บทที่ 5 ข้อเสนอที่เคลือบด้วยยาพิษ
ความสำเร็จหอมหวานดั่งน้ำผึ้ง แต่ก็ดึงดูดหมู่มดแมลงที่ละโมบฉันนั้น
เงินหนึ่งร้อยสิบห้าอีแปะในชั่วข้ามคืน คือเปลวไฟที่สว่างวาบขึ้นในหมู่บ้านอันแร้นแค้น มันไม่เพียงนำมาซึ่งสายตาชื่นชม แต่ยังปลุกสัญชาตญาณดิบของบางคนให้ตื่นขึ้น ลู่เมิ่งรู้ดีว่าการเปิดตัวไข่มุก์อย่างเกรียงไกรนั้น คือการลั่นกลองรบโดยไม่เจตนา และศัตรูตัวฉกาจที่สุดก็กำลังจับจ้องนางจากในเงา รอคอยเวลาที่จะกระโจนเข้าขย้ำ
แต่นางไม่มีเวลามาหวาดระแวง นางต้องเดินหน้าต่อ!
"อาเป่า มาช่วยพี่หญิงหน่อยเร็ว"
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่เมิ่งจูงมือน้องชายเดินไปยังทุ่งดอกไม้ป่าท้ายหมู่บ้าน ในตะกร้าของนางไม่ได้มีเสื้อผ้าไปซัก แต่มีจานกระเบื้องเคลือบใบเล็กๆ ที่นางใช้เงินส่วนหนึ่งไปซื้อมาจากบ้านของช่างปั้นในหมู่บ้าน
"พี่หญิงจะทำอะไรหรือขอรับ?" อาเป่าถามอย่างสงสัย พลางเด็ดดอกหญ้าขึ้นมาดมอย่างร่าเริง
ลู่เมิ่งยิ้มบางๆ "พี่จะขโมยิญญาของดอกไม้"
นางอธิบายวิธีการสกัดกลิ่นหอมด้วยไขมัน ให้น้องชายฟังอย่างง่ายๆ นางนำไขมันสุกรบริสุทธิ์ที่เคี่ยวจนไร้กลิ่นมาทาบางๆ บนจานกระเบื้อง แล้วสองพี่น้องก็ช่วยกันเด็ดเฉพาะกลีบดอกไม้ป่าที่มีกลิ่นหอมที่สุดมาโรยทับลงไปจนเต็ม
"ทำแบบนี้แล้วดอกไม้จะหายใจเอากลิ่นหอมออกมาให้ไขมันเก็บไว้งั้นหรือขอรับ?" อาเป่าถามอย่างตื่นเต้น
"ถูกต้อง" ลู่เมิ่งลูบหัวเขา "นี่คือเวทมนตร์ของธรรมชาติ... และวิทยาศาสตร์"
มันเป็ภาพที่งดงามและเปี่ยมสุข สองชีวิตที่เคยเกือบจะดับสูญกำลังช่วยกันสร้างอนาคตหยดเล็กๆ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่พลิ้วไหวตามสายลม แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าอาบร่างของสองพี่น้องราวกับจะอวยพร
นางนำจานดอกไม้กลับมาเก็บไว้ในที่มืดและเย็นในกระท่อม โดยต้องเปลี่ยนดอกไม้ใหม่ทุกวัน เป็งานที่ต้องใช้ความอดทนและละเอียดอ่อน แต่ผลลัพธ์ที่ได้... คือน้ำมันหอมระเหยชั้นเลิศที่จะยกระดับ "ไข่มุก์" ของนางให้กลายเป็ของสูงค่าอย่างแท้จริง
จากนั้น นางจึงนำเงินส่วนที่เหลือไปหาลุงหวังคนฆ่าหมู เพื่อขอซื้อไขมันหมูจำนวนมาก ลุงหวังมองนางด้วยสายตาประหลาดใจ แต่เมื่อเห็นนางจ่ายเงินอย่างไม่อิดออด เขาก็ยิ้มร่าจัดการหาของให้ตามที่้า
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผน... ทว่าความสงบสุขมักสั้นเสมอ
บ่ายวันนั้น ขณะที่นางกำลังเคี่ยวไขมันล็อตใหม่อยู่หน้ากระท่อม เงาร่างท้วมใหญ่ที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู
หัวหมู่จ้าว!
