รอยยิ้มของสตรีนางนั้นเย้ายวนทำให้คนลุ่มหลง “คุณหนูคุณชายทั้งหลาย เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้น?”
ทุกคนดึงสติกลับมา รีบเก็บสีหน้าทันใด มือทั้งสองข้างของจิ่งฝานที่กำแน่นค่อยๆ คลายออก สีแดงเืที่ซุกซ่อนอยู่ในดวงตาหายไปทันใด ราวกับคลื่นลมได้สงบลงแล้ว
จิ่งเซียงถลึงตาใส่หญิงนางนั้น “แม่นางท่านนี้ เชิญกลับไปเถิด พวกเราไม่ชอบถูกรบกวน”
แม่นางคนนั้นแอบหัวเราะออกมาเบาๆ “น้องสาวเ้าไม่ต้อนรับข้า ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่ต้อนรับนี่”
พูดจบก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับผู้ชายสามคนที่อยู่บนโต๊ะ
จิ่งเซียงโกรธจัด “เ้า!”
จิ่งจื่อสงบลงแล้ว พูดด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “แม่นางเชิญกลับไปเถิด”
จิ่งเซียงรู้สึกซาบซึ้งในทันใด จิ่งจื่อคนนี้ปกติไม่เคยถูกกับนางเลย แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ข้างนางแล้ว
แม่นางคนนั้นกลับไม่สนใจ นางยิ้มสดใสมองไปทางจิ่งฝาน “คุณชายยอมรับคำเชิญของข้าหรือไม่?”
จิ่งฝานมองอย่างเ็า “ไม่ไป”
แม่นางคนนั้นถูกปฏิเสธทว่ากลับไม่โกรธ ยังคงยิ้มอยู่ “ในเมื่อคุณชายไม่ไป เช่นนั้นข้าก็คงต้องรั้งอยู่แล้ว”
พูดจบยังไปยกเก้าอี้จากโต๊ะที่ไม่มีคนนั่งมา แล้วนั่งลงที่ข้างกายจิ่งฝาน
อ๋าวหรานอึ้ง นี่เอ่อ... จะว่าอย่างไรดี พูดให้น่าฟังสักหน่อยก็คงจะเรียกว่าเหมือนจะเป็คนที่มีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เป็อย่างมาก
อ๋าวหรานอดถามไปหนึ่งประโยคไม่ได้ว่า “เ้าชื่ออะไร?”
นั่นดึงดูดสายตาไม่พอใจจากคนทั้งโต๊ะให้หันมามองเขาทันที
อ๋าวหรานยิ้มน้อยๆ อย่างทำอะไรไม่ได้
แต่แม่นางคนนั้นกลับยิ้มอย่างสว่างไสว มองอ๋าวหรานด้วยสีหน้าเย้ายวน “น้องชายก็หน้าตาหล่อเหลาน่ารักเหมือนกันนะ”
อ๋าวหราน “...” น่ารักน้องเ้าสิ ข้าเป็ลุงเ้าได้ด้วยซ้ำ
“ข้าน้อยหลางฉา คุณชายเรียกข้าว่าฉาฉาก็ได้”
อ๋าวหรานกุมขมับ เป็นางปีศาจสาวตัวจริงเสียด้วย
นิยายเลื่อนระดับจำพวกนี้จะไม่จัดสรรปีศาจสาวตัวน้อยมาคู่กับตัวเอกได้อย่างไร? ว่านเฝิงเองก็ไม่ลืมที่จะใช้มุกเก่าๆ แบบนี้ หลางฉาเป็ลูกสาวสายตรงจากตระกูลเล็กๆ จากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ มีพร์ และเป็คนฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบดีเยี่ยม ตระกูลนางเล็กมาก ไม่มีอำนาจอันใด ไม่นานก็ถูกตระกูลใหญ่ในพื้นที่แถบนั้นกลืนกินไป นางที่อายุเพียงแปดขวบแต่งตัวเป็ชายปลอมตัวเป็ขอทานระหกระเหินไปทั่ว ตอนหลังถูกผู้นำตระกูลทางคนก่อน ทางเหวินหนิง รับไปเลี้ยง ตระกูลทางมีคัมภีร์ ‘จี๋เต้า’ ครึ่งหนึ่งอยู่ในมือ ลูกหลานสายตรงของตระกูลทางล้วนได้ฝึกกันทุกคน
ในแผ่นดินใหญ่นี้ตระกูลทางเหมือนจะไม่มีชื่อเสียงอันใด เหมือนจะเป็แค่ตระกูลเล็กๆ แต่ก็บอกไปแล้วว่า ความสามารถในการหลบเร้นเป็สิ่งที่พวกเขาถนัดนัก พวกเขาเอาแต่ผลักพวกตระกูลที่ยอมสยบแก่พวกเขาออกไปเสี่ยงชีวิตแทน แล้วพวกเขาก็แอบอยู่ข้างหลัง เก็บเกี่ยวผลประโยชน์และความได้เปรียบต่างๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยเลย
