หลังจากซินเยว่กับมารดาออกจากจวนได้สักพัก เสี่ยวหลานก็พาเ้านายทั้งสองคน ไปที่เหลาอาหารชื่อดังในเมืองหลวงทันที
“เหลาอาหารนี้แหละเ้าค่ะ” เสี่ยวหลานกระซิบบอกกับซินเยว่
“ท่านแม่พวกเราเข้าไปกินอาหารข้างในนี้กันเถอะ ข้าไม่ได้กินเนื้อหรือของอร่อยมานานมากแล้วนะเ้าคะ” ซินเยว่ทำท่าออดอ้อนมารดาสุดฤทธิ์
เพียงครู่เดียวก็มีบุรุษผู้หนึ่ง น่าจะเป็หลงจู๊ของเหลาอาหารที่นี่ เดินออกมาจากด้านในเข้ามาทักทาย “เสี่ยวหลานเ้ามาแล้วรึ เข้ามาข้างในก่อนเถิด แล้วนี่เ้าพาผู้ใดมาด้วยล่ะ” หลงจู๊ถามด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“สองท่านนี้คือนายหญิงกับคุณหนูของข้าเองเ้าค่ะหลงจู๊จาง พวกเราเพิ่งโดนไล่ออกมาจากจวนใต้เท้าเสิ่น พอดีคุณหนูอยากกินอาหารดี ๆ ที่มีเนื้อสัตว์มากหน่อย เพราะไม่ได้กินเนื้อมานานแล้ว นายหญิงจึงพามากินก่อนที่พวกเราจะออกเดินทาง บอกท่านตามตรงั้แ่เล็กจนโตคุณหนูยังไม่เคยได้กินอาหารดี ๆ เหมือนคนอื่นเลยสักครั้งเ้าค่ะ” และแล้วเสี่ยวหลานการแสดงก็เริ่มขึ้นทันที
“หา! แสดงว่าข่าวลือที่มีคนนินทาว่า มีคนโดนขับไล่ออกมาจากจวนใต้เท้าเสิ่นที่แท้เป็พวกเ้าเองงั้นรึ” หลงจู๊จางท่าทางใ
“เป็พวกข้าเองเ้าค่ะ” เสี่ยวหลานแกล้งซับน้ำตาไม่หยุด
หลงจู๊จางเมื่อหายใก็รีบดึงเสี่ยวหลานไปกระซิบถามอีกมุมหนึ่งด้วยความอยากรู้ “อย่าบอกนะว่าคนที่เ้าพามา คืออนุภรรยากับคุณหนูใหญ่ของจวนใต้เท้าเสิ่นน่ะ”
“เป็อย่างที่หลงจู๊จางคิดนั่นแหละเ้าค่ะ ท่านก็รู้จักข้ามานานขนาดนี้และได้เห็นว่า ข้ามีชีวิตยากลำบากแค่ไหน เพียงแต่ข้าไม่เคยบอกว่าเ้านายของข้าเป็ผู้ใดเท่านั้นเอง”
หลงจู๊จางมองดูหน้าตาของสตรีกับเด็กสาวแล้วก็รู้สึกสงสารไม่น้อย ที่ผ่านมาตัวเขาเองก็เห็นว่าเสี่ยวหลาน มักจะแอบออกมาบ่อย ๆ เพื่อซื้อยาและอาหาร แค่ไม่รู้ว่าซื้อไปให้ใครเพราะเสี่ยวหลานไม่เคยบอก
“นายหญิง คุณหนู พวกท่านอยากกินอาหารประเภทไหน แจ้งข้าได้เลยข้าจะไปจัดการบอกพ่อครัวให้เอง”
“ขอบคุณเ้าค่ะ ต้องลำบากหลงจู๊จางแนะนำให้แล้วล่ะ” ลี่หลินกล่าวขอบคุณด้วยความเกรงใจ
“ลำบากอันใดกันนายหญิง ล้วนเป็หน้าที่ของข้าอยู่แล้วขอรับ”
หลังจากสั่งรายการอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ไปสองสามอย่าง หลงจู๊จางก็ขอตัวไปจัดการให้ทันที แต่ซินเยว่กับสี่ยวหลานกำลังถูกลี่หลินจ้องมองอย่างจับพิรุธ
“เ้าสองคนวางแผนจะทำอะไรกันอีก! ทำไมไม่ปรึกษาข้าก่อนพวกเ้าทำข้างงไปหมดแล้วนะ” ซินเยว่ไม่คิดว่ามารดาจะจับพิรุธตนเองกับเสี่ยวหลานได้ ไม่มีเื่ไหนเล็ดรอดสายตาของมารดาได้เลย
