อาคารเสินหวัง โถงรับรองชั้นแรก
หวังเค่อกุมจมูกที่เืกำเดาไหลทะลักพลางมองดูจางเจิ้งเต้าที่หดหู่คล้ายิญญาหลุดจากร่าง
“จมูกเ้าเป็อะไร?” จางเจิ้งเต้ามองหวังเค่ออย่างแปลกใจ
“อ้อ ไม่มีอะไร ข้าแค่เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเท่านั้น!” หวังเค่อตอบพลางอุดจมูก
“อ้อ?”
“แล้วเ้าล่ะ? ทำท่าหมดอาลัยตายอยากเชียว?” หวังเค่อถามอย่างงุนงง
“ไม่มีอะไร ข้าแค่ได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยินเท่านั้น!” จางเจิ้งเต้าตอบด้วยท่าทีหดหู่
“หือ? ได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยิน? ไม่ใช่ว่าเ้าไปขายประกันหรอกหรือ? แล้วไฉนถึงมีสภาพแบบนี้?” หวังเค่อถามอย่างงุนงง
“อย่าพูดถึง!” จางเจิ้งเต้าดูหม่นหมองกว่าเดิม
“ทำไม? เ้าขายไม่ออกรึ? อย่าตามหาคนที่ซื้อประกันแค่ชุดเดียว เ้าต้องหาลูกค้ารายใหญ่! พวกมันมีเงิน จะซื้อมากหน่อยก็ไม่คิดมาก ขอเพียงพอใจพวกมันก็พร้อมใช้เงินเป็น้ำแล้ว!” หวังเค่อกระตุ้น
จางเจิ้งเต้าเหลือบมองหวังเค่ออย่างขมขื่น “ในหมู่คนรวยก็มีคนชั่วอยู่ด้วย!”
“เ้าหมายถึงอะไร?” หวังเค่อถาม
“เ้าจำสาวชุดชมพูได้หรือเปล่า?” จางเจิ้งเต้าทำท่าหวาดผวา
“ทำไมรึ?” หวังเค่อสงสัย
“นะ นางที่จริง…ที่จริงกลับเป็พวกโรคจิต นางคิดอยากให้ข้า…เฮ้อ โชคดีที่ข้ายึดหลักรักษาตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยก ก็เลยเผ่นมาก่อน!” จางเจิ้งเต้าขวัญหนีดีฝ่อ
หวังเค่อตะลึงไปครู่หนึ่ง รักษาตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยก?
ข้ารักษาตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยกเพื่อโยวเยว่ ส่วนเ้าจะรักษาตนให้บริสุทธิ์ดั่งหยกไปทำซากอะไร? นี่เื่อะไรกันแน่?
“ข้าหนีออกมาแต่นางก็ยังไม่สาแก่ใจ นางเลยพาชายฉกรรจ์สิบคนเข้าไปในห้อง เ้าไม่รู้หรอกว่าข้าได้ยินอะไรนอกประตูห้อง ทนฟังไม่ได้เลย…!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยด้วยสีหน้าขนลุก
“เ้าแอบดักฟังอยู่นอกประตู? เ้าอิจฉาหรือไง? แล้วสีหน้านั่นอีก! ข้างในเกิดอะไรขึ้น?” หวังเค่ออยากรู้
“อิจฉาบ้านเ้าสิ!” จางเจิ้งเต้าสบถ
“อ้าว? ไหนว่ามาซิ…!” หวังเค่อกลายเป็สนใจขึ้นมา
จางเจิ้งเต้ามองหวังเค่อด้วยใบหน้าบิดกระตุก แต่เื่แบบนี้มันเก็บไว้กับตัวก็ไม่สบายใจ สุดท้ายก็อดเล่าให้หวังเค่อฟังไม่ได้
พอได้ยินเื่เล่าของจางเจิ้งเต้าแล้ว หวังเค่อเองก็หน้ากระตุกตาม
