เล่มที่ 7 บทที่ 206 ประตูหิน
เพียงมาที่แห่งเกาะนี้ได้สามวันเท่านั้น ก็สามารถสังหารปีศาจขั้นเยาเจี้ยงไปกว่าสิบตนแล้ว หากอยู่สักแปดถึงสิบวันละก็ มีหวังได้เจอปีศาจขั้นเยาหวังหรืออสุรกายขั้นกุ่ยหวังเลยก็ได้ หากไม่หาคนร่วมทางละก็ คงไม่มีอะไรรับประกันว่าทั้งคู่จะสามารถรอดออกไปได้…
“ก็ได้ ในเมื่อเ้ามีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ ข้าเองก็จะฝืนใจไปด้วยแล้วกัน…”
ทั้งคู่จึงตกลงเป็พันธมิตรกันชั่วคราว ทว่าปราศจากการดื่มเืสาบานหรือจับมือให้คำมั่นสัญญาแต่อย่างใด มีเพียงศักดิ์ศรีที่ถูกพับเก็บไปเท่านั้น…
และก็เป็อย่างที่คิดไว้ หลังจากทั้งคู่ร่วมมือกัน จึงเกิดเป็พลังแข็งแกร่งขึ้น กุ่ยหวังที่เป็ปีศาจคู่กายของจงหยางสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างไร้ร่องรอย ส่วนหวังจิ่งเองก็มีพลังที่กล้าแกร่งยิ่งขึ้น ภายใต้การร่วมมือกันของคนทั้งคู่นี้ จึงสามารถสังหารปีศาจขั้นเยาเจี้ยงที่ผ่านเข้ามาอีกหลายตนอย่างง่ายดาย
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงใจกลางเกาะในที่สุด
แต่หลังจากนั้นเอง จากเดิมที่ทั้งคู่ยังเป็พันธมิตรกันอยู่นั้น จู่ๆก็ออกห่างจากกันโดยไม่ได้นัดหมาย บัดนี้กุ่ยหวังกลับไปตัวติดกับจงหยางตลอดเวลา ส่วนสายสายฟ้าในมือหวังจิ่งก็สว่างวาบขึ้นเป็ระยะ ทั้งคู่ราวกับนัดหมายกันไว้แล้ว ว่าหลังจากมาถึงใจกลางเกาะ ก็จะเริ่มกลับมาหวาดระแวงอีกฝ่ายเหมือนเดิม…
บริเวณใจกลางเกาะมีไอิญญาเข้มข้นมาก บัดนี้ไอิญญามากมายกลายเป็ละอองฝนโปรยปรายลงมาช้าๆ เพียงแค่สูดลมหายใจเข้า ก็มีไอิญญาจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา ถือว่าเป็์แห่งการบำเพ็ญเลยก็ว่าได้ หากที่แห่งนี้อยู่ในเขตเป่ยจิ้งละก็ เกรงว่าจะต้องถูกบรรดาสำนักใหญ่ยึดสถานที่เช่นนี้ไปครองเป็แน่ ต่อให้เป็ศิษย์ในสำนักเอง ก็คงยากที่จะย่างกรายเข้ามาได้…
หลังจากที่ทั้งคู่เดินเข้ามาก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก ไม่ว่าจะเป็หวังจิ่งหรือจงหยางก็ตาม เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าสถานที่เช่นนี้ จะต้องมีโชควาสนาใหญ่หลวงซ่อนอยู่แน่นอน…
หวังจิ่งและจงหยางก้าวเดินช้าลงเรื่อยๆ เพราะความตั้งใจของพวกเขาทั้งหมดในตอนนี้ ล้วนมุ่งไปที่การระวังภัย…
หลังจากเดินสำรวจได้ประมาณหนึ่งก้านธูป หวังจิ่งก็เป็ฝ่ายเปิดปากเอ่ยออกมาก่อน
“อย่าหาว่าข้าไม่เตือนนะศิษย์น้องจง สามวันก่อนผู้าุโหลงเซี้ยงของสำนักข้าก็ได้มาที่เกาะแห่งนี้แล้ว แถมรอบนอกยังมีเรือรบเซินหลัวลาดตระเวนอีกด้วย หากเ้าโชคร้ายเจอเข้าละก็ เกรงว่าจะต้องแย่แน่…”
