ผู้ใหญ่บ้านมองไปที่จ้าวหยาง ก้าวฝีเท้าไปข้างหน้า พูดอย่างจนปัญญา "สิ่งที่เ้าพูดนั้นไม่ถูกต้อง ตอนที่ฉืออู่หลางหย่ากับเ้า เขาก็ได้พูดอย่างชัดเจนในตอนนั้นแล้วว่าเด็กคนนั้นเป็ของอู่หลาง"
ฉือหางก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องหลินกู๋หยู่ แต่หลังจากเขามายืนปกป้องด้านหน้านางแล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าหลินกู๋หยู่เก่งในการต่อสู้มากกว่าจ้าวหยาง
"ข้าจะไม่ยอมให้ลูกกับเ้า" หว่างคิ้วของฉือหางขมวดมุ่น มองท่าทีของจ้าวหยาง เขารู้สึกเบื่อระคนรำคาญอย่างสุดจะอธิบาย
ฉือหางไม่้าคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไป
ในอดีต เป็เพราะเขาเคยเห็นจ้าวหยางใช้กำลังทำร้ายลูกด้วยตาตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงเห็นด้วยกับสิ่งที่โจวซื่อพูดและมอบจดหมายหย่าให้จ้าวหยาง
จ้าวหยางมองไปที่ฉือหางอย่างเย่อหยิ่งระคนดูถูก ความขยะแขยงในดวงตาของนางเห็นได้ชัดแจ้ง "ลูกอยู่กับเ้าจะดีได้อย่างไรหรือ?"
จ้าวหยางหันกลับไปมองที่กำแพงอิฐที่ทรุดโทรม พูดอย่างขบขันว่า "เมื่อข้าแต่งงานเข้าไปในบ้านนั้น ข้าจะมีทั้งทองทั้งเงิน ข้าจะได้ดูแลโต้ซาให้ดี แล้วเ้าเล่า?"
“เ้าจะเอาอะไรมาดูแลโต้ซาหรือ?” จ้าวหยางพูดพลางชี้ไปที่ใบหน้าของหลินกู๋หยู่ เอ่ยถามอย่างขบขันว่า “ผู้หญิงคนนี้จะปฏิบัติต่อลูกชายของข้าได้ดีจริงๆ หรือไม่ ตอนนี้นางอาจจะแกล้งทำดีกับลูกชายของข้าก็เป็ได้ แต่แล้วในวันข้างหน้าละ เ้าจะบอกได้หรือไม่ว่านางจะดีกับลูกชายข้าตลอดไปได้?”
หลินกู๋หยู่ยืนอยู่ข้างๆ โดยมีโต้ซาอยู่ในอ้อมแขน คำพูดของจ้าวหยางฟังดูรุนแรงแสบแก้วหูนัก
“เ้าไม่สามารถบอกได้ใช่หรือไม่?” จ้าวหยางยกริมฝีปากขึ้นอย่างภาคภูมิ ตบที่หน้าอกของตนเองอย่างแรง และพูดกับธารกำนัลรอบข้างอย่างเคร่งขรึมว่า “ข้าเป็แม่แท้ๆ ของโต้ซา ไม่ว่าข้าจะทำอะไรก็ตาม ข้าย่อมจะทำดีกับลูกชายของข้า ไม่ใช่หรือ?
ถ้อยคำนี้ พูดได้ดีมาก
บนโลกใบนี้ แม้แท้ๆ จะปฏิบัติไม่ดีต่อลูกของตนเองได้อย่างไรหรือ?