“เ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย?” หวังเค่อถามด้วยสีหน้าปูเลี่ยน
“ข้าขอสาบานต่อฟ้า ถ้าเ้าไม่เชื่อ งั้นตามข้าไปแอบฟังเอาเอง!” จางเจิ้งเต้ากลายเป็กระวนกระวาย
“ไม่เอา ข้าเชื่อเ้า เพราะเื่พรรค์นี้เ้าโกหกข้าไปก็ไม่มีอะไรดี อีกอย่าง เื่ที่สามารถทำให้คนหน้าหนาแบบเ้ารู้สึกรู้สาได้ก็มีไม่มาก!” หวังเค่อส่ายหน้า
“โลกนี้ตกต่ำเกินไปแล้ว ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนจากพรรคสำนักเซียนแห่งสิบหมื่นมหาบรรพตจะตกต่ำลงได้ถึงเพียงนี้! รับไม่ได้ ข้ารับไม่ได้!” จางเจิ้งเต้าสบถ
“ผายลม ดูสีหน้าเ้าก็รู้แล้วว่าเป็พวกองุ่นเปรี้ยว!” หวังเค่อถลึงตา
“เ้าพูดอะไร?” จางเจิ้งเต้ากลายเป็กังวลขึ้นมา
“เ้าอยากเข้าไปดูแต่ไม่กล้าสิท่า? เ้าหงุดหงิดที่เ้าเข้าไปดูไม่ได้ ก็เลยคับข้องใจ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ รสนิยมของเ้าจางเจิ้งเต้าหนักกว่าพวกในห้องนั่นอีก!” หวังเค่อถลึงตา
“เ้า…!” จางเจิ้งเต้าถลึงตากลับ
“แต่ฟังที่เ้าเล่าแล้ว ซี้ด~~~~ รสนิยมต่ำช้านัก ข้าเองก็ได้เปิดหูเปิดตาไปด้วย!” หวังเค่อถอนหายใจ
“ทำไม? เ้าก็อยากเข้าไปดูเหมือนกัน?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างสงสัย
“เห็นมั้ย เ้ายอมรับแล้ว เ้าใช้คำว่า ‘เหมือนกัน!’ เ้าเด็กน้อยคิดไม่ซื่อ!” หวังเค่อโพล่งออกมา
จางเจิ้งเต้าหน้าดำคล้ำ “…!”
“แต่เ้าเห็นกฎประจำอาคารเสินหวังข้าแล้วไม่ใช่หรือ?” หวังเค่อมุ่นคิ้ว
“กฎอะไร?” จางเจิ้งเต้าถาม
“ไม่เห็นรึ? อักษรที่เขียนอยู่ตรงโถงรับรองไง!” หวังเค่อชี้ไปทางอักษรที่เขียนไว้บนเสาไม่ไกลออกไป
“ห้ามใช้สื่อลามกอนาจาร การพนัน และยาเสพติด เพิ่มพูนพลังบวก?” จางเจิ้งเต้าตะลึงไป
“ใช่แล้ว บริษัทเสินหวังข้าเพิ่งเปิดตัวก็มีคนมาแหกกฎเสียแล้ว ไม่ได้การ เ้าต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ไม่อย่างนั้นภายภาคหน้าต้องมีคนมาป่วนอาคารเสินหวังตามอำเภอใจแน่!” หวังเค่อปั้นหน้าขรึม
“เ้าหมายความอย่างไร?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างมึนงง
“จับกุมพวกมัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าภายในอาคารเสินหวังห้ามทำธุรกิจหลากสีเด็ดขาด!” หวังเค่อกล่าวเสียงเข้ม
“เ้าหมายถึงให้เรียกทุกคนไปที่ห้องของสาวชุดชมพูนั่น?” จางเจิ้งเต้าเบิกตาอย่างตะลึง
“ทำไม? ทำไม่ได้เหรอ?” หวังเค่อตอบเสียงเข้ม
จางเจิ้งเต้า “…!”
