เถียนซู่เจิงที่เห็นหลานสาวและหลานชายเดินจากไป นางจึงเอ่ยลาเว่ยเจ๋อิแล้วรีบตามทั้งสองไปทันที
“อาเล็กทางนี้ ข้าสั่งบะหมี่ให้ท่านแล้ว”
เถียนสวี่หลันกวักมือเรียกอาเล็กของตน หลังจากที่ทั้งสามทานบะหมี่เสร็จพวกนางก็เดินไปที่ร้านขายของของบิดามารดาที่เปิดในอำเภอเหออัน
“ท่านพ่อท่านแม่พวกเรามาแล้ว”
เถียนห่าวซวนเป็คนแรกที่ส่งเสียงออกไปก่อน เขารีบวิ่งตรงไปยังบิดาที่กำลังยืนคุยกับลูกค้าอยู่หน้าร้าน บิดาของเถียนสวี่หลันคือเถียนห่าวหยาง ลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านนี้มักจะเรียกเขาว่าเถ้าแก่เถียน ส่วนมารดาของนางคือหลี่ม่านหลีนางเป็บุตรสาวเพียงคนเดียวของพ่อค้าหลี่
หลังจากที่พบรักกับบัณฑิตเถียนเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทั้งสองก็ได้แต่งงานกัน ท่านตาท่านยายของเถียนสวี่หลันได้ยกร้านขายของแห่งนี้ให้เป็สินเดิมแก่มารดาของนาง พวกท่านมีเงินเก็บอยู่ไม่น้อยจึงเกษียณตนเองกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมของตนในตำบลที่ไม่ห่างจากอำเภอเหออันเท่าใดนัก
“พวกเ้ามาได้อย่างไร”
แม่นางหลี่ท่านแม่ของเถียนสวี่หลันเดินออกมาต้อนรับทั้งสามคนที่ยืนอยู่หน้าร้าน ถึงแม้นางจะอายุสามสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้าของนางยังคงงดงาม บนใบหน้ามีริ้วรอยให้เห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
สมัยก่อนนางเคยเป็หญิงงามของอำเภอเหออัน ฐานะของนางสามารถแต่งให้กับคหบดีหรือแต่งเข้าจวนขุนนางได้เลย แต่นางกลับเลือกเถียนห่าวหยางเพียงเพราะแค่นางชอบพอในตัวเขาเท่านั้น
“ท่านแม่เราแค่มาเที่ยวเล่นเย็นๆ หน่อยเราก็จะกลับแล้ว จากที่นี่ไปถึงหมู่บ้านนั่งเกวียนวัวก็แค่ครึ่งชั่วยาม (1ชม.) ท่านอย่าได้เป็ห่วงเลย”
เถียนสวี่หลันตอบมารดาด้วยท่าทางออดอ้อน แม่นางหลี่พยักหน้ารับบุตรสาว ปกตินางกับสามีจะอาศัยห้องด้านหลังร้านป็นที่หลับนอน ในหนึ่งเดือนพวกเขาถึงจะปิดร้านสักสองสามวันเพื่อกลับไปเยี่ยมบ้านสักครั้ง
“อย่าเถลไถลไปที่อื่นเล่า รีบกลับบ้านรู้หรือไม่ ซู่เจิงข้าฝากพวกเขาด้วยนะ”
นางหันมาเอ่ยกับน้องสามีที่ยืนประหม่าอยู่ด้านข้าง นางไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านหนานซานเพียงแค่หนึ่งเดือนดูเหมือนน้องสามีผู้นี้จะดูเปลี่ยนไปไม่น้อย อีกทั้งความสัมพันธ์ของนางกับบุตรสาวคนโตก็ดูจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกด้วย
“ไม่ต้องห่วงพี่สะใภ้ใหญ่ข้าจะดูแลพวกเขาเอง”