โต้ซาฝังใบหน้าไว้ที่ลำคอของหลินกู๋หยู่ พลางสะอื้นเบาๆ
“ดังนั้นเพื่อไม่ให้ลูกชายของข้าต้องตกระกำลำบาก ข้า้าพาลูกชายของข้าไปด้วย พวกเ้าไม่มีข้อโต้แย้งอะไรใช่หรือไม่?” จ้าวหยางมองไปทางโจวซื่อด้วยรอยยิ้มปราดหนึ่ง และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่มีลูกสะใภ้ที่ดีเช่นข้าคอยดูแลรับใช้ท่าน ท่านดูสีหน้าของท่านในเวลานี้สิ น่าเกลียดจริงๆ”
โจวซื่อโกรธมาก ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนเป็ซีดเผือด เมื่อหลายวันก่อนเนื่องจากการแยกครอบครัว นางโกรธมากสุดจะทน ไม่ใช่เื่ง่ายเลยที่นางจะกลับมาสงบสติอารมณ์ได้ และแล้วก็ถูกจ้าวหยางทำให้ต้องโกรธอีกหน ชั่วขณะหนึ่งนางโกรธมาก ถึงกับรู้สึกแน่นที่หน้าอกและไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกว่าหายใจไม่ออก
“ข้าจะไม่ยอมให้ลูกชายกับเ้า” ฉือหางยืนอยู่ข้างๆ ปกป้องหลินกู๋หยู่ไว้ข้างหลังเขา “เ้าใส่ทองและเงินไปคนเดียวเถอะ ไม่มีใครอยากจะไปกับเ้า”
"แม้เ้า้าจะไปกับข้า แต่กระนั้นข้าก็ไม่้าหรอก" จ้าวหยางมองไปที่ฉือหางอย่างดูถูกเหยียดหยาม "ข้าแค่้าพาลูกชายของข้าไปก็เท่านั้น ในวันข้างหน้า ลูกชายของข้าจะได้มีส่วนแบ่งในทรัพย์สินบางส่วนด้วย"
"เ้าจะพูดอย่างไรก็ไม่ได้ผล" จ้าวหยางพูดกับฉือหางอย่างเฉยเมย สายตาของนางจับจ้องไปที่โต้ซาในอ้อมแขนของหลินกู๋หยู่ จากนั้นก็เอ่ยพูดว่า "ให้ลูกพูดเถอะว่า้าไปกับข้าหรือไม่?"
แม่สื่อสู่เดินไปที่ด้านข้างของจ้าวหยาง กวาดสายตามองทุกคนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นพูดอย่างสบายอารมณ์ว่า "อี๋เหนียงของข้าไปอยู่ที่นั่น ้าไม่มีนายหญิง นายท่านก็มีอี๋เหนียงเพียงคนเดียวเท่านั้น ชีวิตย่อมดีมากอย่างแน่นอน"
“โต้ซา” จ้าวหยางมองไปที่โต้ซาด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของนางผ่อนคลายลงมาก “เ้าอยากไปกับแม่หรือไม่?”
หลินกู๋หยู่รู้สึกเพียงว่าโต้ซาที่อยู่ในอ้อมแขนของนางสั่นอย่างรุนแรง จึงเงยหน้าขึ้นมองจ้าวหยางปราดหนึ่ง ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง
โต้ซากลัวผู้หญิงคนนั้นมากเท่าใดกัน เพียงได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูด เขาก็ใกลัวมากถึงเพียงนี้ แต่ผู้หญิงคนนั้นคือแม่แท้ๆ ของเขา
หลินกู๋หยู่ตบหลังของโต้ซาเบาๆ เพื่อปลอบโยน
"นั่นคือลูกชายของข้า เ้าปล่อยเขาลง!" จ้าวหยางชี้ไปที่ปลายจมูกของหลินกู๋หยู่อย่างเกรี้ยวโกรธ ทันใดนั้นก็จำการต่อสู้ของหลินกู๋หยู่ได้ จึงลอบดึงมือออกอย่างเงียบๆ "เ้าวางลูกชายของข้าลง"
หลินกู๋หยู่โน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหูของโต้ซา เอ่ยถามเบาๆ ว่า "โต้ซา เ้าอยากอยู่กับแม่แท้ๆ ของเ้าหรืออยากจะอยู่กับพ่อของเ้า?"
