ตอนที่ 150 ตัดญาติ (1)
เมื่อมองดูท่าทางของพ่อแม่ รวมถึงน้องสาวและครอบครัวที่ทำราวกับตนเองเป็ขอทาน ความหวังเพียงเล็กน้อยที่เหลืออยู่ในดวงตาของอวิ๋นโส่วเย่าก็พลันหายไป
เดิมทีเขายังคิดว่า หากพ่อแม่ยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง แม้เพียงน้อยนิด เขาก็จะไม่เอ่ยปากเื่ตัดญาติเป็อันขาด ทว่า... อวิ๋นโส่วเย่ายิ้มอย่างขมขื่น รอยยิ้มนี้แฝงไปด้วยความเ็ปและความทุกข์ทรมาน ทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกเศร้าสลดไปด้วย
เช่นนี้เอง ใครก็ตามที่พบเจอเื่แบบนี้คงรู้สึกไม่ต่างกัน บุตรสาวถูกใส่ร้ายเช่นนี้ ชื่อเสียงก็เสียหาย แถมยังถูกคนอื่นถือไพ่ตายไว้ ใครก็ตามที่พบเจอเื่แบบนี้คง...
ท่านอาสามที่เป็เช่นนี้ มองดูแล้วอวิ๋นเจียวก็รู้สึกสงสารจับใจ
“โส่วเย่า เ้าอย่าใจร้อน เื่นี้ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา” เมื่อเห็นสีหน้าของอวิ๋นโส่วเย่ากับภรรยาแย่ลงเรื่อยๆ หัวหน้าตระกูลอวิ๋นจึงรีบเตือนสติ
“เ้าสาม พวกเ้าทำเกินไปแล้ว พวกเาาวบ้านจะให้บุตรสาวแต่งงาน ใครเขามอบสินเดิมถึงห้าหีบกัน ไม่ใช่ตระกูลเศรษฐีมีอันจะกินเสียหน่อย”
เถาซื่อได้ยินดังนั้นก็พึมพำ “มันไม่ใช่เศรษฐีมีอันจะกิน แล้วเ้ารองเล่า?”
อวิ๋นโส่วเย่าได้ยินดังนั้นก็โกรธจนแทบจะหัวเราะออกมา ชาวบ้านที่ยืนมุงดูอยู่รอบๆ ก็พากันหัวเราะกับคำพูดของนาง
“เหลียนเอ๋อร์เป็ลูกสาวข้า ไม่ใช่ลูกสาวของพี่รอง” ตอนนี้อวิ๋นโส่วเย่าไม่อยากแม้แต่จะเรียกนางว่าแม่
ผู้ใหญ่บ้านเองก็เอ่ยขึ้น “พวกเราทุกคนต่างก็รู้ฐานะของบ้านโส่วเย่าดี สินเดิมห้าหีบนับว่ามากเกินไปแล้ว อีกอย่าง เงินทองของโส่วจงก็เป็เื่ของโส่วจง กินข้าวในชามตัวเอง มองแต่หม้อข้าวของคนอื่น มิใช่นิสัยที่ดีนัก” นี่เป็การตำหนิเถาซื่อที่โลภมาก
เถาซื่อไม่ยอมแพ้ จึงพึมพำด้วยความไม่พอใจ “เช่นนั้นเ้าสามก็ไปขอยืมเ้ารองสิ!”
แม่แท้ๆ ช่างเป็แม่ที่หวังดีกับลูกจริงๆ!
