กู่เฉิงรู้สึกสติหลุด ร่างกายพุ่งขึ้นฟ้า เมื่อเขาได้สติคืนมา ร่างกายก็กระแทกพื้นอย่างแรงและเ็ปแล้ว
“เฮ้ย เซียวเฉินเ้า...”
กู่เฉิงเจ็บจนส่งเสียงด่าทอ เซียวเฉินยิ้ม ลากเขาไปกระแทกพื้นต่อ
ปึกปึก!
พื้นถูกกระแทกเป็หลุมขนาดใหญ่
เสียงทึบหนักๆ ผสมกับเสียงร้องอย่างเ็ป กู่เฉิงไม่ทันได้ใช้ปราณคุ้มครองกายก็ถูกเหวี่ยงขึ้นฟ้ากระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง ต่อให้เขาเป็ขั้นเสวียนฟ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น เขามีความสามารถแค่ขั้นตานฟ้าเจ็ดชั้นฟ้า
ดังนั้น กู่เฉิงทุกข์สาหัส
ปึก!
“อ๊า...”
ปึก!
“อ๊า...อ๊า...”
ปึกปึก!
“อ๊า...พรวด...”
หลังจากเซียวเฉินเหวี่ยงสิบกว่าครั้งก็หยุด ทั่วร่างของกู่เฉิงเต็มไปด้วยโลหิต ไม่รู้ว่ากระดูกหักไปกี่ท่อน ร่างกายไม่เหลือิัส่วนที่สมบูรณ์ นอนอยู่บนพื้นเหมือนดินเหลวกองหนึ่ง
เขาหวาดกลัวเซียวเฉินแล้ว
มีเพียงตัวเซียวเฉินเองที่รู้ สิบกว่าครั้งนั้นตนเองไม่ได้ใช้แรงเต็มที่ ไม่เช่นนั้น หากใช้แรงัเถื่อนยุคกำเนิดโลก ด้วยแรงมหาศาลขนาดห้าพันชั่ง อย่าว่าแต่สิบครั้งเลย ต่อให้ครั้งเดียวก็ทำให้กู่เฉิงรับไม่ไหวแล้ว
เซียวเฉินมองกู่เฉิงแล้วย่อกายลงเอ่ยยิ้มๆ อย่างใจร้าย “กู่เฉิง ยอมแพ้หรือไม่? หากไม่ยอมพวกเรามาสู้กันอีกรอบ” คนที่ยิ้มให้กู่เฉิงเหมือนไร้พิษภัย แต่ในสายตาของกู่เฉิงกลับโหดร้ายทารุณ ทำให้เขาหนาวเยือก
ร่างของกู่เฉิงเอนไปด้านหลังเพื่อเว้นระยะห่าง แต่เ็ปไปทั้งตัวอย่างช่วยไม่ได้ ขยับเพียงนิดเดียวร่างกายก็เ็ปเหมือนจะหลุดเป็ชิ้นๆ
“ยอมแล้ว...”
เซียวเฉินยิ้มกล่าว “ยอมรับด้วยปากหรือยอมรับด้วยใจ?”
“ยอมรับด้วยใจ...”
เซียวเฉินผงกศีรษะอย่างพอใจ
จากนั้นก็มองพินิจกู่เฉิงและศิษย์ของสถานศึกษาชางหวงที่มีสีหน้าหวาดกลัวทั้งสิบกว่าคนทางด้านหลังขึ้นลงแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อยอมแพ้ก็ต้องมีท่าทางเหมือนคนยอมแพ้สิ” ว่าแล้ว เซียวเฉินก็ถูนิ้วเรียกเงิน มีท่าทางแบบหากไม่ให้อะไรสักหน่อยก็จะไม่ไป
กู่เฉิงแทบหงายท้องหมดสติ
ทุบตีคนแล้วยังเรียกร้องสิ่งของ มียางอายหรือไม่?
