บทที่ 4: หอโอสถเหรินเหอ
รุ่งเช้าของอีกวัน ก่อนที่แสงแรกของอรุณจะสาดส่องเข้ามาในเมืองหลวง ร่างของเด็กสาวสองคนในชุดผ้าฝ้ายธรรมดาก็ลอบออกจากประตูเล็กด้านหลังของจวนสกุลซูอย่างเงียบเชียบ
ซูเยว่สวมหมวกกั๊บลี่ที่มีผ้าบางๆ ปิดบังใบหน้า ส่วนชุนเถาแต่งกายเป็สาวใช้ทั่วไปที่ติดตามคุณหนูออกมาจับจ่ายซื้อของ การออกมานอกจวนโดยพลการเช่นนี้ถือเป็เื่ที่ผิดกฎระเบียบอย่างร้ายแรง หากถูกจับได้คงหนีไม่พ้นการถูกลงโทษ แต่ซูเยว่รู้ดีว่านี่คือความเสี่ยงที่จำเป็ต้องยอมแลก
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ถนนใหญ่ ความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงในยามเช้าก็โอบล้อมพวกนางไว้ เสียงพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ที่เริ่มตั้งแผงขายของ เสียงรถม้าที่วิ่งผ่านไปมา กลิ่นหอมของซาลาเปานึ่งใหม่ๆ ที่ลอยมาจากร้านข้างทาง... ทุกสิ่งทุกอย่างช่างแตกต่างจากบรรยากาศอันน่าอึดอัดในจวนราวฟ้ากับเหว
นี่คืออิสรภาพ! แม้จะเป็เพียงชั่วคราวก็ตาม
"คุณหนู... เราจะไปที่ไหนกันหรือเ้าคะ" ชุนเถาถามด้วยน้ำเสียงประหม่าเล็กน้อย นี่เป็ครั้งแรกที่นางออกมาข้างนอกกับคุณหนูตามลำพังเช่นนี้ ซูเยว่ไม่ได้ตอบในทันที นางกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างพินิจพิเคราะห์
"ไปที่ถนนจูเชว่ก่อน"
ถนนจูเชว่คือย่านการค้าที่รุ่งเรืองที่สุดของเมืองหลวง สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ มากมาย ทั้งโรงเตี๊ยม ร้านผ้าไหม ร้านขายเครื่องประดับ และที่สำคัญที่สุด... คือร้านขายยาและเครื่องสำอาง
ซูเยว่ไม่ได้เร่งรีบเดินเข้าไปในร้านใดร้านหนึ่ง นางค่อยๆ เดินสำรวจไปทีละร้าน สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ นางมองดูสินค้าที่วางขาย สังเกตกลุ่มลูกค้าที่เข้าออก และแอบฟังบทสนทนาของพนักงานกับลูกค้าเพื่อประเมินราคาและกลยุทธ์การขายของแต่ละร้าน
ชุนเถาเดินตามอย่างเงียบๆ แม้จะไม่เข้าใจว่าคุณหนูของตนกำลังทำอะไร แต่นางก็สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง... คุณหนูของนางดูสงบนิ่ง ฉลาดหลักแหลม และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในทุกย่างก้าว สายตาที่มองไปยังร้านค้าต่างๆ นั้นไม่ใช่สายตาของเด็กสาวที่ตื่นเต้นกับของสวยงาม แต่เป็สายตาของนักธุรกิจที่กำลังประเมินคู่ค้า
หลังจากใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วยาม (2 ชั่วโมง) ในที่สุดซูเยว่ก็หยุดยืนอยู่หน้าร้านขายยาแห่งหนึ่ง
ร้านแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตหรือหรูหราที่สุดบนถนนสายนี้ ป้ายไม้เก่าแก่ที่แขวนอยู่เหนือประตูสลักคำว่า หอโอสถเหรินเหอ ซึ่งแปลว่า "หอแห่งความเมตตาและปรองดอง" แม้จะมีลูกค้าเข้าออกอยู่บ้าง แต่ก็ดูไม่คึกคักเท่าร้านใหญ่ๆ ที่อยู่ถัดไป
นี่แหละคือเป้าหมายของนาง!
