เมื่อว่านเอ๋อร์วิ่งออกมาจากทะเลสาบเทียนอวิ่นแล้ว นางก็ตรงไปยังที่พักของมู่หลิงเอ๋อร์และเคาะประตูห้องของนางอย่างลนลานทันที
เพียงไม่นานหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งผู้มีเส้นผมสีแดงเข้มยาวสลวยในชุดสีครามก็เปิดประตูออกมา ก่อนจะพบว่าเวลานี้ว่านเอ๋อร์กำลังยืนน้ำตาคลออยู่ด้านหน้าประตูห้องของตน
“พี่หลิงเอ๋อร์”
ว่านเอ๋อร์สวมกอดมู่หลิงเอ๋อร์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะร้องไห้ออกมา
“ว่านเอ๋อร์ เ้าเป็อะไรไป? เหตุใดจึงได้ร้องไห้อย่างเ็ปใจเช่นนี้?”
มู่หลิงเอ๋อร์ตบลงบนแผ่นของเด็กสาวแ่เบาก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“พี่หลิงเอ๋อร์ ท่านพี่ของข้าพวกเขาบอกว่าเฟิงตายแล้ว จริงหรือเ้าคะ ท่านรีบบอกข้ามาเร็วเข้าว่าเื่นี้มันไม่ใช่เื่จริง”
ว่านเอ๋อร์พูดขณะร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่หลิงเอ๋อร์ก็ถึงกับตกตะลึง ก่อนจะรีบกล่าวขึ้นว่า “เ้าไปฟังใครมา เหตุใดข้าจึงไม่รู้ว่าเสี่ยวเฟิงตาย เขาจะตายได้อย่างไร พวกเขาต้องหลอกเ้าแน่”
“จริงหรือเ้าคะ แต่ท่านพี่ของข้ากับว่าพวกของเขาล้วนบอกว่าตนพูดความจริง”
ว่านเอ๋อร์มองไปที่มู่หลิงเอ๋อร์ด้วยความหวังอันริบหรี่
“เ้าวางใจเถอะ หากเสี่ยวเฟิงเกิดเื่มีหรือที่ข้าจะไม่รู้ อย่าได้หลงเชื่อข่าวลือของพวกเขา เ้ารอดูเถอะ วันพรุ่งเสี่ยวเฟิงจะต้องมายังสำนักศึกษาราชวงศ์เทียนอวิ่นเพื่อพบเ้าอย่างแน่นอน”
มู่หลิงเอ๋อร์โอบกอดร่างของว่านเอ๋อร์เอาไว้ ขณะเอ่ยปลอบเด็กสาว
ว่านเอ๋อร์พยักหน้า แต่ดวงตาคู่สวยของมู่หลิงเอ๋อร์เวลานี้กลับมีร่องรอยของความสงสัยอย่างชัดเจน หากไม่มีลมคงไม่เกิดคลื่น ข้อเท็จจริงของเื่นี้ นางจะต้องตรวจสอบให้กระจ่าง
จวนตระกูลมู่สายรองภายในเมืองอันหนาน!
หลังจากเวลาผ่านไปกว่าครึ่งเดือนนับั้แ่ที่มู่เฟิงได้รับาเ็สาหัส อาการาเ็ภายในร่างของเขาก็กำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ แก่นโลหิตที่ถูกผลาญไปก็ได้รับการรักษาและชดเชยจนฟื้นตัวกลับคืนมาแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้มู่เฟิงรู้สึกเสียดายคือ ระดับวรยุทธ์ของเขาลดลงไปหนึ่งขั้น มวลคลื่นพลังในจุดตันเถียนจื่อฝู่ของเขาถูกทำลายไปหนึ่งลูก เป็เหตุให้วรยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นหกลดลงเหลือเพียงขั้นห้า
แต่สำหรับมู่เฟิงที่เคยผ่านประสบการณ์ขึ้นลงในชีวิต การที่ระดับวรยุทธ์ของเขาลดลงมาหนึ่งขั้น ผลลัพธ์นี้ไม่นับว่าเป็อะไรได้ ในตอนแรกที่วรยุทธ์ทั้งหมดของเขาถูกทำลาย มู่เฟิงก็ยังสามารถผ่านมันมาได้
สามเดือนต่อมา ณ เทือกเขาอันหนาน
บริเวณป่าทึบแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในเขตลึกของเทือกเขาอันหนาน ร่างของเสือดาวที่มีเกล็ดปกคลุมทั่วทั้งร่างและมีหางคล้ายงูกำลังเดินเอื่อยเฉื่อยอยู่ในป่า โดยใช้จมูกของมันดมกลิ่นเพื่อหาเหยื่อ
นี่คืออสูรร้ายระดับจื่อฝู่ขั้นเก้าที่มีความดุร้ายเป็อย่างยิ่ง เสือดาวหางอสรพิษ เป็สัตว์ร้ายกระหายเืที่โเี้มาก
ทันใดนั้น ปราณดาบสีทองเล่มหนึ่งก็ฟาดฟันลงมาจาก้า!
