เป็ดังที่หานรุ่ยคิด หยุนจ่านเผิงคิดจะทิ้งกล่องหยกที่จุนห่าวมอบให้เขาจริงๆ
"ข้าเกือบลืมสิ่งนี้ไปเลย" หยุนจ่านเผิงเอ่ยขึ้นอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ จากนั้นก็หยิบกล่องจากแหวนเทศะออกมาวางบนโต๊ะ หยุนจ่านเผิงมีกระทั่งแหวนเทศะ เห็นได้ว่า ในตระกูลเขาเป็ที่รักเพียงใด
เซวียนอี้มองกล่องหยกบนโต๊ะ เอ่ยถามว่า "นี่คืออะไร? หานรุ่ยให้เ้ามาอีกหรือ?" หลายวันมานี้หานรุ่ยมอบยาิญญาชั้นเลิศให้หยุนจ่านเผิงมาไม่น้อย แม้แต่นายน้อยแห่งตระกูลเซวียนอย่าวเขาก็ยังพูดไม่ออก มิใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นยาิญญาชั้นเลิศ ทว่าไม่เคยเห็นมากมายขนาดนี้ หานรุ่ยมอบให้ตั้งมากมาย แม้แต่เขาก็พลอยได้ไปด้วย เซวียนอี้เริ่มรู้สึกเกรงใจ อยากจะให้เงินหานรุ่ยสักหน่อย หยุนจ่านเผิงกล่าวว่า เขาคิดมากเกินไป เขากับหานรุ่ยเป็เพื่อนกัน มิใช่เื่ต้องให้เงิน ระหว่างเพื่อนจะไม่ทำเช่นนี้ จากนี้ไปหากเขามีของดีอะไร ค่อยมอบให้หานรุ่ยก็พอ เซวียนอี้คิด ว่าหยุนจ่านเผิงช่างมีใจหนักแน่นนัก ของมีค่าเช่นนี้ยังรับมาง่ายๆ แต่ทว่า เขาทำไม่ได้ เขาเตรียมจะหาของมีค่ามามอบให้หานรุ่ย ระหว่างเพื่อนควรดีมาก็ดีตอบ แทนที่จะเป็ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็ผู้ให้ นี่คือความแตกต่างระหว่างเขากับหยุนจ่านเผิง มองดูกล่องหยกที่อยู่เบื้องหน้า เซวียนอี้คิดในใจ ผ่านมาหลายวันแล้ว หานรุ่ยยังจะมอบกล่องหยกให้หยุนจ่านเผิงอีก ถึงจะก็ไม่รู้ว่าภายในกล่องนั้นมีอะไร แต่ทว่า ดูจากสิ่งที่หานรุ่ยมี คงเป็ของดีที่หายากยิ่ง
“นี่มิใช่ของที่หานรุ่ยให้มา เป็จุนห่าวเ้าคนจิตใจคับแคบผู้นั้นให้มา เมื่อครู่นี้ข้าลืมเื่นี้ไป ข้าคิดว่าจุนห่าวคงไม่มอบของดีให้ข้าหรอก บางทีมันอาจเป็ยาพิษ ข้าว่าจะทิ้ง” หยุนจ่านเผิงเตรียมที่จะโยนให้สัตว์อสูรกิน คิดในใจ ตอนนี้เขาเป็หนามในสายตาของจุนห่าว จุนห่าวต้องเตรียมหาทางกำจัดเขาแน่ ดังนั้น ของที่จุนห่าวมอบให้ เขาไม่กล้าใช้จริงๆ เขาเกรงว่าจุนห่าวจะวางยาพิษเขา
เมื่อได้ยินว่าจุนห่าวเป็คนมอบให้ เซวียนอี้ไม่เข้าใจนัก จุนห่าวและหยุนจ่านเผิงเกลียดกันขนาดนี้ เหตุใดจุนห่าวถึงมอบของให้หยุนจ่านเผิง จะทำดีต่อหยุนจ่านเผิง เพราะเป็เพื่อนรักของหานรุ่ย? ยามนี้ความสัมพันธ์ของจุนห่าวกับหานรุ่ยก็ออกจะดี ไม่ต้องให้เพื่อนช่วยหรอก เซวียนอี้ส่ายหัวแล้วขจัดความคิด หากจะบอกว่าจุนห่าวจะทำอันตรายต่อหยุนจ่านเผิงก็เป็ไปไม่ได้ เห็นแก่หานรุ่ย จุนห่าวไม่ทำเช่นนี้แน่ เขาเชื่อว่า หากหยุนจ่านเผิงตกอยู่ในอันตราย จุนห่าวต้องช่วยเหลืออย่างแน่นอน เพราะเขาไม่อยากเห็นหานรุ่ยเป็ทุกข์ ได้ทำความรู้จักจุนห่าว่หลายวันนี้ เขามองออกว่าจุนห่าวเป็เหมือนเขา คือคนที่รักเดียวใจเดียว คิดถึงตรงนี้ เซวียนอี้ส่ายหัวอีกครั้ง ไม่เข้าใจความคิดของจุนห่าว
เมื่อเห็นหยุนจ่านเผิงเตรียมตัวจะออกไป เซวียนอี้คิด เหตุใดเขาถึงลืมถามเหตุผลจากหยุนจ่านเผิง จุนห่าวมอบของให้ ต้องเป็เื่สำคัญแน่ ไม่มีทางที่จะมอบของให้โดยไม่มีเหตุผล คิดถึงตรงนี้ เขาจึงพูดกับหยุนจ่านเผิงว่า “เดี๋ยวก่อน ลูกผู้น้อง เหตุใดจุนห่าวถึงมอบสิ่งนี้ให้เ้า?”
