“แกว้ก!” “แกว้ก!” “แกว้ก!”.........
“แกว้ก!” “แกว้ก!” “แกว้ก!”.........
ฝูงกระเรียนพาศิษย์พรรคอีกาทองคำไล่ตามจางเจิ้งเต้าที่ขี่กระบี่บินหนี จางเจิ้งเต้าแม้จะลงทุนขีดเขียนแต่งหน้าตัวเองจนน่าเกลียดน่ากลัวแต่น่าเสียดายที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!
“ระวังอย่าให้พวกมันหนีไปได้ พวกมันหนีไปทางพวกเ้าแล้ว!”
“ตั้งสติให้ดี ครั้งนี้เราจะต้องจับตัวพวกมันให้ได้!”
“ลูกตัวบัดซบสองตัวนั่น ครั้งนี้พวกมันหนีไม่รอดแน่!”
………
……
…
กลุ่มศิษย์พรรคอีกาทองคำร้องแรกแหกกระเชอกันอยู่สักพัก
“ตูม!”
จางเจิ้งเต้าเหวี่ยง ‘หวังเค่อ’ ในมือไปกระแทกกับศิษย์พรรคอีกาทองคำกระเด็นไปกลุ่มหนึ่ง จากนั้นก็ถีบกระเรียนมงกุฎแดงอีกตัวแล้วมุ่งหน้าหลบหนีต่อ
“จางเจิ้งเต้าทิ้งหวังเค่อแล้ว รีบจับหวังเค่อไว้เร็ว!”
“เร็ว เ้าลูกตัวบัดซบหวังเค่อสมควรตายที่สุด! จับมันไว้!”
………
……
คนกลุ่มนั้นกระโจนเข้าใส่ ‘หวังเค่อ’ ส่วนจางเจิ้งเต้าฉวยโอกาสนั้นหลบหนีไปไกล แต่ไกลออกไปก็ยังมีกระเรียนคอยไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ
คนกลุ่มนั้นจับกุมหวังเค่อที่ ‘ร่วงลงมาตาย’ ได้ในที่สุด จากนั้นก็ลากศพขึ้นมาตรวจดู
“หุ่นไล่กา? นี่เป็แค่หุ่นไล่กาเท่านั้นเอง?”
“จางเจิ้งเต้า หวังเค่อ พวกมันหลอกเราอีกแล้ว?”
“มารดามันเถอะ ข้าจะต้องฆ่าพวกมันให้ได้!”
………
……
…
พวกมันขึ้นขี่กระเรียนมงกุฎแดงก่อนไล่ล่ากันต่ออย่างเกรี้ยวกราด
จางเจิ้งเต้าผู้กำลังหลบหนีไปสุดขอบหล้ากลับเผยสีหน้าชอกช้ำระกำใจ
“หวังเค่อ เ้าลูกตัวบัดซบ เ้าขุดหลุมดักข้ารูเบ้อเร่อเลยคราวนี้ ไม่ว่าหนีไปทางไหนก็ไม่มีประโยชน์ พวกมันล่วงรู้ตำแหน่งข้าได้ตลอดศก ข้าเพิ่งจะพักได้อึดใจเดียว พวกมันก็ตามมาทัน พักหนึ่งอึดใจ พวกมันก็ตามมาทันอีก! ข้าหยุดไม่ได้เลยสักวินาที ข้าเหนื่อยจนจะตายอยู่แล้วเนี่ย! พวกมันขี่กระเรียนกันไม่สิ้นเรี่ยวเปลืองแรง ส่วนข้าขี่กระบี่บิน! กระบี่บินจำต้องสิ้นเปลืองพลังปฐมธาตุขนาดไหน ข้าไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออีกแล้ว จบกัน จบกันเท่านี้!” จางเจิ้งเต้าหนีไปสาปส่งหวังเค่อไป
จางเจิ้งเต้าหนีตรงไปทางเมืองจูเซียน
“หวังเค่อเป็แค่ขั้นสองชั้นเซียนเทียน? ยังไม่ต้องพูดถึงเนี่ยเทียนป้าขีดสุดชั้นเทียนเซียน ตระกูลเนี่ยยังมีเซียนเทียนอีกหลายสิบ ลำพังเ้าจะช่วยองค์หญิงโยวเยว่ออกมาได้อย่างไร ต่อให้เ้ามีเคล็ดพลังเหม็นนั่นแต่จะใช้กำราบพวกมันได้สักกี่คน? ตัวเ้านอนตายจมกองน้ำลายตระกูลเนี่ยได้เลยด้วยซ้ำ เ้าไม่มีทางช่วยองค์หญิงออกมาได้แน่ งั้นไม่สู้มาช่วยข้าแบ่งเบาคราเคราะห์นี้ไปซะยังดีกว่า! ช่วยดึงความสนใจศิษย์พรรคอีกาทองคำพวกนี้ไปจากข้า แรงกดดันจะได้น้อยลงหน่อย! ไม่ได้การ อย่างไรเ้ามันก็ดวงซวยกว่าข้าอยู่แล้ว! หวังเค่อ หากต้องโทษก็ต้องโทษตัวเ้าเองนั่นแหละ! เ้าขุดหลุมข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ตาข้าบ้าง!”