“ท่านแม่เ้าคะท่านแค่ทำตัวแเีไปกับพวกข้าก็พอเ้าค่ะ” ซินเยว่กระซิบบอกมารดาเบา ๆ
“เฮ้ออออ พวกเ้านี่นะเอาเถอะอยากทำอะไรก็ทำ แต่อย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อนก็พอเข้าใจหรือไม่” ลี่หลินพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
ผ่านไปสองเค่ออาหารที่สั่งไปก็ถูกยกมาที่โต๊ะ ดู ๆ แล้วก็น่าอร่อยไม่เบา ไม่เช่นนั้นคงไม่มีลูกค้าเดินเข้าออกอยู่เรื่อย ๆ
“โอ้โห อาหารของที่นี่อร่อยมากเลยเ้าค่ะท่านแม่ ข้าไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย จากนี้ไปข้าไม่ต้องทนกินน้ำต้มข้าว กับเศษผักที่เหลือจากคนพวกนั้นแล้วใช่ไหมเ้าคะ” ซินเยว่แสร้งถามด้วยความตื่นเต้น
“โธ่ คุณหนูของบ่าวช่างน่าสงสารจริง ๆ” เสี่ยวหลานน้ำตาไหลเหมือนสั่งได้
“แม่ขอโทษนะเยว่เอ๋อร์ที่แม่ทำให้เ้าต้องลำบากเช่นนี้ ในเมื่อเราหลุดพ้นจากที่นั่นแล้วต่อไปแม่จะทำงานหาเลี้ยงเ้าเอง แม่จะทำอาหารดี ๆ ให้เ้ากินทุกมื้อแต่ละมื้อจะต้องมีเนื้อให้เ้ากินเยอะๆ แม่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเ้าได้อีก แม่ขอโทษนะลูกรักของแม่ ฮือ ๆ ๆ”
‘ไอหยา ท่านแม๊ท่านไม่รู้ตัวเลยหรือ ว่าตอนนี้ท่านเล่นใหญ่กว่าข้ากับพี่เสี่ยวหลานอีก เบาได้เบาเ้าค่ะ ข้าใช้หางตาแอบมองไปอีกทางที่ตอนนี้มีหลงจู๊จางกับลูกจ้างกำลังแอบดูพวกข้าเล่นงิ้วอีกด้วย’
‘ถ้าหากข้าไม่ได้อยู่รับใช้นายหญิงมาก่อนละก็ ข้าคงคิดว่าท่านเป็นางเอกงิ้วแน่ ๆ ขนาดข้ายังต้องยอมหลีกให้ท่านเลยเ้าค่ะ’
หลงจู๊จางที่แอบมองอยู่ทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้ ‘ชีวิตพวกนางช่างน่าสงสารยิ่งนัก ยิ่งฟังข้าก็จะร้องไห้ตามพวกนางแล้ว’
“ท่านลุงหลงจู๊เ้าคะ ฝากบอกพ่อครัวด้วยว่าเขาทำอาหารได้อร่อยที่สุดเลยเ้าค่ะ นี่เป็ครั้งแรกในชีวิตที่ข้าได้กินอาหารที่รสเลิศเช่นนี้ ข้าจะไม่มีวันลืมเลยเ้าค่ะ” ซินเยว่ยิ้มให้ด้วยความใสซื่อพร้อมโค้งคำนับ ผู้คนที่ได้เห็นภาพนี้ล้วนรู้สึกเอ็นดู
“ไม่เป็ไรขอรับคุณหนู แค่เื่เล็ก ๆ น้อย ๆ”
“ข้าขอขอบคุณท่านมากนะ อย่างไรพวกข้าคงต้องขอตัวก่อนเ้าค่ะ”
“ยินดีขอรับ ขอให้พวกท่านเดินทางปลอดภัย”
‘เฮ้อออ ข้าอดดูเื่สนุกเลย ถ้าไม่ติดว่าต้องออกเดินทางแต่เช้ามืด คงได้ดูแบบชัดทั้งภาพและเสียง ไม่เป็ไรยังไงก็มีคนส่งข่าวให้อยู่ดี แต่จากไปแบบธรรมดาโลกไม่จำหรอกนะ มันต้องเป็ข่าวดังสักหน่อยถึงจะดี’
