ชย่าลิ่วอีฝืนความเ็ปยกมือขึ้นตบหัวเหอชูซาน! แม่งเอ๊ย! ลูกน้องทั่วไปของฉันต้องก้มกราบขอร้องอ้อนวอนถึงจะได้เป็! ฉันอุตส่าห์ชอบนายจนผ่อนปรนเงื่อนไขเพื่อรับนายเข้าแก๊ง นายยังรังเกียจอีกหรือ?! แม่งเอ๊ย พูดไปหอบแฮกๆ ไปแบบนั้นเหมือนหมาเลย!
เหอชูซานคิดว่าถ้าชย่าลิ่วอียังมีแรงตบคนได้ แสดงว่าคงยังไม่ตายง่ายๆ เขาจึงวิ่งให้เร็วยิ่งขึ้น โชคดีที่เขาฝึกฝนท่านั่งม้าที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย่ล่างและขาทุกเช้าใน่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาจึงสามารถวิ่งไปตามตรอกซอกซอยได้ถึงสาม่ตึกโดยไม่ได้ทำชย่าลิ่วอีตก
และก่อนที่เขาจะหมดแรง เหอชูซานก็วิ่งวนไปมาจนเจอตรอกเล็กๆ ที่ถูกทิ้งร้าง เขาเหยียบซากหนูตายแล้วปีนขึ้นไปยังมุมหนึ่งของชั้นสอง เขาหอบหายใจ ก่อนจะวางชย่าลิ่วอีลง
“ที่นี่ แฮก น่าจะปลอดภัยชั่วคราว แฮก...” เขาพูดพลางยืดตัวขึ้นแล้วทุบหลัง พยายามยืดกระดูกสันหลังของเขาให้ตรง
ชย่าลิ่วอีพิงผนังสกปรกมองเงาของเหอชูซานที่ดูยาวขึ้น เขาพลันขมวดคิ้วแล้วพูด “นายสูงขึ้นหรือเปล่า?”
ดูเหมือนว่าเขาจะสูงและแข็งแรงขึ้นกว่าตอนที่เขาถูกบังคับให้เขียนบทหนังครั้งแรก ไม่ใช่ลูกเจี๊ยบตัวจ้อยที่มีแขนและขาเล็กๆ อีกต่อไปแล้ว
เหอชูซานเลื่อนกระเป๋าเป้จากด้านหน้าไปสะพายด้านหลัง เขากลืนน้ำลายอึกหนึ่งก่อนจะตอบว่า “พ่อ... แฮก บอกว่าผมยังเด็ก ยังโตได้ ปีหน้าผมอาจจะสูงกว่าพ่อก็ได้”
ไอ้หนู คนอื่นในวัย 21 ปีเขามีลูกวิ่งกันเต็มบ้านแล้ว นี่ยังจะโตอีกอย่างนั้นหรือ! ชย่าลิ่วอีสูดลมหายใจเข้าหนัก ไม่มีแรงพอจะด่าเป็ประโยคยาวๆ ได้แต่พูดว่า “ถอดเสื้อผ้า ห้ามเืให้ฉัน”
เหอชูซานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “...ของใครครับ?”
“ของพวกเรา”
ด้วยคำพูดของชย่าลิ่วอี เหอชูซานจึงถอดเสื้อกล้ามเปื้อนเืของชย่าลิ่วอีออก จากนั้นก็ถอดเสื้อของตัวเองแล้วฉีกเป็เส้นๆ เพื่อนำมาพันแผลห้ามเืให้ชย่าลิ่วอี
ชย่าลิ่วอีดูถูกทักษะทางการแพทย์อันงุ่มง่ามของเขาพลางคิดหาวิธีรับมือ ในที่สุดก็พูดกับเหอชูซานว่า “การหลบแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีสักเท่าไร ไปทำอะไรให้ฉันหน่อยสิ”
“ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย จะทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ลูกน้อง”
“หุบปาก!”
