ก่อนหน้านี้ในมิติใต้ดินตระกูลเหลย เหลยป้าเทียนโจมตีเริ่นเสี้ยวเทียนอยู่หลายครั้ง
พลังของเริ่นเสี้ยวเทียนในตอนนั้นสู้เหลยป้าเทียนไม่ได้เลย ทว่าตอนนี้กลับต่างออกไป
เขาได้รับประโยชน์มากมายจากในสุสาน ซึ่งเป็สิ่งที่เหลยป้าเทียนมิอาจจินตนาการได้เลย
ดูผิวเผินเริ่นเสี้ยวเทียนมีพลังยุทธ์ขั้นราชันระดับต้นเท่านั้น แต่ในความเป็จริงกลับเหนือกว่านั้นมาก ดูได้จากการสังหารคนที่ลอบโจมตีเขาในกระบวนท่าเดียวก่อนหน้านี้
เหลยป้าเทียนรู้ว่าพลังของเริ่นเสี้ยวเทียนไม่ธรรมดาเหมือนกัน แต่เขายังคงเชื่อมั่นว่าจะเอาชนะเริ่นเสี้ยวเทียนได้
เพราะเขาในตอนนี้ไม่ได้ตัวคนเดียว
เขา้าทำให้อำนาจทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ยอมจำนนต่อเขาทั้งหมด
หลังจากที่พวกเขาทั้งสองทะลวงผ่านมิติไปแล้วปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเข้าใกล้กันมากแล้ว ต่างฝ่ายต่างแสดงพลังหมัดโจมตีออกไปอย่างแม่นยำ ทำให้มิติสั่นะเือย่างรุนแรง พลังแข็งแกร่งที่ปะทุออกมาทำให้ทั้งสองฝ่ายแทบจะรับมือไม่ไหว ต้องฝืนร่างยืนหยัดไว้ให้ได้
“พลังของเ้าไม่เลวเลยทีเดียว หากยอมจำนนต่อข้า ข้าจะทำให้เ้าเป็อันดับหนึ่งรองจากข้าดีไหม”
เหลยป้าเทียนมองเริ่นเสี้ยวเทียนที่อยู่ตรงหน้า แล้วเริ่มยื่นข้อเสนอ
“เ้าคู่ควรแล้วหรือ”
เริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มเย็น มืออีกข้างหนึ่งเปลี่ยนจากกำปั้นเป็ฝ่ามือ แล้วตบพลังฝ่ามือใส่หน้าของอีกฝ่าย ฝ่ามือของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง
เมื่อเห็นเริ่นเสี้ยวเทียนโจมตีกลับมา เหลยป้าเทียนไม่กล้ารีรอเคลื่อนตัวหลบหลีกทันที ในขณะเดียวกันก็ซัดพลังหมัดกลับไป แล้วทั้งสองก็เข้าปะทะกัน
ต่างคนต่างโจมตี พลังหมัดทำลายพื้นดินรอบๆ กลายเป็หลุมลึกเต็มไปหมด
การปะทะกันของขั้นราชันระดับสูง โดยเฉพาะการปะทะในระยะประชิดเช่นนี้ มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงมาก จนที่แห่งนี้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว
นอกจากการต่อสู้ของเสิ่นเสวียนและจี๋เล่อน้อยบนท้องฟ้า รวมไปถึงการต่อสู้ระหว่างาามารตะวันตกและสี่เซี่ยงกับเสอฮวาฮวาด้วยแล้ว อำนาจอื่นๆ ก็เริ่มเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
ลูกพลับที่อ่อนนุ่มจะถูกบดขยี้ก่อน อำนาจเล็กๆ จะถูกกลืนกินไปทีละน้อย ได้ผลประโยชน์เท่าไรก็เท่านั้น
ส่วนอำนาจเล็กที่เริ่มต่อสู้กันแล้วเหล่านี้ ส่วนใหญ่อัจฉริยะที่ออกมาจากสุสานจะเข้าร่วมด้วย เนื่องจากเชี่ยวชาญในการแย่งชิงของล้ำค่า
