หลงอวี้ได้ยินคำพูดของอวี้สุ่ยอวิ๋น พลันนึกได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็สัตว์อสูรประเภทใดก็ตาม พวกมันล้วนมีเน่ยตานอยู่ในร่างกายทั้งสิ้น เป็อวัยวะที่ทำหน้าที่กักเก็บพลังที่ฝึกฝนบำเพ็ญพลังไว้เหมือนกับตันเถียนของผู้ฝึกยุทธ์
เพียงแต่ รูปแบบพลังที่เหล่าสัตว์อสูรฝึกฝนกับพลังที่ผู้ฝึกยุทธ์ฝึกฝนนั้นแตกต่างกัน
ผู้ฝึกยุทธ์จะทำการเปลี่ยนแปลงพลังวิเศษแห่งฟ้าดินให้กลายเป็ลมปราณแล้วกักเก็บไว้ในตันเถียนและชีพจรทั่วร่าง ซึ่งลมปราณที่ผู้ฝึกยุทธ์ฝึกฝน ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆ จะไม่สามารถดูดกลืนได้ เพราะร่างกายจะปฏิเสธไม่ยอมรับลมปราณแปลกปลอมของผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นเข้ามาในร่างกาย
แต่พลังที่สัตว์อสูรฝึกฝนขึ้นมานั้นจะถูกเรียกว่า ‘ปราณอสูร’ ผู้ฝึกยุทธ์สามารถดูดกลืนมันได้!
ด้วยเหตุนี้เอง ปกติแล้วผู้ฝึกยุทธ์จะไม่แบ่งแยกปราณอสูรกับพลังฟ้าดินออกจากกัน ขอเพียงได้เน่ยตานของสัตว์อสูรมา ก็จะสามารถดูดกลืนปราณอสูรที่อยู่ในนั้นเพิ่มระดับวิถียุทธ์ให้ตัวเองได้
แน่นอนว่า หลังจากที่สัตว์อสูรตาย ปราณอสูรที่อยู่ในเน่ยตานของพวกมันก็จะค่อยๆ สลายหายไปด้วยเช่นกัน ยิ่งเวลาผ่านไปปราณอสูรก็ยิ่งสลายหายไปมาก
เมื่อเป็เช่นนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องรีบผ่าเอาเน่ยตานออกมาทันทีหลังจากฆ่าสัตว์อสูรเสร็จใหม่ๆ ถึงจะสามารถดูดกลืนปราณอสูรมาใช้ได้มากที่สุด
งูั์สีดำทะมึนตัวนี้ถูกพลังหอกของหลงอวี้แทงใส่จนทะลุไปทั้งตัว แทบจะผ่ามันออกเป็สองท่อนแล้ว เห็นได้ชัดว่าวิทยายุทธ์เชื่อมปัญญาของหอกัปรภพ วิชาแตะเกล็ดั มันมีอานุภาพน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด!
‘เน่ยตาน อยู่ตรงบริเวณท้องของมัน อีกนิดเดียวเน่ยตานก็จะถูกแทงเละไปด้วยแล้ว...’
หลงอวี้รู้สึกยินดีในใจ รีบยื่นมือล้วงเข้าไปตรงส่วนที่ฉีกขาดของงูสมุนไพรพิสดาร
เพียงไม่นาน เน่ยตานอุ่นๆ ของงูสมุนไพรก็ถูกหลงอวี้ควักออกมา บนนั้นมีพลังประหลาดบางอย่างแผ่ออกมา นอกจากปราณอสูรแล้ว เหมือนจะมีพลังฟ้าดินที่ยังไม่ถูกดูดกลืนแฝงอยู่ภายในนั้นด้วย!