ลูกน้องเก่าเป็ยังไงบ้าง[np1]
คืนวันนั้น ลูกน้องของสวี่อิงจับเหอชูซานได้ที่กำแพงเก่าของเมืองกำแพงเจียวหลงขณะที่เขากำลังพยายามโยนห่อเสื้อผ้าเปื้อนเืทิ้ง
……
ชย่าลิ่วอีหอบหายใจอย่างหนัก มือข้างหนึ่งปิดาแที่ไหล่ขวา เขาเอนตัวพิงผนังใช้กำแพงเป็หลักแล้วค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ประตูหลังของบริษัทภาพยนตร์เซียวฉี
เมื่อถึงจุดที่้า เขาก็โน้มตัวก้มลงค้นหาในมุมใกล้ท่อน้ำ ก่อนจะพบพวงกุญแจสำรองที่ห่อด้วยกระดาษไข จากนั้นจึงค่อยๆ ไขประตูเข้าไปอย่างเบามือ
ตอนนี้เป็เวลาเที่ยงคืนแล้ว ถนนหลายสายบริเวณนั้นว่างเปล่า มีเพียงเขาคนเดียวและหนูอีกหลายตัวที่วิ่งผ่านเท้าเขาไปโดยไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
เขาเดินเข้าไปในความมืด เงี่ยหูฟังเสียงข้างใน และค่อยๆ เดินไปที่สตูดิโอกองถ่ายอย่างระมัดระวัง
ประตูสตูดิโอไม่ได้ล็อก อาจเป็เพราะเคยมีคนเข้ามาค้นที่นี่มาก่อน เขาคลำทางไปยังโต๊ะตรงมุมห้องซึ่งเป็ที่ที่เหอชูซานเคยใช้เขียนบท
เขาเปิดลิ้นชัก พบกล่องไม้ขีดไฟและเทียนเล่มใหญ่ที่ใช้สำหรับการไหว้เทพกวนอู จากนั้นจึงคุกเข่าลง ชย่าลิ่วอีจุดเทียนตั้งไว้บนพื้นเพื่อส่องตู้หนังสือเล็กๆ ที่ดูไม่สะดุดตาใต้โต๊ะตัวนั้น
เขาใช้กุญแจสำรองเปิดตู้หนังสือ ภายในมีตู้เซฟที่ถูกทำขึ้นมาอย่างดี
ชย่าลิ่วอีเงยหน้าขึ้นดูความเคลื่อนไหวรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง จากนั้นจึงขยับเข้าไปใกล้ตู้เซฟแล้วหมุนแป้นล็อกรหัสอย่างรวดเร็วก่อนจะเกิดเสียงคลิกเบาๆ ในเวลาต่อมา เขาเปิดตู้เซฟและหยิบซองกระดาษออกมาจากข้างใน
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นที่หน้าประตู ชายคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ชิงหลงซ่อน ‘บัญชี’ ไว้ที่นี่กับแกจริงๆ ด้วย”
“ปัง! ปัง!” สิ้นเสียงนั้น ไฟบนเพดานก็ถูกเปิดขึ้นทั้งหมดจนทั้งสตูดิโอสว่างขึ้น เผยให้เห็นคิ้วของชย่าลิ่วอีที่ขมวดลงเล็กน้อยและสวี่อิงที่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยท่าทางพึงพอใจ
สวี่อิงคาบซิการ์เดินเข้ามาภายในสตูดิโอ ตามมาด้วยลูกน้องหลายคน และคนสุดท้ายที่เดินเข้ามาคือเหอชูซานที่ถูกปืนจี้หัวให้ยอมจำนน
“หานักเรียนมาช่วยทิ้งเสื้อเปื้อนเืเพื่อทำให้ฉันคิดว่านายออกจากเขตเมืองกำแพงไปแล้ว?” สวี่อิงพูด “ชย่าเสี่ยวลิ่ว นายโง่เง่าได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ”
เหอชูซานหน้าซีดเผือด แสดงอาการใและหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน สายตาที่มองไปยังชย่าลิ่วอีเต็มไปด้วยความละอายและเศร้าใจ ชย่าลิ่วอีสบถในใจเบาๆ “ไอ้เวรนี่มันแสดงเก่งจริงๆ รางวัลตุ๊กตาทองคำไม่ให้มันจะให้ใคร!”
เขาจับห่อกระดาษไว้แน่น มืออีกข้างค้ำยันโต๊ะแล้วค่อยๆ ลุกขึ้น เขาไม่ได้โต้ตอบสวี่อิง แต่กลับถามเหอชูซานว่า “ใครซ้อมนาย?”
