ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ คล้ายจะอยู่ใกล้ ทว่ากลับอยู่ไกลมาก ดวงดาวมากมายโคจรไปตามวิถีเฉพาะตัว
เสิ่นเสวียนกำลังล่องลอยอยู่ตรงนั้นเช่นกัน
“ที่นี่คืออาณาจักรเซียนอย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเสวียนกล่าวพึมพำ ที่นี่ดูคล้ายอาณาจักรเซียน แต่ก็ไม่เหมือน
ก่อนหน้านี้ที่เขายังเป็เซียนพเนจรสามด่านเคราะห์ เขาสามารถไปถึงประตู์ทิศใต้ซึ่งเป็ทางเข้าออกอาณาจักรเซียนมาแล้ว แต่มิอาจเข้าไปได้ เขาเคยได้ยินมาว่าอาณาจักรเซียนเป็สถานที่สูงส่ง มีอาคารและหอสูงเรียงราย ห่างไกลจากโลกมนุษย์มาก
ที่นี่ให้ความรู้สึกลึกลับเกินคาดเดายิ่งกว่าอาณาจักรเซียนเสียอีก มิอาจแยกแยะได้เลย
ทันใดนั้น ผ้าสีขาวผืนหนึ่งโบกสะบัดให้เห็น ผ้าสีขาวผืนนี้ดึงดูดสายตาของเขาในทันที ร่างของเขาพลันเคลื่อนไหว คล้ายจะข้ามผ่านหลายมิติไปในพริบตาเดียว เขายื่นมือไปคว้ามุมหนึ่งของผ้าสีขาวผืนนั้นเอาไว้ แต่พลังของผ้าสีขาวแข็งแกร่งเกินไป กระชากร่างของเสิ่นเสวียนให้ทะลวงผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเข้าไปด้านหน้าหลุมดำขนาดใหญ่
หลุมดำแห่งนี้มีแรงดูดกลืนมหาศาล ทำให้มันกลายเป็วังวนกลืนกินสิ่งของที่อยู่รอบๆ เข้าไปไม่หยุด รวมไปถึงเสิ่นเสวียนและผ้าสีขาวผืนนั้นด้วย
“อ๊าก!”
ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน เสิ่นเสวียนและผ้าสีขาวถูกกลืนหายเข้าไปในหลุมดำพร้อมๆ กัน
ภายในนั้นคือจักรวาลอันแปรปรวน แยกฟ้าแยกดินไม่ออก มองเห็นเพียงความมืดมิดเท่านั้น
เสิ่นเสวียนล่องลอยอยู่ เขากวาดสายตามองไป แล้วเขาก็เห็นร่างกำยำเปลือยเปล่าถือขวานใหญ่ยืนอยู่
ร่างนั้นกวัดแกว่งขวานใหญ่อย่างต่อเนื่อง หมายจะฟันความมืดมิดให้แยกออก มิอาจรู้ได้ว่าเขากวัดแกว่งขวานใหญ่ไปกี่ครั้งแล้ว ความมืดมิดเ่าั้มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ขวาน สิ่งที่เบาบางลอยขึ้น สิ่งที่หนักอึ้งร่วงหล่น ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็โลกที่มีฟ้ากับดิน
หลังจากที่ร่างนั้นสร้างโลกขึ้นมาแล้ว ร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาเดินไปมาในโลกแห่งนี้ทุกวัน ระหว่างที่โบกมือจะก่อให้เกิดสายลม ฝ่าเท้าเหยียบลงไปบนพื้นก่อให้เกิดหนองน้ำและทะเลสาบ ในท้ายที่สุดเขาก็ล้มตัวนอนลงบนโลกที่ตนเองสร้างขึ้น จากนั้นร่างของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็ูเาลูกใหญ่ แผ่นดินเริ่มลาดเอียงและมีสายน้ำไหลผ่าน
ในวันหนึ่ง หญิงสาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น นางมาถึงริมน้ำและใช้ดินปั้นคนตัวเล็กๆ ทั้งชายและหญิง จากนั้นหญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ทำให้คนตัวเล็กๆ เ่าั้มีชีวิต หญิงสาวชี้แนะแนวทางให้คนตัวเล็กๆ เ่าั้ทำงานและสืบพันธุ์เพื่อความอยู่รอด คนที่ฉลาดหลักแหลมบางส่วนถูกหญิงสาวผู้นั้นรับเป็ศิษย์ สั่งสอนทักษะวิชา เรียนรู้ที่จะปกป้องตนเอง
เมื่อผู้คนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แผ่นดินใหญ่เจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม ศิษย์ที่ได้รับการสืบทอดเ่าั้เริ่มแยกตัวออกไปก่อตั้งสำนักของตนเอง ตั้งรกรากอยู่ตามูเาแม่น้ำ ส่งศิษย์ลงไปฝึกฝนยังโลกมนุษย์เป็ครั้งคราว
หลังจากศึกบูชาเทพครั้งหนึ่ง บางคนได้เลื่อนขั้นเป็เทพเซียนที่ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา แต่มีบางคนที่จิตใจต่ำช้ามุ่งเข้าสู่สายมาร กระทั่งมนุษย์ เซียน และมารปรากฏขึ้น ก่อให้เกิดเื่ราวมากมายบนแผ่นดินแห่งนี้
เสิ่นเสวียนตื่นขึ้นด้วยแววตามึนงง ขณะที่เขามองตรงไปก็พบว่าที่นี่เป็เพียงทิวทัศน์ที่วาดขึ้นเท่านั้น
“ผังเมืองซานเหอ!”