ร่างกายของโต้ซาสั่นเล็กน้อย เขาจับมือของหลินกู๋หยู่แน่นขึ้นทันทีโดยไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
"ข้าแนะนำให้เ้าออกไปจากที่นี่ให้โดยเร็วที่สุด" ฉือหางมองไปที่จ้าวหยางด้วยใบหน้าเ็า พูดอย่างเฉยเมยว่า "ไม่เช่นนั้น เราจะไปพบเ้าหน้าที่เดี๋ยวนี้!"
ขณะที่พูด ฉือหางก็ชี้นิ้วมือไปที่ใบหน้าของโต้ซา พูดอย่างเ็าว่า "ใบหน้าของลูกถูกเ้าตบกลายเป็เช่นนี้แล้วใช่หรือไม่?"
หลินกู๋หยู่ยื่นมือออกไปดึงแขนของฉือหาง ในขณะเดียวกันนางมองไปที่จ้าวหยางด้วยความโกรธหลายส่วน "ในขณะที่เ้าทำเช่นนั้น เ้าไม่เคยคิดหรือว่าเขาเป็ลูกชายของเ้า เ้าไม่รู้จักความอ่อนโยนหรืออย่างไร?"
"เ้าแต่งงานกับบ้านนั้น คนเขาจะต้องมีลูกอย่างแน่นอนใช่หรือไม่ เ้าคิดว่าเ้าจะดูแลลูกชายของเ้าได้ดีหลังจากแต่งงานหรือ?" หลินกู๋หยู่มองจ้าวหยางอย่างขบขันเล็กน้อย "เวลาของเ้าหมดไปกับผู้ชายของเ้า เ้าจะเอาเวลาที่ไหนมาเลี้ยงลูก?”
หลังจากฟังคำพูดของหลินกู๋หยู่ แม่สื่อสู่ก็เข้าหาจ้าวหยางใกล้ๆ กระซิบเสียงเบาว่า "อี๋เหนียง เื่นี้ไม่ต้องกังวล รอให้ท่านอยู่ที่นั่นอย่างมั่นคงแล้ว ถึงเวลานั้นท่านค่อยมารับนายน้อยไปอยู่ด้วยก็ย่อมทำได้"
จ้าวหยางในชุดสีแดงสดแพรวพรายราวกับไฟยื่นมือออกไปเพื่อทัดเศษผมที่หล่นลงบนหน้าผากไปยังด้านหลังใบหู นางคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับเื่นี้
ผู้คนรอบๆ มองไปที่เสื้อผ้าที่จ้าวหยางสวมใส่ แต่ละคนต่างก็ทอดถอนหายใจ ไม่รู้ว่าจ้าวหยางได้แต่งงานเศรษฐีคนใด คิดไม่ถึงว่านางจะสวมแพรไหม รองเท้าที่นางใส่นั้นเป็รองเท้าพื้นนุ่มปักลายนกยูงและลายดอกชบา ด้วยผมรุงรังกระเซอะกระเซิง แต่เมื่อมองไปที่ตุ้มหูทองคำที่ติ่งหูก็ยังมองออกว่าราคาไม่ย่อมเยาอย่างแน่นอน
"ก็ได้" จ้าวหยางมองไปที่ใบหน้าที่ถูกนางข่วนของฉือหาง หันศีรษะไปทางด้านข้างอย่างเย่อหยิ่ง พูดด้วยความเกรี้ยวโกรธว่า "วันนี้ข้าจะกลับก่อน แต่ข้าจะกลับมาอีกอย่างแน่นอน"
จ้าวหยางพูดจากนั้นยกมือขึ้นเพื่อจัดทรงผม ก่อนที่จะชนซ่งซื่อแล้วเดินจากไปไกล
เมื่อเห็นว่าจ้าวหยางออกไปแล้ว แม่สื่อสู่ก็รีบไล่ตามนาง
โจวซื่อกล่าวคำสุภาพกับธารกำนัลที่มุงดูเหตุการณ์ ขอให้หลินกู๋หยู่ติดตามฉือหางและนางไปที่เรือนใหญ่ของบ้านสกุลฉือ
หลินกู๋หยู่อุ้มโต้ซาตลอดเวลา แขนของนางปวดเมื่อยสุดจะทน เมื่อเดินมาถึงลานบ้าน นางก็วางโต้ซาลง
โจวซื่อนั่งอยู่บนเก้าอี้ในลานบ้าน เฝ้าดูโต้ซาที่เกาะด้านข้างของหลินกู๋หยู่ กวักมือเรียกโต้ซา "โต้ซา มาหาย่าทางนี้มา"
