“ไอ......ซ่งจื่อเฉิน เ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้มายุ่งเื่ของพวกเรา” เมื่อซ่งจื่อเฉินจะแบ่งเงินให้ทุกคน เกาซื่อก็รู้สึกร้อนใจยิ่งนัก นางจึงถลึงตาดุร้ายมองซ่งจื่อเฉิน
“หลานสาวของข้ารักษาขาให้เ้า เ้าต้องจ่ายค่ารักษามา”
“เกาซุ่ยจู๋ เ้ามันทาสเฝ้าทรัยพ์[1] จริงๆ จื่อเฉินคือสามีของเซวียนเซวียน เ้ามีสิทธิ์อะไรถึงไปขอเงินจากเขา อีกอย่างเซวียนเซวียนมิใช่หลานสาวของเ้าเสียหน่อย เ้ามิมีสิทธิ์ยุ่งเื่ของนาง” สวี่ติ้งหรงตกตะลึงกับความไร้ยางอายของเกาซื่อ นางอายุปูนนี้แล้ว เพิ่งเคยเจอคนหน้าหนาเช่นนี้เป็หนแรก
“สวี่ติ้งหรง เ้าสารเลว หากเ้าพูดอีกหนเดียว ข้าจะตบเ้าให้ปากฉีกเลย” เกาซื่อถลกแขนเสื้อและเงื้อมมือมาจะตีสวี่ติ้งหรง เมื่อชาวบ้านเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว จึงล้อมเข้ามาเพื่อปกป้องสวี่ติ้งหรง
“คนกลับกลอกช่างกล้ายิ่งนัก พี่สาวของข้าให้เ้ามารังแกได้หรือ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงตำหนิดังมาจากนอกประตู ทุกคนจึงหันไปมองเป็ตาเดียวกัน พวกเขาพบกับบุรุษในอาภรณ์ผ้าแพรรูปงาม กิริยาท่าทางสูงสง่าผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูบ้านของสวี่ติ้งหรงพร้อมกับบ่าว ในมือของบ่าวผู้นั้นถือกล่องมาด้วยหลายใบ
จิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉินมองเพียงแวบเดียวก็จำบุรุษในอาภรณ์ผ้าแพรผู้นั้นได้ เขาคือนายอำเภอสวี่แห่งอำเภอซิ่งหยาง สวี่ติ้งผิน
“น้องผิน เ้ามาได้อย่างไร?” สวี่ติ้งหรงมองบุรุษในชุดแพรที่อยู่ตรงหน้าด้วยความงุนงง พวกชาวบ้านมิรู้เื่ที่นางรู้จักกับเขา แต่จู่ๆ เขาก็มาหานางที่บ้านเช่นนี้ หรือว่ามีธุระอะไร?
“พี่สาว วันนี้เป็วันหยุดของข้า ข้าเลยตั้งใจมาเยี่ยมท่านขอรับ” สวี่ติ้งหรงยิ้มมองลูกพี่ลูกน้องของนาง สวี่ติ้งผินตัดสินใจเปิดเผยว่าตนเองรู้จักกับญาติผู้พี่ เพราะเขาจะได้ดูแลนางให้ดีขึ้น
เกาซื่อและซย่าหลี่จวินมีสีหน้าสับสน พี่สาวหรือ บุรุษในชุดผ้าแพรผู้นี้เรียกสวี่ติ้งหรงว่าพี่สาว หรือเขาคือญาติของสวี่ติ้งหรง?
“ข้าน้อยคารวะใต้เท้านายอำเภอ” ซย่าหลี่เจิ้งเดินออกมาจากฝูงชน และคารวะสวี่ติ้งผิน
ทุกคนใเมื่อได้ยินคำว่าใต้เท้านายอำเภอ
“ใต้เท้านายอำเภอสวี่มีความสัมพันธ์อย่างไรกับอาสะใภ้เล็กกัน?เหตุใดเขาถึงเรียกนางว่าพี่สาว”
“อาสะใภ้เล็กแซ่เดียวกับใต้เท้านายอำเภอ ลำดับาุโยังรุ่นเดียวกัน หรือว่าพวกเขาจะเป็ญาติกันจริงๆ”
ชาวบ้านถกกันเสียงแ่เบา สงสัยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น?