มันไม่ได้มาพร้อมลูกสมุนถือกระบองเหมือนครั้งก่อน แต่สวมชุดผ้าไหมตัวใหม่ที่ดูดีขึ้น ใบหน้าอ้วนฉุประดับด้วยรอยยิ้มจอมปลอมที่ดูน่าขนลุกยิ่งกว่าตอนที่มันเกรี้ยวกราด เสียอีก
"แม่หนูอาลู่... ไม่สิ... ต้องเรียกว่าเถ้าแก่เนี้ยน้อยแล้วกระมัง" มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะทำให้ดูเป็มิตร "ได้ยินว่ากิจการของเ้ากำลังรุ่งเรืองน่าดู"
ลู่เมิ่งไม่ได้หยุดมือจากงานที่ทำ นางเพียงปรายตามองมันอย่างเ็า "ก็พอประทังชีวิตสองพี่น้องไปได้วันๆ ไม่ได้รุ่งเรืองอะไรนักหรอกเ้าค่ะ"
"ฮ่าๆๆ ถ่อมตัวเกินไปแล้ว!" หัวหมู่จ้าวหัวเราะเสียงดัง "ขายสบู่ก้อนเล็กๆ ได้เงินเกือบร้อยอีแปะในวันเดียว นี่ยังเรียกว่าไม่รุ่งเรืองอีกรึ? ข้าว่า... เรามาคุยเื่ธุรกิจกันหน่อยดีหรือไม่?"
[วิเคราะห์... คำว่าร่วมมือของหัวหมู่จ้าวมีความหมายแฝงถึงการขู่กรรโชก 78.4% และการยึดครองกิจการในท้ายที่สุด 91.2%] เสียงของเทียนฉี่ดังเตือนในหัวของนาง
ลู่เมิ่งแค่นยิ้มในใจ "ธุรกิจ? ธุรกิจเล็กๆ ของเด็กกำพร้าอย่างข้า มีอะไรให้ท่านหัวหมู่ผู้ยิ่งใหญ่สนใจหรือเ้าคะ?"
"ย่อมมี!" หัวหมู่จ้าวเดินเข้ามาใกล้ขึ้น กวาดตามองหม้อทองแดงและอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยแววตาละโมบ "เ้ามีสูตรลับ ส่วนข้า... มีอิทธิพล มีเส้นสายในหมู่บ้านนี้ หากเราร่วมมือกัน... ไข่มุก์ ของเ้าจะไม่ได้ขายแค่ในหมู่บ้านเล็กๆ นี่อีกต่อไป ข้าสามารถนำมันไปขายในเมืองได้! เราจะร่ำรวยไปด้วยกัน!"
มันคือข้อเสนอที่เคลือบด้วยยาพิษชัดๆ!
ลู่เมิ่งวางทัพพีในมือลงช้าๆ หันมาเผชิญหน้ากับมันโดยตรง แววตาของนางนิ่งสงบจนน่ากลัว "เป็ข้อเสนอที่น่าสนใจ... แต่การร่วมมือทางธุรกิจต้องมีความเท่าเทียม หากข้าออกสูตรลับและแรงงาน แล้วท่านหัวหมู่จะลงทุนอะไรหรือเ้าคะ?"
หัวหมู่จ้าวชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเด็กสาวตรงหน้าจะกล้าต่อรองกับมันเช่นนี้ "ข้าก็ลงทุนด้วย การคุ้มครอง อย่างไรเล่า! ในหมู่บ้านนี้มีคนขี้อิจฉาอยู่ไม่น้อย หากไม่มีข้าคอยดูแล... เ้าคิดว่ากิจการของเ้าจะอยู่รอดไปได้สักกี่น้ำ?"
คำขู่ถูกเปล่งออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม
ลู่เมิ่งยิ้มบางๆ เป็รอยยิ้มที่เย็นเยียบราวกับน้ำค้างแข็งยามเหมันต์ "ท่านหัวหน้า... ท่านกำลังเสนอ การคุ้มครอง หรือ การรีดไถ กันแน่?"
คำถามนั้นตรงและคมราวกับมีดที่กรีดลงบนหน้ากากจอมปลอมของมัน!