“งูตัวนี้ น่าจะไปกินสมุนไพรพิสดารบางอย่างเข้า ถึงได้สร้างิญญาแท้ขึ้นมาได้”
คำพูดของอวี้สุ่ยอวิ๋นดังมาจากทางด้านหลังของหลงอวี้ หลังจากนั้นเสียงก้าวเท้าของอีกฝ่ายก็เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“พลังฟ้าดินของสมุนไพรพิสดารนั่นเหมือนจะยังถูกดูดกลืนไม่หมด ถือว่าเ้าโชคดีมากเลยนะ เน่ยตานของงูสมุนไพรพิสดารระดับิญญาแท้ อีกทั้งยังมีพลังฟ้าดินของสมุนไพรพิสดารบางอย่างที่ยังเหลืออยู่อีกเยอะมาก น่าจะทำให้เ้าเลื่อนขั้นขึ้นได้เลยนะ!”
“ผู้าุโอวี้ ท่านรู้ไหมว่าิญญาแท้ของเ้างูตัวนี้มันคืออะไร?”
หลงอวี้เอ่ยถาม
“ข้าเองก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นพืชพันธ์ที่แปลกประหลาดขนาดนี้มาก่อนเลย แต่เ้าไม่ต้องห่วงหรอก ในเมื่อเ้างูสมุนไพรตัวนี้กินได้ ก็ไม่น่าจะเป็อันตรายอะไรกับเ้าหรอก”
อวี้สุ่ยอวิ๋นตอบ
“ขอรับ”
หลงอวี้พยักหน้า ไม่ได้ถามอีก เพียงแค่ถือเน่ยตานวิ่งเข้าไปในพุ่มไม้พุ่มหนึ่งเพื่อหาจุดซ่อนตัวที่ปลอดภัย จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิ
เขากัดกินเน่ยตานเข้าไปทันที จากนั้นก็เริ่มโคจรลมปราณภายในตัว ดูดกลืนพลังฟ้าดินและปราณอสูรที่อยู่ภายในเน่ยตานเข้าไป
ขณะเดียวกันก็ได้กระตุ้นสัญลักษณ์ัปรภพขึ้นมา เริ่มทำการกักเก็บปราณอสูรและพลังฟ้าดินที่ตัวเขาไม่สามารถดูดกลืนโดยตรงเข้าไป เมื่อรวมกับพลังฟ้าดินที่ได้จากโอสถชั้นสูงที่กักเก็บไว้ในสัญลักษณ์ก่อนหน้านี้ด้วย เขาจะสามารถทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นเก้าได้พอดี!
“น่าแปลก ทำไมยังััถึงพลังของต้นหญ้านั่นได้อยู่อีกล่ะ...”
หลงอวี้ดูดกลืนปราณอสูรและพลังฟ้าดินพลางขมวดคิ้ว
เขาััได้ว่า พลังอันแปลกประหลาดพิสดารของิญญาแท้ต้นหญ้ากำลังถูกถ่ายจากเน่ยตานเข้าไปในตัวเขาด้วย!
พลังงานอันแปลกประหลาดให้ความรู้สึกราวกันเป็บ่อโคลนก็ไม่ปาน หากปล่อยมันออกมาจะทำให้ผู้คนขยับตัวได้ยากลำบากมาก
ผลลัพธ์คล้ายคลึงกับกฎเกณฑ์แห่งการกดทับ แต่ก็มีส่วนที่แตกต่างเช่นกัน หากใช้งานได้ มันอาจจะเป็ประโยชน์ในบางสถานการณ์ก็เป็ได้
‘อย่าเพิ่งไปสนใจมันดีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องยกระดับขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นเก้าให้ได้ก่อน!’