ขณะที่พูดจางเจิ้งเต้าก็ตรงดิ่งไปยังเมืองจูเซียน ตั้งใจจะพาหม้อก้นดำไปให้หวังเค่อรับแทน ขุดหลุมฝังหวังเค่อเสีย!
เมืองจูเซียน
หวังเค่อนำขบวนใหญ่ตัดข้ามตรอกซอกซอยของเมืองจูเซียน ยิ่งมายิ่งดึงดูดสายตาสงสัยใคร่รู้มาจากรอบด้าน
อย่างไรเสียฉากเหตุการณ์นี้ก็ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน เรียกว่าเป็ฉากที่ชวนให้จดจำไปอีกหลายชั่วอายุคน ตอนที่หลายตระกูลยกทัพไปทวงหนี้เอากับตระกูลเนี่ยก่อนหน้านี้เรียกว่าเป็เหตุการณ์เล็ก นี่ต่างหากที่เป็เหตุการณ์ใหญ่!
หวังเค่อกลับมาแล้ว?
จริงๆ นั่นแหละ มีแต่หวังเค่อที่จะสามารถทวงหนี้ในรูปแบบนี้ได้ จุ๊จุ๊ ดูคำบนป้ายเดินขบวนพวกนั้นสิ! กำจัดตระกูลเนี่ย? เมื่อมีการกดขี่ ย่อมมีการต่อต้าน?
เดิมทีขบวนของหวังเค่อมีอยู่พันคน แต่ก็ถีบตัวขึ้นมาเป็สี่ห้าพันในเวลาไม่นาน ส่วนใหญ่มาชมดูความคึกคัก เกิดเป็คลื่นมนุษย์ส่งเสียงเซ็งแซ่จอแจ
ไม่ต้องพูดถึงความพิลึกพิลั่นของขบวนผู้ฝึกฌานคณะนี้ ตระกูลเนี่ยเมื่อทราบข่าวก็พากันตะลึงกันไปหมด
“อะไรนะ? มากันสี่ห้าพันคน? พวกเ้าตาฝ้าฟางกันหรือไร?”
“หวังเค่อ? พวกมันตามหวังเค่อมา? เ้าสืบข่าวมายังไงของเ้า? หากเ้าหวังเค่อโผล่หัวมา มันจะไม่ถูกเ้าพวกนั้นถลกหนังทั้งเป็ก่อนได้ยังไง!?”
.........
“อะไรนะ? พวกมันตั้งใจจะทำลายตระกูลเนี่ยของเรา?”
......
...
เมื่อข่าวมาถึง ตระกูลเนี่ยก็แตกฮือวุ่นวายไปทั้งตระกูล
กว่าที่คณะของหวังเค่อจะมาถึงหน้าประตูตระกูลเนี่ย ประตูของพวกมันก็ปิดลั่นดาลไปนานแล้ว
เกิดเื่ห่าเหวอย่างนี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน? ผิดผีเกินไปแล้ว!
“ท่านประมุข? ท่านประมุขไปอยู่ไหน? รีบไปรายงานท่านประมุขเร็วเข้า!”
“ไม่ ไม่รู้งั้นรึว่าท่านประมุขไปอยู่ที่ไหน!?”
.........
“มีใครรู้บ้างว่าท่านประมุขหายไปไหน?”
......
...