“ได้น่ะได้ แต่สาวชุดชมพูนั่นก็ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน ถ้าเกิดนางบันดาลโทสะถล่มอาคารเสินหวังเ้าขึ้นมาจะทำยังไง?” จางเจิ้งเต้ากังวล
“ถล่มตึก? งั้นเราก็ต้องหายอดฝีมือไปกับเ้าด้วย!” หวังเค่อขมวดคิ้ว
“ยอดฝีมือ? แหม นั่นไง มียอดฝีมือท่านหนึ่งอยู่ตรงทางเข้าโถงรับรองพอดี ทำไมเ้าไม่ขอให้เขาไปกับเ้าดูเล่า?” จางเจิ้งเต้าชี้ไปทางเงาร่างหนึ่งตรงทางเข้าโถงรับรอง
หวังเค่อหันศีรษะไปเห็นเฉินเทียนหยวนเดินตรงมาพอดี
“ท่านอาจารย์?” หวังเค่ออุทานอย่างแปลกใจ
“หวังเค่อ เ้าอยู่นี่เอง ข้าเป็ห่วงอยู่พอดี! เ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงขรึม
“ท่านอาจารย์เป็ห่วงข้า? เกิดอะไรขึ้น?” หวังเค่อสงสัย
“เ้าตำหนักโม่มาขอยืมกระจกสะกดแสงจากข้า บอกว่าจะเอาไปจัดการถงอันอัน! ตอนให้ยืมข้าไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ข้าเป็ห่วงความปลอดภัยเ้าก็เลยมาดู!” เฉินเทียนหยวนอธิบาย
“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่เป็ห่วง!” หวังเค่อตอบอย่างซึ้งใจ
ถึงก่อนนี้เฉินเทียนหยวนจะรู้สึกอับอายจนด่าว่าหวังเค่อเป็ศิษย์เนรคุณ แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็ห่วงลูกศิษย์คนนี้มากอยู่ดี ดังนั้นจึงมาดูว่าศิษย์ตนมีอันตรายหรือไม่ หวังเค่อเองก็ย่อมซาบซึ้ง
“ท่านประมุข ท่านมาก็ดีแล้ว พวกเรากำลังหาตัวช่วยอยู่พอดี!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยปากทันที
“จางเจิ้งเต้า เ้าหุบปาก!” หวังเค่อถลึงตา
พูดแบบนี้หมายความว่าไง? ยังอยากให้ท่านอาจารย์ข้าไปร่วมวงชมด้วย? ภาพอุจาดบาดตาพวกเราชมมองยังรื่นเริงบันเทิงใจ ขืนเรียกท่านอาจารย์ไปชมภาพบาดตาด้วย ไม่ใช่ท่านหันกลับมาเอาข้าตายหรอกหรือ
“โอ้? หาตัวช่วยรึ?” เฉินเทียนหยวนถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไรขอรับ!” หวังเค่อตอบทันที
“มีคนก่อเื่ในอาคารเสินหวัง หวังเค่อกับข้ารับมือไม่ไหว พวกเราเลยคิดหาคนช่วยขอรับ!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยทันควัน
“มีคนก่อเื่ในอาคารเสินหวัง? ใครกัน?” เฉินเทียนหยวนหน้าหม่น
ถึงการกระทำของหวังเค่อก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยถูกใจเฉินเทียนหยวนนัก แต่มันก็ยังเป็ห่วงธุรกิจค้าขายที่ศิษย์ตัวเองตั้งขึ้น มีคนก่อเื่? นี่ขนาดอยู่ในการดูแลของตน นี่มิใช่ไม่ไว้หน้าหวังเค่อแล้ว ขนาดตัวมันเองยังไม่ไว้หน้าเลย
“ท่านอาจารย์ ไม่เป็ไร เดี๋ยวศิษย์คิดหาแผนแก้ไขเอง!” หวังเค่อรีบเกลี้ยกล่อม
“เ้าสู้พวกมันได้รึ?” จางเจิ้งเต้ากล่าวอย่างดูแคลน
“จางเจิ้งเต้า ห้ามพูดอีก เื่พรรค์นี้ข้าจัดการเอง ท่านอาจารย์ข้าทุกวี่วันต้องสะสางกิจการภายในพรรคตั้งเท่าไหร่ ไหนเลยจะรบกวนท่านด้วยเื่เล็กน้อยได้?” หวังเค่อพลันะโ
“ไม่เป็ไร วันนี้อาจารย์ว่างพอดี นำทางไปเลย อาจารย์ก็อยากเห็นว่าใครมันกล้าก่อเื่ที่นี่!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงเข้ม
หวังเค่อ “…!”