หัวของเหอชูซานมีรอยช้ำแดงใหญ่ เห็นได้ชัดว่าโดนซ้อมมา เมื่อถูกถามขึ้นเหอชูซานจึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไอ้คนที่มีแผลเป็บนจมูก”
ชย่าลิ่วอีมองไปยังลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ สวี่อิงแล้วพูดว่า “เดี๋ยวพี่ใหญ่จะแก้แค้นให้”
เหอชูซานขยับริมฝีปากกำลังจะพูดว่า “ฉันไม่ใช่ลูกน้องพี่” แต่ถูกชย่าลิ่วอีจ้องกลับไปอย่างดุร้ายเสียก่อน สวี่อิงที่อยู่ข้างๆ ทนดูไม่ไหวจึงหัวเราะเยาะออกมาเบาๆ “พอได้แล้ว ชย่าเสี่ยวลิ่ว แค่ยืนยังแทบไม่ไหวเลย ยังทำตัวเป็มาเฟียใหญ่อีก! โยน ‘บัญชี’ มาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
ชย่าลิ่วอีมองสวี่อิงอย่างเ็า ก่อนจะค่อยๆ วางห่อกระดาษลงบนโต๊ะ เขาไม่ได้โยน เพียงแค่ดันมันไปข้างหน้า
สวี่อิงขมวดคิ้วมองเขา
“ไง? ไม่กล้าเข้ามาเอาหรือไง” ชย่าลิ่วอีเยาะเย้ย
“แกมันมีแต่แผนร้ายในหัว พี่สวี่ไม่สนใจจะเล่นด้วยหรอก” สวี่อิงพูดพลางเบ้ปาก
ลูกน้องเ้าของแผลเป็ที่จมูกเดินเข้าไปหยิบซองกระดาษนั่นขึ้นมาจากโต๊ะแล้วโยนกลับไปให้สวี่อิง จากนั้นก็จับชย่าลิ่วอีกดลงบนโต๊ะ จับมือไพล่หลังแล้วค้นตัว “พี่สวี่อิง ไม่ได้พกอาวุธ”
ชย่าลิ่วอีหัวเราะเยาะ “พี่ลิ่วอีอย่างข้าไม่ต้องซ่อน ‘ของ’ ไม่เหมือนพี่ใหญ่สวี่อิงของพวกเอ็งหรอก ที่ต่อให้อยากซ่อนยังไงก็ไม่เคยมี ‘ของ’ อยู่แล้ว”
สวี่อิงเชิดคาง ลูกน้องคนนั้นจึงตบหน้าชย่าลิ่วอีฉาดใหญ่! ชย่าลิ่วอีเบือนหน้าถ่มเืออกมา เขามองกลับไปยังลูกน้องคนนั้นอย่างช้าๆ แล้วยกมุมปากที่บวมขึ้นยิ้มเยาะ
สวี่อิงแกะซองกระดาษไปพลางเดินไปหาเขาพลาง “ชย่าเสี่ยวลิ่ว เวลาใช้ชีวิตนอกกฎหมายน่ะ อย่าปากร้ายให้มากนัก พูดจาดีๆ หน่อย พี่สวี่อาจจะอารมณ์ดีและไว้ชีวิตนาย... นี่มันบ้าอะไรกัน?!”
เขาฟาดบทละครหนาๆ ในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง ตัวหนังสือที่เขียนด้วยลายมือเรียบร้อยสวยงามของเหอชูซานกระจายเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ
ชย่าลิ่วอีร้อง “โอ๊ะ? มีคนเปลี่ยนหรือ พี่สวี่ นี่ไม่ใช่ฝีมือของฉันนะ”
“ไอ้เวร! อย่ามาเล่นลูกไม้กับข้านะ!” สวี่อิงก้าวไปข้างหน้าแล้วกระชากผมของเขาขึ้นมา “บัญชีอยู่ที่ไหน?”
ชย่าลิ่วอียิ้ม “พี่สวี่ฆ่าชิงหลงได้แต่กลับหา ‘บัญชี’ สำคัญไม่เจอ แถมยังไม่ได้ไม้เท้าหัวัอีก— เพราะแบบนั้นพวกผู้าุโเลยไม่ยอมโหวตให้พี่เป็ ‘หัวหน้า’ คนใหม่หรือ?”
สวี่อิงหัวเราะอย่างชั่วร้ายขณะบีบคอชย่าลิ่วอี้ “อย่ามาเล่นลิ้นให้เสียเวลา ฉันจับแกได้ ไอ้คนทรยศ! ฉันจะสร้างความดีความชอบแล้วเข้าควบคุมพื้นที่ของแกทั้งหมด ต่อให้ไอ้พวกแก่ๆ นั่นไม่อยากยอมรับก็ต้องยอมรับ!”
