"ดูจินฝูสิ ั้แ่เช้าข้าเห็นนางวิ่งไม่หยุดเลย เดี๋ยวไก่จิกแมว เดี๋ยวแมวไล่ตีไก่ ตัวนางเองยังพลอยโดนแมวกับไก่ไล่ตีไปด้วย"
ฉินเซียงเอ่ยไปพลางมองดูจินฝูที่วิ่งไล่แมวไล่ไก่อยู่ในสวนด้วยสายตาเห็นใจ ซ่งเอ๋อร์เองก็พยักหน้าเห็นด้วย
"ได้ยินนางกำนัลคนอื่นบอกว่า ท่านอ๋องทรงไม่ถือสานางจึงทำโทษให้นางมาเลี้ยงไก่เลี้ยงแมว แต่ถ้าหากนางปราบพยศเ้าสองตัวนั่นไม่ได้ นางอาจจะไร้หนทางรอด"
"เวรกรรมแท้ๆ"
ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์หันมาสบตากันคราหนึ่งพลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่โรงครัวเพื่อจะไปเอาขนมอร่อยๆมาให้จินฝูกินเพิ่มพลังในการวิ่งไล่เ้าแมวเ้าไก่สองตัวนั่น
ยามนี้จินฝูกำลังนั่งหอบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ มือหนึ่งอุ้มแมวไว้ อีกมือก็กอดไก่ ปากก็ด่าไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคิดจะสู้กันไม่หยุด นางไม่คิดเลยว่าการเลี้ยงเ้าสองตัวนี่จะยุ่งยากถึงเพียงนี้ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุพ่อบ้านตู้จึงส่งสายตาเช่นนั้นมาให้นาง
"ให้ตายเถอะ พวกเ้าเลิกตีกันเสียที ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!"
จินฝูปรารถออกมาอย่างเหนื่อยใจเดิมทีนางคิดว่าจับพวกมันแยกกันเช่นนี้ได้ผลนัก แต่เพียงไม่นานเ้าแมวก็ขู่เ้าไก่ เ้าไก่ก็จ้องพุ่งเข้าใส่เ้าแมว เสียงร้องของแมวและไก่ทำเอานางเวียนหัว เห็นชัดๆว่าเ้าแมวไม่ได้ตั้งใจกัดเ้าไก่ให้ตาย แต่การที่พวกมันหยั่งเชิงกันไปมาเช่นนี้คนที่เหนื่อยที่สุดก็คือนาง
ท้ายที่สุดเ้าแมวเ้าไก่ก็หลุดจากการควบคุมของนาง พวกมันวิ่งไล่ตีกันอย่างเอาเป็เอาตาย
จินฝูวิ่งตามพวกมันไปจนขาพันกัน นางหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกแข้งขาอ่อนแรงไปหมด จึงล้มตัวลงไปนอนหงายบนพื้นหญ้าพลางกรีดร้องออกมาสุดเสียง
ภายในเรือนใหญ่ยามนี้กู้เหยียนฉีกำลังนั่งจิบชาชั้นดีอย่างสบายอารมณ์ พร้อมกับนั่งดูนางรำร่ายรำไปด้วย ไม่นานเขาก็รู้สึกเบื่อจึงไล่พวกนางออกไปเสียแล้ว แล้วจึงหันมาเอ่ยถามพ่อบ้านตู้
“นางกำนัลผู้นั้นเป็อย่างไรบ้าง?"
พ่อบ้านตู้เทชาร้อนเพิ่มให้เ้านายพร้อมกับเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม
"นางวิ่งไล่จับเ้าแมวกับเ้าไก่จนขาพันกันไปหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้กำลังนอนกรีดร้องเป็บ้าเป็หลังอยู่ในสวน"
"ดี ข้าชอบดูนางเป็บ้า เ้าแมวส้มกับเ้าไก่ทองไม่ได้กำราบได้โดยง่าย ข้าเลี้ยงพวกมันมาตั้งนานรู้นิสัยพวกมันดีที่สุด เดิมทีข้าไม่อยากจะถือสาหาความกับความปากเสียของนาง แต่หากไม่ลงโทษคนอื่นๆจะว่าข้าลับหลังเอาได้"
“ท่านอ๋องทรงเมตตามากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
พ่อบ้านตู้ทำได้เพียงเอ่ยชมเชยยกย่อง ไม่กล้าเอ่ยวาจาขัดใจเ้านาย ทั้งที่ในใจลอบไว้อาลัยให้จินฝูไปหลายรอบแล้ว กู้เหยียนฉีปรายตามองพ่อบ้านตู้คราหนึ่ง พลางเอยถาม
"ทำไม เ้าเห็นใจนางหรือ?"