แต่น่าเสียดาย แม้จะสอบถามจนทั่วแล้วแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเนี่ยเทียนป้าไปอยู่ที่ไหน ส่วนพวกที่รู้ก็ได้รับคำสั่งจากเนี่ยเทียนป้าไว้แล้วว่าไม่ว่าด้านนอกจะเกิดเื่อะไรก็ห้ามรบกวนมันเป็อันขาด แล้วทีนี้ ทีนี้จะทำยังไง?
ปากทางเข้าออกตระกูลเนี่ย
“เปิดประตู!” หวังเค่อชี้นิ้วตวาดใส่บานประตู
แต่ในตอนนั้นเหล่ายอดฝีมือต่างก็เงียบกันเป็เป่าสาก
ความเร่าร้อนเืลมสูบฉีดตอนที่ยกขบวนกันมาพอมาถึงจุดหมายปลายทางเข้าจริงก็หดหายลงไปโข อย่างไรซะในเมืองจูเซียนแห่งนี้เนี่ยเทียนป้าก็กุมอำนาจไว้มากมายเกินไปจริงๆ พวกมัน้าจะฉีกหน้าตระกูลเนี่ยให้ถึงที่สุดจริงๆ หรือ?
การพังประตูเข้าไปไม่ใช่เื่ยาก แต่สิ่งสำคัญคือใครจะเป็คนแรกที่ลงมือ? ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็นกคอยื่น[1] ทั้งนั้น เกิดเนี่ยเทียนป้าหนีไปได้แล้วตามมาคิดบัญชีเอาภายหลัง ไอ้คนที่พังประตูเข้าไปเป็คนแรกนั่นแหละที่จะซวยก่อนใครเพื่อน!
หวังเค่อดูกิริยาท่าทางของทุกคนแล้วก็เข้าใจถึงสาเหตุ ตระหนักว่ายังคงต้องสุมไฟเข้าไปอีกสักหน่อย
ขณะที่หวังเค่อกำลังจะเปิดปากจู่ๆ ก็มีแสงลำหนึ่งพุ่งมาจากฟากฟ้าเมืองจูเซียน
“หวังเค่อ? หวังเค่อ เ้าอยู่ไหน? รีบหนีไปกับข้าเร็ว!” สุ้มเสียงร้อนใจดังขึ้น
คนที่อยู่บนฟ้าก็คือจางเจิ้งเต้าที่กำลังโกยอ้าว มันตั้งใจจะพาหวังเค่อไปด้วยกันเพื่อแบ่งเบาแรงกดดัน อย่างไรเสียในสายตาของจางเจิ้งเต้า หวังเค่อคนเดียวไม่มีทางทำเื่นี้ให้สำเร็จได้แน่
“จางเจิ้งเต้า เ้าลูกตัวบัดซบ ทำไมถึงมาที่เมืองจูเซียนกัน” หวังเค่ออุทานอย่างตื่นตระหนก
ยอดฝีมือของเมืองจูเซียนเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน
“จางเจิ้งเต้า? ข้าเคยได้ยินเนี่ยเทียนป้าบอกว่ามันก็คือตัวต้มตุ๋นที่หวังเค่อเป็ผู้จัดฉากไว้ พลังฝีมือกระจอกงอกง่อยสุดเปรียบ ก็แค่ชนชั้นเซียนเทียน!” มีคนจ้องมองจางเจิ้งเต้าที่อยู่บนฟ้าพลางอุทานออกมา
“ผายลม คำพูดของเนี่ยเทียนป้ายังเชื่อถือได้หรือไง? นี่คือขอบเขตเซียนเทียนรึ?”
“ขอบเขตเซียนเทียนต่อให้มีกระบี่บินก็ไม่มีทางมีพลังปฐมธาตุพอที่จะใช้เหาะเหินเดินอากาศได้! เซียนเทียนอย่างมากก็ทำได้แค่ควบคุมกระบี่ให้บินฉวัดเฉวียนไปมาเท่านั้น มีแต่ดวงธาตุทองคำจึงจะขี่กระบี่บินเหาะไปเหาะมาได้ จางเจิ้งเต้าผู้นี้ใช่เซียนเทียนที่ไหน มันคือดวงธาตุทองคำชัดๆ!”