หูของเสือดาวหางอสรพิษตั้งตรงขึ้นมาฉับพลันเมื่อััได้ถึงอันตราย มันรีบเคลื่อนกายหลบหลีกอย่างว่องไว ส่งผลให้พลังโจมตีของปราณดาบฟันลงไปบนพื้นดินแทน และเผยให้เห็นร่องรอยของการโจมตีที่ลากยาวหลายเมตร ทันใดนั้นร่างในชุดคลุมสีดำก็ปรากฏตัวขึ้น เด็กหนุ่มผู้นี้มีเส้นผมสีขาวราวกับหิมะ เขาะโลงมาจากต้นไม้สูงพร้อมกับดาบในมือ
เด็กหนุ่มผู้นี้ก็คือมู่เฟิง
เวลานี้ร่างกายของมู่เฟิงฟื้นตัวเต็มที่แล้ว เพียงแต่เส้นผมสีขาวของเขาที่เกิดจากการสูญเสียแก่นโลหิตไปยังไม่กลับมาเป็เหมือนเดิม
เส้นผมสีขาวราวกับหิมะนี้ช่วยขับให้เด็กหนุ่มดูสง่างามขึ้นถึงสองส่วน
มู่เฟิงกระชับดาบในมือเอาไว้มั่น ั์ตาสีโลหิตของเขาจ้องมองเสือดาวหางอสรพิษอย่างเ็า ร่างของเขาโค้งลงเล็กน้อย
เวลานี้วรยุทธ์ของเด็กหนุ่มได้ฟื้นคืนกลับมาแล้ว กลับมาเป็วรยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นหกอีกครั้ง
“โฮก…!”
เสือดาวหางอสรพิษซึ่งอยู่ห่างออกไปราวเจ็ดถึงแปดเมตรจ้องมองมาทางมู่เฟิงก่อนจะคำรามออกมา
พรึ่บ!
ทันใดนั้น เสือดาวหางอสรพิษก็เปิดการโจมตีด้วยการกระโจนเข้าใส่ก่อน มันพุ่งตรงเข้าหามู่เฟิงทันที กรงเล็บอันแหลมคมที่ยาวกว่าหนึ่งฟุตของมันดูคล้ายกับมีดสั้น
มู่เฟิงเพียงพ่นลมหายใจออก จากนั้นเขาก็เหวี่ยงคมดาบไปยังอุ้งเท้าของมัน จนเกิดเป็เสียงคล้ายโลหะกระทบกันดังขึ้นในทันที
แต่ในระหว่างนั้น หางอันเรียวยาวของเสือดาวหางอสรพิษที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดก็ตวัดมายังร่างของมู่เฟิงอย่างรุนแรงราวกับเป็แส้เหล็ก
ปัง!
หางนี้ฟาดเข้าที่เอวและท้องของมู่เฟิง แรงกระแทกส่งผลให้ร่างของเด็กหนุ่มกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร ทิ้งรอยเืไว้ที่เอวและท้องของเขา
มู่เฟิงกลิ้งตัวหลบเสือดาวหางอสรพิษอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ะโขึ้นมาและปล่อยลำแสงดรรชนีนิ้วออกไปสองสาย
ฉึก! ฉึก!