“ท่านพ่อ เป็อย่างไรบ้าง”
ซูเหยียนที่โดนเชือกัรัดอยู่กล่าวกับาามารทิศเหนือด้วยความเป็ห่วง
าามารทิศเหนือนั่งหลับตาอยู่ที่พื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
พิษบนกริชนิลนาคาเข้าสู่ร่างกายของเขาแล้ว โชคดีที่เริ่นเสี้ยวเทียนช่วยเขาได้ทัน พิษจึงยังไม่เข้าสู่อวัยวะภายใน ตอนนี้เขากำลังพยายามควบคุมพิษเ่าั้เอาไว้ ไม่ให้พิษแพร่กระจายไปรวดเร็วนัก
แต่แม้จะเป็เช่นนี้ ยังยากที่จะต้านทานพิษไม่ให้กระจายออกไปได้
ตามที่เขาคิดไว้ อย่างมากเขาคงยืนหยัดได้เพียงครึ่งเค่อ หลังจากนั้นมันจะกระจายเข้าสู่อวัยวะภายในและไม่มียาใดรักษาได้
ส่วนซูเหยียนยังมิอาจหลุดจากเชือกัได้ จึงทำได้เพียงรอเฉยๆ
ตอนนี้ความหวังของพวกเขาคือเริ่นเสี้ยวเทียน ต้องดูว่าเริ่นเสี้ยวเทียนจะเอาชนะเหลยป้าเทียนได้จริงไหม
แล้วกาลเวลาก็ผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เหลยป้าเทียนถือกริชนิลนาคาเอาไว้ กระโจนเข้าไปถึงเบื้องหน้าเริ่นเสี้ยวเทียนจากมุมหนึ่ง กริชนิลนาคาเล่มนั้นมีพลังทะลวงมิติแผ่กระจายออกมา มันพุ่งตรงไปที่คอของเริ่นเสี้ยวเทียนในทันที ตอนที่เริ่นเสี้ยวเทียนรู้ตัว กริชก็อยู่ห่างจากเขาเพียงสามชุ่นเท่านั้น
เห็นเพียงพลังน่ากลัวปะทุออกมาจากกำปั้นสองข้างของเขา เผชิญหน้ากับกริชนิลนาคาที่พุ่งเข้ามา
เขาใช้ร่างเนื้อของตนเองรับมือกับศาสตราวิเศษขั้นปฐี
ความคิดนี้กล้าหาญยิ่งนัก ทว่าต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แต่ถ้าหากไม่ทำอย่างนี้ กริชนั่นต้องเอาชีวิตเขาไปได้อย่างแน่นอน
“เฮอะ! ควรจบได้แล้ว”
เหลยป้าเทียนถือกริชไว้มั่น สีหน้าชั่วร้ายขึ้นเรื่อยๆ
หากสังหารเริ่นเสี้ยวเทียนได้ เท่ากับว่าเขาได้แก้แค้นไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนเสิ่นเสวียนก็จะโดนเขาสังหารด้วยเช่นกัน
หลังจากกล่าวจบ กริชนิลนาคาก็พุ่งเข้าใส่เริ่นเสี้ยวเทียนด้วยความเร็วสูง
การต่อสู้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
หากไม่มีตัวแปรอื่นเข้ามาแทรก เริ่นเสี้ยวเทียนไม่ตายก็คงต้องเสียมือทั้งสองข้างไป
หลังจากถือครองศาสตราวิเศษขั้นปฐีแล้ว พลังของเหลยป้าเทียนเพิ่มขึ้นกว่าระดับมาตรฐานมาก
เนื่องจากเขาสามารถทำให้าามารทิศเหนือาเ็ได้ แสดงว่าพลังต้องน่ากลัวในระดับหนึ่ง
แต่ตัวแปรกลับปรากฏขึ้นในพริบตานั้นเอง
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะัักัน พลังเย็นะเืพลันปรากฏขึ้นจากกลางอากาศทำให้ทั้งสองฝ่ายออกห่างจากกันทันที
ตึง!!!