แม่นางหลี่พยักหน้า ทั้งสามคนหลังจากทักทายบิดามารดาเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนใจกลางอำเภอเหออันทันที
“อาเล็กท่านอยากได้อะไรหรือไม่ นานๆ ทีเราจะมีโอกาสเข้ามาเที่ยวเล่นในอำเภอสักครั้ง วันนี้ข้าเป็เ้ามือเอง”
เถียนสวี่หลันนำเงินติดตัวมาไม่น้อย เพราะท่านย่าเป็คนให้นางเอาไว้เอง ถึงแม้ตระกูลเถียนจะไม่ได้ร่ำรวยเทียบเท่าคหบดีใหญ่ แต่พวกเขาก็ถือว่ารวยที่สุดในหมู่บ้านหนานซาน
“ไม่รู้สิ หลันเอ๋อข้าไม่มีอะไรที่อยากได้หรอก”
นางไม่มีเงินติดตัวแม้สักเหวิน นางจะสามารถซื้อสิ่งใดได้ ค่าโดยสารยังเป็หลานสาวที่เป็คนออกให้เลย
“ไม่มีหรือ ถ้าอย่างนั้นข้าเลือกให้ท่านก็แล้วกัน”
เถียนสวี่หลันลากน้องชายและอาเล็กของนางเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จนกระทั่งมาถึงถนนที่มีร้านขายตำราและเครื่องเขียนตั้งอยู่
“พวกท่านรออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้ามา”
เถียนสวี่หลันเอ่ยกับทั้งสองอย่างอารมณ์ดี ทันทีที่นางก้าวเข้าไปในร้านเครื่องเขียน กลิ่นน้ำหมึกที่โชยมาทำให้นางรู้สึกว่าที่นี่ช่างเป็สถานที่ที่ให้ความรู้โดยแท้จริง
ผู้ดูแลร้านที่กำลังพูดคุยอยู่กับกลุ่มบัณฑิต เมื่อเขาเห็นสาวงามเดินเข้ามาในร้าน เขาก็รีบปรี่เข้าไปต้อนรับด้วยท่าทางเป็กันเอง
“สวัสดีขอรับ ข้าเป็ผู้ดูแลร้านขายตำราแห่งนี้ ไม่ทราบว่าแม่นางกำลังมองหาสิ่งใดอยู่หรือ”
เถียนสวี่หลันพยักหน้าพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับผู้ดูแล ใบหน้าที่แสนงดงามของนางนั้นดูโดดเด่น จนทำให้เหล่าบัณฑิตที่อยู่ในร้านถึงกับหันมองนางเป็ตาเดียว อาจเป็เพราะเถียนสวี่หลันไม่ค่อยได้มาที่อำเภอเหออัน จึงไม่มีผู้ใดรู้ว่านางเป็ใคร
“สวัสดีเ้าค่ะท่านผู้ดูแล ข้ากำลัง้ากระดาษสำหรับฝึกคัดตัวอักษรและตำราสำหรับผู้ที่เริ่มเรียนเขียนอ่าน ท่านสามารถแนะนำข้าได้หรือไม่”
เสียงหวานถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีดอกอิงเถา บัณฑิตที่อยู่ในร้านเครื่องเขียนต่างก็พร้อมใจกันสูดลมหายใจเข้าเสียงดัง นอกจากใบหน้าอันแสนงดงามแล้ว นางยังมีน้ำเสียงที่ไพเราะชวนฟังอีกด้วย ไม่คิดว่าในโลกใบนี้ยังจะมีสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมเช่นนี้อยู่อีก
ร่างสูงโปร่งของใครบางคน เดินเยื้องย่างลงมาจากบันไดชั้นสองของร้านขายตำรา ในมือของเขาถือพัดสีขาวโบกไปมาท่าทางดูเป็บุรุษเ้าสำราญ แต่เมื่อชายผู้นั้นได้เห็นใบหน้าของเถียนสวี่หลันเขาถึงกับชะงักไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้