“ดวงธาตุทองคำจากพรรคอีกาทองคำ? หวังเค่อเรียกชื่อมันออกมาตรงๆ? หวังเค่อกราบเข้าเป็ศิษย์อีกาทองคำแล้วจริงๆ ด้วย หวังเค่อไม่ได้หลอกพวกเรา!”
.........
...
ฝูงชนส่งเสียงฮือฮา
จางเจิ้งเต้าที่อยู่บนฟ้าเองก็ได้ยินเสียงะโของหวังเค่อ คนเหลียวหน้ามามองทันที จากนั้นก็เห็นหวังเค่อที่อยู่กลางวงล้อมของคนนับพัน
จางเจิ้งเต้าตาโตเป็ไข่ห่าน
“เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าหวังเค่อลำพังตัวหรอกรึ? มันไปเกณฑ์คนเยอะแยะขนาดนี้มาจากไหน? ใช่คนของเมืองจูเซียนหรือไม่? ไม่ใช่พวกมันอยากถลกหนังหวังเค่อกันหรือไง? แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาช่วยหวังเค่อได้?” จางเจิ้งเต้าบินไปอุทานไป
จางเจิ้งเต้าไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ! พวกเ้าไม่อยากฆ่าหวังเค่อกันหรือไง? ทำไมถึงมาติดตามมันแทนได้เล่า?
ข้าก็นึกว่าหวังเค่อสู้ตระกูลเนี่ยไม่ได้ ไม่อาจช่วยองค์หญิงโยวเยว่ออกมาได้ ข้าก็เลยเตรียมตัวขุดหลุมเล่นงานหวังเค่อสักที นี่ นี่ ข้าทำเสียเื่แล้วใช่ไหม?
“จางเจิ้งเต้า ไม่ใช่ว่าข้าให้เ้าหนีออกไปให้ห่างจากเมืองจูเซียนยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดีหรอกรึ? แล้วทำไมเ้าถึงวิ่งแจ้นกลับมาที่นี่ได้? เ้ากำลังจะทำแผนการใหญ่ข้าพังป่นปี้หมดแล้ว! เ้ามาเพื่อทำลายแผนการข้าชัดๆ! เ้าอยากโดนเบื้องบนเฉ่งมากเลยสิท่า?” หวังเค่อถลึงตาต่อว่าเป็ชุดๆ
นึกภาพออกเลยว่าเมื่อจางเจิ้งเต้าโผล่มาเช่นนี้ อีกไม่นานพวกจางเสินซวีก็จะต้องตามมา แล้วนี่จะให้ตนทำยังไง? ข้าอุตส่าห์ปลุกระดมพลมาได้ และกำลังอยู่ใน่หัวเลี้ยวหัวต่อเสียด้วย
“ข้า ข้าก็นึกว่าเ้า้าความช่วยเหลือ!” จางเจิ้งเต้าหน้าขื่นขม
จางเจิ้งเต้ารู้ตัวว่าทำผิด ตนทำแผนการใหญ่ของหวังเค่อพังป่นปี้ เกิดช่วยองค์หญิงโยวเยว่ออกมาไม่ได้ละก็ต้องแย่แน่ๆ! แต่ยังไงก็มาแล้วนี่นะ จะให้บอกว่าข้ามาที่นี่เพื่อขุดหลุมเ้าก็ไม่ได้ ก็มีแต่ต้องบอกว่ามาช่วยนั่นแหละ
“ข้า้าความช่วยเหลือ? เ้ากับข้าต่างแบ่งหน้าที่กันคนละอย่าง ต่างคนต่างรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง! ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีซะก่อน!” หวังเค่อถลึงตา
“ข้า? ขะ ข้าทำไม่สำเร็จ! หวังเค่อ อีกเดี๋ยวพลังปฐมธาตุของข้าก็จะหมดแล้ว ขืนยังบินต่อไปแบบนี้ ข้าต้องจบเห่แน่ๆ!” จางเจิ้งเต้าโอดครวญ
“จบเห่? จบเห่อะไร? แล้วเ้าจะมัวบินอยู่ได้ทำไม?” หวังเค่อถามอย่างคาดไม่ถึง
“ยังไม่ใช่เป็เพราะเ้า? ไม่ว่าข้าจะไปไหนพวกมันก็รู้ไปหมด หากข้าไม่บิน แล้วข้าจะทำอย่างไรได้? ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!” จางเจิ้งเต้าบ่นกระปอดกระแปด
หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้า “สมองเ้ากระทบกระเทือนมาหรือไง? ก่อนนี้เ้าเคยเฉียบแหลมมีไหวพริบ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงได้ปัญญาอ่อนแบบนี้ตลอดเลย!”