เกิดเสียงดังกึกก้อง เหลยป้าเทียนที่ถือกริชนิลนาคาต้องถอยหลังไปสามสี่ก้าวจึงจะยืนได้อย่างมั่นคง
ส่วนเริ่นเสี้ยวเทียนแย่กว่าเล็กน้อย เขาถอยหลังไปถึงเจ็ดก้าว ดูจากจำนวนก้าวที่ถอยหลังไปแล้ว พลังของทั้งสองฝ่ายต่างกันจริงๆ
“ใครกัน! ใครให้ความกล้าเ้ามา กล้าทำลายแผนการของข้า”
เหลยป้าเทียนโดนโจมตีจนถอยหลังไปจึงบันดาลโทสะออกมา มีคนหนุนหลังอยู่อาจทำให้เขาขึ้นเป็ใหญ่ในหุบเขาสุขาวดีได้เลยทีเดียว เขาเกือบจะสังหารเริ่นเสี้ยวเทียนได้อยู่แล้ว กลับมีคนมาขัดขวางเขาไว้ เขาจะไม่โกรธแค้นได้อย่างไร แม้แต่าามารทิศเหนือเขายังกล้าโจมตี ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นที่อยู่ในบริเวณนี้เลย
“ไปเรียนรู้ที่จะไม่รักมือตนเองมาั้แ่เมื่อไรกัน”
เสียงของเสิ่นเสวียนดังเข้ามาในหูของเริ่นเสี้ยวเทียนที่กระเด็นถอยหลังไป หลังจากได้ยินเสียงของเสิ่นเสวียน เหลยป้าเทียนจึงกระตุกยิ้มมุมปากในทันที
ทว่าเริ่นเสี้ยวเทียนกลับถอนหายใจออกมา!
เดิมทีเขาคิดว่าตนเองฝึกฝนมานานขนาดนี้ น่าจะเหนือกว่าเสิ่นเสวียนไปแล้ว แต่กลับพบว่าตนเองกับเขายังมีระยะห่างที่มิอาจเติมเต็มได้อยู่ดี
“เ้าไม่ได้กำลังสู้กับจี๋เล่อน้อยอยู่หรอกหรือ”
“ผู้าุโจี๋เล่อน้อยจะเป็เหมือนข้าได้อย่างไร ท่านว่าถูกต้องไหมผู้าุโจี๋เล่อน้อย”
ร่างของเสิ่นเสวียนค่อยๆ ปรากฏขึ้นและยืนอยู่ระหว่างเหลยป้าเทียนและเริ่นเสี้ยวเทียน เขายังคงเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่เมื่อได้เห็นร่างที่ยืนตรงอย่างสง่างามกลับให้ความรู้สึกถึงความปลอดภัย!