ท่านอาจารย์ยืนกรานจะไป แล้วข้าควรทำเช่นไร?
“ท่านประมุข บางทีท่านอาจทนมองไม่ไหวนะ!” จางเจิ้งเต้าเองก็เริ่มกังวลแล้ว
“ฮ่าฮ่า ยังมีสิ่งใดที่ข้าทนมองไม่ไหวอีก? จะภูติผีปีศาจแบบไหนข้าล้วนเห็นมาหมดแล้ว นำทาง!” เฉินเทียนหยวนะโ
“ได้เลย ตามข้ามา!” จางเจิ้งเต้ารับคำอย่างตื่นเต้น
หวังเค่อมองดูสีหน้าตื่นเต้นของจางเจิ้งเต้าก่อนจะกระจ่าง ไอ้ตัวบัดซบจางเจิ้งเต้ามันจงใจ
จางเจิ้งเต้ารสนิยมต่ำช้า ตัวมันหวังอยากแอบดู แต่ไม่กล้าลงมือ ตอนนี้เฉินเทียนหยวนมาหา มันย่อมคว้าตัวเฉินเทียนหยวนไปชมดูอย่างตื่นเต้น หากเกิดเื่ขึ้นมา มันก็ยังสามารถหลบหลังเฉินเทียนหยวนได้ ท่านอาจารย์ นี่ท่านโดนขุดหลุมฝังแล้ว?
“ท่านอาจารย์ ทะ ท่านลืมมันไปก็ได้ จริงๆ นะ ภาพนี้อุจาดบาดตาแน่นอน!” หวังเค่อรีบรั้งเฉินเทียนหยวนไว้
“นำทาง!” เฉินเทียนหยวนกล่าวเสียงเข้ม
บารมีของท่านอาจารย์ช่างหนักอึ้งจนหวังเค่อห้ามไม่อยู่
จางเจิ้งเต้ารีบนำทางอย่างตื่นเต้น เพียงไม่นาน ทั้งสามก็มาถึงหน้าประตูห้องพักของถงอันอัน
“อ๊า ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!”
“เร่งเข้า!”
“ชาไปหมดแล้ว!”
“เ้ายังไม่สาแก่ใจอีก? ทุ่มให้สุดแรงเลย!”
………
………
……
……
…
…
เสียงภายในห้องยังคงดุเดือด
จางเจิ้งเต้าเผยสีหน้าตื่นเต้น ส่วนหวังเค่อหน้าเหม่อลอยไปไม่เป็ พอหวนย้อนคิดถึงคำบรรยายที่จางเจิ้งเต้าเล่ามาแล้ว ภาพที่ตนคิดไว้ในหัวพลันทวีความอุจาดตาขึ้นอีกสิบระดับ
“ท่านอาจารย์ ชะ ช่างมันเถอะ!” หวังเค่อรีบดึงเฉินเทียนหยวนไว้
“ตูม!”
เฉินเทียนหยวนถีบประตูเปิดอ้าในเท้าเดียว
จางเจิ้งเต้าทะยานเข้าไปเป็คนแรก มันตื่นเต้นอยากรับชมฉากเด็ดภายในห้อง แต่เมื่อได้เห็นเต็มตา จางเจิ้งเต้าก็หน้าแข็งค้าง
เพราะคนทั้งสิบเอ็ดภายในห้องล้วนต่างสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ไม่มีภาพอย่างที่ตนบรรยายไว้เลยสักนิด
หวังเค่อที่แอบมองลอดนิ้วมือเห็นโต๊ะเก้าอี้ในห้องล้มระเนระนาด เตียงใหญ่พังเละเทะพร้อมประกายสายฟ้าแล่นปลาบ คนทั้งสิบเอ็ดล้วนแต่ถือแส้วิเศษที่มีสายฟ้าอยู่ในมือ พร้อมกับส่งสายฟ้าไหลไปตามท่อน้ำในห้องน้ำ
ไม่เหมือนภาพอย่างที่จางเจิ้งเต้าบรรยายไว้นี่?
