล่ะ?"
"จงไห่ซินีม่า!"ถังถังโพล่งออกมา
"เธอวางแผนไว้ก่อนแล้ว?"หยางเฉินรู้สึกเหมือนตกหลุมพราง "เธอไม่ได้เล่นอะไรตุกติกใช่ไหม?"
ถังถังกัดฟันกรอดหยิบตั๋วหนังสองใบอย่างโกรธเคือง
"ตั๋วหนังรักชาติหนูไม่คิดว่ามันจะไม่ดีตรงไหน ลุงคิดว่านี่มันจะทำร้ายลุงไหมล่ะ?"
"หนังดีนี่"หยางเฉินมองไปที่ภาพทหารที่พิมพ์อยู่บนตั๋วหนังด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า "ฉันชอบดูหนังที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศจีน"
"ทำไมล่ะ?"ถังถังถามอย่างอยากรู้
"เพราะว่าฉันไม่รู้เื่ราวเ่าั้"หยางเฉินพูดเชิงวิชาการ "เมื่อรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศแล้วเธอควรจะเป็คนรักประเทศชาติใช่ไหมล่ะ"
ถังถังเบ้ปาก
"เื่พวกนี้มีอยู่ในตำราเรียนทุกคนในชั้นต่างได้ตั๋วหนัง ฉันเป็เพียงคนเดียวที่มาดูโดยไม่มีเพื่อนแต่กลับได้มาดูกับลุงแก่อนาถาแทน"
"งั้นเราต่างคนต่างดูเป็ไง"หยางเฉินออกความเห็นขณะขับรถ
"ไม่!"ถังถังยกสองมือปิดซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตนอย่างเอียงอายแสดงท่าทางมีเสน่ห์ที่ขัดกับอายุ และกล่าวอย่างแ่เบาว่า "นี่เป็ครั้งแรกหนูดูหนังกับผู้ชายเราจะนั่งแยกกันได้ยังไงล่ะ..."
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินถึงกับขากระตุกเกือบเหยียบคันเร่งชนรถคันข้างหน้า!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้