“พี่ไฮว่ เกิดอะไรขึ้น” หลังจากที่หลี่สวินอวี้เพิ่งจะออกไปอวี้เอ๋อร์ก็มาถึงที่หอพักครูหลินซวง เธอมองยังหลินซวงที่สวมชุดฉางเผาแวบหนึ่งแล้วมองไปที่กัวไฮว่ที่มีสีหน้าอวบอิ่มแล้วถามขึ้นเบาๆ
“ก็เป็อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ วังหลังมีคนเพิ่มมาคนนึง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “อวี้เอ๋อร์เธอไม่หึงหรอกใช่ไหม”
“ตาบ้า ขนาดนี้แล้วยังจะมาล้อกันเล่นอีก” อวี้เอ๋อร์พูดพลางต่อยเข้าบนตัวกัวไฮว่
“สองชั่วโมงก่อนหน้านี้พลังของเ้ารั่วไหล จากนั้นก็หายไปหมดต้องเจอเื่ใหญ่อะไรเป็แน่ เบื้องบนลงมาหาเื่เ้าหรือ” อวี้เอ๋อร์ส่งกระแสจิตถาม
“เื่มันยาว เ้าเองน่าจะััได้ พลังเซียนของข้าก้าวหน้าไปไม่น้อยหากตอนกลางคืนมีเวลาเราลองมาเปิดน้ำเต้านั่นเสียหน่อยดีกว่า พรุ่งนี้ข้าจะจากฟู่จงแล้วล่ะ” กัวไฮว่ส่งกระแสจิตตอบ
“เอาเปรียบครูหลินแล้วก็เตรียมจะเช็ดตูดไปเลยเหรอ” อวี้เอ๋อร์มองออกอย่างแน่นอนว่าชุดฉางเผาที่ครูหลินซวงใส่เป็ของกัวไฮว่อีกทั้งอากาศในห้องปลอดโปร่งยิ่งทำให้เธอััได้ว่าครูหลินซวงไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว และตากัวไฮว่ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็ผู้ร้าย
“อะแฮ่มๆๆ ไม่ได้เป็แบบที่เธอคิดสักหน่อย” กัวไฮว่ส่ายศีรษะด้วยความจนใจ “เจอกันตอนกลางคืนนะ ร้อยปีในแดนมนุษย์ เราก็ควรจะปิดผนึกพลังเซียนซึมซับ่เวลาร้อยปีให้ดีหน่อย”
“เอาเถอะ งั้นเจอกันตอนกลางคืน พี่ไปอยู่เป็เพื่อนสนมวังหลังก่อนเถอะไม่ว่าพี่จะเป็ตายยังไง ตำแหน่งฮองเฮาในวังหลังพี่จะต้องเก็บไว้ให้ฉัน ฮึ” พูดเสร็จ อวี้เอ๋อร์ก็เดินออกจากห้องพักครูหลินซวง
“แฟนนายมาถึงหน้าประตูแล้วทำไมนายยังไม่ไปอีก” หลินซวงมองกัวไฮว่แล้วถามขึ้นเมื่อสักครู่เธอคิดดูแล้ว สุดท้ายความเ็ปในใจทำให้เธอต้องนั่งลงบนเก้าอี้
“คุณอยากจะเป็ผู้หญิงไหมก็แล้วแต่คุณแล้วกัน” กัวไฮว่มองหลินซวงก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆ “กินนี่ไปแล้วคุณจะไม่เจ็บ รักษาตัวเองด้วย สามเดือนหลังจากนี้ผมจะสู่ขอคุณกับตระกูลหลินอย่างเป็ทางการถึงตอนนั้นผมจะคอยดูว่าใครมันจะกล้าขวางผม” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็เดินออกจากห้องพักครูหลินซวงไป ชุดฉางเผา งดงามไร้ที่เปรียบ
“กัวไฮว่ เธอเป็ใครกันแน่” หลินซวงมองแผ่นหลังกัวไฮว่แล้วพูดขึ้นเบาๆ
“พวกเธอได้ยินมาหรือเปล่า กัวไฮว่คนที่ได้ที่หนึ่งการแข่งขันวิชาการกิ๊กกั๊กกับครูหลินซวง” เมื่อกัวไฮว่เดินออกมาจากห้องพักครูตามถนนก็เริ่มมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเขา
“กิ๊กกั๊กกันแล้วยังไง พี่ไฮว่ออกจะหล่อขนาดนั้น ครูหลินก็สวยกิ่งทองใบหยกชัดๆ” นักเรียนเอพูดขึ้น
“แน่นอนว่าพี่ไฮว่กับครูหลินคบกันไม่เป็ไรหรอก แต่นายคิดถึงคนอื่นดูสิมู่หรงเวยเวย ถังซี ซูเยี่ย โหยวโยวโยว แถมยังมีฉางเสี่ยวอวี้นางฟ้ามาใหม่โรงเรียนฟู่จงอีกเหมือนว่าจะมีพี่ซุนหลิงหลิงมอหกที่มีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับกัวไฮว่อีก” นักเรียนบีพูดเบาๆ
“ได้ยินมาว่าพี่ไฮว่ถูกครูหลินซวงล่อลวงจนหัวปักหัวปำ เขากับครูหลินซวง...” นักเรียนซีพูดขึ้น
“นายอยากตายหรือไง พี่ไฮว่จะไปถูกคนแบบนั้น...” ขณะที่พูดกันอยู่ทุกคนก็ต่อยนักเรียนซีไปยกหนึ่ง
“กินข้าวเย็นด้วยกัน รวมตัวที่ร้านปู่หกนะ” มู่หรงเวยเวยถังซีและคนอื่นๆ ได้รับข้อความจากกัวไฮว่เขาจะจากโรงเรียนไปแล้วก็ต้องจัดอันดับสาวๆ ของตนไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อน
“พี่ไฮว่ ไม่เป็ไรใช่ไหม” โทรศัพท์ของกัวไฮว่ดังขึ้นเฉียนตัวตัวถามขึ้นเบาๆ จากนิสัยของเฉียนตัวตัวแล้วน่าจะเดาออกเกือบหมดว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะกัวไฮว่ไม่รู้ว่าเกิดพายุโหมกระหน่ำขึ้นบนเว็บบอร์ดโรงเรียน
“ไม่มีอะไรหรอก นายตามต้าจู้มาด้วยนะ มารวมตัวที่ร้านปู่หกเริ่น” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
่บ่ายของโรงเรียนฟู่จงไม่ต่างอะไรกันกับเมื่อก่อนทว่ารสชาติโดยละเอียดกลับนำมาซึ่งบรรยากาศที่แตกต่างกันฉินอวี้หลงซ่อนตัวอยู่ในห้องนอน พวกพี่น้องของเขาต่างก็เป็แปลกหน้ากับเขาไปแล้วและเขาได้สูญเสียที่ระบายในอดีตไปแล้ว
“กังจื่อ นายว่าที่พูดกันบนเว็บบอร์ดนี่จริงหรือเปล่าอย่าบอกนะว่าพี่ไฮว่กับครูหลิน...” นักเรียนห้องหนึ่งที่นั่งอยู่แถวหลังพูดขึ้นเบาๆ
“เพียะ! อย่าไปฟังคนอื่นให้มาก พี่ไฮว่ใช่คนที่เราจะมาวิจารณ์ไหม” เด็กหนุ่มที่ชื่อกังจื่อตบเข้าที่ศีรษะของเด็กหนุ่มผู้นั้นพร้อมกับพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
กังจื่อชื่อว่าหลินกังตอนที่กัวไฮว่เพิ่งจะมาที่ห้องหนึ่งก็ไม่ได้จะสนใจเด็กเสเพลแบบนี้ทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน หลินกังอาศัยอยู่ด้วยกันกับแม่
“สมุนไพรพวกนี้ต้มกับน้ำสามถ้วย ดื่มเช้าครั้งเย็นครั้งดื่มติดต่อกันหกครั้ง อาการป่วยแม่นายน่าจะดีขึ้นแล้วล่ะ” หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หลินกังกับกัวไฮว่บังเอิญเจอกันที่เขตเมืองกัวไฮว่ได้นำชีวิตใหม่มาให้แก่แม่ลูกตระกูลหลินที่ไร้ซึ่งความหวังมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย ในเวลาแค่เดือนเดียวเขาก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ในวงการแพทย์ขึ้น และนี่ล้วนเป็คำพูดในภายหลัง