ชย่าลิ่วอีหน้าแดงก่ำเพราะถูกบีบคอ เขาสำลักและพูดอย่างติดขัดว่า “นั่นก็... ไม่แน่เสมอไป!”
เขาเตะเทียนไขอันใหญ่ที่ยังลุกไหม้อยู่บนพื้นไปทางเท้าของสวี่อิง! ทันใดนั้นเปลวไฟก็ลุกไหม้ที่ขาของสวี่อิงทันที เขารีบะโดับมัน! ชย่าลิ่วอีจึงได้ทีพลิกตัวและต่อยเข้าที่คางของสวี่อิงด้วยหมัดซ้าย!
จากนั้นเขาก็หยิบเก้าอี้ขึ้นมาแล้วฟาดลงไปบนหัวของลูกน้องที่อยู่ข้างๆ เก้าอี้แตกเป็เสี่ยงๆ ชย่าลิ่วอีหยิบขาเก้าอี้ที่แหลมคมขึ้นมาแล้ว ‘ปัก’ ลงไปบนฝ่ามือของอีกฝ่ายทันที!—— เขาช่วยเหอชูซาน ‘แก้แค้น’ ตามที่สัญญาแล้ว
“อ๊ากกกก!” ลูกน้องคนนั้นร้องโหยหวนพร้อมกับกุมมือที่เต็มไปด้วยเืไว้
สวี่อิงพุ่งเข้ามาจากด้านหลังพยายามคว้าจับไหล่ของเขา ชย่าลิ่วอีรีบยกแขนขึ้นปัดทันที แต่สวี่อิงก็คว้าข้อมือเขาไว้ได้ทันพร้อมออกแรงบีบจนขาเก้าอี้หลุดมือหล่นลงบนพื้น
ชย่าลิ่วอีหมุนตัวแล้วเตะสวน สวี่อิงจึงรีบปล่อยข้อมือเขาแล้วหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตั้งท่าพร้ะโกนเสียงดัง ‘ัคู่แหวกวารี’ พุ่งเข้าใส่หน้าอกของชย่าลิ่วอีทันใด
ชย่าลิ่วอีคุ้นเคยกับกระบวนท่าของสวี่อิงเป็อย่างดี เขาจึงยกแขนขึ้นปัดและผลักเพื่อสลายการโจมตีโดยสัญชาตญาณ ทว่าการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันนี้ทำให้าแที่ไหล่ขวาของเขาเจ็บร้าวขึ้นมากะทันหัน เขาครางออกมาด้วยความเ็ป การเคลื่อนไหวชะงักไปชั่วขณะจึงสามารถปัดหลบได้เพียงฝ่ามือเดียว อีกฝ่ามือจึงฟาดเข้าที่หน้าอกของเขา ทำให้เขาล้มลงกับพื้นทันที!
สวี่อิงงอตัวลงแล้วตะปบอีกครั้ง ชย่าลิ่วอีจึงหมุนตัวหลบและโต้กลับด้วยหมัด ขณะที่ทั้งสองกำลังกลิ้งไปมาต่อสู้กันบนพื้น คนอื่นๆ ก็มองตามการเคลื่อนไหวเ่าั้อย่างตื่นตาตื่นใจ อย่างไรก็ตามชย่าลิ่วอีที่ได้รับาเ็ตรงแขนขวาจนแทบไม่มีแรงเหลือถูกสวี่อิงจับกดลงกับพื้นหลังจากแลกหมัดและลูกเตะกันไปกว่าสิบครั้ง
“ชย่าเสี่ยวลิ่ว” สวี่อิงพูดอย่างเหนื่อยหอบเคล้าเสียงหัวเราะ “ฉันเป็คนสอนเพลงหมัดนี้ให้นาย แล้วนี่คือวิธีที่นายตอบแทนพี่สวี่อย่างนั้นหรือ?”