“เขาบอกว่า มอบเป็ขวัญแต่งงานล่วงหน้าให้แก่ข้าและเ้า โยนมันให้ข้าราวกับโยนทิ้งขยะ เห็นการกระทำที่น่าขยะแขยงของเขา จึงรู้ว่ามันไม่ได้เป็ของดีแน่ ท่านว่าเขาจงใจไหม?” หยุนจ่านเผิงกล่าวกับเซวียนอี้อย่างไม่พอใจ
"ลูกผู้น้องอ่า ในเมื่อจุนห่าวมอบให้เป็ของขวัญแต่งงานของเรา เราควรเปิดมันดูหน่อย ไม่ว่าในนั้นจะมีอะไร? แต่นี่ก็เป็ความตั้งใจของจุนห่าว เราไม่ควรทำให้เขาเสียน้ำใจนะ" เซวียนอี้พูดกับหยุนจ่านเผิง เขาไม่คิดว่าจุนห่าวจะใช้ข้ออ้างนี้เพื่อให้ของ ในเมื่อเป็ของขวัญแต่งงาน คงไม่ใช่ของธรรมดาแน่ หากให้หยุนจ่านเผิงทิ้งไปก็น่าเสียดายนัก
"เ้าพูดถูก งั้นก็เปิดมันดู ข้ามิใช่คนอย่างจุนห่าวนะ ของอวยพรที่ขามอบให้ยังไงก็ต้องรับไว้" หยุนจ่านเผิงกล่าวพลางนั่งลง พูดจบเขาก็เปิดกล่องหยกที่ปิดผนึก
พอหยุนจ่านเผิงเปิดในกล่องหยกจนเกิดช่องว่าง พลังิญญาอันบริสุทธิ์รั่วไหลออกมาจากกล่อง ััได้ถึงพลังิญญา เซวียนอี้และหยุนจ่านเผิงลุกพรวดอย่างนั่งไม่ติดแล้ว พวกเขาทั้งคู่รู้สึกถึงความไม่ธรรมดาในกล่องนี้ หยุนจ่านเผิงแง้มดูครู่หนึ่ง ก็ปิดกล่องหยกลง
หยุนจ่านเผิงใช้สายตาแสกนทุกซอกทุกมุมในห้อง พบว่าไม่มีอันตรายใดๆ กล่าวอย่างหงุดหงิดกับเซวียนอี้ว่า "ลูกผู้น้อง จะยังเปิดไหม?"