หลงอวี้หยุดคิดเื่อื่นก่อน จากนั้นก็เริ่มโคจรลมปราณทั่วร่าง เตรียมเจาะทะลวงด่านต่อไปของเทียนม่าย
เทียนม่ายในร่างกายคนเป็ส่วนสำคัญที่เชื่อมต่อฟ้าดิน สามารถัักับกฎเกณฑ์ฟ้าดินได้
โดยเทียนม่ายจะมีด่านกั้นอยู่ทั้งหมดสี่ด่าน
ตอนที่สามารถทะลวงด่านกั้นที่หนึ่งของเทียนม่ายไปได้ จะสามารถก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นเจ็ด ปล่อยลมปราณออกนอกร่างกายได้ สามารถััถึงกฎเกณฑ์แห่งฟ้าดินได้ในขั้นต้น
และเมื่อทะลวงด่านกั้นของเทียนม่ายได้มากขึ้น ก็จะััถึงกฎเกณฑ์ฟ้าดินมากขึ้นด้วยเช่นกัน
วิถียุทธ์ขั้นเจ็ด ทำให้เทียนม่ายเชื่อมต่อกับฟ้าดินได้ประมาณหนึ่งจุด วิถียุทธ์ขั้นแปดจะเชื่อมต่อได้หนึ่งเส้น
หากสามารถเจาะทะลวงด่านกั้นที่สาม ก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นที่เก้าได้ ก็จะทำให้เทียนม่ายเชื่อมต่อกับฟ้าดินได้หนึ่งระนาบ เป็จุดสูงสุดของวิถียุทธ์เก้าขั้นแล้ว!
และถ้าหากทะลวงด่านกั้นสุดท้ายไปได้อีก จะทำให้เทียนม่ายเชื่อมต่อกับฟ้าดินได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ฝึกยุทธ์จะถูกเชื่อมเข้ากับฟ้าดินอย่างสิ้นเชิง สามารถสร้างิญญาแท้ขึ้นได้ สามารถหยิบยืมกฎเกณฑ์ฟ้าดินมาใช้งานได้มากขึ้น ก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขอบเขตระดับิญญาแท้!
หลงอวี้เริ่มดูดกลืนพลังในเน่ยตานเพื่อฝึกฝน ส่วนอวี้สุ่ยอวิ๋นนั้นก็คอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ พร้อมกับพักผ่อนไปพลาง
ผู้าุโที่ยังติดพิษอยู่ผู้นี้ แม้จะเพิ่งได้สติกลับมาไม่นาน แต่ก็ประเมินสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขาผ่านประสบการณ์การต่อสู้มามากมาย!
ตอนนี้ ตัวเขาที่สวมชุดสีดำหลับตาลงทำสมาธิ
ทันใดนั้นเอง เขาก็ััได้ว่ามีความเคลื่อนไหวในจุดที่ห่างไปไม่ไกล เขารีบลืมตาขึ้นมาทันที
“ที่แท้ก็เป็คนคุ้นเคยสองคนนี่เอง!”
อวี้สุ่ยอวิ๋นตาเป็ประกายขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า
แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่พอเน่ยตานของงูตัวนั้นตกไปอยู่ในมือของหลงอวี้แล้ว มันกลับไม่มีปราณอสูรหรือพลังฟ้าดินเล็ดลอดออกมาเลย
หลงอวี้ที่แอบอยู่ในพุ่มไม้ตอนนี้จึงแทบไม่มีทางถูกใครััได้
ส่วนตัวอวี้สุ่ยอวิ๋นที่ตันเถียนและเส้นชีพจรติดพิษ ลมปราณถูกผนึกไว้ ก็ไม่มีทางถูกใครจับััได้เช่นกัน!
ตอนนี้ ทั้งสองคนกำลังซ่อนตัวอยู่ห่างจากริมธารประมาณหนึ่ง ซากศพของงูพิสดารตนนั้นยังไม่ถูกเก็บกวาด ยังคงนอนกองอยู่ที่ริมธาร
เพียงครู่เดียว เงาร่างที่มีกลิ่นอายทรงพลังสองสายก็ได้มาถึงข้างๆ ศพงูสมุนไพรพิสดารนั่นพร้อมกัน
หนึ่งในนั้นมีสีหน้าบึ้งตึง รูปร่างที่ค่อนข้างเตี้ยแต่กำยำ เขาก็คือผู้าุโอู่เจี้ยนซินแห่งลัทธิสยบฟ้านั่นเอง!
ส่วนอีกคนหนึ่งสวมหมวกและชุดสีดำ ค่อนข้างจะสูงเลยทีเดียว แต่กลับดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็ใคร
เพียงแต่ว่า อวี้สุ่ยอวิ๋นนั้นกลับจำกลิ่นอายของคนผู้นั้นได้เป็อย่างดี!