และสิ่งที่ทำให้ตระกูลทางสามารถทำให้ตระกูลพวกนั้นยอมสยบแก่พวกเขาได้ก็คือ คัมภีร์ ‘จี๋เต้า’ ครึ่งเล่มนี้นี่เอง อีกทั้งที่ตระกูลทางมอบให้พวกเขาก็เป็แค่ส่วนเล็กๆ จากคัมภีร์ทั้งครึ่งเล่มเท่านั้น ทว่าแค่นั้นพวกเขากลับยอมเป็พวกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ตระกูลทางยังเลี้ยงกองกำลังซากศพไว้มากมาย พวกนั้นมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเขาเท่านั้น ยอมตายเพื่อทำงานให้กับพวกเขา ตระกูลที่มีประวัติความเป็มาแค่ร้อยกว่าปีเหมือนจะสามารถทำให้ตระกูลจิ่งที่ยิ่งใหญ่มีประวัติความเป็มายาวนานเป็พันปีล่มสลายลงได้ภายในคืนเดียว นั่นก็เพราะพวกเขามีคนไว้ให้ใช้งานมากกว่าตระกูลจิ่งมากนัก แล้วยังมี ‘จี๋เต้า’ มาช่วยเสริมกำลังอีก
พูดมาตั้งมากมายก็ยังต้องกลับมาที่หลางฉาคนนี้ หลังจากที่หลางฉาถูกทางเหวินนิงรับไปนั้น เดิมทีแล้วนางเป็หนึ่งในกองกำลังซากศพ แต่หลางฉานั้นเฉลียวฉลาดเกินคน รู้จักพูดจา ความสามารถในการปรับตัวก็ยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ ด้านวรยุทธ์ก็ฉลาดว่าเด็กทั่วไป เป็ที่รักของทางเหวินนิงเป็อย่างมาก สุดท้ายจึงรับนางเป็ลูกสาว มอบทุกอย่างให้กับนางเหมือนนางเป็ลูกหลานสายตรงของตระกูลทาง รวมถึง ‘จี๋เต้า’ เองก็มอบให้กับนางด้วย นางไม่ทำให้ทางเหวินหนิงผิดหวัง วรยุทธ์นั้นไม่แย่ไปกว่าลูกชายคนโตสายตรงของทางเหวินหนิง หรือก็คือผู้นำตระกูลทางคนปัจจุบันสักกี่มากน้อย
ประวัติความเป็มาของหลางฉานั้นพิเศษ เดิมทีก็เป็คนที่มีความสามารถโดดเด่นมากอยู่แล้ว แล้วยังเติบโตมาราวกับองค์หญิงภายใต้การเลี้ยงดูของทางเหวินหนิง จึงเป็คนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้มาโดยตลอด หากเอามาไม่ได้ก็จะแย่งเอามา เป็คนที่โอหังเป็อย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน ตอนวัยเด็กนั้นนางต้องประสบพบเจอความยากลำบากมากมาย ต้องพึ่งพาผู้อื่นเพื่อจะได้มีชีวิตรอด จึงมีความสามารถในการพลิกแพลงลื่นไหลเปลี่ยนสีได้ตลอดเวลา คนแบบไหนต้องประจบประแจง คนแบบไหนต้องยกย่องเทิดทูน นางต้องสังเกตอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้รับมือได้ เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงในบางแง่มุม นางก็ต้องใช้ชีวิตอย่างค่อนข้างเก็บกดฝืนทนอยู่เหมือนกัน
ต่อมาได้พบกับจิ่งฝาน ตัดเื่รัศมีของตัวเอกออกไป จิ่งฝานนั้นเดิมทีก็เป็คนที่ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ทั้งหน้าตาดีและสุภาพเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็ด้านรูปลักษณ์หรือด้านลักษณะนิสัยก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
อีกทั้งตอนที่นางได้พบกับจิ่งฝาน จิ่งฝานยังไม่ได้เข้าสู่ด้านมืดอย่างจริงจัง จิ่งฝานที่สูญเสียบ้านและครอบครัวไปแล้วในตอนนั้นยังไม่หลงลืมจิตใจอันดีงาม ยื่นมือเข้าช่วยเหลือตอนที่นางถูกลวนลาม ถึงแม้ในความจริงแล้วนางจะไม่้าความช่วยเหลือเลยก็ตาม
คนส่วนใหญ่มักพูดว่าเราจะชอบคนคนหนึ่งที่ภายในหาใช่รูปลักษณ์ภายนอก แต่รูปลักษณ์ภายนอกก็เป็ส่วนสำคัญพื้นฐานในการดึงดูดคน ชายที่หล่อเหลาที่สุดในเื่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเ้า ปฏิบัติกับเ้าอย่างอ่อนโยนจะไม่ให้หลงรักได้อย่างไร ถึงแม้ตอนแรกจะชอบที่เนื้อหนังภายนอก แต่เมื่อเวลานานเข้าก็คนพบว่าภายในของเขาเองก็ดึงดูดผู้คนเช่นกัน