โต้ซาคว้าชายเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าเล็กๆ ขมวดกลายเป็รอยย่น ดวงตาของเขาแดงก่ำดูน่าสงสารมาก
“ไปเร็วเข้า” หลินกู๋หยู่มองไปที่โต้ซา แล้วพูดต่อว่า “ข้าจะไม่ไปไหน ข้าจะอยู่ที่นี่”
เมื่อฟังคำพูดของหลินกู๋หยู่ โต้ซาก็ยังคงจับชายเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่ไว้เช่นเดิม ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมปล่อยมัน
หลินกู๋หยู่เอื้อมมือไปแตะที่ศีรษะเล็กๆ ของโต้ซา ใบหน้ายิ้มละไม พาโต้ซาไปหาโจวซื่อ
ทว่าแม้จะเดินไปถึงฝั่งของโจวซื่อแล้ว กระนั้นโต้ซาก็ยังคงพิงด้านข้างหลินกู๋หยู่ ปากเล็กๆ ของเขามุ่ยจนเป็รอยย่น หยาดน้ำตายังคงซึมอยู่บนแพขนตายาวงอน ในขณะที่มองโจวซื่ออย่างน่าสังเวช
จ้าวหยางลงไม้ลงมือก็ไม่รู้จักความอ่อนโยนบ้าง ใบหน้าครึ่งหนึ่งของโต้ซาบวมเป่งแล้ว
โจวซื่อมองไปที่ใบหน้าของโต้ซาด้วยความทุกข์ใจ ยกมือขึ้นเพื่อััมัน แต่ร่างกายของโต้ซาก็ถอยร่นไปข้างหลัง ขดตัวอยู่ด้านหลังหลินกู๋หยู่
หลินกู๋หยู่เอื้อมมือไปแตะที่ศีรษะของโต้ซา เงยหน้าขึ้นมองโจวซื่อและพูดเสียงเบา "ท่านแม่ ข้าอยากกลับไปทายาที่ใบหน้าของเขา"
โจวซื่อถอนหายใจเบาๆ ทันใดนั้นเองนางก็นึกถึงวิธีที่หลินกู๋หยู่ถีบจ้าวหยาง นางดึงมือกลับด้วยความกลัว นั่งบนเก้าอี้ข้างๆ "เอาละ เ้ากลับไปก่อนเถอะ"
หลินกู๋หยู่พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็จากไปพร้อมอุ้มโต้ซาในอ้อมแขน
เมื่อเห็นฉือหางยืนอยู่ในลานบ้าน โจวซื่อก็ถอนหายใจอีกหน “ในทุกๆ วันเ้าก็ควรใส่ใจให้มากขึ้น ใครจะรู้ว่านางก็อาจจะกลายเป็เหมือนจ้าวหยางเช่นนั้น”
"เป็ไปไม่ได้" เมื่อได้ฟังถ้อยคำพูดของโจวซื่อ ฉือหางก็จำจ้าวหยางที่ทั้งร้องไห้และข่วนที่ใบหน้าของเขาโดยสัญชาตญาณ "กู๋หยู่ไม่ใช่คนประเภทนั้น"
"เหตุการณ์ของจ้าวหยาง พวกเ้าให้ความระแวดระวังให้มาก ลูกๆ ของสกุลฉือของเราต้องไม่ให้นางเอาไปเด็ดขาด" โจวซื่อพูดด้วยใบหน้าเ็า "สภาพข้าเช่นนี้น่าจะอยู่ต่อไปอีกไม่นานแล้ว ข้าจัดการอะไรมากไม่ได้แล้ว ไม่ว่าเื่อะไร เ้าก็คิดและจัดการด้วยตัวเองเถอะ"
“ท่านแม่!” ฉือหางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำพูดของโจวซื่อ “ร่างกายของท่านยังดีมาก กู๋หยู่บอกแล้วว่าท่านจะไม่เป็อะไร”