ส่วนจี๋เล่อน้อยค่อยๆ เหาะลงไปด้านล่าง ไพล่มือสองข้างไว้ด้านหลัง แล้วมองเหลยป้าเทียนด้วยแววตาเย็นเฉียบ
แม้เดิมทีาามารทิศเหนือจะไม่ได้มีความผูกพันใดๆ กับเขา แต่ในฐานะของผู้แข็งแกร่ง เขาเกลียดอุบายคดโกงเช่นนี้ยิ่งนัก อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเขาและซูเหยียนยังเป็ไปด้วยดี เมื่อเห็นซูเหยียนโดนเชือกัรัดไว้ เขาจึงเลือกยืนอยู่ข้างเดียวกับซูเหยียนในทันที
“ฆ่าทิ้งไปเลย คนชั้นต่ำเช่นนี้ไม่มีความจำเป็ต้องไว้ชีวิต”
จี๋เล่อน้อยกล่าวเสียงเรียบ ทำให้ทุกคนที่ได้ยินตื่นใ จี๋เล่อน้อยไม่ค่อยได้กล่าวอะไรแบบนี้ เมื่อใดที่เขากล่าวออกมาว่าฆ่าทิ้งไปเลย แสดงว่าคนผู้นั้นต้องตายอย่างแน่นอน
“ในเมื่อผู้าุโกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง”
เสิ่นเสวียนยิ้มน้อยๆ ขณะที่เบนสายตามองเหลยป้าเทียนอีกครั้ง แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความสงสาร
เขารับรู้ได้ว่าอายุขัยของอีกฝ่ายสิ้นสุดลงแล้ว
“ฮ่าๆๆ ใครให้ความกล้าพวกเ้ามา เบื่อหน่ายในชีวิตกันแล้วหรือ”
ทันใดนั้นเหลยป้าเทียนที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะออกมา ยังไม่ต้องกล่าวถึงพลังเื้ัของเขาว่าน่ากลัวขนาดไหน เพียงแค่กริชนิลนาคาในมือก็ไม่ใช่สิ่งที่เสิ่นเสวียนจะเอาชนะได้แล้ว
ส่วนจี๋เล่อน้อยคิดสังหารเขาก็เป็เื่ยากเช่นกัน
นี่คือพลังที่มอบความเชื่อมั่นให้กับเขา
“รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงมาที่นี่” เสิ่นเสวียนถาม
“มาเพื่อสังหารข้า?”
เหลยป้าเทียนกล่าวด้วยความสงสัย
“ไม่ผิด สังหารเ้าคือความคิดของข้า ดังนั้นเ้าจึงต้องตาย”
เสิ่นเสวียนกล่าวจบก็ไม่กล่าวอะไรกับอีกฝ่ายอีก
ในสายตาของเขา คนตายไม่มีสิทธิ์ได้กล่าวอะไรอีกแล้ว
“สารเลว! พวกเ้าต้องหวาดกลัวหากข้าบอกถึงอำนาจเื้ัของข้า...”
สวบ!
เสียงแหวกอากาศดังขึ้นอย่างรุนแรง ร่างของเสิ่นเสวียนพลันหายไปจากตรงนั้นแล้วปรากฏขึ้นตรงหน้าของเหลยป้าเทียน
“เอ๋!!!”
เหลยป้าเทียนยังกล่าวไม่ทันจบ ร่างของเขาก็แข็งทื่ออยู่ตรงนั้นไปแล้ว
เขาก้มหน้ามองหน้าอกของตนเอง เขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์เื้ัได้ผ่านหน้าอกที่ถูกทะลวงผ่านไป
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือเื่จริง
อุตส่าห์วางแผนมานานถึงครึ่งปี เดิมทีเขาคิดสังหาราามารทั้งสองคนเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายให้ได้ปกครองหุบเขาสุขาวดี
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆ
“สาม... สอง... หนึ่ง... ล้ม”
เสิ่นเสวียนนับแค่สาม เหลยป้าเทียนไม่ทันได้กล่าวอะไรออกมา แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังสนั่น
ตายแล้ว...
ผู้แข็งแกร่งที่ดูการต่อสู้อยู่โดยรอบได้ประจักษ์แจ้ง ไม่รู้ควรกล่าวอะไรออกมา
พวกเขารู้เพียงอย่างเดียวคือ นับแต่วันนี้เป็ต้นไป ชื่อของเสิ่นเสวียนผู้โเี้จะดังกึกก้องไปทั่วทั้งหุบเขาสุขาวดี
“เยี่ยมมาก เ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”
หลังจากเงียบอยู่นาน เสียงหนึ่งพลันดังออกมาจากมิติริมทะเลสาบ