เยว่เฟิงเกอไม่ได้ตอบคำถามของเฉียวเฟย นางค้อมกายลงไปลูบขาของถานอี้
ถานอี้ใจึงรีบหลบเลี่ยง เพียงแต่เขาไม่ได้ว่องไวเท่าเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอจับขาซ้ายของถานอี้ไว้ ก่อนจะกดลงไปแรงๆ สองสามครั้ง
“พระชายา พระองค์...” ถานอี้กำลังคิดจะกล่าวอะไร ก็รู้สึกว่าบริเวณขาซ้ายที่เยว่เฟิงเกอกดลงไปเจ็บจี๊ด
เขาเจ็บจนเหงื่อไหลย้อย
เมื่อครู่เยว่เฟิงเกอเพียงมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าขาซ้ายของถานอี้มีปัญหา ดังนั้น หลังจากที่นางััเข้าถึงได้รู้ได้ทันทีว่ากระดูกขาซ้ายของถานอี้ผิดปกติ
นางกล่าวกับถานอี้ว่า “ขาข้างนี้ของเ้าเจ็บหนักมาก”
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ เรารีบไปโรงหมอกันเถอะ” เฉียวเฟยร้อนใจยิ่งนัก
เขากำลังจะประคองถานอี้จากไปก็ได้ยินเยว่เฟิงเกอกล่าวต่อ “กระดูกขาของเขาหักไปแล้ว หากเ้ายังลากสังขารเขาไปเช่นนั้นอีก จะทำให้อาการาเ็ของเขายิ่งสาหัสขึ้น”
“เช่น เช่นนั้นควรทำอย่างไร? ” เฉียวเฟยได้ยินคำกล่าวนี้ก็ให้ร้อนใจตามไปด้วย
ตอนนี้ถานอี้เจ็บจนพูดไม่ออกแล้ว ตอนแรกหลังจากถูกม่อหลิงหานซ้อมหนัก เขายังพอจะอาศัยเฉียวเฟยช่วยประคองจากไปเช่นนี้ได้
แต่สุดท้ายเมื่อต้นขาของเขาถูกเยว่เฟิงเกอกดลงไปเมื่อครู่ เขาก็รู้สึกราวกับขาขาดไปแล้วก็ไม่ปาน ยามนี้เ็ปจนเหงื่อเย็นไหลซึมไปทั้งร่าง
อย่าว่าแต่เดินเลย แค่ยืนขึ้นเฉยๆ ก็แทบจะไม่ไหวแล้ว
ตัวเขาเป็ถึงชายชาตรี ทั้งยังติดตามม่อหลิงหานอยู่ในสนามรบมานานหลายปี ร่างกายาเ็มาหลายครั้ง
แต่ทุกครั้งที่าเ็ ถานอี้ล้วนสามารถทานทนได้
แต่ตอนนี้เขาทานทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เฉียวเฟยรับรู้ได้ว่าร่างกายของถานอี้กำลังสั่น
เขาหันไปมองถานอี้ “เ้าไม่เป็ไรนะ? ”
ถานอี้กัดฟัน เค้นเสียงลอดไรฟัน “ข้าไม่เป็ไร”
เยว่เฟิงเกอกลอกตามองบน “ไม่เป็ไรก็แปลกแล้ว เ้าไม่ต้องกัดฟันฝืนทนอีกต่อไป รีบนั่งลงก่อน ให้ข้าดูหน่อยเถอะ”
ถานอี้ได้ยินก็ทำได้แค่ฝืนนั่งลงบนพื้น
เยว่เฟิงเกอถกขากางเกงของถานอี้ขึ้น ก็เห็นว่ามีกระดูกโผล่ทะลุหนังออกมาแล้ว
“าเ็หนักเพียงนี้ เหตุใดวันนี้ท่านอ๋องจึงทรงลงมือหนักเช่นนี้? ” เฉียวเฟยใเป็อย่างมากเมื่อได้เห็นอาการาเ็ของถานอี้
พวกเขาต่างเคยเป็คู่ซ้อมของท่านอ๋องมาก่อน แต่ก็ไม่เคยมีครั้งใดที่ท่านอ๋องลงมือหนักเช่นนี้
แต่ครั้งนี้ เหตุใดท่านอ๋องจึงลงมือหนักเพียงนี้?