ใบหน้าของหัวหมู่จ้าวบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ มันเลิกเสแสร้งในทันที "นังเด็กปากดี! อย่าคิดว่ามีสมองหน่อยแล้วจะมาต่อรองกับข้าได้! ข้าจะบอกให้เ้ารู้สถานะของตัวเองเสียใหม่! ในหมู่บ้านนี้ ชีวิตของเ้ากับน้องชายอยู่ในกำมือข้า! ข้าจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด!"
มันก้าวเข้ามาอีกหนึ่งก้าว เงื้อมือใหญ่ราวกับใบพายขึ้นมาหมายจะคว้าตัวนาง!
อาเป่าที่แอบมองอยู่หลังประตูเห็นดังนั้นก็ร้องออกมาด้วยความใ "พี่หญิง!"
แต่ลู่เมิ่งไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว!
"แตะต้องตัวข้าแม้แต่ปลายเล็บ แล้วท่านจะได้เห็นดีกัน!" นางตวาดกลับเสียงดังฟังชัด แววตาแข็งกร้าวไม่ยอมคน
"เ้าคิดว่าข้าจะกลัวคำขู่เื่ยาพิษจอมปลอมของเ้าอีกรึ!" หัวหมู่จ้าวตะคอก
"ข้าไม่เคยพูดเื่ยาพิษ" ลู่เมิ่งสวนกลับทันควัน "แต่ข้ากำลังพูดถึง ชื่อเสียง ของท่าน... ลองคิดดูสิ... หากวันนี้ข้ากับน้องชายเกิดเป็อะไรขึ้นมา ท่านคิดว่าชาวบ้านจะคิดว่าเป็ฝีมือของใคร?"
หัวหมู่จ้าวชะงักงัน
"จะเป็ใครไปได้... ก็ต้องเป็ท่านหัวหมู่จ้าว... ชายผู้ซึ่งเพิ่งถูกเด็กสาวกำพร้าอย่างข้า รักษาจากโรคประหลาดที่เกือบคร่าชีวิตท่านไปไม่ใช่รึ?" นางเดินเกมต่ออย่างเืเย็น "บางที... โรคนั้นอาจจะยังไม่หายดี มันอาจจะส่งผลต่อสมอง ทำให้ท่านคลุ้มคลั่งจนทำร้ายผู้มีพระคุณของตัวเอง... หรือบางที... ท่านอาจจะอยากฆ่าข้าปิดปากเื่โรคน่าอับอายของท่าน"
ทุกถ้อยคำของนางคือยาพิษที่ร้ายกาจกว่ายาพิษใดๆ มันโจมตีไปที่จุดที่เ็ปที่สุดของชายผู้ยึดถือหน้าตาและอำนาจเป็ใหญ่... นั่นคือชื่อเสียงและบารมีของเขา!
"นัง...นังเด็กปีศาจ!" หัวหมู่จ้าวคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลจนตัวสั่น มันอยากจะฉีกร่างเด็กสาวตรงหน้าเป็ชิ้นๆ แต่ก็ทำไม่ได้! คำพูดของนางมัดมือมัดเท้าเขายิ่งกว่าโซ่ตรวนเสียอีก
ลู่เมิ่งยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น "และยาที่ข้ามอบให้ท่านไป... ท่านคิดจริงๆ หรือว่ามันจะถอนพิษได้หมดจดในเจ็ดวัน?"
นางปั้นเื่ต่อได้อย่างแเี "ยาชุดนั้นเป็เพียงยาที่ กด อาการไว้ชั่วคราวเท่านั้น มันช่วยให้ตับของท่านได้พักฟื้น แต่รากของพิษยังคงฝังลึกอยู่ในร่างกายท่าน อีกครึ่งปี... หรืออาจจะเร็วกว่านั้นหากท่านเคร่งเครียดหรือโมโหบ่อยๆ ... อาการเ่าั้ก็จะกลับมาอีกครั้ง และจะรุนแรงกว่าเดิมเป็สิบเท่า! ถึงตอนนั้น... ต่อให้ข้าอยากจะช่วย ก็อาจจะสายเกินไปแล้ว"
มันคือการผสมผสานระหว่างคำขู่ทางกายภาพและจิตวิทยาที่สมบูรณ์แบบ! นางไม่ได้แค่ขู่จะทำร้ายเขา แต่ยังทำให้นางกลายเป็สิ่งจำเป็ที่เขาขาดไม่ได้!
