เซี่ยยวี่หลัวมาถึงด้านหลังก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กสองคนดังขึ้นจากด้านใน เซี่ยยวี่หลัวไปห้องข้างๆ ก่อนเปลี่ยนชุดกลับเป็ชุดสตรีเคาะประตู แล้วจึงเปิดประตูเข้าไป ฮวาเหนียงกำลังเล่นหมากล้อมกับเด็กสองคน
เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวมาแล้วฮวาเหนียงก็รีบลุกขึ้น ยิ้มพร้อมกล่าว “กลับมาแล้วงั้นหรือ? ข้าเห็นว่าเด็กสองคนน่ารักและเฉลียวฉลาด จึงสอนพวกเขาเล่นหมากล้อม ใครจะรู้ว่าเด็กคนนี้เก่งกาจนักเพียงบอกกฎการเล่นกับเขา เล่นกันไม่กี่ตา ข้าก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้อีกเลย! ”
เด็กสองคนเห็นเซี่ยยวี่หลัวกลับมาแล้ว จึงเอ่ยเรียกพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานต่างก็วิ่งมาหา เซี่ยยวี่หลัวลูบศีรษะเด็กสองคน กล่าวกับฮวาเหนียง “ขอบคุณฮวาเหนียงที่ช่วยดูแลเด็กสองคน"
ฮวาเหนียงยิ้มพร้อมกล่าว“มีอะไรให้ขอบคุณกัน ต่อไปเ้าเข้ามาในตัวเมือง มีอะไรไม่สะดวก ก็พาเด็กสองคนมาฝากที่ข้าเด็กสองคนนี้ว่าง่ายรู้ความ ข้าปลื้มใจยิ่งนัก! ”
แววตาที่นางมองเด็กสองคนอ่อนโยนดุจสายน้ำ รักใคร่เอ็นดู ราวกับมารดาผู้โอบอ้อมอารี
ฮวาเหนียงไม่เคยมีบุตรหลังจากสามีด่วนจากไป นางก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานใหม่ ดังนั้น สำหรับนาง เื่ลูกก็กลายเป็เื่ที่นางไม่เคยมีประสบการณ์และไม่จำเป็ต้องมีด้วย
นางไม่ขออะไรมากไปกว่านี้และไม่คาดหวังอะไร แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างข้อจำกัดต่อเื่ที่นางชื่นชอบเด็กๆและทำดีต่อพวกเขา
ฮวาเหนียงเก็บกระดานและตัวหมากใส่ไว้ในกล่องไม้ยื่นส่งให้เซียวจื่อเซวียน "เด็กคนนี้มีพร์ในการเล่นหมากล้อมหมากล้อมชุดนี้วางไว้ที่นี่ก็เสียเปล่า เ้านำกลับไปเล่นสิ"
เซียวจื่อเซวียนหันมองเซี่ยยวี่หลัวเพื่อขอความคิดเห็นจากนาง
เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าเซียวจื่อเซวียนอยากได้จริงๆและรู้ว่านี่เป็น้ำใจของฮวาเหนียง จึงพยักหน้า เซียวจื่อเซวียนใช้มือทั้งคู่รับมาด้วยความเคารพจากนั้นจึงเอ่ยปากขอบคุณฮวาเหนียงอย่างมีมารยาท รับมอบของและปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมฮวาเหนียงเห็นแล้วก็รู้สึกชื่นใจนัก
เด็กๆ รู้ความ ย่อมเป็เพราะผู้ใหญ่สอนมาดี
ได้ยินมาว่าเด็กสองคนนี้บิดามารดาจากโลกนี้ไปแล้วเช่นนั้นคนที่มีความดีความชอบ ก็คือเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่หรือ?
เซี่ยยวี่หลัวกำลังจะพาเด็กสองคนกลับบ้านนางเปลี่ยนเป็ชุดสตรีแล้ว ย่อมออกทางประตูหน้า
เพิ่งเปิดม่านออกมา ฮวาเหนียงก็เอ่ยเรียกอย่างเป็กันเอง"ท่านซ่ง..."
"ฮวาเหนียง"
เซี่ยยวี่หลัวหันมองไปทางต้นเสียงเงาร่างสีฟ้าครามที่สูงโปร่งประหนึ่งต้นไผ่ ประกอบกับใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่ติที่ดูเข้มงวดและเ็าไม่ใช่ซ่งฉางชิงจะเป็ใครได้อีก
"ท่านซ่ง! "เซี่ยยวี่หลัวเดินขึ้นหน้าไปกล่าวทักทายอย่างเปิดเผย
ซ่งฉางชิงก็ตวัดมุมปากเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบสงบ"บังเอิญจริง ที่ได้พบฮูหยินเซียวที่นี่! "
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มคิ้วงามโก่งโค้ง เหมือนจิ้งจอกน้อยที่แสนน่ารักไม่มีผิด
"ยวี่หลัว เ้ารู้จักกับท่านซ่งด้วยหรือ? " ฮวาเหนียงเอ่ยถามด้วยท่าทีสงสัย
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า"เคยพบหนึ่งครั้ง" ทั้งยังเคยทำการค้าหนึ่งหนด้วย
ฮวาเหนียง "ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านซ่งมาเยือนเพราะ..."