เยว่เฟิงเกอเฝ้าฟังเฉียวเฟยกล่าวถึงสาเหตุที่ถานอี้เจ็บหนักเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนเป็สิ่งที่ม่อหลิงหานประทานให้ ทำให้นางยิ่งรู้สึกไม่ดีต่อม่อหลิงหานมากขึ้นกว่าเดิม
องครักษ์ของตนเองยังลงมือหนักเช่นนี้ได้ แล้ววันหน้าใครจะอยากภักดีต่อเขาอีก
“ม่อหลิงหานคนนี้ เหตุใดถึงต้องลงมือหนักเพียงนี้ด้วย เขาไม่รู้จักทะนุถนอมลูกน้องของตนบ้างเลยหรือ หากเป็เช่นนี้ แล้ววันหน้าจะนำทัพจับศึกอย่างไร เขาไม่เกรงว่าหากทำให้ทุกคนหัวใจหนาวเหน็บจากการกระทำของเขาแล้ว วันหน้าจะไม่มีใครกล้าภักดีต่อเขาหรือ” ยิ่งเยว่เฟิงเกอพูดก็ยิ่งโกรธ นางไม่ชอบที่ม่อหลิงหานใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกผู้อื่นเป็ที่สุด
เยว่เฟิงเกอกล่าวกับถานอี้ด้วยท่าทีมีคุณธรรมสูงส่ง “เ้าวางใจ รอจนข้ารักษาเ้าให้หายดีแล้ว ข้าจะต้องว่ากล่าวม่อหลิงหานแทนเ้าแน่”
ถานอี้มุมปากกระตุก เขาอยากจะบอกเยว่เฟิงเกอจริงๆ ว่า เหตุที่ท่านอ๋องทรงลงมือหนักเช่นนี้ก็ล้วนเป็เพราะพระชายาทั้งสิ้น
หากไม่ใช่เพราะนางแอบเข้าไปในเรือนหานโยวตอนกลางคืน ซ้ำยังไม่รู้ว่าได้ล่วงเกินอะไรท่านอ๋องไปบ้าง ถึงทำให้ผลสุดท้ายท่านอ๋องไม่พอพระทัย
หากไม่ใช่เพราะนาง ท่านอ๋องก็คงไม่นอนไม่หลับขึ้นมากะทันหัน ซึ่งเป็เหตุให้ต้องมาซ้อมเขาที่หอแปดทิศ
อีกอย่าง หากเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะพระชายาที่กดขาเขา เขาก็คงไม่ปวดร้าวจนถึงขั้นเดินเหินไม่ได้เช่นนี้
“พระชายาอย่าได้ทรงกล่าวโทษท่านอ๋องเลยพ่ะย่ะค่ะ ครั้งนี้เป็เพราะกระหม่อมที่ใจลอยเองถึงได้าเ็” ถานอี้จะว่าเยว่เฟิงเกอก็ไม่ได้ ทำได้แค่น้อมรับทุกความผิดมาไว้ที่ตนเอง
“เอาละ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าจะช่วยจัดกระดูกเ้ากลับเข้าที่เดิมก่อน แล้วค่อยรักษาจุดอื่นให้เ้า” เยว่เฟิงเกอพูดจบก็แสดงท่าทีบอกเฉียวเฟยให้ช่วยจับถานอี้ไว้
“เ้าทนเจ็บหน่อยนะ”
นางที่เพิ่งพูดจบไม่ได้รอให้ถานอี้ตอบกลับ ก็ออกแรงดัดกระดูกเขากลับเข้าตำแหน่งเดิมในทันที
ถานอี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปร้อง “อ๊า” เขาเกือบจะเป็ลมไปแล้ว
เยว่เฟิงเกอให้เฉียวเฟยไปหาไม้กับผ้ามา ภายในเวลาไม่นานเฉียวเฟยก็รีบนำกลับมาให้
เยว่เฟิงเกอนำไม้มาทาบไว้ที่ขาของถานอี้โดยใช้ผ้าพันไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ไม้นั้นยึดติดอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว จากนั้นถึงบอกให้เฉียวเฟยประคองถานอี้ขึ้นมา
“ไปเถอะ ข้าจะไปโรงหมอกับพวกเ้าด้วย” เยว่เฟิงเกอไม่คิดกลับไปพักผ่อนแล้ว ตอนนี้นางคิดเพียงอยากจะช่วยรักษาถานอี้ให้หายดี
ถานอี้ผู้นี้ไม่เลว ในความทรงจำของเ้าของร่างเดิม ทุกครั้งยามคนรับใช้ในจวนแอบนินทาเ้าของร่างเดิมลับหลัง ถานอี้ผู้นี้ล้วนกล่าวตำหนิแทนนาง