หวังเค่อเบิกตากว้าง “พวกท่าน พวกท่านกำลังขุดลอกท่อ? ชักโครกมันตันหรืออย่างไร?”
ไม่ใช่จางเจิ้งเต้าบอกว่าพวกมันกำลังทำเื่ไม่น่าดูกันอยู่? นี่มีตรงไหนไม่น่าดู? ก็ปกติดีไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่าง ถ้าเกิดท่อตัน ท่านก็ไปแจ้งพนักงานอาคารสิ แขกที่ไหนเขามานั่งลอกท่อกันเองบ้าง?
สิบโล้นมานั่งลอกท่อกันอย่างเหน็ดเหนื่อย?
พวกเ้าทำอะไร? ยังไม่หยุด ยังไม่หยุดอีก? ไม่อยากรบกวนพนักงานอาคาร ก็เลยถกแขนเสื้อลงมือลอกท่อด้วยตัวเอง? วิเศษเหลือเกิน สมควรได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นยิ่งนัก!
“จางเจิ้งเต้า นี่เ้ากล้าหลอกข้า?” หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้าไม่ไกลออกไป
“ขะ ขะ ข้า พวกมันไม่ได้…!” จางเจิ้งเต้าเองก็ไปไม่เป็
พวกเ้าล้วนแต่งตัวเรียบร้อย แล้วจะส่งเสียงแบบนั้นทำมะเขืออะไร? ไม่เห็นเหมือนที่ข้าคิดเลยสักนิด? ทำไมกัน?
หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้าอย่างดุดัน แม่งเอ๊ย รสนิยมเ้าต่ำตมถึงเพียงไหน? คนขุดลอกท่อเ้าก็ยังจับโยงเป็เื่วิตถารได้?
ที่หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้าไม่ใช่เื่แปลก ประเด็นคือสาวชุดชมพูยังคงสวมหมวกปิดหน้า ชายหัวโล้นร่างบึกบึนสิบคนล้วนแต่เป็คนแปลกหน้า ใครเล่าจะคิดว่าพวกมันเป็มาร?
พริบตาที่ประตูถูกเตะเปิดออก คนทั้งสิบเอ็ดในห้องล้วนแต่กระวนกระวายจนต้องหยุดมือชะเง้อคอออกมาดูด้านนอก
เฉินเทียนหยวน? ประมุขพรรคเทพหมาป่า์ ขาใหญ่ทารกแกนิญญา?
อีกอย่าง ไม่ใช่หวังเค่อถูกพวกเราจับมัดไว้อยู่ในห้องทำงาน? ไฉนมันถึงมาอยู่ที่นี่? หรือเฉินเทียนหยวนจะช่วยมันไว้?
ทั้งสิบเอ็ดคนพากันหายใจไม่ทั่วท้อง ท่านผู้ดูแลถงอันอัน ไหนท่านบอกว่าปลอดภัย? ไร้อันตราย? แล้วทำไมประมุขพรรคเทพหมาป่า์ถึงมาอยู่นี่? นี่ยังปลอดภัยอยู่ไหม? ทำยังไงดี? ทำยังไงดี?
“โดนเปิดโปงแล้ว? จบสิ้นแล้ว จบเห่แล้ว!” ทั้งสิบเอ็ดคนพากันลนลาน
เฉินเทียนหยวนเองก็มึนงง
หวังเค่อขณะกำลังจะด่าจางเจิ้งเต้า แต่พอมองเห็นท่อน้ำภายในห้องก็ต้องมุ่นคิ้ว “ไม่ถูกต้อง หากท่านคิดลอกท่อ ก็สมควรลอกท่อด้านล่าง นั่นมันท่อ้า ท่านลอกอะไรกัน?”