"เปิดเถอะ ห้องนี้มีค่ายกลป้องกัน ซึ่งปลอดภัยมาก" เซวียนอี้กล่าวพลางมองหยุนจ่านเผิงที่ดูตื่นเต้น สำหรับพฤติกรรมที่รอบคอบของหยุนจ่านเผิง เซวียนอี้พอใจยิ่งนัก ได้เห็นลูกผู้น้องตระหนักถึงเื่ป้องกัน ที่ไม่ได้โง่เขลาอย่างที่เห็น
"งั้นข้าเปิดมันจริงๆ นะ ลูกผู้พี่" หยุนจ่านเผิงถามพลางมองสายตาที่สงบนิ่งของเซวียนอี้ มือของเขาสั่นเล็กน้อย เขากลัวว่าเขาจะไม่ระวังแล้วทำให้ของที่อยู่ข้างในเสียหาย
"เปิดเถอะ ข้าอยากรู้ว่าจุนห่าวมอบของขวัญแต่งงานอะไรให้เรา?" เซวียนอี้พูดติดตลก เห็นหยุนจ่านเผิงตื่นเต้น ดังนั้น จึงจงใจเน้นคำว่าแต่งงาน สองพยางค์นี้ อันที่จริง ใจของเขาไม่สงบนิ่งอย่างที่เห็น เขาก็ตื่นเต้นเช่นกัน
"งั้นข้าจะเปิดจริงๆ แล้วนะ" หยุนจ่านเผิงพูดกับตัวเอง และไม่้าคำตอบของเซวียนอี้ เขาถอนหายใจพลางเปิดกล่องหยก เห็นแสงเรืองรองของผลไม้ชิงลัวปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา
"นี่คงไม่ใช่ผลไม้ชิงลัวในตำนานใช่ไหม! ที่ผู้คนกำลังตามหาอยู่?" หยุนจ่านเผิงกล่าวอุทานพลางมองผลไม้ชิงลัวที่อยู่ในกล่องหยก
เซวียนอี้ต้องสูดลมหายใจลึกๆ ถึงทำให้ตัวเองสงบสติลง พูดอย่างมั่นใจว่า "ใช่ นี่คือผลไม้ชิงลัวในตำนาน แค่กินหนึ่งผลก็เลื่อนได้" เขาคิดไม่ถึงว่า จุนห่าวจะมอบสิ่งนี้ให้แก่พวกเขา เขายังได้ยินข่าวลือบางอย่างตลอดทาง แต่เขาไม่คิดว่าข่าวลือนั้นเป็เื่จริง เขาคิดว่าข่าวถูกปล่อยออกมาอย่างจงใจโดยตระกูลใหญ่ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้อื่นที่จะสงสัยตัวเอง เขาคิดว่าผลไม้ชิงลัวต้องตกอยู่ในมือของตระกูลใหญ่แน่ ั้แ่เขาออกมาผจญอันตราย และได้ข่าวผลไม้ชิงลัว เขารู้สึกเสียใจที่เขาพลาดโอกาสไป คิดไม่ถึงว่า บัดนี้ของในตำนาน จะอยู่ตรงหน้าเขา ทั้งยังมีสองผล จนกระทั่งตอนนี้ เขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อ
"นี่ นี่ นี่มันคือผลไม้ชิงลัว!" หยุนจ่านเผิงจ้องผลไม้ชิงลัวที่อยู่บนโต๊ะด้วยสายตาเบิกกว้าง
“ใช่ มันคือผลไม้ชิงลัว" เซวียนอี้ตอบด้วยความมั่นใจอีกรอบ เอ่ยคำพูดนี้กับหยุนจ่านเผิงและให้ตนเองฟัง ทำให้เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่มีอยู่จริง
"จุนห่าว เหตุใดเขาถึงใจกว้างขนาดนี้! เหตุใดถึงมอบสิ่งล้ำค่าแก่เรา" หยุนจ่านเผิงพูดอย่างงงงวย จากนั้นก็หยุดและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เห็นทีที่ข้ากล่าวโทษเขาเมื่อครู่นี้ นอกจากปากร้ายๆ ของเขา ก็นับว่าเป็คนที่ดีคนนึง งั้นข้าจะให้อภัยเขา ครั้งนี้เป็ข้าเองที่ไม่มีเหตุผล ข้าจะไม่พูดเื่เลวร้ายของเขากับหานรุ่ยแล้ว" จากนั้นเขาก็กลอกตาอีกครั้ง และพูดว่า "จุนห่าวมอบของที่มีประโยชน์ต่อข้าเช่นนี้ พรุ่งนี้ข้าต้องไปขอบคุณเขา เขาคงจะไม่ขับไล่ข้าออกไปมาอีกกระมัง หากข้าไม่ไป จะแสดงว่าข้าเป็คนไร้มารยาท ดังนั้นยังไงก็ต้องไป เช่นนี้ ข้าก็จะได้พบหานรุ่ยด้วย"