แต่เขาไม่กล้า เพราะในใจของเขาหวาดกลัวเซียวเฉิน
เ้าหมอนี่เป็คนบ้า
ดังนั้น จึงสะบัดมือ โยนผลึกเสวียนถุงหนึ่งลอยไป คนทางด้านหลังต่างนำผลึกเสวียนและผลึกสัตว์ปริมาณมากออกมามอบให้ เห็นกู่เฉิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเฉิน อีกทั้งพวกเขาก็ไม่อยากถูกทุบตี ถึงอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกถมเถ ค่อยไปหาใหม่ได้
เซียวเฉินตรวจสอบดูรอบหนึ่งแล้วค่อนข้างพอใจ
เขามองกู่เฉิงแล้วเอ่ยยิ้มๆ “อย่านึกว่ามีเพียงพวกเ้าที่ก้าวหน้าแล้วคนอื่นเป็ไอ้โง่หมด” ว่าแล้วก็หันกายเดินวางมาดจากไป
กู่เฉิงมองเงาหลังของเซียวเฉินแล้วตาเหลือกหมดสติไป
หลังเซียวเฉินจากไป กลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกลนักก็ขยับกายจากไป สองคนที่เป็ผู้นำมีสีหน้าค่อนข้างสดใส
“เซียวเฉินคนนี้ มีความสามารถอยู่หลายส่วนจริงๆ”
ซือถูอู่ลูบคางด้วยสีหน้าหนักใจ ดวงตาเห็นได้ชัดว่าอึมครึม ทุกคนที่เขาส่งออกไปก่อนหน้านี้ไม่ได้กลับมา คาดว่าถูกเซียวเฉินกำจัดทิ้งแล้ว
“ทำไม คิดจะลงมือด้วยตนเองหรือ?” เยี่ยเฉินเอ่ยยิ้มๆ
เขารอวันนี้มานานแล้ว
ซือถูอู่กับเซียวเฉิน คนหนึ่งอยู่อันดับห้าบนผังชางหวง ส่วนอีกคนอยู่อันดับเก้า แต่ความสามารถกลับไม่ธรรมดา หากสองคนปะทะกัน ใครจะแข็งแกร่งกว่า
ซือถูอู่มองเยี่ยเฉินแล้วเอ่ยด้วยเสียงเ็า “เ้ารอคอยให้ข้าปะทะกับเซียวเฉินหรือ?”
เยี่ยเฉินกล่าว “ข้าเพียงอยากดูว่า ระหว่างพวกเ้าใครแข็งแกร่งกว่ากันเท่านั้น”
“ฮึ เขายังไม่คู่ควรจะนำมาเปรียบเทียบกับข้า”
…
ฟุ่บฟุ่บ!
จู่ๆ ด้านหลังของเซียวเฉินก็มีเงาร่างโผล่ออกมาหลายสาย สีหน้าของเซียวเฉินเปลี่ยนเป็หนักใจในพริบตา เพราะสองคนที่เป็หัวหน้าคือซือถูอู่และเยี่ยเฉิน
คนหนึ่งอยู่อันดับห้า ส่วนอีกคนอยู่อันดับเจ็ดบนผังชางหวง
ล้วนเป็ชนชั้นอำมหิต!
“เซียวเฉิน ไม่เลวเลยนี่ จัดการคนสองกลุ่มของข้าได้” ซือถูอู่ยิ้มเย็นเยียบ แววตาทำให้คนใจเต้นรัว เยี่ยเฉินที่อยู่ด้านข้างกอดอก มีท่าทางว่าจะได้ชมเื่สนุก
เซียวเฉินมองซือถูอู่โดยไม่เกรงกลัวเช่นกัน
“นั่นเพราะคนของเ้าเป็ได้แค่เศษสวะเท่านั้น”
ใบหน้าของซือถูอู่มีรอยยิ้มมากขึ้น “ถ้าอย่างไรให้ข้าลองลงมือด้วยตนเอง?”
เซียวเฉินขมวดคิ้ว
“ซือถูอู่ เ้ารู้หรือไม่ คนที่อยู่อันดับห้าบนผังชางหวงรังแกศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าสถานศึกษาอย่างข้า คิดว่ามีเหตุผลหรือไม่? หรือเ้าหน้าไม่อาย?”
เขาไม่ได้กลัวซือถูอู่ หากมีกำลังวังชาเต็มที่ เขาย่อมไม่หลบๆ ซ่อนๆ แต่ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งสิ้นเปลืองพลังไป แถมยังสู้กับกู่เฉิง เสียพลังไปมหาศาล หากประมือกับซือถูอู่ตอนนี้ เขาต้องพ่ายแพ้แน่นอน
ซือถูอู่มีสีหน้าอึมครึม
“เดิมทีข้าไม่คิดจะแตะต้องเ้า แต่เ้ากลับไม่รู้จักดีชั่ว” ซือถูอู่เอ่ยเสียงเ็า “ข้างกายมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ไม่ใช่ที่ซึ่งใครๆ ก็สามารถยืนได้”
เซียวเฉินยิ้ม ดวงตาฉายแววเยาะหยัน
“แล้วเ้าคิดว่าเ้าคู่ควรหรือ?”
“แน่นอน” พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของซือถูอู่ก็เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิ “ความสำเร็จในอนาคตของข้าไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเ้าจะมองเห็นได้ ข้างกายมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ในวันหน้าต้องเป็ของข้าซือถูอู่ตลอดกาล ไม่ใช่เ้าเซียวเฉิน”
“ขอมอบให้สองคำ หึหึ!”
สีหน้าของซือถูอู่มืดครึ้ม มองเซียวเฉินและเอ่ยช้าๆ “เซียวเฉิน ตัดแขนซ้ายของตนเองทิ้งเสีย จากนั้นคุกเข่าลง รับรองกับข้าว่าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้ามู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ตลอดกาล แล้วข้าจะให้เ้ามีชีวิตรอดกลับไป”
เซียวเฉินยื่นมือซ้ายออกมา จากนั้นไพล่แขนขวาไว้ด้านหลัง เอ่ยกับซือถูอู่ว่า “แขนของข้าอยู่ตรงนี้ หากเ้าสามารถก็เข้ามาได้อย่างเต็มที่ ข้าจะเล่นสนุกเป็เพื่อนเ้า หากทำไม่ได้ก็ไสหัวไปเสีย!”
“ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ”
“นั่นสิ นึกว่ามีความสามารถเล็กน้อยก็สามารถท้าทายเบื้องหน้าซือถูอู่ได้ เป็พวกไม่รู้จักตายจริงๆ”
“ข้าเดิมพันว่า เซียวเฉินไม่เพียงถูกตัดแขน แต่ยังต้องตายที่นี่ด้วย”
“ข้าคิดว่าเ้าพูดได้ถูกต้อง”
คนที่อยู่ด้านหลังของซือถูอู่ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ดวงตาที่มองเซียวเฉินเต็มไปด้วยแววดูแคลน กล้าท้าทายซือถูอู่ คงรำคาญในการมีชีวิตอยู่แล้ว
“นึกว่ามีความสามารถอยู่บ้างก็กล้ามากำเริบเสิบสานต่อหน้าข้าหรือ? วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้เ้ารู้ว่า อยู่ต่อหน้าความสามารถของข้า ท่าดีทีเหลวของเ้าก็แค่เื่ขำขัน!” ซือถูอู่สืบเท้ามา แต่ละย่างก้าว แสงเสวียนบนร่างเรืองโรจน์เพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน
จากนั้น กลิ่นอายแกร่งกร้าวก็ปรากฏขึ้นบนร่างของซือถูอู่ เสื้อของเขาลุกไหม้ในพริบตา เผยให้เห็นกล้ามเนื้ออันงดงามและแข็งแกร่ง ต่อมามีเกล็ดปกคลุมบนแขน
แขนกลายเป็พวกกรงเล็บั
เซียวเฉินยิ้ม “ล่ำสันจริงๆ เหมือนวัวเลย เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะทนต่อการถูกทุบตีได้หรือไม่” เซียวเฉินใช้แรงัเถื่อนยุคกำเนิดโลกทำให้ร่างของเขามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แขนทั้งสองข้างมีเส้นเืปูดโปน
“ลิ้มรสกรงเล็บัปฐีของข้าเสีย”
ซือถูอู่ใช้กรงเล็บตะปบ เซียวเฉินไม่ล่าถอยกลับรุกคืบ ต่อยออกหนึ่งหมัด แสงเสวียนปรากฏขึ้น
ตูม!
เสียงดังสนั่น เซียวเฉินล่าถอยติดๆ กัน บนฝ่ามือมีรอยกรงเล็บสามสาย โลหิตซึมออกมานิดๆ กายเนื้อของเซียวเฉินในเวลานี้ผ่านการหล่อหลอมจากนิรวาณขั้นหนึ่งในคัมภีร์หงสาานิรวาณแล้ว จึงเปลี่ยนเป็แข็งแกร่งสุดๆ ทว่าซือถูอู่ถึงกับกรีดกายเนื้อของเขาได้ เห็นได้ชัดถึงระดับความแข็งแกร่งของกรงเล็บ
อีกทั้งกำปั้นของตนเองเมื่อครู่ก็ใช้แรงเต็มที่แล้ว เรี่ยวแรงมหาศาลขนาดห้าพันชั่งถึงกับทำร้ายซือถูอู่ไม่ได้?
แขนข้างนั้นของเขาแปลกประหลาด!
ส่วนร่างกายของซือถูอู่ะเืจนถอยหลังไปหลายก้าวทันที เพิ่งทรงกายได้ แขนทั้งสองข้างเ็ปและหนึบชาอย่างยิ่ง สายตาที่มองเซียวเฉินแปรเปลี่ยนเป็เคร่งขรึม ต้องรู้ก่อนว่ากรงเล็บของเขาปกติสามารถตัดแขนคนได้ ไม่ใช่แค่ทิ้งรอยกรงเล็บไว้สามสายธรรมดาๆ แบบนั้น
เื่นี้ทำให้ซือถูอู่ต้องมองเซียวเฉินเสียใหม่
ถึงอย่างไรกายเนื้อแข็งแกร่งระดับนี้ก็ไม่ด้อยไปกว่าผู้เข้มแข็งขั้นเจ็ดชั้นฟ้า และถึงขั้นเป็ไปได้ว่าโดดเด่น
“เ้าหมอนี่ มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ”
ซือถูอู่ยิ่งคิด ความบ้าคลั่งในดวงตายิ่งรุนแรง
“คราวนี้ สนุกแล้ว”
เยี่ยเฉินมองคนทั้งสอง ดวงตาหรี่เป็เส้นเล็กๆ “เซียวเฉินคนนี้ เหนือความคาดหมายของข้า ถึงกับต้านทานวิชาที่สาบสูญ หัตถ์ัปฐีของซือถูอู่ได้ ดูเบาเขาเกินไปจริงๆ”