ลำแสงอันดุดันทั้งสองสายแทงเข้าที่ด้านหลังเสือดาวหางอสรพิษอย่างจัง มันเจาะทะลุผ่านเกล็ดและทิ้งรอยเอาไว้สองรู
าแนี้ทำให้เสือดาวหางอสรพิษรู้สึกเ็ปอย่างยิ่ง คราวนี้มันอ้าปากกว้างก่อนจะควบแน่นประกายแสงสีครามขึ้นมา จากนั้นลำแสงขนาดเท่ากำปั้นก็พุ่งทะยานเข้าหามู่เฟิงอย่างรวดเร็ว
มู่เฟิงบิดร่างกายหลบหลีกการโจมตีนี้อย่างพลิ้วไหว ทำให้การโจมตีนั้นพุ่งไปทำลายพื้นดินแทน ความรุนแรงของมันทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่มีความกว้างสองถึงสามเมตร
“วิชาะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยา! กระบวนยุทธ์ไฟกัลป์”
มู่เฟิงแผดเสียงออกมา ก่อนจะสะกิดฝ่าเท้าและทะยานร่างขึ้นอย่างรวดเร็ว เวลานี้เขาฝึกฝนวิชาะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยาจนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว เด็กหนุ่มรวบรวมพลังปราณภายในร่างไปยังหมัด ทำให้กำปั้นนี้ของเขาถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลวเพลิงสีแดงเข้ม ก่อนจะพุ่งทะลวงเข้าไปโจมตีร่างของเสือดาวหางอสรพิษอย่างรุนแรง
เปรี้ยง...!
เสือดาวหางอสรพิษแผดเสียงกรีดร้องออกมาทันที ร่างที่มีน้ำหนักมากกว่าสองถึงสามร้อยกิโลกรัมของมันกระเด็นห่างออกไปไกลเจ็ดถึงแปดเมตรก่อนจะกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่อย่างแรงจนมันหักโค่น เมื่อร่างของมันทรุดลงกับพื้นมันก็กระอักเืออกมาทันที
มู่เฟิงเก็บหมัดของตัวเอง จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก การโจมตีเมื่อครู่เขาต้องใช้พลังปราณจากมวลคลื่นพลังถึงสองลูก
วิชาะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยานั้นมีสามกระบวนท่า ไฟกัลป์ หมัดเพลิงและผลาญอากาศ!
แม้ว่าเขาจะฝึกฝนวิชานี้จนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถแสดงอานุภาพพลังสูงสุดของวิชาะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยาออกมาได้
ส่วนเหตุผลนั้น เนื่องจากกระบวนยุทธ์แรกอย่างไฟกัลป์นั้นผลาญพลังปราณของเขาไปหนึ่งในสามส่วน ในขณะที่กระบวนยุทธ์ที่สองอย่างหมัดเพลิงจะผลาญพลังปราณทั้งหมดของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่มีพลังปราณมากพอที่จะแสดงกระบวนยุทธ์ที่สามอย่างผลาญอากาศออกมาได้
มู่เฟิงก้าวเท้าเข้าไปหาเสือดาวหางอสรพิษที่ถูกโจมตีจนนอนกองบนพื้น ตอนนี้เ้าอสูรร้ายทำได้เพียงส่งเสียงครางต่ำออกมา ทว่าสายตาที่ดุร้ายของมันกลับไม่ลดลงเลยแม่แต่น้อย มันยัง้าจะโจมตีเข้ามา แต่มู่เฟิงก็ะโไปยังด้านหลังของมันเสียก่อน จากนั้นปลอกคอสีดำก็พลันปรากฏขึ้นในมือของเขา เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบสวมใส่ปลอกคอให้กับเสือดาวหางอสรพิษทันที
หลังจากสวมใส่ปลอกคอแล้ว ปลอกคอก็หดตัวจนกระชับแน่นไปกับลำคอของเสือดาวหางอสรพิษทันที ซึ่งมันก็รัดแน่นมากจนไม่สามารถขยับได้ และบนปลอกคอก็ได้สลักลายเส้นสัตว์ติดตามขั้นสองเอาไว้ โดยลายเส้นนี้จะสามารถควบคุมเหล่าอสูรร้ายที่มีพลังต่ำกว่าระดับหนิงกังได้
หลังจากมู่เฟิงสวมปลอกคอเรียบร้อยแล้ว เขาก็ะโลงจากหลังของมัน เสือดาวหางอสรพิษแผดเสียงคำรามออกมาทันที ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหามู่เฟิงอีกครั้ง
แต่เพียงแค่มู่เฟิงคิดขึ้นมา ปลอกคอชิ้นนั้นก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงออกมาในทันที
“แอ๋ว...”
เสือดาวหางอสรพิษถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเข้าร่างโดยตรง ร่างของมันจึงล้มฟุบลงบนพื้นในทันที และทำได้เพียงส่งเสียงร้องคร่ำครวญออกมา
“จงมาเป็ภาหนะให้ข้าอย่างซื่อสัตย์เถิด ไม่อย่างนั้นเ้าจะต้องแบกรับความรู้สึกเ็ปนี้”
มู่เฟิงกล่าวเสียงเรียบ
“โฮก…”
เสือดาวหางอสรพิษยังคงไม่ยอมรับ มันคำรามออกมาด้วยความโกรธ แต่เมื่อมันถูกกระแสไฟฟ้าช็อตร่างอีกครั้ง ร่างกายของมันก็สั่นเทิ้มด้วยความใ จากนั้นมันก็หมอบลงบนพื้นอย่างเชื่อฟังเหมือนลูกสุนัข
“ฮ่าๆ ดีมาก”
มู่เฟิงหัวเราะร่า เขาลูบมือลงบนหัวของมันขณะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เสือดาวหางอสรพิษนั้นวิ่งได้เร็วยิ่งกว่าม้าศึกเสียอีก
“โฮก…!”
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมาจากอีกฝั่งหนึ่งของป่า มู่เฟิงะโขี่หลังเสือดาวหางอสรพิษในทันที เมื่อส้นเท้าของเขาเตะไปยังส่วนท้องของมัน เสือดาวหางอสรพิษก็วิ่งทะยานไปยังทิศที่มาของเสียง
การเคลื่อนไหวของเสือดาวหางอสรพิษในการเผ่านป่าไม้นั้นทั้งรวดเร็วและยืดหยุ่นมาก เพียงไม่นานมันก็พามู่เฟิงมาถึงริมบึงน้ำแห่งหนึ่ง
ทันทีที่มาถึง เด็กหนุ่มก็พบว่าภายในบึงน้ำมีอสูรร้ายสองตัวกำลังต่อสู้กันอยู่
ตัวหนึ่งคือจระเข้สีดำขนาดมหึมาที่มีความยาวราวสิบเมตร ส่วนอีกตัวก็คืองูเจียวสีขาวที่มีความยาวราวยี่สิบเมตรซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ
ร่างของงูเจียวตัวนั้นถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีขาว แต่มีแผงคอสีแดงงอกออกมาบริเวณลำคอ ศีรษะของมันมีเขา และบริเวณท้องก็มีขาสี่ข้างงอกออกมา โดยขาแต่ละข้างจะมีกรงเล็บสามกรงเล็บ
สิ่งมีชีวิตตนนี้คือัน้ำ
งูเจียวสีขาวลอยตัวอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีทองเข้มของมันจ้องมองไปยังจระเข้ั์สีดำที่อยู่ในบึงน้ำราวกับกำลังหยอกล้ออีกฝ่าย
จระเข้สีดำตัวนั้นเป็อสูรร้ายระดับหนิงกัง มันแผดเสียงคำราม ก่อนจะอ้าปากกว้างเพื่อยิงศรน้ำสีน้ำเงินหลายดอกออกจากปาก อานุภาพพลังของศรน้ำเ่าั้รุนแรงมากพอที่จะเจาะทะลวงผ่านหินได้
ส่วนงูเจียวสีขาวก็ควบแน่นพลังสีแดงเอาไว้ในปาก จากนั้นมันก็ปล่อยบอลเพลิงออกมาทำลายศรน้ำเ่าั้จนกระเจิง นอกจากนี้บอลเพลิงยังพุ่งเข้าหาร่างของจระเข้ดำ ทำให้ผิวกายของมันถูกแผดเผาไปบางส่วน
จระเข้ดำส่งเสียงร้องคร่ำครวญออกมาและดำดิ่งลงไปในบึงน้ำ เนื่องจากมันไม่สามารถลอยตัวได้เหมือนกับอีกฝ่ายมันจึงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้