เซวียนอี้ "......" คิดในใจ ลูกผู้น้องมิใช่จะกินบนเรือนขี้บนหลังคาหรอกหรือ หากจุนห่าวเห็นลูกผู้น้อง ต้องเสียใจที่มอบผลไม้ชิงลัวให้แน่ การกระทำของจุนห่าว กลายเป็ข้ออ้างให้ลูกผู้น้องไปหาหานรุ่ยอีก เซวียนอี้คิดว่าจุนห่าวหาเื่ใส่ตัวชัดๆ จุนห่าวต้องเสียใจที่ทำเช่นนี้แน่
ฟังคำของหยุนจ่านเผิง เซวียนอี้พูดยิ้มๆ ว่า "จุนห่าวเป็คนใจกว้างอยู่แล้ว หากมิใช่คนใจกว้าง คงไม่ห็นด้วยกับหานรุ่ยที่มอบยาิญญาชั้นเลิศแก่เ้าตั้งมากมาย"
หยุนจ่านเผิงเบะปาก กล่าวพลางหัวเราะคิกคักว่า "ข้าคิดว่าหานรุ่ยแอบมอบให้ข้าลับหลังจุนห่าวเสียอีก"
"เ้านี่นะ! เป็คนฉลาดมากคนนึง คิดอย่างนี้ได้ยังไง? สัมพันธ์ของหานรุ่ยกับจุนห่าวดีออกอย่างนั้น หานรุ่ยจะทำเื่ลับหลังจุนห่าวทำไม" เซวียนอี้พูดอย่างจนปัญญา
เซวียนอี้พูดจบ ก็กลับมาพูดอย่างจริงจัง "ของขวัญของจุนห่าวนั้นมีค่าเกินไป ข้าไม่รู้ว่าจะให้อะไรตอบแทนดี"
ครั้งนี้หยุนจ่านเผิงมิได้คัดค้าน เขาครุ่นคิดและเอ่ยขึ้นว่า "มอบเป็ตำลึงทองละกัน ข้าคิดว่าจุนห่าวคงชอบ"
"คงทำได้แค่นี้ ไม่ให้อะไรเลยข้าก็ไม่สบายใจ" เซวียนอี้กล่าว คิดในใจ ครั้งนี้ หานรุ่ยและจุนห่าวมอบของที่ทำให้เขาแทบจะเป็ลม เขาต้องสงบสติอารมณ์
"จุนห่าวและหานรุ่ยช่างมีความสามารถจริงๆ ข้าและลูกผู้พี่สู้พวกเขาไม่ได้เลย" หยุนจ่านเผิงกล่าวด้วยความสัตย์จริง เขาคิดว่า เขาต้องขยันให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้น จะตามหลังหานรุ่ยเกินไป เขากลัวว่าหานรุ่ยจะไม่เป็เพื่อนกับเขาแล้ว
สำหรับเซวียนอี้ คำพูดนี้ของหยุนจ่านเผิง เขาเห็นด้วย คิดในใจ ไม่ใช่แค่เขาและลูกผู้น้องที่เทียบไม่ได้ แต่ผู้คนทั้งหมดบนแผ่นดินชางหลานก็ไม่มีใครเทียบได้ การได้เป็เพื่อนกับทั้งคู่ ถือว่าเป็โชคของพวกเขาแล้ว ที่เขาและหยุนจ่านเผิงได้พบกับบุคคลอันทรงเกียรติ เขาเชื่อว่า พร์ของจุนห่าวและหานรุ่ย ถึงจะไปอยู่แผ่นดินอื่นก็คงไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก
“ลูกผู้น้อง เ้าพูดถูก จุนห่าวและหานรุ่ยเป็แบบอย่างให้เรา ต่อจากนี้ไป เราสองคนจะเป็เหมือนพวกเขา” เซวียนอี้กล่าว
“อันที่จริง ลูกผู้พี่ก็ไม่ได้แย่นัก แค่แย่กว่าจุนห่าวและหานรุ่ยนิดหน่อย แต่ทว่า ในสายตาของข้า ลูกผู้พี่ดีที่สุด” หยุนจ่านเผิงกล่าวพลางบิดตัว ในสายตาของหยุนจ่านเผิง เซวียนอี้ก็คือัผงาด เพียงแต่ว่าอยู่ผิดจังหวะ ไม่เหมาะอยู่ยุคเดียวกับจุนห่าวและหานรุ่ย เมื่อเทียบกับจุนห่าวและหานรุ่ย คนหนุ่มที่เหมือนลูกผู้พี่ก็ดูมืดสลัวไม่เปล่งประกาย