“เ้าจะพูดอะไรกันแน่?” จางเจิ้งเต้าจ้องกลับอย่างไม่พอใจ
“พวกมันมีจุดแข็งอยู่ที่บินได้ เ้าเอาจุดอ่อนตัวเองไปวัดกับจุดแข็งพวกมัน นี่สมองเ้าฝ่อหรือไง?” หวังเค่อจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง
“ไม่ให้ข้าบิน แล้วจะให้ข้าทำยังไง?” จางเจิ้งเต้าเสียงเบาลงเรื่อยๆ คล้ายนึกอะไรขึ้นได้
“พวกมันบินแล้วเ้าจะมุดลงดินไม่ได้เลยรึไง! พับผ่าสิ ก่อนหน้านี้เ้าไปขุดสุสานมาได้ยังไงกัน? อย่าบอกนะว่าขุดอุโมงค์ก็ไม่ได้น่ะ? พวกมันจะทำอะไรเ้าได้? หัดใช้จุดแข็งของเ้าต่อกรกับจุดอ่อนของผู้อื่นซะบ้าง! หากเ้าไม่ได้สมองฝ่อแล้วจะเป็อะไรได้อีก?” หวังเค่อด่าเข้าให้
จางเจิ้งเต้าหน้าแข็งทื่อ
“เพี๊ยะ!”
จางเจิ้งเต้าตบหน้าตัวเองแรงๆ ฉาดหนึ่ง วันนี้มันเอาแต่คิดว่าจะถูกหวังเค่อขุดหลุมดัก ในใจมีแต่ความกระสับกระส่าย ทำไมถึงคิดไม่ได้กันนะ? ในเมื่อข้าหนีขึ้นฟ้าไม่ได้ ถ้าข้าจะมุดลงดินซะอย่าง อย่าบอกนะว่ากระเรียนพวกนั้นยังจะขุดรูตามข้าลงมาได้?
“แกว้ก!”
เสียงกระเรียนดังมาจากขอบฟ้าไกล
หวังเค่อเปลี่ยนสีหน้าทันควัน “ไม่ทันแล้ว จางเจิ้งเต้า หากครั้งนี้ต้องเรือล่มเมื่อจอดตาบอดเมื่อแก่เพราะเ้าขึ้นมาละก็ บิดาจะฆ่าเ้าเสีย! จะมาขุดรูตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ไปที่รูนั่น รูที่เ้าผ่านมาแล้วนั่นน่ะ!”
หวังเค่อยันก้นจางเจิ้งเต้าไปหนึ่งบาทา เตะมันขึ้นกระบี่บิน
“หวังเค่อ ข้าไปก่อนนะ!” จางเจิ้งเต้าเองก็โมโหไม่ลง รีบขี่กระบี่บินหายลับขอบฟ้าไปในพริบตา
แม่งเอ๊ย ครั้งนี้ขายขี้หน้าไปถึงแม่เฒ่ายายทวดเลยมั้งเนี่ย ทำไมตนถึงโง่เง่าเต่าตุ่นได้ขนาดนี้? ข้าจะไปวัดกำลังกับสัตว์เดรัจฉานอย่างกระเรียนพวกนั้นเพื่ออะไรกัน
จางเจิ้งเต้าเผ่นไปแล้ว นำฝูงกระเรียนที่กำลังไล่ตามมาพ่วงท้ายไปด้วย
แต่บทสนทนาระหว่างหวังเค่อและจางเจิ้งเต้าล้วนเข้าหูทุกคนไปเป็ที่เรียบร้อย
สถานการณ์แบบไหนกันเนี่ย? ไม่ใช่ว่าหวังเค่อเป็ชนชั้นเซียนเทียนหรอกหรือ? แต่ถึงกับดุด่าถีบส่งศิษย์ดวงธาตุทองคำจากพรรคอีกาทองคำเนี่ยนะ? ยอดฝีมือชั้นดวงธาตุทองคำผู้นั้นถึงกับไม่โมโหโทโสเลยด้วยซ้ำ?