จากความทรงจำในชาติก่อน หอโอสถเหรินเหอเป็ร้านยาเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน พวกเขามีชื่อเสียงในเื่ความซื่อสัตย์ ไม่เคยขายยาราคาแพงเกินจริงหรือหลอกลวงลูกค้า แต่เพราะยึดมั่นในหลักการเดิมๆ และขาดสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจ จึงทำให้กิจการค่อยๆ ซบเซาลง สู้ร้านยาคู่แข่งที่ทำการตลาดเก่งกว่าไม่ได้
ที่สำคัญที่สุด เถ้าแก่ของที่นี่ "เถ้าแก่เฉิน" เป็คนซื่อตรงและมีคุณธรรม ซึ่งเป็คุณสมบัติของคู่ค้าที่นาง้า
"ชุนเถา รอข้าอยู่ข้างนอกนี่" ซูเยว่สั่งการสั้นๆ ก่อนจะปรับลมหายใจ จัดเสื้อผ้าและหมวกให้เข้าที่ แล้วจึงก้าวเข้าไปในร้าน
ทันทีที่เข้าไป กลิ่นสมุนไพรนานาชนิดก็ปะทะเข้ากับจมูก เด็กรับใช้ในร้านเห็นนางแต่งกายธรรมดาจึงไม่ได้ใส่ใจนัก เพียงแค่เหลือบมองแล้วก็หันกลับไปทำงานของตนต่อ
ซูเยว่ไม่สนใจท่าทีนั้น นางเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์จ่ายยา ซึ่งมีชายวัยกลางคนสวมแว่นกำลังง่วนอยู่กับการจัดยาตามใบสั่ง
"ข้า้าพบเถ้าแก่ของท่าน" ซูเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจที่เกินวัยชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองนางผ่านแว่นสายตา "เถ้าแก่ออกไปข้างนอก มีธุระอันใดรึแม่นางน้อย"
"ธุระสำคัญ เป็เื่การค้าที่จะนำผลประโยชน์มหาศาลมาสู่หอโอสถเหรินเหอของพวกท่าน"
คำพูดที่ดูโอ้อวดจากปากเด็กสาวในชุดธรรมดาทำให้ชายคนนั้นเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจระคนขบขัน "แม่นางน้อย เ้าคงมาผิดที่แล้ว ที่นี่คือร้านยา ไม่ใช่สนามเด็กเล่นเ้าไปที่อื่นเถอะ"
ซูเยว่ไม่โกรธ นางเพียงแค่ยิ้มบางๆ ใต้ผ้าคลุมหน้า "เช่นนั้นรึ... ข้ามีสูตร หยกขาวเลือนรอย ที่สามารถลบเลือนรอยแผลเป็ได้ภายในครึ่งเดือน และยังมีสูตร วสันต์คืนผิว ที่ทำให้ผิวพรรณของสตรีกลับมาเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ราวกับเด็กสาว"
นางจงใจพูดด้วยระดับเสียงที่ไม่ดังไม่เบา แต่ก็ดังพอที่จะทำให้ลูกค้าสองสามคนที่กำลังเลือกซื้อของอยู่ในร้านได้ยินและหันมามองด้วยความสนใจ
"ท่านคิดว่า... ธุระของข้ายังเหมือนการละเล่นของเด็กอยู่หรือไม่"
แววตาของชายวัยกลางคนที่เคยดูแคลน บัดนี้เปลี่ยนเป็ความตกตะลึงและลังเล เขามองเด็กสาวตรงหน้าอย่างพิจารณาอีกครั้ง แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าชัดเจน แต่แววตาที่สงบนิ่งและมั่นใจคู่นั้นกลับทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างประหลาด
ในขณะนั้นเอง เสียงทุ้มๆ ของบุรุษผู้หนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังร้าน
"มีเื่อันใดกัน อาฝู"
ชายชราผมสีดอกเลาในชุดผ้าไหมเรียบๆ เดินออกมา เค้าหน้าเปี่ยมด้วยความเมตตา แต่แววตากลับฉายประกายแห่งความเฉียบคมจากการผ่านโลกมานาน คนผู้นี้คือเถ้าแก่เฉินอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูเยว่หันไปเผชิญหน้ากับเขา ย่อกายลงเล็กน้อยเป็เชิงเคารพ
"แม่นางน้อย...ข้าได้ยินพอดีเ้าหรือที่บอกว่ามีสูตรยามหัศจรรย์นั่น" เถ้าแก่เฉินเอ่ยถาม สายตาสำรวจนางั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า...ซูเยว่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตากับเขาโดยไม่หลบเลี่ยง
"ไม่ใช่แค่สูตรยาเ้าค่ะ"
"แต่เป็อนาคตใหม่... ของหอโอสถเหรินเหอ"