ซ่งซื่อนั่งอยู่ข้างห้องเล็กๆ ในมือกำลังเย็บเสื้อผ้าของโจวซื่อ เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด นางก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ฉือหางปราดหนึ่ง
“เ้าก็ไว้ใจผู้หญิงคนนั้นเกินไป ถ้านางขายลูกชายเ้าขึ้นมา ถึงเวลานั้นเ้าจะร้องไห้ที่ไหนก็ไม่รู้!” โจวซื่อพูดอย่างโกรธจัด
ฉือหางขมวดคิ้วมุ่น เขาอยู่กับหลินกู๋หยู่มานาน เขาย่อมรู้ว่าหลินกู๋หยู่เป็คนเช่นไร
"กู๋หยู่ไม่ใช่อย่างที่ท่านพูด นาง..." ฉือหางอดไม่ได้ที่จะโต้แย้ง
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด ใบหน้าของโจวซื่อก็น่าเกลียดยิ่งขึ้น นางพูดอย่างโกรธๆ ว่า "เ้ามองหน้าเ้าสิว่าเปลี่ยนเป็เช่นไรแล้ว นางไม่ถามไถ่เ้าสักคำ นางแสร้งทำเป็ชอบโต้ซา กลับไปดูลูกของเ้าเถอะ!"
เมื่อได้ฟังดังนั้น พูดฉือหางพยักหน้าและจากไป
ฉือหางกลับไปที่บ้าน เห็นหลินกู๋หยู่ถือผ้าขนหนูกำลังเช็ดไปบนใบหน้าของโต้ซา
"ยังเจ็บอยู่หรือไม่?" ฉือหางเดินไปหาโต้ซา นั่งยองๆ แล้วเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของเด็กน้อย
จะไม่เป็ไรถ้าฉือหางไม่ถาม ไม่ใช่เื่เลยกว่าโต้ซาจะหยุดร้องไห้ ทันทีที่ฟังคำถามของฉือหาง เ้าหยดน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างเงียบๆ สภาพของเด็กน้อยทำให้ผู้คนที่มองรู้สึกเห็นใจอย่างมาก
หลินกู๋หยู่หันศีรษะไปมองฉือหาง และพูดอย่างโกรธๆ ว่า "ใบหน้าของเ้ากลายเป็เช่นนี้แล้ว เ้าก็ไม่รู้จักหลบหลีกบ้าง"
ฉือหางที่แตะศีรษะของตนเองอย่างทำตัวไม่ถูก ขณะที่เขา้าอธิบาย เขาก็เห็นหลินกู๋หยู่ลากโต้ซาเข้าไปในห้อง
ฉือหางลุกขึ้นอย่างลังเลก่อนจะเดินตามเข้าไปในห้อง มองสีหน้าของหลินกู๋หยู่ที่ไม่น่าดูหลายส่วน ผมเผ้าของนางยุ่งรุงรัง เขาหยิบหวีบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วเดินตามหลังหลินกู๋หยู่ "ให้ข้าช่วยหวีผมให้เ้าหรือไม่?"
“ไม่ต้องแล้ว” หลินกู๋หยู่หันไปด้านข้างเล็กน้อย ปฏิเสธฉือหางโดยไม่ลังเล
มือของฉือหางที่ถือหวีหยุดอยู่ท่ามกลางอากาศ มองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยความงงงวยเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ฉือหางมองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างละล้าละลัง โดยไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรผิด
ราวกับว่าหน้าอกถูกปิดกั้นด้วยอะไรบางอย่าง หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง จากนั้นมองไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้