“หึหึ…” จงหยางได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะน้อยๆออกมา ขณะที่กวาดสายตาสำรวจมองไปรอบๆ ปากก็พลางเอ่ยท้าทายกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“ตอนที่พูดเนี่ย เคยคิดบ้างไหมว่าบางทีนี่อาจจะเป็กับดักของสำนักโยวิที่คิดจะถอนรากถอนโคนสำนักเชียนซานและฝูงเรือรบเซินหลัวก็ได้ จะว่าไปสำนักเชียนซานก็อ่อนแอมานาน จะมีเรือให้ใช้สักกี่ลำเชียว หากมาสูญเสียที่นี่ละก็ เกรงว่าสำนักเชียนซานจะไร้ผู้สืบทอดแล้วล่ะ”
ทั้งคู่เอาแต่ต่อล้อต่อเถียงไม่หยุด ฝ่ายหนึ่งข่มขู่ อีกฝ่ายก็เอาแต่ท้าทาย เป็เช่นนี้ไปตลอดทาง กระทั่งทั้งคู่เดินทะลุผืนป่าออกมา จงหยางก็เงียบลงทันที แม้ว่าหวังจิ่งจะคอยพูดถากถางอยู่หลายครั้ง แต่อยู่ดีๆจงหยางก็ไม่คิดโต้ตอบแม้แต่คำเดียว จนหวังจิ่งถึงกับต้องหันไปมอง ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองเสาหินต้นหนึ่งอย่างเหม่อลอย…
“เป็อะไรไป?” หวังจิ่งเห็นภาพตรงหน้าก็ชะงักลงเล็กน้อย เสาหินนี้ไม่มีอะไรแปลกประหลาด สภาพมันก็เป็เช่นเดียวกับเสาอื่นๆที่เกลื่อนเต็มเกาะไปหมด ในตอนแรกหวังจิ่งเองก็เป็เหมือนกับจงหยาง สงสัยว่าเสาหินนี้จะต้องมีอะไรพิเศษ ทว่าสุดท้ายก็พบว่าเสานี่สามารถพบได้ทั่วทั้งเกาะ ไม่มีอะไรพิเศษสักนิด…
‘ถ้ามีอะไรขึ้นมาจริงๆ จำนวนมันจะไม่เยอะไปหน่อยหรือไง?’
“อย่าเหม่อสิ เสาแบบนี้มีทั่วทั้งเกาะ หากจ้องทีละต้นแบบนี้ เกรงว่าจะตาแตกไปเสียก่อนนะ…”
เมื่อสิ้นเสียงหวังจิ่ง จงหยางก็ยังคงไม่ตอบเช่นเดิม กระทั่งหวังจิ่งเดินใกล้เข้ามา กุ่ยหวังของจงหยางก็สำแดงกายออกมาเพื่อขวางกั้นทั้งคู่เอาไว้…
‘บ้าจริง เ้าคนถ่อย!’
หวังจิ่งเห็นดังนั้น สีหน้าก็หมองครึ้มลง ‘อุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดีแท้ๆ ไม่อยากให้เสียเวลาเปล่า แต่เ้านี่กลับกล้าดีนัก ถึงกับปล่อยกุ่ยหวังออกมา คิดระแวงข้าหรือไง?’
ขณะที่กำลังลอบด่าจงหยางในใจ มือข้างหนึ่งก็แอบโคจรพลังจนเกิดสายฟ้าสว่างขึ้น ‘หากกุ่ยหวังพลาดพลั้งทำร้ายคนขึ้นมาจะทำเช่นไร?’
ทั้งคู่ต่างก็มีความคิดในใจ คนหนึ่งจ้องเสาอย่างเหม่อลอย อีกคนก็จ้องอีกฝ่ายเขม็ง เป็เวลานานโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย สุดท้ายหวังจิ่งเริ่มทนไม่ไหว กำลังจะเอ่ยปากเร่ง ทันใดนั้นจงหยางก็ได้สติขึ้นมาเสียก่อน
“เ้ารู้สึกไหมว่าเสานี้ดูเหมือนแผนที่…”
“หา?” หวังจิ่งได้ยินเช่นนั้นก็งุนงง ‘แผนที่ หมายความว่าอย่างไร?’