เสิ่นเสวียนรู้สึกประหลาดใจหลังจากที่จำภาพวาดภาพนี้ได้!
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าผังเมืองซานเหอที่แอบซ่อนอยู่ในส่วนลึกของทะเลจิตสำนึกของตนเองจะตอบสนองต่อตัวเขาเช่นนี้ นี่คือศาสตราเทพสร้างโลก ภายในมีจักรวาลยิ่งใหญ่ ดูลึกลับไม่ธรรมดา เดิมทีเขาคิดว่าต้องบำเพ็ญเพียรถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดก่อนจึงจะเปิดประตูของมันได้ คิดไม่ถึงว่ามันจะเปิดประตูต้อนรับเขาเอง
“จิติญญาอาวุธ เ้ายังอยู่ที่นี่หรือ”
เสิ่นเสวียนกล่าวถามม้วนภาพที่อยู่ตรงหน้าเสียงเบา
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเจอผังเมืองซานเหอ เขาต่อสู้กับจิติญญาอาวุธไปหลายร้อยกระบวนท่า กว่าจะสามารถปราบจิติญญาอาวุธได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ตอนที่สู้กับจักรพรรดิเซียนครั้งก่อน จิติญญาอาวุธได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังจากนั้นเสิ่นเสวียนยังะเิร่างตนเอง ทำให้จิตสำนึกของมันดับลงอย่างสิ้นเชิง
เสียงของเสิ่นเสวียนดังก้องออกไป ทว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับมาเลย
“เฮ้อ! ทำให้เ้าลำบากแล้ว เ้าวางใจเถอะ ข้าจะฟื้นฟูให้เ้ากลับมาดังเดิม”
เสิ่นเสวียนมองภาพตรงหน้า กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ผังเมืองซานเหอคือศาสตราเทพ จึงมีอานุภาพของพลังเทพรุนแรง ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ยังมิอาจเข้าใกล้ได้ถึงขนาดนั้น ได้เข้ามาด้านในเช่นนี้ก็ทำให้เขาดีใจมากแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะเปิดผังเมืองซานเหอในขั้นหยวนก่อกำเนิดได้จริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเอาสมบัติบางส่วนของตนเองออกมาได้
เสิ่นเสวียนกำลังทอดถอนใจ พลันมีแรงดึงดูดรุนแรงกระชากร่างของเขาไป
ณ เรือนไม้ในลานหลังเขาของตระกูลเสิ่น
เสิ่นเสวียนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพลันลืมตาขึ้น
“แค่ก แค่ก!”
อาการแน่นหน้าอกทำให้เขาไอออกมาอย่างรุนแรง
“ท่านพี่!”
เมื่อได้ยินเสียงไอ เสิ่นเสี่ยวเม่ยที่เฝ้าอยู่ข้างกายจึงหันไปมองเสิ่นเสวียน
เสิ่นว่านซื่อที่อยู่ไม่ไกลนักรีบเดินเข้ามาเช่นกัน
“พี่เสวียน ดื่มน้ำสักหน่อย”
เสิ่นว่านซื่อส่งถ้วยน้ำให้ เสิ่นเสี่ยวเม่ยรับถ้วยน้ำมาแล้วป้อนเสิ่นเสวียน
“เด็กโง่ พี่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย”
เสิ่นเสวียนมองเสิ่นเสี่ยวเม่ยที่มีสีหน้าร้อนรน ความรู้สึกโชคดีแผ่ซ่านอยู่ภายในจิตใจ ตนเองาเ็แล้วมีคนเป็ห่วงเช่นนี้ นี่อาจเป็ความรู้สึกของการมีครอบครัวที่เขาชอบมาก
เสิ่นเสวียนรับถ้วยน้ำมาจากเสิ่นเสี่ยวเม่ยแล้วดื่มจนหมด อาการาเ็บนร่างทุเลาลงมากแล้ว ยังคงเ็ปอยู่บ้างเท่านั้น
เสิ่นว่านซื่อมองเสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าใ
“พี่เสวียน พลังฟื้นฟูร่างกายของท่านแข็งแกร่งมาก! เพิ่งผ่านไปสองวันเท่านั้น แต่ท่านกลับหายดีแล้ว!”