แค่เพราะเื่นี้เื่เดียวก็เพียงพอให้เยว่เฟิงเกออยากจะช่วยรักษาถานอี้ให้หายแล้ว แต่ตอนนี้นางไม่มียาสมุนไพรอะไรทั้งนั้น ทำได้แค่ดามขาของถานอี้ไว้ ไม่ให้ต้องเ็ปไปมากกว่านี้
เช่นนี้พวกเขาถึงจะเดินเท้าไปถึงโรงหมอได้อย่างราบรื่น
เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว นางถึงจะรักษาให้ถานอี้ได้
เยว่เฟิงเกอพูดพลางเดินมาหยุดอยู่ข้างกายถานอี้ นางจับแขนเขามาพาดไว้บนไหล่นาง
“พระชายา ไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ” ถานอี้เห็นว่าเยว่เฟิงเกอจะช่วยประคองตนก็ใ รีบปฏิเสธ
นางเป็ถึงพระชายา จะให้ทำเื่เหล่านี้ได้อย่างไร อีกอย่างชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน ยามนี้แขนเขาไปพาดอยู่บนไหล่พระชายา หากถูกคนอื่นพบเข้า จะต้องเข้าใจพวกเขาผิดอย่างแน่นอน
“อย่าพูดมาก หากเ้าไม่อยากเจ็บจนตาย ก็รีบไปโรงหมอกับข้า” เยว่เฟิงเกอไม่ให้โอกาสถานอี้ได้ปฏิเสธ นางประคองถานอี้มุ่งหน้าไปยังโรงหมอ
เช่นเดียวกับเฉียวเฟยในตอนนี้ที่ไม่คิดอะไรมากมายแล้ว เขาและเยว่เฟิงเกอเข้าขากันเป็อย่างดี ทั้งสองช่วยกันประคองถานอี้ไปถึงโรงหมอ
อย่างไรก็ตาม ถานอี้ไม่กล้าเอนกายไปทางฝั่งเยว่เฟิงเกอ เขาจึงลงน้ำหนักไปทางเฉียวเฟย
เยว่เฟิงเกอเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก นางคิดเพียงว่าอยากจะรีบรักษาถานอี้เร็วๆ
คนทั้งสามมาถึงหน้าโรงหมออย่างรวดเร็ว หลังจากเฉียวเฟยเคาะประตู ไม่นานหมอก็ออกมา เมื่ออีกฝ่ายเห็นคนทั้งสาม ก็รีบนำพวกเขาเข้าไปด้านในทันที
ท่านหมอเป็ชายชราอายุหกสิบกว่า เขากำลังคิดจะถามถานอี้ว่าเกิดอะไรขึ้น าเ็ที่ตรงไหน แต่กลับถูกเยว่เฟิงเกอแย่งไปพูดก่อน “ร่างกายฝั่งซ้ายเขามีกระดูกซี่โครงสองซี่ที่าเ็ ม้ามถูกกระเทือนอย่างหนัก บริเวณตับเองก็มีเืออก และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือขาซ้ายของเขา ไม่เพียงแค่กระดูกหัก แต่กระดูกยังถึงกับโผล่ออกมาด้วย”
เมื่อท่านหมอได้ยินนางบรรยายอาการเหล่านี้ก็รีบเดินเข้ามาตรวจดูแผลของถานอี้ทันที
เยว่เฟิงเกอรีบร้อนรั้งท่านหมอไว้ “เมื่อครู่ข้าจัดกระดูกเขากลับเข้าที่เดิมแล้ว ทั้งยังใช้ไม้ดามไว้เรียบร้อยแล้ว”
ยามนี้เฉียวเฟยประคองถานอี้ให้นั่งลงบนเก้าอี้แล้ว ถานอี้นั่งตัวตรงอยู่ตรงนั้นและอาจเพราะเมื่อครู่เดินมาอย่างรีบร้อน เขาจึงรู้สึกว่าร่างฝั่งซ้ายเจ็บหนักยิ่งกว่าเดิม
ในเวลาเดียวกันนี้ ท่านหมอได้ยินเช่นนี้ ก็ได้แต่มองเยว่เฟิงเกอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
เขาไม่เคยได้ยินว่า พระชายาเป็วิชาแพทย์ด้วย
เพียงแต่วิธีการที่นางใช้นั้นถูกต้องที่สุดแล้ว เช่นนี้จะได้ลดความเสี่ยงจากอาการาเ็ซ้ำซ้อนที่ขาของถานอี้
เยว่เฟิงเกอบอกให้ท่านหมอไปนำแผ่นกระดานสำหรับยึดร่างส่วนบนมา ซึ่งท่านหมอก็มิได้คิดถามอะไรมาก เขาเดินไปหยิบแผ่นกระดานสำหรับยึดร่างส่วนบนมาพร้อมยาอีกสองสามตัว
เมื่อเยว่เฟิงเกอเห็นยาทั้งหลายแหล่นี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้