“ช่างเถอะ พูดไปเ้าก็คงไม่เข้าใจ…” จงหยางยิ้มน้อยๆ ทว่าในรอยยิ้มกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม หลังจากลุกขึ้นมาก็มุ่งหน้าเดินจากไป โดยไม่สนใจหวังจิ่งอีก
“หมายความว่าอย่างไร!” หวังจิ่งได้ยินดังนั้นก็ฉุนเฉียวขึ้นมาทันที ขณะที่กำลังจะเปิดฉากหาเื่ จู่ๆก็พบว่าท่าเดินของจงหยางดูแปลกไปจากเดิม…
เพราะระยะห่างแต่ละก้าวไม่เท่ากัน บ้างก็ก้าวยาว บ้างก็ก้าวสั้น จึงทำให้ท่าเดินของจงหยางดูพึลึกไม่น้อย หวังจิ่งที่มองอยู่ทางด้านหลังก็มึนงงเป็ที่สุด ขณะที่กำลังจะล้อเลียนอีกฝ่าย จงหยางก็หยุดเดินลงทันที
“น่าจะตรงนี้แหละ…”
“อะไรตรงนี้?”
บัดนี้จงหยางยืนอยู่ใต้หน้าผาสูงชัน เขากวาดตามองขึ้นไป พบว่ามองไม่เห็นยอดผาเลยสักนิด หน้าผานี้แม้จะมีพื้นผิวเรียบเนียน แต่กลับดูชันและอันตรายเป็อย่างมาก จงหยางยืนมองหน้าผาอยู่เงียบๆโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว ทำให้หวังจิ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันถึงกับไปไม่ถูก…
“นี่เ้า…”
หวังจิ่งมองอยู่นานในที่สุดก็ทนไม่ไหว คิดจะเอ่ยปากเร่งอีกครั้ง แต่กลับเห็นกุ่ยหวังที่อยู่ด้านหลังจงหยางปรากฏขึ้นมาเลือนรางเสียก่อน เพียงครู่เดียวมันก็สำแดงกายออกมา ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ส่วนรอบกายยังเต็มไปด้วยไออสูรเข้มข้น พริบตาถัดมามันก็พุ่งตรงไปยังหน้าผา ก่อนจะใช้กรงเล็บอันแหลมคมสองข้างจ้วงเข้าที่ผาหินเต็มแรง จากนั้นก็มีเศษหินมากมายแตกกระจายออกมา…
จงหยางยังคงนิ่งเช่นเดิม ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขาเอาแต่ใจจดใจจ่อกับการควบคุมกุ่ยหวัง ใช้เวลาเพียงครู่เดียวผาหินก็ถูกทะลวงจนเป็โพรง เมื่อกวาดตามองไป ก็แลดูคล้ายกับอุโมงค์หิน…
หนึ่งเค่อผ่านไป กุ่ยหวังของจงหยางก็ขุดโพรงจนมาถึงใจกลางหน้าผา ทว่าจงหยางก็ยังไม่มีทีท่าจะสั่งให้หยุด และก็เป็เช่นนี้ต่อไปอีกประมาณหนึ่งเค่อ ก็มีเสียงหวีดร้องดังขึ้นจากใจกลางหน้าผา จงหยางได้ยินดังนั้นก็รีบยกมือบงการให้กุ่ยหวังกลับมาทันที หลังจากที่กุ่ยหวังกลับเข้ามาประชิดตัวจงหยาง ก็ปรากฏเป็เป็เงาเลือนรางตามติดอยู่ด้านหลังด้วย จากนั้นจงหยางก็เดินไปยังใจกลางหน้าผาโดยไม่สนใจหวังจิ่งแม้แต่น้อย
“…” หวังจิ่งเห็นดังนั้นก็ลอบด่าอีกฝ่ายในใจ ทว่าสองเท้ากลับเดินตามไม่ห่าง
จากนั้น…
ทั้งคู่ก็เห็นประตูหินสูงกว่าสิบจ้างซึ่งมีลวดลายประหลาดเต็มประตู…
ประตูหินนี้ ซ่อนอยู่ใจกลางหน้าผา หากไม่มีกุ่ยหวังของจงหยางขุดเจาะเข้ามาละก็ เกรงว่าต่อให้เดินหาเป็ร้อยปี ก็คงไม่เจอประตูหินนี่
ทันใดนั้นหวังจิ่งก็รู้สึกเหมือนมีอะไรจุกแน่นในลำคอ เขาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว หลังจากจ้องจงหยางอยู่นาน ในที่สุดก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่า
“เ้ารู้อยู่ก่อนแล้วหรือ ว่าที่นี่มีประตู?”
“ก็บอกแล้วว่าเสาหินนั่นดูเหมือนจะเป็แผนที่ หากเดินตามก็จะเจอเอง…”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------