หวังเค่อถามไปโดยไม่ได้คาดหวังคำตอบ เพราะกลุ่มศิษย์สำนักเซียนไหนเลยจะมาเข้าใจโครงสร้างอาคารของตนได้? พวกมันจะเข้าใจผิดสลับท่อน้ำบนล่างก็ไม่แปลก
แต่คำถามของหวังเค่อคล้ายเป็กรรไกรตัดสติส่วนสุดท้ายของเหล่ามารจนขาดสะบั้น
“โดนจับได้แล้ว หนีเร็ว!”
“หนีโว้ย!”
“ไม่ได้การ!”
ทั้งสิบเอ็ดคนพากันอุทานออกมาพร้อมกัน ก่อนสะบัดหน้าพุ่งไปทางหน้าต่าง คิดหวังทะลวงกระจกหนีไป
หวังเค่อกับจางเจิ้งเต้าคิดว่าพวกตนทำพลาด จึงละอายไม่กล้าสืบสาวเอาความ แต่เฉินเทียนหยวนไม่ใช่ เฉินเทียนหยวนยังไม่ทราบว่าเกิดเื่อะไรขึ้น ดังนั้นจึงไม่ผ่อนคลายความระมัดระวัง
พอเห็นคนทั้งสิบเอ็ดทำท่าจะหนี เฉินเทียนหยวนพลันกลายเป็ลำแสงสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในห้อง
“ตูม ตูม ตูม ตูม…!”
พื้นที่แวดล้อมจำกัด เฉินเทียนหยวนเตรียมตัวมาอย่างดี ซ้ำยังลงมือว่องไว ถงอันอันกับลูกน้องที่พยายามหนีอย่างลนลานไหนเลยจะรอด? หลังเสียงดังสนั่น พวกมันก็ถูกควบคุมตัวไว้ คนนอนกองกับพื้นไม่อาจขยับเคลื่อนไหว
“ท่านอาจารย์ บางที บางทีอาจเป็การเข้าใจผิด!” หวังเค่อรีบออกหน้าอธิบาย
ลูกค้ากลุ่มใหญ่ขนาดนี้ จางเจิ้งเต้าทำพลาดจนพวกมันโดนอัดน่วม มีหรือจะไม่กระทบธุรกิจข้า
หวังเค่อพยายามออกหน้ากู้สถานการณ์ แต่สายเกินไปแล้ว เฉินเทียนหยวนถอดหมวกสาวชุดชมพูออก
“ถงอันอัน?” เฉินเทียนหยวนอุทานอย่างแปลกใจ
“หา?” หวังเค่อเองก็ชะงักไป
“ถุย!” ถงอันอันคายฟันที่โดนเฉินเทียนหยวนซัดจนหักออกมา
“หวังเค่อ เ้าปราดเปรื่องนัก เหอะ พวกเราปลอมตัวขนาดนี้ยังถูกเ้าจับได้อีก? เหอะ มิน่าเล่าท่านเ้าตำหนักถึง้าสังหารเ้า!” ถงอันอันมองหวังเค่อด้วยสายตาดุร้าย
แก๊งหัวโล้นสิบคนที่ถูกเฉินเทียนหยวนคุมตัวอยู่ด้านข้างต่างเผยสีหน้าท้อแท้
“ผู้ดูแล หวังเค่อมันรับมือยากกว่าที่พวกเราคิดไว้มาก!” ชายหัวโล้นคนหนึ่งกล่าวอย่างสิ้นหวัง
“ข้าเกลียดเ้า! เมื่อครู่ข้าสมควรเปิดใช้แส้เทพอสนีสุดกำลัง ข้าสมควรทุ่มสุดกำลัง!” เ้าโล้นอีกคนเอ่ยอย่างเคียดแค้น
ขณะที่แก๊งหัวโล้นต่างส่งเสียงระดมด้วยความแค้น เฉินเทียนหยวนก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะล้วงดึงแส้เทพอสนีสิบเอ็ดเส้นกลับมา
“นี่มัน อาวุธวิเศษประจำตำหนักสามแห่งลัทธิมาร แส้เทพอสนี?” เฉินเทียนหยวนเอ่ยอย่างแปลกใจ
“ท่านอาจารย์ นี่มัน…!” หวังเค่อยังตะลึงไม่หาย
เกิดอะไรขึ้น? พวกเรามาเพื่อปราบสื่อลามกอนาจาร ไฉนกลายเป็จับกุมมารร้ายไปได้?