ซ่งฉางชิง "ไม่ได้ตัดเสื้อนานแล้วไม่ทราบว่าที่ฮวาเหนียงมีผ้าอะไรบ้าง ข้าจะตัดเสื้อสักสองชุด! "
"ครั้งก่อนฮูหยินเฒ่ากู้สั่งตัดเสื้อไว้ให้ท่านหนึ่งชุดเพิ่งทำเสร็จพอดี กำลังจะนำไปส่งให้ท่าน บังเอิญจริงๆ ที่ท่านมา ท่านรอสักครู่ ข้าจะไปนำมาให้ท่านจะได้ลองสวมดู! "
ซ่งฉางชิงยังคงกล่าวอย่างเรียบสงบ"เช่นนั้นรบกวนฮวาเหนียงด้วย"
เซี่ยยวี่หลัวที่อยู่ข้างๆทำธุระเสร็จแล้ว ย่อมต้องกลับไป "ฮวาเหนียง ท่านทำธุระต่อ ข้าจะกลับก่อน"กล่าวจบ จึงหันมองซ่งฉางชิงที่อยู่ข้างๆ "ท่านซ่ง ขอตัวก่อน"
ซ่งฉางชิงพยักหน้า"ฮูหยินเซียวค่อยๆ เดิน"
เซี่ยยวี่หลัวจูงมือเด็กสองคนเดินผ่านข้างกายซ่งฉางชิง จากไปแล้ว
ในอากาศ เหมือนจะมีกลิ่นหอมเบาบางลอยล่องอยู่ไม่เหมือนกลิ่นดอกไม้ทั่วไป กลิ่นจางๆ แต่กลับหอมยิ่งนัก
ซ่งฉางชิงก้มหน้าลง ใบหน้าเคร่งขรึมที่เม้มริมฝีปากแน่นมาตลอดในมุมองศาที่ไม่มีใครเห็น เขาตวัดมุมปากเล็กน้อย
ฮวาเหนียงนำเสื้อมาให้ซ่งฉางชิงดู
ซ่งฉางชิงดูเสื้อไปพลางก็ทำทีเป็กล่าวโดยไม่ได้สนใจนัก "ฮูหยินเซียวมาฮวาหม่านยีเป็ประจำงั้นหรือ? "
ฮวาเหนียงยิ้มพร้อมกล่าว"มาประจำ แม่นางผู้นั้นมีความคิดดี ปากก็หวาน เคยทำการค้ากันสองครั้ง พบว่าแม่นางนั่นมีจิตใจดีงามเหมือนกับหน้าตาทำให้รู้สึกว่าช่างน่าเอ็นดูนัก! "
ซ่งฉางชิง "ฮวาเหนียงสนิทกับนางมาก? "
"สนิทสิ แม่นางนั่นถึงแม้อายุยังน้อยแต่จิตใจดีและเอาใจใส่ผู้อื่น ท่านลองดูน้องชายและน้องสาวสามีของนาง ทั้งว่าง่ายทั้งรู้ความได้รับการดูแลจากนางเป็อย่างดี นางยังซื้อผ้าจากร้านข้ากลับไป บอกว่าจะตัดเย็บเสื้อผ้าให้สามีของนางด้วยตัวเองไม่รู้ว่าสามีของนางเป็คนเช่นไร ถึงได้แต่งกับคนที่เหมือนเทพธิดาก็มิปาน ชาติก่อนคงทำความดีไว้มาก!" ฮวาเหนียงกล่าวไม่หยุด
ซ่งฉางชิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อยไม่ได้กล่าวอะไรอีก
ดูเสื้อเสร็จแล้ว ซ่งฉางชิงก็ไม่ได้ลองสวมฮวาเหนียงห่อเสื้อให้เขา ซ่งฉางชิงเพียงกล่าวขอบคุณ ไม่ได้อยู่ต่อ สาวเท้าก้าวใหญ่เดินออกไป
ออกจากฮวาหม่านยี เขาไม่ได้เดินไปทางซ้ายทันที
ทางขวา คือทางไปเซียนจวีโหลว
ทางซ้าย คือทางออกจากเมืองโยวหลันเพื่อมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านสกุลเซียว
บนท้องถนนมีผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ซ่งฉางชิงยืนนิ่งมองเส้นทางด้านขวา
คนผู้นั้นเดินหายลับไปจนไม่เหลือแม้แต่เงานานแล้วทว่ากลางอากาศ เหมือนยังมีกลิ่นหอมหวานเบาบางลอยล่องอยู่
เป็กลิ่นที่เพียงแค่ได้สูดดมก็ไม่อาจลืมไปชั่วชีวิต
ถงเต๋อส่งเขาออกมา เห็นว่าซ่งฉางชิงยืนอยู่หน้าประตูไม่เดินต่อนึกว่าเขายังมีธุระอะไร จึงยืนรออยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพ แต่รออยู่ครู่ใหญ่ ก็ไม่เห็นท่านซ่งเดินไปจึงนึกว่ายังมีธุระอื่นอีก “ท่านซ่ง ยังมีธุระอะไรอีกหรือไม่ขอรับ? ”
ไม่มีคนตอบ
ถงเต๋อหันมองไปตามทิศที่ซ่งฉางชิงมองไป
เส้นทางด้านขวาที่ออกจากตัวเมืองมีผู้คนเดินไปมา ท่าทางเหม่อลอยนั่น ท่านซ่งมองอะไรกันถึงได้มองจนเหม่อถึงเพียงนั้น?