“เ้าคิดแบบนี้ได้นะ ข้ามีความสุขมาก ตราบใดที่ข้ายังเป็คนที่ดีที่สุดในสายตาของเ้า ข้าพอใจแล้ว” เซวียนอี้กล่าวด้วยรอยยิ้มในดวงตา มีปีศาจร้ายมากมายบนโลกนี้ เขาแค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ พูดเื่เหล่านี้จบ เซวียนอี้หยุดชั่วขณะหนึ่ง กล่าวต่อไปว่า “ในสายตาของข้า ลูกผู้น้องก็ดีที่สุดเช่นกัน เ้าคือหนึ่งเดียวในใจข้า”
ฟังคำของเซวียนอี้ หยุนจ่านเผิงหัวใจพองโต ใบหน้าของเขาเขินอายเล็กน้อย เขาเปลี่ยนเื่สนทนาและพูดว่า “ลูกผู้พี่ ท่านเก็บผลไม้ชิงลัวนี้ให้ดี! จิตใจของข้ายังไม่หนักแน่นพอ แค่เห็นผลไม้ชิงลัวก็อยากกินมัน ผลไม้ชิงลัวนี้ล่อตาล่อใจข้าหนัก” หยุนจ่านเผิงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะควบคุม แต่ทว่ามือของเขาคิดแต่จะยื่นไปที่กล่องหยก
เห็นหยุนจ่านเผิงที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่ออดกลั้น เซวียนอี้พูดยิ้มๆ ว่า "เก็บไว้ทำไมล่ะ เ้าอยากกินก็กินสิ"
"เราจะไม่มอบมันให้แก่ผ้ใหญ่ในตระกูลหรือ? หากมีสิ่งนี้ ตระกูลเซวียนก็จะมียอดฝีมือขั้นสิบสองถึงสองคน ถึงตอนนั้น ฐานะทางตระกูลของลูกผู้พี่จะยิ่งมั่นคงขึ้น" หยุนจ่านเผิงกล่าว แม้ว่าเขาจะอยากกินมันยิ่งนัก แต่ทว่าสิ่งนี้สำคัญต่อลูกผู้พี่มากเหลือเกิน ดังนั้นเขาจะไม่กิน
ฟังคำของหยุนจ่านเผิง เซวียนอี้ประทับใจยิ่งนัก นี่คือคนรักของเขา ที่เขาโหยหามาตลอด จะไม่ให้รักเขาได้ยังไง
เซวียนอี้สูดหายใจลึกๆ จดจำความประทับใจนี้ไว้ เขาหยิบผลไม้ชิงลัวส่งให้หยุนจ่านเผิง และเอ่ยขึ้นว่า "กินเถอะ นี่คือของขวัญแต่งงานที่จุนห่าวมอบให้เรา ไม่จำเป็ต้องมอบให้แก่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้าเชื่อว่า จุนห่าวก็ไม่ยินดีนักที่เราจะส่งต่อให้คนอื่น"
"แต่ทว่า เรากินตอนนี้จะสิ้นเปลืองหรือไม่? หรือเราควรจะรอให้ถึงลมปราณขั้นที่สิบแล้วค่อยกิน?" หยุนจ่านเผิงพูดด้วยใบหน้าเ็ป ความจริงแล้วเขาอยากกินตอนนี้
"กินตอนนี้เถอะ กินแล้วพลังปราณเปลี่ยน ถึงจะเรียกว่าเป็ของตัวเอง อยู่ในมือก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือไม่? เราจะพบสิ่งที่ดีกว่าในอนาคตแน่นอน" เซวียนอี้พูดทิ้งท้าย
หยุนจ่านเผิงได้ฟังก็เห็นด้วย รับมาใส่ปาก "อร่อย ลูกผู้พี่ท่านก็กินเถอะ ข้าไม่เคยทานผลไม้ที่อร่อยเท่านี้มาก่อน" พูดจบก็ยื่นผลให้อีกผลให้อยู่ตรงปากของเซวียนอี้ หยุนจ่านเผิงทำอย่างรอบคอบ เขากลัวว่าเซวียนอี้จะไม่ยอมกินและมอบให้แก่ผู้ใหญ่ในตระกูล
หยุนจ่านเผิงและเซวียนอี้ทานผลไม้ชิงลัวกันคนละผลและเริ่มเข้าสู่สมาธิ รอให้พวกเขาตื่นขึ้นมา ต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ แน่