“หวังเค่อ ครั้งนี้เ้าทำได้ดีมาก มีความชอบใหญ่หลวง เ้าตำหนักโม่กับคนที่เหลือตามหาถงอันอันมาเก้าเดือนยังคว้าน้ำเหลว เ้าแค่เปิดกิจการก็หาตัวมันพบแล้ว ทำได้ประเสริฐนัก ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครแย่งผลงานเ้าไปได้ แส้เทพอสนีเหล่านี้ให้เ้าเป็รางวัล! รับไป!” เฉินเทียนหยวนส่งแส้เทพอสนีให้หวังเค่อ
หวังเค่อ “…!”
“ขอบคุณท่านอาจารย์!” หวังเค่อได้แต่พยักหน้ารับด้วยสีหน้าพิกล
มาปราบสื่อลามกอนาจารยังได้อาวุธวิเศษแถมด้วย?
“พูดไปแล้ว แส้เทพอสนีภายในบรรจุไว้ด้วยอสนีบาตนับไม่ถ้วน จำต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อจัดเก็บ!” เฉินเทียนหยวนอธิบาย
จางเจิ้งเต้ามองดูกล่องด้านข้างที่มันเคยเข้าใจผิดไป “สมควรเป็กล่องนี้ใช่หรือไม่?”
“ใช่!” เฉินเทียนหยวนหยิบมา
มันวางแส้เทพอสนีลงไปในกล่องก่อนส่งให้หวังเค่อ
หวังเค่อรับกล่องมาด้วยสีหน้าพิกล
“หวังเค่อ จับกุมมารร้ายครั้งนี้ข้าเองก็มีความชอบเหมือนกัน กล่องนั้น…!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยด้วยแววตาละโมบ
หวังเค่อรีบเก็บกล่องเข้ากำไลมิติก่อนถลึงตา “เดี๋ยวไว้ข้าสะสางบัญชีกับเ้าทีหลัง เหอะ!”
“ข้าเกี่ยวอะไรด้วย เป็พวกมันส่งเสียงจนข้าเข้าใจผิด ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์ ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์!” จางเจิ้งเต้ารีบพูดอย่างลนลาน
หวังเค่อไม่สนใจ ส่วนเฉินเทียนหยวนมัดเหล่ามารด้วยเชือกไว้ก่อนลากออกไปจากห้อง
“ประเดี๋ยวอาจารย์จะนำมารกลุ่มนี้ไปส่งที่ตำหนักหมาป่าประจิมก่อน! หวังเค่อ ถ้าหากยังมีมารเหลือรอด ให้เรียกศิษย์พรรคเทพหมาป่า์คนใดก็ได้! บอกว่าเป็คำสั่งข้า!” เฉินเทียนหยวนเอ่ยเสียงเข้ม
“ทราบ!” หวังเค่อพยักหน้า
“หวังเค่อ ข้าไม่มีวันปล่อยเ้าไปแน่ ต่อให้ตายกลายเป็ผีข้าก็จะตามหลอกหลอนเ้า!” ถงอันอันะโใส่หวังเค่อ
แต่เฉินเทียนหยวนลากตัวมันจากไปแล้ว คนะโได้สองคำก็เงียบหายไป
เหลือไว้เพียงห้องพักสภาพเละเทะ
“จางเจิ้งเต้า สรุปตรงไหนที่เ้าว่าอุจาดตา?” หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้า
“ข้า…! ก่อนหน้านี้…!” จางเจิ้งเต้าไม่ทราบควรอธิบายอย่างไร
ก็ที่ข้าได้ยินมันไม่ใช่แบบนี้! ทำไมเปิดประตูมาถึงไม่เหมือนเดิมเล่า? แล้วภาพชวนตื่นเต้นไปไหนแล้ว? เ้าพวกมารบัดซบ กับแค่ลอกท่อน้ำทำไมต้องส่งเสียงประหลาดด้วย? ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์!