เขาหันมองไปตามเส้นทางออกจากตัวเมืองด้วยความประหลาด
นอกจากแผ่นหลังของผู้คนก็มองไม่เห็นอะไรจริงๆ มีอะไรน่าดูกัน
ซ่งฝูกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าคุณชายที่สวมชุดสีน้ำเงินเข้มที่เห็นวันนี้เป็ผู้ใด
ซ่งฉางชิงก้าวเท้าเข้ามาในเซียนจวีโหลวซ่งฝูก็วิ่งมา ขมวดคิ้วพร้อมกล่าว “คุณชาย ข้ารู้แล้วว่าคุณชายผู้นั้นเป็ผู้ใดขอรับสตรีผู้นั้นช่างหน้าไม่อายเสียจริง...”
ขายาวของซ่งฉางชิงก้าวข้ามธรณีประตูมือข้างหนึ่งอยู่ข้างหน้า มืออีกข้างไพล่อยู่ด้านหลัง ร่างสูงสง่าประหนึ่งต้นไผ่งามสีหน้าของเขาดูเรียบสงบ แฝงเร้นด้วยความขึงขังที่ทำให้ผู้อื่นไม่อาจเข้าใกล้ เขาปราดสายตามองซ่งฝูอย่างเรียบสงบพร้อมยื่นส่งเสื้อในมือไปให้
ซ่งฝูรีบปิดปาก ใช้มือทั้งคู่รับเสื้อมานำเสื้อไปแขวนไว้
ซ่งฉางชิงกำลังดูสมุดบัญชีอยู่ภายในห้องซ่งฝูยังพูดไม่หยุด “คุณชาย ท่านต้องจำได้แน่ นั่นก็คือเซี่ยยวี่หลัวที่ขายผักตี้เอ่อให้เราขอรับ!ไม่รู้ว่าสตรีผู้นั้นแต่งเป็ชายเพื่ออะไร แต่งเป็ชายยังไม่พอ ยังอยู่ข้างนอกคอยล่อลวงหญิงสาวที่ไร้เดียงสาอีก!”
ซ่งฉางชิงจับพู่กันขึ้นกำลังจะเขียนหนังสือพอได้ยินดังนั้น มือก็หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ
เขาเงยหน้ามองซ่งฝู
ตอนซ่งฝูกล่าวถึงเซี่ยยวี่หลัวก็แสดงสีหน้าโมโห แสดงสีหน้าดูแคลน ราวกับว่าแค่พูดถึงเซี่ยยวี่หลัว ก็จะทำให้ริมฝีปากของเขาสกปรกอย่างไรอย่างนั้น
ซ่งฉางชิงเหลือบมองซ่งฝูแวบหนึ่งซ่งฝูพบว่าคุณชายไม่พอใจ จึงรีบหุบปาก เอ่ยเรียกด้วยท่าทางหวั่นเกรง “คุณชาย! ”
“ต่อไปไม่รู้ความจริง ก็อย่าปรักปรำผู้อื่นส่งเดช!” ซ่งฉางชิงกล่าวประโยคนี้จบ ก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ถือพู่กันเขียนหนังสืออย่างตั้งใจ
ซ่งฝูขยับริมฝีปาก มองซ่งฉางชิงด้วยท่าทางตกตะลึง
คุณชาย กำลังช่วยพูดแก้ต่างแทนเซี่ยยวี่หลัวงั้นหรือ?
ซ่งฉางชิงกำลังทำงานอย่างตั้งใจซ่งฝูจะรบกวนอยู่ข้างๆ ไม่ได้ ยกน้ำชามาหนึ่งถ้วย ก็ออกไปแล้ว
เขาไปแล้ว ซ่งฉางชิงกลับเขียนตัวอักษรต่อไปไม่ได้อีก
ถ้อยคำของฮวาเหนียงวนเวียนอยู่ในห้วงภวังค์ของเขาตลอด
‘ใครกันที่โชคดีถึงเพียงนี้ ได้แต่งงานกับแม่นางที่งดงามราวเทพธิดา ทั้งยังฉลาดปราดเปรื่องมีความสามารถชาติก่อนต้องทำความดีไว้มากแน่นอน! ’
ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วมุ่นหว่างคิ้วขมวดเป็ปม
ชาติก่อนทำความดีไว้มาก...
แล้วเขาเล่า ชาติก่อนเขาไม่เคยทำความดีหรืออย่างไร?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้