ชย่าหลิวอี้ถูกกดลงกับพื้น หันหูฟังเสียงรอบข้างเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงแหบพร่า “พี่ชิงหลงดีกับแกมาก แล้วนี่แกตอบแทนเขาแบบนี้หรือ”
“พี่ชิงหลงดีกับฉันมากอย่างนั้นหรือ? เหอะ! เหอะ ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันติดตามเขามา 20 ปี ทำทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งขึ้น์ลงนรก สุดท้ายเขากลับยกทุกอย่างให้ไอ้หน้าอ่อนอย่างแก! ตำแหน่งรองหัวหน้าโง่ๆ นั่นก็เป็ได้แค่หมาตัวหนึ่งที่คอยเลียแข้งเลียขาเขา เขาเคยเห็นฉันอยู่ในสายตาบ้างไหม?! แกรู้ไหมว่าเขาพูดอะไรกับพวกผู้าุโบ้าง? ‘แม้ชย่าลิ่วอีจะอายุน้อย แต่ก็ทั้งฉลาดและกล้าหาญ สามารถใช้งานได้’ ส่วน ‘สวี่อิงเ้าเล่ห์เกินไป ไว้ใจไม่ได้’!”
“เขาไว้ใจผิดคนจริงๆ!” ชย่าลิ่วอีะโเสียงดัง “สวี่อิง! แกคิดว่าแกจะปิดบังทุกคนได้งั้นหรือ ตอนที่ฉันออกจากบ้านพักและไปโรงพยาบาล ฉันไม่ได้พกดาบคู่ัเขียวไปด้วย! ทั้งพ่อบ้าน คนรับใช้ในบ้านพัก และพี่น้องแก๊งเซียวฉีที่โรงพยาบาลในตอนนั้นต่างเป็พยานได้!”
“พ่อบ้าน? คนรับใช้?” สวี่อิงหัวเราะเยาะ “ทุกคนที่เห็นศพของพี่สาวที่เสียสติถูกฆ่าโดยชย่าลิ่วอีแล้วในคืนนั้น แม้แต่บ้านก็ถูกเผาไปแล้วเหมือนกัน! พี่น้องในแก๊งเซียวฉีที่อยู่ที่นั่นก็เหลือแต่คนของแกที่เป็คนของฉัน แกคิดว่าคนอื่นจะเชื่อใครล่ะ?!”
“แก...” ชย่าลิ่วอีแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะฆ่าล้างครัวคนในบ้านของชิงหลงเพื่อปิดปาก เขากดฟันกรอด พูดเสียงลอดไรฟันด้วยร่างที่สั่นเทิ้มว่า “สวี่อิง แม้แต่คนในวงการมาเฟียก็ยังมีคุณธรรม คนอย่างแกไม่มีทางตายดีแน่”
สวี่อิงฟังคำพูดนี้แล้วกลับหัวเราะออกมา เขาก้มตัวลงมาจับใบหน้าของชย่าลิ่วอีแล้วยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดว่า “คนในวงการมักบอกว่าพี่ใหญ่ชิงหลงสุดยอดที่สุดในเื่ความยุติธรรม แล้วเขาตายดีหรือเปล่าล่ะ?”
เขาแนบริมฝีปากชิดใบหูข้างหนึ่งของชย่าลิ่วอี แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แกรู้ไหม ตอนที่ฉันถือดาบของแกเข้าไป เขาพูดอะไรกับฉัน”
“เขาพูดว่า ‘เสี่ยวลิ่ว เป็ความผิดของฉัน อย่าโทษตัวเองเลย’ ฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เขาหัวเราะร่าด้วยความสนุกสนาน ขณะนั้นชย่าลิ่วอีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงคำรามออกมากะทันหัน เขาใช้ไหล่ขวาที่าเ็ออกแรงทั้งหมดฟาดฝ่ามือไปยังสวี่อิง! สวี่อิงกำลังหัวเราะ เขาอยู่ไม่ทันตั้งตัวจึงถูกตบเข้าอย่างจัง!
หน้าตาบึ้งตึงของสวี่อิงมีรอยนิ้วมือสีเขียวและแดงห้านิ้วปรากฏขึ้น เขามองชย่าลิ่วอีด้วยสายตาที่เยือกเย็น ก่อนจะดึงปืนจากหลังเอวขึ้นมาจ่อที่หัวของชย่าลิ่วอีแล้วพูด “ฉันเปลี่ยนใจแล้วชย่าลิ่วอี ไม่จำเป็ต้องปล่อยให้แกครบ 32 หรอก ควรสับแกออกเป็ชิ้นๆ!”
“ฆ่าไอ้เด็กนั่นให้มันดู!” เขาหันไปะโใส่ลูกน้องที่กำลังจับตัวเหอชูซานไว้