หัวหมู่จ้าวมองลู่เมิ่งด้วยสายตาที่ทั้งเกลียดชังและหวาดกลัวปะปนกัน ในสมองของมันกำลังต่อสู้กันอย่างหนักระหว่างความโลภและความกลัวตาย
"เ้า... เ้า้าอะไรกันแน่!" ในที่สุดมันก็ยอมถอย
"ข้าไม่้าอะไรที่เกินเลยไปกว่าสิ่งที่ข้าควรจะได้" ลู่เมิ่งตอบด้วยน้ำเสียงที่กลับมาเรียบสงบ "ข้า้าทำมาหากินอย่างสงบสุข ไม่้า ผู้ร่วมมือ ที่จ้องจะฮุบกิจการของข้า และไม่้า ผู้คุ้มครอง ที่ข้าต้องจ่ายส่วยให้"
นางเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะยื่นข้อเสนอที่เหมือนไมตรีแต่แฝงด้วยคมดาบ "แต่... ในเมื่อท่านหัวหมู่มี อิทธิพล อย่างที่ท่านว่า ข้าก็มีเื่อยากจะรบกวน"
"ว่ามา"
"ไขมันหมูที่ข้าซื้อมาวันนี้ราคาสูงเกินไป ข้า้าซื้อไขมันหมูและวัตถุดิบอื่นๆ ในราคาที่ยุติธรรม และ้าช่องทางที่จะนำ ไข่มุก์ ของข้าไปขายในตลาดของเมืองในอนาคต หากท่านช่วยจัดการเื่นี้ให้ข้าได้... แน่นอนว่า... ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่าน และจะคอยดูแลสุขภาพ ของท่านเป็อย่างดี"
มันคือการพลิกสถานการณ์จากผู้ถูกข่มขู่กลายเป็ผู้ยื่นข้อเสนอ! นางไม่ได้ขอร้อง แต่กำลังจ้างเขาด้วยสิ่งที่เขากลัวที่สุด... ชีวิตของเขาเอง!
หัวหมู่จ้าวอับจนหนทางโดยสิ้นเชิง มันกัดฟันกรอดจนกรามสั่น "ได้! ข้าจะจัดการให้! แต่เ้าต้องสัญญาก่อนว่าจะปรุงยาให้ข้า!"
"แน่นอน... ตราบใดที่พวกเรายังเป็มิตรที่ดีต่อกัน" ลู่เมิ่งเน้นคำว่ามิตรอย่างชัดเจน
หัวหมู่จ้าวพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงราวกับวัวกระทิงที่พ่ายแพ้ มันจ้องหน้านางเป็ครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันหลังเดินกระทืบเท้าจากไปอย่างหัวเสีย
เมื่อร่างของมันลับสายตาไปแล้ว ลู่เมิ่งก็ทรุดตัวลงนั่งบนตั่งไม้ ขาของนางอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ไหว หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก
[การเผชิญหน้าคลี่คลาย... โฮสต์สามารถรักษาผลประโยชน์ไว้ได้... แต่ระดับความสัมพันธ์กับ หัวหมู่จ้าว เปลี่ยนเป็ ศัตรูคู่อาฆาต ความน่าจะเป็ที่เขาจะหาทางแก้แค้นในอนาคต: 99.8%]
"ข้ารู้..." นางกระซิบกับตัวเอง "วันนี้ข้าชนะ... แต่ายังไม่จบ"
นางมองไปที่กระท่อมเล็กๆ ของตัวเองมองไปที่อาเป่าที่วิ่งออกมากอดนางด้วยความ เป็ห่วง นางรู้ดีว่าสันติภาพที่ได้มาในวันนี้ช่างเปราะบางราวกับแก้ว นางต้องแข็งแกร่งขึ้น... ต้องเติบโตให้เร็วกว่านี้...
นางต้องหาพันธมิตรที่แท้จริง พันธมิตรที่ไม่ได้มาจากความกลัว แต่มาจากผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง และพันธมิตรเช่นนั้น... ย่อมไม่มีทางหาได้ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้
ดวงตาของลู่เมิ่งทอประกายเด็ดเดี่ยว... เป้าหมายต่อไปของนาง... คือในเมือง