หวังเค่อผู้นี้กราบไหว้าุโใหญ่ท่านใดในพรรคอีกาทองคำกันแน่ ต้องมีฐานะสูงปานไหน? กระทั่งดุด่าว่ากล่าวชนชั้นดวงธาตุทองคำได้ตามใจปาก นึกจะเตะก็เตะได้อีกด้วย? หวังเค่อมันมีอิทธิพลภายในพรรคอีกาทองคำขนาดไหนกันแน่?
มีอิทธิพล? งั้นหากลองเอ่ยปากต่อพรรคอีกาทองคำเื่รับศิษย์เข้าเพิ่มจะไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยหรือไง? หากหวังเค่อเล็งเห็นว่าพวกตนมีหน่วยก้านไม่เลวมันย่อมเอ่ยปากให้พรรคอีกาทองคำรับพวกตนเข้าไปได้ง่ายๆ เลยนี่?
ทันใดนั้น สายตาที่ทุกคนมองหวังเค่อก็เปลี่ยนเป็เร่าร้อนขึ้นมา
หวังเค่อกำลังจะตั้งท่าสุมไฟให้ทุกคน แต่พอหันหน้ามากลับเห็นแต่สายตาเร่าร้อนหลายต่อหลายคู่จ้องตอบกลับมา
“ประมุขหวังอยากให้พังประตูใช่ไหม งั้นข้าเอง!”
“ข้าต่างหาก!”
.........
“ให้ข้าเอง!”
......
...
ฝูงชนยื้อแย่งเบียดเสียดกันอยู่หน้าประตูใหญ่ตระกูลเนี่ย
“ตูม!”
ประตูใหญ่ตระกูลเนี่ยจู่ๆ ก็ปลิวออกมา กำแพงติดกับกรอบประตูเองก็ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาจากแรงปะทะ
หวังเค่อผงะไป ไฉนคนกลุ่มนี้ถึงเปลี่ยนท่าทีเป็กระเหี้ยนกระหือรือกันขึ้นมาได้? ไม่กลัวว่าจะต้องเป็นกคอยื่นกันแล้วรึ?
ทุกคนไม่กลัวกันแล้วจริงๆ กระทั่งยื้อแย่งจะแสดงให้หวังเค่อได้เห็นด้วยซ้ำ นกคอยื่นอันใด! มีแต่นกที่เสี่ยงยื่นคอออกไปนั่นแหละจึงจะได้หนอนมากิน!
“ประมุขหวัง ตอนนี้จะทำยังไงกันดี?” สายตาเร่าร้อนเ่าั้จับจ้องมาทางหวังเค่อเป็ตาเดียว
“ลากตัวคนของตระกูลเนี่ยออกมาให้หมด อย่าให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว! ใครกล้าหนีกระทืบให้แม้แต่มารดาก็ยังจำมันไม่ได้!” หวังเค่อสั่งการเสียงเย็น
“โอ้~~~~~~~~!” ทุกคนเปล่งเสียงตอบรับอย่างแข็งขัน
จากนั้นพวกมันก็โผตัวเข้าใส่ตระกูลเนี่ยจากทุกแง่มุมประดุจพยัคฆ์หมาป่าตะครุบเหยื่อ
ศิษย์ตระกูลเนี่ยพากันตัวสั่นเป็ลูกนก “อย่าเข้ามานะ พวกเ้าจะทำอะไร? พวกเราคือตระกูลเนี่ย พวกเ้าตาบอดแล้วรึ? อย่าเข้ามาา!”
“อ้ากก!”
“อย่าตีข้า อย่าตีหน้าข้า!”
………
……
ตระกูลของเนี่ยเทียนป้าที่เคยข่มเหงคะเนงร้ายเรื่อยมาวันนี้พลันต้องถูกชำระล้าง! ไม่มีเหี้ยมที่สุด มีแต่เหี้ยมยิ่งกว่า! พวกที่ถูกตนลงมือลงไม้ใส่ในอดีต บัดนี้ได้สนองคืนกลับมาอย่างถึงพริกถึงขิงกว่ากันหลายเท่าตัว ที่แท้ตระกูลเนี่ยสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้ขนาดไหนกันแน่!
[1] เปรียบกับคนที่ทำตัวเด่นเกินจนนำภัยมาถึงตัว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้