เสียงโทรศัพท์สั่นครืดอยู่บนโต๊ะไม้สักตัวใหญ่ในห้องประชุมสุดหรูของโรงแรมระดับห้าดาวใจกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ เสียงที่ควรเป็เพียงสิ่งรบกวนเล็กน้อยในระหว่างการเจรจาธุรกิจ กลับดังชัดเจนราวระฆังเตือนภัยในหูของธีรัช
ชายหนุ่มเหลือบตาลงมองหน้าจอแวบหนึ่ง เลขาของเขา "อัญชลี" กำลังโทรเข้ามา
แปลก... เธอไม่เคยโทรเข้ามาในเวลาที่เขาอยู่ระหว่างประชุม ยกเว้นจะมีเื่คอขาดบาดตายเท่านั้น
ธีรัชขมวดคิ้วแน่น กดปิดสายก่อนจะหันกลับไปสนใจกับงานตรงหน้า
“คุณธีรัช ตกลงตามนี้ได้ไหมครับ?” เ้าของบริษัทชาวจีนเอ่ยถามด้วยภาษาอังกฤษสุภาพ มือผายไปทางสไลด์ข้อมูลโครงการพันล้านที่ยังเปิดค้างอยู่บนหน้าจอ
ธีรัชสูดลมหายใจลึก พยายามตั้งสติกลับมา แต่นิ้วมือกลับเคาะโต๊ะเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว... โทรศัพท์ยังคงสั่นไม่หยุด ครืด... ครืด... ครืด...
‘ใครกันแน่... โทรมารัวขนาดนี้...’ เขาขบกรามแน่น ความรำคาญเริ่มก่อตัวในอก
สุดท้าย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะกดรับสายด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
"ว่าไง?"
ปลายสายไม่ใช่เสียงรายงานธุรกิจอย่างที่เขาคิด
กลับเป็เสียงของอัญชลีที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกจนเกือบกลายเป็กรีดร้อง
"คุณธีรัช! เกิดเื่ใหญ่แล้วค่ะ!"
หัวใจของเขาเต้นกระตุกวูบ ความเย็นะเืไหลปราดขึ้นสู่สันหลัง
"เื่อะไร?" เขากัดฟันกรอด เอ่ยถามเสียงแข็ง
"คุณพิมพ์นารา... ถูกรถชน อาการสาหัส! ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียูค่ะ!"
โลกทั้งใบเหมือนหยุดหมุนทันที
เสียงพูด เสียงคนในห้องประชุม เสียงเครื่องปรับอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างจมหายลงไปในความเงียบงันที่หนาวเย็น
ธีรัชจับโทรศัพท์แน่นขึ้นจนเส้นเืที่มือปูดโปน กรามของเขากระตุก
"ว่าไงนะ... อัญชลี พูดอีกครั้ง!" น้ำเสียงเขาต่ำราวกับเสียงคำรามของสัตว์ร้าย
"รถชนแล้วหนี!" อัญชลีรีบตอบรวดเร็ว "และตำรวจเพิ่งยืนยัน... รถที่ก่อเหตุ เป็ของนายมินทร์ พี่ชายของคุณมินตรา เพื่อนเก่าที่คุณพิมพ์นาราเลิกคบไปเมื่อตอนนั้นค่ะ!"
ธีรัชกำโทรศัพท์แน่นจนแทบแตก เส้นเืบนขมับเต้นตุบๆ ดวงตาแข็งกร้าวจนแทบไม่หลงเหลือความเป็มนุษย์
"มันอยู่ไหน?" น้ำเสียงเย็นเยียบจนแม้แต่คนฟังก็หนาวสะท้านไปด้วย
"ยังไม่ทราบค่ะ แต่มีข่าวว่าเขากำลังพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ!"
ธีรัชลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้จนเสียงเสียดสีกระแทกดังสนั่น ห้องประชุมหยุดชะงัก ทุกสายตาเบนมามองเขาด้วยความตกตะลึง
"มิสเตอร์ธีรัช?" เ้าของบริษัทชาวจีนเอ่ยเรียกด้วยความใ
แต่ธีรัชไม่สนใจใครทั้งนั้น เขายกโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง
"ยกเลิกทุกอย่าง! จัดการตั๋วเครื่องบินไฟลท์เร็วที่สุด! ฉันต้องกลับเมืองไทยทันที!"
"ค่ะ! ดิฉันจะรีบจัดการให้ค่ะ!"
"แจ้งทีมกฎหมาย ประสานตำรวจ แจ้งสนามบินทุกแห่ง ถ้ามันคิดจะหนี ฉันจะลากมันกลับมารับโทษด้วยมือของตัวเอง!"
คำพูดสุดท้ายของเขาเต็มไปด้วยโทสะดิบเถื่อน ราวกับสัตว์ร้ายที่พร้อมขย้ำเหยื่อจนไม่เหลือซาก
"มันจะไม่มีวันหนีรอดไปได้!"
เสียงฝีเท้าหนักๆ กึกก้องสะท้อนก้องไปทั่วทางเดินของโรงพยาบาล ธีรัชเดินก้าวฉับๆ อย่างคนหมดความอดทน ร่างสูงสง่าของเขาแผ่รังสีดุดันจนพยาบาลที่เดินผ่านต้องรีบหลบให้เป็ทาง
“พิมพ์นาราอยู่ที่ห้องไหน?” เขาถามเสียงแข็งกับพยาบาลหน้าเคาน์เตอร์ น้ำเสียงเย็นเฉียบเสียจนหญิงสาวตัวสั่น
“หะ...ห้องพักชั้นหกค่ะ!” เธอตอบเสียงสั่น รีบก้มหน้าหลบสายตาแข็งกร้าวของเขา
ธีรัชกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว เขาออกแรงก้าวเดินเร็วขึ้น ราวกับมีไฟโหมเผาอยู่ข้างใน และเมื่อถึงชั้นหก ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับทำให้เขาแทบะเิออกมา
ตรงนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งรออยู่หน้าห้อง
มินตรา...น้องสาวของคนที่เพิ่งทำลายทุกอย่างของเขา!
ธีรัชกำหมัดแน่น ยิ่งเห็นใบหน้าซีดเผือดของมินตรา ความโกรธก็ยิ่งสุมแน่นในอกจนแทบะเิ
เธอกล้ามานั่งอยู่ที่นี่... ทั้งที่ครอบครัวของเธอทำร้ายพิมพ์นาราจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด?!
“มินตรา!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้