"มิกล้าพ่ะยะ่ค่ะ"
"ดี พรุ่งนี้ให้นางพักหนึ่งวัน ส่วนเ้า พรุ่งนี้ให้นางกำนัลทั้งหมดมาพบข้าที่นี่ ข้าจะเลือกพวกนางสักสองสามคนมารับใช้ในเรือนใหญ่ด้วยตนเอง"
"พ่ะย่ะค่ะ"
พ่อบ้านตู้เอ่ยรับคำ ก่อนจะออกไปจากเรือนไม่อยู่รบกวนความเงียบสงบของเ้านายอีก ส่วนกู้เหยียนฉีก็ทะยานกายออกไปทางหน้าต่าง และไปหยุดยืนอยู่บนหลังคา ดวงตาคู่คมทอดมองไปยังจินฝูที่กำลังวิ่งไล่สัตว์เลี้ยงสองตัวของเขาพล่างก่นด่าพวกมันไปด้วย ไม่นานนางก็จับพวกมันได้และทิ้งกายลงไปนอนแผ่หราบนพื้นหญ้าพร้อมกับเ้าแมวเ้าไก่
ดูหมือนว่าเ้าแมวส้มและเ้าไก่ทองจะหมดฤทธิ์เสียแล้ว มันไม่วิ่งไล่กันอีกและยังนอนซบจินฝูอย่างว่าง่าย
เป็ไปได้อย่างไรกัน เขาพยายามตั้งนานพวกมันยังไม่ยอมเลิกตีกัน แต่จินฝูกลับทำได้
ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจของเขา สตรีนางนี้น่าสนใจดี แววตาที่นางมองเขาไม่ได้มีสิ่งใดแอบแฝงนอกจากความหวาดกลัว อีกทั้งยังไม่มีการยั่วยวนให้เห็นในดวงตาคู่งาม ช่างต่างจากนางกำนัลเ่าั้ที่วันๆลอบหว่านเสน่ห์ให้เขาไม่หยุด พวกนางหมายใจจะให้เขาเด็ดบุปผาชมความงามให้ได้ ที่พวกนางทำเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีใจชอบพอในตัวเขาจริงๆ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเจี่ยงฮองเฮาสั่งมา หากทำให้เขาหลงใหลสำเร็จ นอกจากอำนาจเงินทองที่พวกนางจะได้รีบแล้ว ยังสามารถคาบความลับในจวนของเขาไปบอกกับเจี่ยงฮองเฮาได้อีกด้วย ทำเช่นนี้เท่ากับได้รางวัลสองต่อ ช่างโลภมากนัก!
เขาไม่อยากผูกพันกับสตรีนางใดทั้งสิ้น ตราบใดที่เขายังไม่อาจจัดการสะสางเื่เก่าหนหลังได้สำเร็จย่อมไม่อาจทำให้ความรักกลายเป็จุดอ่อนในชีวิตของตนเองได้
ชายหนุ่มละสายตาจากจินฝู ก่อนจะกลับไปที่เรือนของตนและไม่สนใจนางอีก
ด้านจินฝูนั้นเพราะรบกับเ้าแมวเ้าไก่สองตัวจนเหนื่อย หลังจากลับมาถึงเรือนนอนคืนนั้นก็หลับเป็ตาย กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกคราก็เป็เวลาสายของอีกวัน นางกำนัลคนอื่นๆตื่นกันหมดแล้ว ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์พยายามปลุกนางอยู่หลายรอบกว่านางจะยอมตื่น จินฝูกลัวว่าสหายทั้งสองจะเดือดร้อนไปด้วยจึงบอกให้พวกนางล่วงหน้าไปก่อนส่วนตนจะรีบตามไปทีหลัง ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์พยักหน้าอย่างจำใจ พร้อมกับเอ่ยย้ำให้จินฝูรีบตามไปโดยเร็ว จินฝูพยักหน้าและรีบจัดการตนเองทันที
เมื่อแต่งกายเรียบร้อยดีแล้วจินฝูจึงรีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะได้ตามนางกำนัลคนอื่นๆไปได้เร็วๆ ระหว่างทางนางพบกับพ่อบ้านตู้เข้าพอดี พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าเมื่อวานนี้จินฝูได้รับความลำบากมาไม่น้อยจึงไม่อยากจะตำหนินางเื่ตื่นสายอีก
"นางกำนัลจิน เ้าตื่นสายหรือ ให้ตายเถอะ วันนี้ข้าจะละเว้นเ้าสักวันก็แล้วกัน เ้ารีบไปที่เรือนใหญ่เร็วเข้า วันนี้ท่านอ๋องเรียกพวกเ้าไปพบ เพราะจะทรงคัดเลือกสาวงามเข้าไปปรนนิบัติในเรือนใหญ่ด้วยพระองค์เอง"
จินฝูเมื่อได้ยินก็ใจเต้นหวาดหวั่น ปรนนิบัติ? ปรนนิบัติที่แปลว่าต้องตกเป็ของเขาหรือ ให้ตายเถอะ!