“เลิกพูดได้แล้ว ครูหลินมา” หลินซวงปรากฏตัวขึ้นในห้องเรียนนักเรียนทุกคนจับจ้องไปที่เธอด้วยหวังว่าจะได้ข่าวคราวเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้นตอนเที่ยง
“กัวไฮว่เป็นักเรียนที่ดีคนหนึ่งไม่ว่าเขาจะเป็นักเรียนห้องหนึ่งของเราหรือไม่ พวกเราก็จะคิดแบบนี้ไม่ว่าจะเกิดเื่อะไรขึ้น ฉันหวังว่าพวกเธอจะยืนอยู่ข้างกัวไฮว่ในการทำสิ่งต่างๆเช่นเดียวกันกับฉัน” หลินซวงพูดเบาๆ และเมื่อพูดเสร็จเธอก็เดินออกไป
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ไฮว่ ฉันก็จะสนับสนุนพี่ไฮว่” กังจื่อลุกขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆทำให้เขาได้รับปฏิกิริยาตอบรับจากส่วนใหญ่ในห้อง กัวไฮว่ เรียนได้ไม่ถึงสองเดือนยังวุ่นวายกับความสัมพันธ์มนุษย์ไม่พออีกหรือ
“พ่อหนุ่ม ไม่ได้มากินอาหารที่ร้านฉันนานเลยนะ” กัวไฮว่มาถึงร้านอาหารเป็คนแรกเริ่นเสวียนเช่อพูดขึ้นยิ้มๆ
“ปู่หกถูกเรียกว่าผู้คำนวณชะตาไม่ทราบว่าวันนี้ช่วยคำนวณให้ผมหน่อยได้ไหมครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“บอกแบบไม่กลัวขายหน้าพ่อหนุ่มเลยนะ ฉันยังคำนวณได้เลยว่าเธอจะมาวันนี้ฉันทำอาหารไว้หมดแล้ว ต่อไปเธอจะมีโอกาสได้มากินข้าวที่ร้านฉันน้อยลงแล้วล่ะ” เริ่นเสวียนเช่อพูดยิ้มๆ
“ฮ่าๆ ปู่หกผู้คำนวณชะตางั้นไม่ทราบว่าเส้นทางของผมนับจากนี้จะเป็ไงบ้างครับ” กัวไฮว่ถามยิ้มๆ
“อย่ากังวลหนทางไร้ผู้รู้ใจ ใต้หล้านี้มีผู้ใดมิจดจำ” เริ่นเสวียนเช่อพูดยิ้มๆ “ฉันได้ยินเื่ของพ่อหนุ่มมาบ้างแล้วแต่ว่าทุกครั้งที่ก้าวก่ายเื่ของพ่อหนุ่ม ฉันอยากทำแต่กลับทำไม่ได้ฉันเลยไม่พูดมั่วซั่วแล้วล่ะ ฮ่าๆ”
“ฮ่าๆ ปู่หก พวกเขายังไม่มากันเลย เรามาดื่มกันหน่อย” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็จัดแจงแก้วสองใบไว้บนโต๊ะอย่างกับเล่นมายากลเขาเทเหล้าจนเต็ม เริ่นเสวียนเช่อเองก็ไม่ได้เกรงอกเกรงใจ ดื่มหมดในอึกเดียว
“สาวๆ มากันแล้ว ฉันจะไปดูในห้องครัวก่อนล่ะ จะได้เสิร์ฟอาหารให้พวกเธอพอได้กินเหล้าของพ่อหนุ่มแล้ว เกรงว่าเดือนนี้กินอะไรไปคงไม่อร่อย” พูดเสร็จเริ่นเสวียนเช่อก็เดินเยื้องย่างเข้าไปในห้องครัวจากนั้นก็ได้ยินเสียงจานแตกดังขึ้น
“ปู่หกดื่มมากไป ตลกดี” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“คนก็มากันครบแล้ว วันนี้ฉันมีเื่จะมาบอกทุกคน ฉันจะลาออกครั้งนี้ไม่ได้ถูกไล่ออกนะ ฮ่าๆ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้