“น้องชายคารวะพี่สาวขอรับ” นายอำเภอสวี่ทำความเคารพสวี่ติ้งหรงต่อหน้าทุกคน พวกเขาจึงใกันหมด
พวกเขารู้สึกว่าสวี่ติ้งหรงปากหนักยิ่งนัก นางมีน้องชายเป็ถึงนายอำเภอ แต่มิยอมบอกกับทุกคน
“ท่านอาสะใภ้เล็ก นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นเ้าคะ?” ใบหน้าของซย่าชุนอวิ๋นสับสนเล็กน้อย ที่แท้ท่านอาสะใภ้เล็กของนางคือพี่สาวของนายอำเภอสวี่ น่าใยิ่งนัก
“ชุนอวิ๋น ใต้เท้านายอำเภอสวี่คือลูกพี่ลูกน้องของข้า พวกเราเพิ่งได้พบกันเมื่อมิกี่วันก่อน” สวี่ติ้งหรงบอกความสัมพันธ์ของนางกับนายอำเภอสวี่กับทุกคน ผู้อื่นต่างก็ดีใจแทนนาง ยกเว้นเกาซื่อและซย่าหลี่จวิน
“พี่สาว เมื่อครู่ข้าอยู่ข้างนอก ได้ยินท่านทะเลาะกับสตรีนางนั้น นางรังแกท่านหรือ” หลังจากที่สวี่ติ้งผินทักทายสวี่ติ้งหรงเรียบร้อยแล้ว เขาก็เปลี่ยนหัวข้อไปที่เกาซื่อทันที เกาซื่อรู้สึกหวาดกลัวกับสายตาของนายอำเภอผู้นี้ยิ่งนัก
“ท่านอาสะใภ้เล็ก ท่านแม่ของข้าเลอะเลือน ทำให้ท่านมิพอใจ หลานขอโทษแทนท่านแม่ขอรับ” ซย่าหลี่จวินชิงขัดสวี่ติ้งหรงก่อน แต่สวี่ติ้งหรงมิเล่นด้วย นางบอกเล่าเื่ราวทั้งหมดกับนายอำเภอสวี่ เมื่อได้ฟังเขาก็โกรธจัด
เขาเป็ขุนนางมาหลายปี เพิ่งเคยพบกับคนกลับกลอกเช่นนี้
“ใต้เท้านายอำเภอ ข้าน้อยมิได้บังคับเซวียนเซวียน นางเต็มใจให้เงินหนึ่งพันตำลึงกับข้าเองเ้าค่ะ”
“ท่านย่า หากท่านมิบังคับ ข้าจะยอมตกลงหรือเ้าคะ?” จิ่นเซวียนพูดขัดเกาซื่อด้วยเสียงเย็นๆ นางตัดสินใจยอมรับคำแนะนำของซ่งจื่อเฉิน นางจะมิให้เงินกับคนน่ารังเกียจแม้แต่เหวินเดียว
“เกาซื่อ เ้าทำให้ซย่าซิ่วไฉขายขี้หน้ายิ่งนัก วันนี้ข้าจะลงโทษคนกลับกลอกเช่นเ้า”
นายอำเภอสวี่ปฏิบัติตนด้วยความยุติธรรมเสมอ เมื่อบังเอิญพบกับความอยุติธรรม เขาจึงต้องจัดการ ยิ่งไปกว่านั้นเื่นี้ยังเกี่ยวข้องกับพี่สาวของเขาอีกด้วย
“น้องผิน ข้าชอบเซวียนเซวียนยิ่งนัก ข้าอยากรับนางเป็ลูกบุญธรรม” สวี่ติ้งหรงยกเื่รับเลี้ยงจิ่นเซวียนขึ้นมาอีกครั้ง จิ่นเซวียนรู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก
“ท่านน้า ในปีนั้นหากมิได้พี่เนี่ยนเนี่ยน แม่ของข้าคงตายไปนานแล้ว ข้ากับท่านพ่อเองก็เห็นด้วยที่จะรับเลี้ยงเซวียนเซวียนขอรับ”
ซย่าหลี่เจ๋อนับจิ่นเซวียนเป็คนในครอบครัวจากใจจริง เขามิอาจทำใจปล่อยให้จิ่นเซวียนทนทุกข์แม้แต่นิดเดียว