“อู่เจี้ยนซินมันร่วมมือกับอูลี่จริงหรือเนี่ย!”
อวี้สุ่ยวิ๋นที่ัักับกลิ่นอายของทั้งสองคนนั้นได้ แอบสังเกตการณ์จากข้างๆ อย่างเงียบงัน เริ่มเคลื่อนไหวอย่างลับๆ...
“สหายอู่ เื่ราวดำเนินไปถึงไหนแล้ว ยังตามหาตาแก่น้อยอวี้ไม่เจออีกหรือ”
“ยังหาไม่เจอก็จริง แต่พวกมันไม่มีที่ใดให้หนีไปได้แล้ว ตอนนี้คนทั้งลัทธิสยบฟ้าล้วนกำลังไล่ล่าพวกมันอยู่”
“อย่างนั้นก็คือ สมุนไพรทั้งสามอย่างในหุบเขาอสรพิษเวหานี้ถูกคนของสำนักดาบสะบั้นข้าเก็บไปเกือบหมดแล้ว พอคำนวณเวลาดู ไอ้แก่น้อยอวี้ไม่มีทางได้เห็นดวงตะวันของวันที่เจ็ดแน่! ”
“แต่ว่า งูสมุนไพรั์ตัวนี้นี่มัน...”
อู่เจี้ยนซินเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นเล็กน้อย มองดูศพของงูั์ตรงหน้าครู่หนึ่ง
“งูสมุนไพรตัวนี้เหมือนจะถูกยุทธภัณฑ์อันแหลมคมชิ้นหนึ่งฆ่าตายอย่างรวดเร็ว สำนักดาบสะบั้นเราได้ส่งลูกศิษย์ระดับิญญาแท้คนหนึ่งมาที่นี่ด้วย ตอนนี้เขาได้เก็บดอกอวี้กานกลับไปแล้ว งูสมุนไพรตัวนี้คงจะถูกลูกศิษย์คนนั้นฆ่าตายระหว่างทางกลับล่ะมั้ง”
ผู้าุโอูลี่แห่งสำนักดาบสะบั้นพูดอย่างไม่ยี่หระ
“เอาล่ะ ข้าคงอยู่แถวนี้สักระยะหนึ่ง ข้าอยากเห็นไอ้แก่น้อยอวี้ถูกฆ่าตายกับตาตัวเอง ฮ่าฮ่าฮ่า...”
พวกเขาสองคนย่อมคิดไม่ถึงอยู่แล้วว่าแค่หลงอวี้คนเดียวกับอวี้สุ่ยอวิ๋นที่ติดพิษจนไม่สามารถโคจรลมปราณได้จะฆ่างูสมุนไพรั์ตัวนี้!
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย
หลังจากพูดคุยอีกพักหนึ่ง ทั้งสองคนก็ได้แยกจากกันไป ทำให้อวี้สุ่ยอวิ๋นรู้สึกโล่งอก
“ยังดีที่เ้าหนูหลงอวี้มีวิถียุทธ์ต่ำ ทำให้ไม่ตกเป็ที่สงสัย ไม่อย่างนั้นถ้าถูกพวกมันเจอตัว คงไม่มีทางหนีพ้นแน่ เพียงแต่ตอนนี้...”
อวี้สุ่ยอวิ๋นตาเป็ประกายขึ้นมา
เขากำมือขวาแน่น ในนั้นมีิญญาแท้ฝ่ามือจารึกอยู่ชิ้นหนึ่ง ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่อู่เจี้ยนซินพูดคุยกับอูลี่เมื่อครู่นี้ไว้หมดแล้ว
ขอเพียงกลับไปถึงลัทธิได้ อู่เจี้ยนซินก็จะถูกเปิดโปงความผิดทั้งหมดทันที!
ิญญาแท้ฝ่ามือจารึก เป็อีกหนึ่งความสามารถเล็กที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับิญญาแท้ใช้งานได้ สามารถใช้พลังของิญญาแท้บันทึกภาพเหตุการณ์และเสียงได้
เมื่อถึงเวลาที่จะฉายภาพเหตุการณ์ออกมาให้ผู้คนทั้งหมดได้ชมดู ก็แค่ทำลายิญญาแท้ฝ่ามือเหล็กเท่านั้น!