“ผ่านไปสองวันแล้วอย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเสวียนได้ยินคำของเสิ่นว่านซื่อก็รู้สึกคาดไม่ถึง เขาหมดสติไปถึงสองวัน แต่ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไร เพราะเขามัวแต่ดูการเปลี่ยนแปลงของผังเมืองซานเหอ จะลืมเวลาไปบ้างก็เป็เื่ปกติ
“เดิมทีข้าจะไปหายามาให้ท่านกิน ผู้าุโใหญ่บอกไม่ให้ข้าแตะต้องร่างของท่าน ให้ข้าดูไว้ก็พอแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะหายดีได้จริงๆ!”
“แล้วตระกูลหานมาสร้างความวุ่นวายอะไรไหม”
“ไม่มีเลย ั้แ่วันนั้นที่ท่านเอาชนะหานเฟิงได้ ตระกูลหานก็ปิดประตูเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย” แม้เสิ่นว่านซื่อจะมิอาจฝึกฝนได้ แต่กลับรู้ถึงสถานการณ์ในเมืองอวี่ฮว่าเป็อย่างดี
“ใช่แล้ว สองวันที่ผ่านมา หว่านเอ๋อร์มาหาท่านสองครั้ง แต่ถูกพวกข้าไล่ไปแล้ว” เสิ่นว่านซื่อกล่าว
“ซือหม่าหว่านเอ๋อร์ นางมาที่นี่อย่างนั้นหรือ”
เสิ่นเสวียนหัวเราะเบาๆ นางปรับตัวเก่งจริงๆ พอเห็นว่าตนมีพลังแข็งแกร่งเลยคิดเข้าหา แต่มาอะไรเอาป่านนี้
“ข้าคือน้องสาวของเสิ่นว่านซื่อ เมื่อวานข้าก็เคยมาแล้ว”
ทันใดนั้น เสียงของซือหม่าหว่านเอ๋อร์พลันดังขึ้นที่ด้านนอก
เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นว่านซื่อจึงหันมองเสิ่นเสวียน จะให้เข้ามาหรือไม่ขึ้นอยู่กับเสิ่นเสวียนแล้ว
“ให้นางเข้ามาเถอะ”
เสิ่นเสวียนนั่งอยู่บนเตียงโคจรพลังไปทั่วร่าง เขาน่าจะแสดงพลังได้ถึงแปดส่วนแล้วในตอนนี้ ไม่มีปัญหาเื่ป้องกันตัว
เสิ่นว่านซื่อเดินออกไปจากเรือนไม้ทันที เพื่อเชิญซือหม่าหว่านเอ๋อร์เข้ามา
“ครั้งนี้ข้านำยาลับจากตระกูลซือหม่ามาด้วย ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ เ้า...”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์เดินพลางกล่าวไปด้วย เมื่อมาถึงประตูก็ต้องตะลึงอยู่ตรงนั้น
“เ้า! เ้าตื่นแล้วหรือ”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์มองเสิ่นเสวียนพลางกล่าวตะกุกตะกัก วันนี้นางสวมชุดสีฟ้าอ่อน เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ทว่าแววตาที่มองเสิ่นเสวียนกลับมีแต่ความรังเกียจ
ยาลับในมือของนาง เขาใช้จิติญญาััดูก็รู้แล้ว แม้สรรพคุณยาจะดีเยี่ยม แต่กลับมีส่วนผสมอื่นปนอยู่ด้วย และส่วนผสมนี้ยังมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก ใช้หัวแม่เท้าคิดยังรู้ได้เลยว่านางมีจุดประสงค์อะไร
“ทำไม ทำให้เ้าประหลาดใจมากเลยหรือ”
เสิ่นเสวียนมองดวงตากลมโตของซือหม่าหว่านเอ๋อร์พลางถาม
เมื่อโดนเสิ่นเสวียนจ้องมอง ซือหม่าหว่านเอ๋อร์จึงรีบหลบตาและเดินมาด้านหน้าเสิ่นเสวียน
จากนั้นนางก็โค้งกายคารวะเสิ่นเสวียน นางก้มลงต่ำจนร่างกายท่อนบนแทบขนานไปกับพื้น
“ข้าขอโทษ ข้าทำผิดเองเมื่อครั้งยังเด็ก โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้