จิ่งฝานตอนนั้นยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือวงศ์ตระกูล ยุ่งอยู่กับการเอาชีวิตรอด ไม่มีเวลามาสนใจเื่รักๆ ใคร่ๆ แม้แต่น้อย อีกทั้งเขาพบเจอหญิงงามมามากมายนัก ต่อให้หลางฉาจะเย้ายวนมากแค่ไหน เขาก็สามารถอดทนต่อความเย้ายวนนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธหัวใจของหลางฉามาโดยตลอด ตอนหลังยังมารู้อีกว่าหลางฉาเป็ลูกสาวของตัวบงการใหญ่ที่ฆ่าล้างตระกูลเขา สุดท้ายจึงกลายเป็เื่ราวสุดน้ำเน่าขึ้นมา
ไม่เหมือนกับปีศาจสาวคนอื่นๆ ในหน้าประวิติศาสตร์หรือในหลายๆ เื่ที่ปรากฏตัวออกมา หลางฉาไม่ใช่ประเภทที่ถ้าเ้าไม่ชอบข้า ข้าก็จะทำลายเ้า หรือไม่ก็หาวิธีกักขังเ้าไว้ข้างกายข้า ทำให้เ้ารักข้าให้ได้ อะไรแบบนั้น นางเป็แบบที่ถ้าชอบเ้าก็จะทำตัวติดกับเ้า ไล่ตามเ้า แสดงตัวตนให้เ้ารับรู้ถึงการมีอยู่ของนางตลอดเวลา แสดงท่าทางเย้ายวนแบบผู้ใหญ่ออกมาเสมอๆ ทั้งชั่วร้าย ทั้งเย้ายวน ทั้งยังน่ารักนิดหน่อยด้วย ดังนั้นตอนนั้นที่หลางฉาปรากฎตัวออกมา ก็ทำให้บรรดานักอ่านชายโห่ร้อง แสดงอาการอยากได้พี่สาวผู้เย้ายวนและชั่วร้ายแบบนี้กันเป็ทิวแถว
“โอ๊ย...“ อ๋าวหรานกำลังคิดอยู่อย่างใจลอย รู้สึกว่าขาถูกเตะอย่างรุนแรงไปหนึ่งที เจ็บจนชาไปเลย
เพียงเงยหน้าก็เห็นตัวการที่ทำให้เขาเจ็บตัวกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกำลังถลึงตาใส่เขาอยู่ โกรธจนควันแถบจะออกจากหูอยู่แล้ว
จิ่งเซียง “อ๋าวหราน! ชีวิตนี้ไม่เคยเจอสาวงามเลยหรืออย่างไร? ไปจ้องคนอื่นอยู่แบบนั้นเพื่ออันใด?”
อ๋าวหราน “ไม่...”
จิ่งจื่อก็พูดมาประโยคหนึ่งว่า “ไม่คิดเลยว่าเ้าจะเป็คนเช่นนี้”
อ๋าวหราน “ข้า...”
จิ่งฝาน “เ้าชอบนาง?” สายตาราวกับน้ำแข็งพันปี
หลางฉา “คุณชายน้อยชอบข้าหรือ? ข้าก็ชอบเ้ามากเช่นกัน แต่ว่าข้าชอบคนที่อยู่ข้างเ้ามากกว่า” พูดจบยังส่งสายตาวาววามไปให้จิ่งฝานสายหนึ่ง
อ๋าวหรานกรอกตา “ให้ข้าพูดบ้างได้หรือไม่?”
อ๋าวหรานมองจิ่งเซียงที่กรุ่นโกรธ พูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ได้ชอบ ถ้าจะชอบก็ชอบเ้ามากกว่า”
ถึงจะบอกว่าแฝงไว้ด้วยการโอ๋น้องสาวตัวน้อย แต่จริงๆ แล้ว เทียบกับหลางฉาที่เย้ายวนเป็ผู้ใหญ่ เขาก็ชอบเด็กสาวเช่นจิ่งเซียงมากกว่าจริงๆ ร่าเริงสดใสอยู่ทุกวัน น่ารักรู้ความ บางครั้งก็มีความดื้อดึงเหมือนเด็กน้อย ทำให้คนรู้สึกอยากทะนุถนอมตามใจและปกป้อง
จิ่งเซียงได้ยินก็ส่งเสียง ‘ฮึ’ ออกมาหนึ่งเสียง “ไม่เชื่อเ้าหรอก” แต่ความโกรธก็ลดน้อยลงไปมาก
จิ่งฝานมองคนสองสามคนบนโต๊ะ “กินเสร็จหรือยัง? ถ้ากินเสร็จแล้วก็ไปกันเถิด”
อ๋าวหรานพยักหน้า
หลางฉาเห็นพวกเขาจะไปแล้วก็ลุกขึ้นไปขวางอยู่ด้านหน้าจิ่งฝาน “พวกคุณชายจะไปแล้ว? พวกท่านจะไปที่ใด? พวกเราไปด้วยกันเถิด”
จิ่งฝานแค่มองนางอย่างเย็นเยียบไปหนึ่งที แววตานั้นเหมือนมีดน้ำแข็งไม่มีแววความโกรธใดๆ หลางฉาอึ้งไปโดยไม่รู้ตัว
คนสามคนที่หันหลังให้จิ่งฝานอยู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นแค่หลางฉาที่จู่ๆ ก็พูดไม่ออกขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้