พ่อบ้านตู้ที่เห็นว่าจินฝูเอาแต่เหม่อลอยจึงเอ่ยเรียกนางอีกหน
“นางกำนัลจิน เ้าเหม่ออันใดอยู่กัน?”
จินฝูสะดุ้งแล้วจึงรีบเอ่ยถามพ่อบ้านตู้ทันที
“พ่อบ้านตู้ ท่านอ๋องจะทรงเลือกสตรีเข้าไปปรนนิบัติจริงหรือเ้าคะ”
"ถูกต้อง สตรีที่ได้รับเลือกนับว่ามีวาสนาดี หากได้รับความโปรดปรานแน่นอนว่าจะต้องสบายไปทั้งชีวิต เ้าก็หน้าตางดงามใช้ได้อยู่นะ บางคราอาจจะถูกตาต้องใจท่านอ๋องเข้าก็ได้ แต่ขอบตาเ้าคล้ำไปเสียหน่อยี่สิคือปัญหา"
“ท่านอ๋องไม่ชอบสตรีตาคล้ำหรือเ้าคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้ายังไม่ชอบเลย”
จินฝูเมื่อได้ยินเช่นนั้นแววตาก็สว่างวาบขึ้นมาคราหนึ่ง
ที่แท้เขาชอบสตรีที่ดวงตาสว่างงดงามเหมือนดวงดาราหรอกหรือ!
"เ้ายิ้มทำไมกัน นางกำนัลจิน เ้าน่ะ หลงเสน่ห์ท่านอ๋องเข้าแล้วสินะ"
พ่อบ้านตู้เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ จินฝูที่ได้ยินอย่างนั้นก็หันมายิ้มหวานให้พ่อบ้านตู้ ก่อนจะยกสองมือขึ้นต่อยเบ้าตาตนเองทันที
ทำเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว ตานางช้ำห้อเืขนาดนี้ เขาเลือกนางไปปรนนิบัติก็แปลกคนแล้ว!
พ่อบ้านตู้ที่เห็นอย่างนั้นก็สะดุ้งโหยงก่อนจะเอ่ยถามด้วยความใ
"นางกำนัลจิน เ้าทำอันใด!"
"บำรุงดวงตาให้เปล่งประกายเ้าค่ะ"
เอ่ยจบนางก็รีบเดินจากไปทันที พ่อบ้านตู้ย่นหัวคิ้วพลางครุ่นคิด ่นี้เขาเองก็ตาฝ้าฟางเช่นเดียวกันไม่สู้ลองใช้วิธีของนางดูเสียหน่อยดีกว่า
พ่อบ้านตู้หันมองซ้ายมองขวา แล้วจึงยกกำปั้นขึ้นมาต่อยตาตนเองเช่นเดียวกับที่จินฝูทำ ชายวัยกลางคนถึงกับตาลอยเห็นดวงดาวระยิบระยับตรงหน้าขึ้นมา
ไอหยา! มันบำรุงดวงตาหรือเร่งให้ตาบอดกันแน่นางกำนัลจิน!