ภาพเหตุการณ์และบทสนทนาระหว่างอู่เจี้ยนซินและอูลี่ได้ถูกอวี้สุ่ยอวิ๋นบันทึกเอาไว้แล้ว
และตอนนี้ หลงอวี้ก็ทำการดูกลืนเน่ยตานของงูสมุนไพรจนถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว
“เทียนม่าย ด่านกั้นที่สาม จงเปิดออก!”
พลังฟ้าดินอันเข้มข้นที่กักเก็บอยู่ในสัญลักษณ์ัปรภพได้โถมกระหน่ำใส่ด่านกั้นที่สามของเทียนม่ายอย่างเดือดพล่าน จนในที่สุดก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวขึ้นแล้ว
ครั้งที่หนึ่ง!
ครั้งที่สอง!
ครั้งที่สาม!
ปราณอสูรและพลังฟ้าดินอันเข้มข้นซัดเข้าใส่ด่านกั้นอย่างต่อเนื่อง หว่างที่ซัดเข้าอยู่นั้นก็ได้แปรเปลี่ยนไปเป็ลมปราณ กลายเป็พลังส่วนหนึ่งของหลงอวี้
“เปิด!”
ในที่สุด ด่านกั้นของเทียนม่ายก็ได้ถูกเจาะทะลวงจนเปิดออกแล้ว!
หลังจากที่ด่านกั้นที่สามถูกทะลวงจนเปิดออก เขาก็พลันััได้ว่าตัวเองเชื่อมต่อกับฟ้าดินได้มากยิ่งขึ้น เหลือเพียงด่านกั้นชั้นสุดท้ายเพียงด่านเดียว
หากสามารถทะลวงด่านกั้นด่านนี้ได้อีก เขาก็จะสามารถสร้างิญญาแท้ได้ ก้าวขึ้นสู่ขอบเขตระดับิญญาแท้ เพียงแต่พลังฟ้าดินที่เก็บไว้ในสัญลักษณ์ันั้นมีไม่พอแล้ว
การจะสร้างิญญาแท้ขึ้น จำเป็ต้องใช้พลังฟ้าดินมหาศาลมากยิ่งกว่าตอนที่ใช้ยกระดับวิถียุทธ์จากขั้นหนึ่งสู่ขั้นเก้าเสียอีก อีกทั้งนอกจากพลังฟ้าดินแล้วยังต้องมีพร์และไหวพริบสูงด้วย
หากมีพร์และไหวพริบสูงไม่พอ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่มีทางสร้างิญญาแท้ได้ อย่างเช่น ปู่ทวดตระกูลถานที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของหลงอวี้ก่อนหน้านี้
“ในที่สุดก็มีวิถียุทธ์ขั้นเก้าแล้ว เน่ยตานของงูสมุนไพร ยิ่งรวมพลังฟ้าดินของต้นหญ้าพิสดารที่เหลืออยู่ในเน่ยตานด้วย ทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ธรรมดาเลย เทียบได้กับโอสถขั้นสูงสิบเม็ดเลยทีเดียว!”
หลงอวี้ลืมตาเผยแววตาเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
หลังจากเขาก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นเก้าแล้ว พลังพื้นฐานของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นเกือบสามร้อยแรงม้าพยศ
หากใช้ท่าเงาหอกกระหน่ำแทงหรือแตะเกล็ดัออกมา เพียงหอกเดียวก็สามารถปล่อยพลังโจมตีกว่าสองพันแรงม้าพยศออกไปได้เลย!
ในที่สุดตัวเขาในตอนนี้ก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นที่หนึ่งได้แล้ว
ระยะห่างด้านพลังพื้นฐานน้อยลง พลังต่อสู้ของหลงอวี้ก็เพิ่มสูงขึ้นจากก่อนหน้านี้หลายเท่าด้วย!