“หลี่เจ๋อ เ้ากำลังจะบอกว่าเ้าจะรับเลี้ยงเซวียนเซวียนหรือ?” สวี่ติ้งผินคือนายอำเภอ เขาคุ้นเคยกับกฎหมายดี เื่รับเลี้ยงกับรับลูกมาอุปถัมภ์ มันคนละเื่กัน ลูกที่ถูกรับเลี้ยงจะมีสิทธิได้รับมรดก
“เรียนท่านน้า ข้าคิดเช่นนี้จริง ั้แ่เล็ก ข้าก็รักและเอ็นดูเซวียนเซวียนเหมือนหลานสาวแท้ๆ ข้ามิอยากให้ผู้ใดมารังแกนางขอรับ” ท่าทีของซย่าหลี่เจ๋อหนักแน่นไร้ความลังเล
“เซวียนเซวียน เ้าเต็มใจหรือไม่?” นายอำเภอสวี่ถามจิ่นเซวียนต่อ
“ข้าเต็มใจเ้าค่ะ” สวี่ติ้งหรงดีกับจิ่นเซวียนเช่นนี้ หากนางปฏิเสธน้ำใจ คงมองข้ามความหวังดีของผู้อื่นเกินไป
“เช่นนั้นข้าที่เป็นายอำเภอจะตัดสินแทนเ้าเอง จากนี้เป็ต้นไป เ้ากับครอบครัวของซย่าหลี่จวินมิมีส่วนเกี่ยวข้องกันอีก ส่วนเงินหนึ่งพันตำลึงที่ตกลงกันก่อนหน้านี้ เ้ายังต้องให้พวกเขา ถือเป็การตอบแทนบุญคุณที่ท่านปู่ซิ่วไฉเลี้ยงดูเ้ามา”
คำตัดสินของนายอำเภอสวี่ยุติธรรมยิ่งนัก ส่วนเกาซื่อเมื่อนางได้ยินว่ามีเงินหนึ่งพันตำลึงจึงโล่งใจในที่สุด
ซย่าชุนอวิ๋นอยากใช้โอกาสนี้ตัดความสัมพันธ์แม่ลูกกับเกาซื่อ นางจึงคุกเข่าลงกับพื้น และขอร้องให้นายอำเภอสวี่ช่วยตัดสินให้นาง
“น้องผิน เกาซื่อมิคู่ควรจะเป็แม่คน พี่ขอร้องเ้าให้ความเป็ธรรมกับนางด้วย” สวี่ติ้งหรงขอร้องนายอำเภอสวี่เป็หนแรก นายอำเภอสวี่ย่อมช่วยเหลือการไหว้วานนี้
“คนที่ทนแม้กระทั่งหลานสาวของตนเองมิได้ ลงมือทำร้ายนาง ช่างร้ายกาจจริงๆ ซย่าหลี่เจิ้งเื่นี้ท่านจัดการเถิด” นายอำเภอสวี่ยกอำนาจให้ซย่าหลี่เจิ้งเช่นนี้ เขาย่อมมิกล้าเข้าข้างเกาซื่อ
“เกาซื่อ ข้าให้เ้าสองทางเลือก เ้าจะขอหย่าเองหรือให้หนังสือตัดความสัมพันธ์แม่ลูกกับชุนอวิ๋น”
เกาซื่อมิอยากออกไปจากหมู่บ้านสกุลซย่า นางจึงเลือกตัดขาดกับซย่าชุนอวิ๋น
ซย่าหลี่เจิ้งขีดฆ่าชื่อของจิ่นเซวียนออกจากทะเบียนบ้านของซย่าหลี่จวิน และเขียนใหม่ลงบนทะเบียนบ้านของซย่าหลี่เจ๋อต่อหน้าทุกคน ซย่าหลี่เจ๋อให้สถานะบุตรสาวคนโตกับจิ่นเซวียน นางจึงกลายเป็ลูกเลี้ยงของซย่าหลี่เจ๋ออย่างเป็ทางการนับั้แ่นี้ไป
“เซวียนเซวียน เงินที่เ้าสัญญาว่าจะให้เล่า?” หลังเตรียมการทุกขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เกาซื่อก็เดินมาขอเงินจากจิ่นเซวียน
“ลุงหลี่จวิน นี่คือเงินหนึ่งพันตำลึง ท่านได้รับแล้ว” จิ่นเซวียนหยิบตั๋วเงินมูลค่าหนึ่งร้อยตำลึงออกมาสิบแผ่น และส่งให้ซย่าหลี่จวิน
นางมิเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำ แต่เรียกว่าลุงหลี่จวินแทน เกาซื่อเพิ่งเคยเห็นเงินมากมายเช่นนี้เป็หนแรก นางดีใจยิ่งนัก
ผู้คนชี้นิ้วนินทานาง นางก็มิคิดสนใจเลยสักนิด
ก่อนซย่าหลี่จวินจะจากไป เขาแสร้งเอ่ยกับจิ่นเซวียนว่า “เซวียนเซวียน แม้พวกเราจะมิอาจเป็พ่อลูกกันแล้ว แต่บ้านซย่ายินดีต้อนรับเ้าเสมอ”
“ในเมื่อมิเกี่ยวข้องกันแล้ว ก็มิจำเป็ต้องไปมาหาสู่กันอีก” ตีให้ตายจิ่นเซวียนก็มิมีทางกลับไปที่บ้านของพ่อเฮงซวยอีก เวลานี้นางกับเขาอย่างมากก็ถือว่าเป็คนตระกูลเดียวกันเท่านั้น
“เซวียนเซวียน เ้าโทษข้ามิได้หรอก ข้าเองก็ลำบากเช่นกัน” ซย่าหลี่จวินกล่าวทิ้งท้ายและหันหลังเดินจากไปกับแม่ของเขา
“ชุนอวิ๋น เ้าอย่าเศร้าไปเลย พวกเราทุกคนคือครอบครัวของเ้า” หลังจากที่พวกคนน่ารังเกียจจากไป สวี่ติ้งหรงก็จับมือของซย่าชุนอวิ๋นมาปลอบด้วยความสงสาร และอวยพรให้นางใช้ชีวิตของตนเองให้ดี
“ท่านอาเล็ก ข้ากับพี่จื่อเฉินคือครอบครัวของท่านตลอดไปเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนก้าวขึ้นมาโอบไหล่ของสวี่ติ้งหรงกับซย่าชุนอวิ๋น และบอกให้ซย่าชุนอวิ๋นมองโลกในแง่ดี
“เฮ้อ พวกเราลำบากเก็บความลับกันแทบตาย พวกเขากลับมาเปิดเผยเช่นนี้ ข้ารู้ผิดกับพี่เนี่ยนเนี่ยนยิ่งนัก” แม้กระทั่งเวลานี้ คนที่ซย่าชุนอวิ๋นห่วงใยยังคงเป็จิ่นเซวียน
“ท่านแม่ พวกจื่อเฉินกับท่านน้าเดินทางมาไกล กว่าจะมาถึงหมู่บ้านสกุลซย่าของพวกเรา พวกเขาต้องหิวแน่ พวกเราทำอาหารกันก่อนเถิดขอรับ” ซย่าหลี่เจ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ เตือนสวี่ติ้งหรงว่าควรเริ่มทำอาหารได้แล้ว
“หลี่เจ๋อ พี่เขยของเ้าทำอาหารเสร็จแล้ว อีกสักครู่พวกเ้าไปกินข้าวที่บ้านของข้าเถิด” ซย่าชุนอวิ๋นมาที่บ้านของสวี่ติ้งหรง เพื่อมาเรียกให้ทุกคนไปทานข้าว แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเมื่อมาถึงแล้วจะพบคนน่ารังเกียจ
“น้องผิน พวกเราก็ไปทานข้าวที่บ้านของชุนอวิ๋นกันเถิด พวกเราสองบ้านสนิทสนมดังครอบครัวเดียวกัน ทำงานและทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ มิแบ่งเขาแบ่งเรา” สวี่ติ้งหรงขอความเห็นจากนายอำเภอสวี่ก่อนตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่
เชิงอรรถ
[1] ทาสเฝ้าทรัพย์ หมายถึง คนที่ชอบเงินทองเป็ชีวิตจิตใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้