อวิ๋นโส่วเย่าคำนับผู้ใหญ่บ้านกับหัวหน้าตระกูล “ท่านผู้ใหญ่บ้าน ท่านลุงใหญ่ วันนี้ต้องรบกวนท่านทั้งสองแล้ว จริงๆ แล้วข้ามีเื่สำคัญอยากจะรบกวนท่านทั้งสอง”
ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยขึ้น “เ้าพูดมาเถิด มีข้ากับลุงใหญ่อวิ๋นอยู่ที่นี่ จะไม่ปล่อยให้ใครรังแกพวกเ้าได้”
หัวหน้าตระกูลก็เอ่ยขึ้น “พวกเราทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเหลียนเอ๋อร์เป็คนเช่นไร เื่แบบนี้ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นหรอก ข้าเองก็เป็ญาติผู้ใหญ่ จะทนดูคนอื่นรังแกครอบครัวของเ้าไม่ได้”
ผู้เฒ่าอวิ๋นได้ยินดังนั้น ใบหน้าประเดี๋ยวเขียวคล้ำประเดี๋ยวแดงก่ำด้วยความอับอาย ส่วนเถาซื่อเองก็หน้าซีด ไม่กล้าเอ่ยคัดค้านอีก
เจียงต้าไห่เห็นว่าทั้งผู้ใหญ่บ้านและหัวหน้าตระกูลต่างก็เข้าข้างอวิ๋นโส่วเย่า จึงไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีเป้าหมายของเขาก็คือสูตรเม่าไช่ ไม่ใช่สินเดิมอะไรนั่น
“ท่านทั้งสองพูดถูกแล้ว ข้าเองก็ไม่อยากจะทำให้พี่สามลำบากใจ ในเมื่อเด็กๆ ทั้งสองคนเกิดเื่เช่นนี้ไปแล้ว งั้นเื่แต่งงานก็ต้องจัดขึ้น เอาอย่างนี้แล้วกัน สินเดิมแค่สองหีบ แต่สูตรทำเม่าไช่ต้องเอามาด้วยเช่นกัน”
แม้ว่าสินเดิมจะเป็ของฝ่ายหญิง แต่เมื่อแต่งงานเข้าบ้านสามีแล้ว ก็ถือเป็คนของตระกูลสามีแล้ว หากพวกเขา้าจะเอาสินเดิม ก็ไม่ใช่เื่ยากเย็นอะไร เมื่อคิดถึงสูตรทำเม่าไช่ที่กำลังจะได้มา เจียงต้าไห่ก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะทนไม่ไหว
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไม่พูดอะไร ผู้เฒ่าอวิ๋นจึงรีบเอ่ยปาก “เ้าสาม น้องเขยของเ้าใจกว้างมากแล้ว เ้าก็อย่าเื่มากนักเลย”
เถาซื่อรีบพูดเสริม “เื่มากหรือ เขามีสิทธิ์อะไรมาเื่มาก เหลียนเอ๋อร์มีดีอะไรให้เขาเื่มากได้หรือไง? เ้าสาม เ้าก็พอได้แล้ว อย่าได้คืบจะเอาศอก”
อวิ๋นโส่วเย่าสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “สินเดิมไม่มีหรอก สูตรนั้นก็เป็ของบ้านพี่รอง ส่วนเครื่องปรุงเม่าไช่ที่เด็กๆ เอาไปขายก็เป็คนของบ้านพี่รองที่เป็คนเคี่ยวเอง”
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนทันที “อะไรนะ? ไม่มีสินเดิม? ไม่มีสูตร? แล้วจะแต่งงานทำไม?”
สีหน้าของเจียงต้าไห่ก็เปลี่ยนไป หากไม่มีสูตร สิ่งที่เขาวางแผนไว้ก็สูญเปล่ามิใช่หรือ? แถมลูกชายเขายังถูกแทงเปล่าๆ อีก
“พี่สาม พี่รองสนิทกับท่านมาก คงไม่อยากเห็นหลานสาวต้องเป็ทุกข์หรอก ท่านไปหาพี่รอง ไปขอร้องเขา ขอให้เขายกสูตรนั้นให้เหลียนเอ๋อร์เป็ของขวัญแต่งงานเถิด”
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ก็แอบชื่นชมในใจที่เจียงต้าไห่คิดได้เร็ว ทำไมนางถึงคิดเื่นี้ไม่ออกนะ
“ใช่ๆ พี่สาม ท่านสนิทกับพี่รอง ไปขอร้องพี่รองเถิด พี่รองต้องยอมรับปากท่านแน่ เขาไม่มีทางทอดทิ้งเหลียนเอ๋อร์หรอก”
เถาซื่อรีบพูดขึ้น “เ้าสาม ยืนโง่อยู่อีกทำไม ไม่ได้ยินที่น้องสาวกับน้องเขยเ้าพูดหรือไง รีบไปหาพี่รองของเ้าเสียสิ อย่าทำลายชีวิตเหลียนเอ๋อร์!”
อวิ๋นโส่วเย่ามองพวกเขาทีละคน แต่ก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เพียงแค่เอ่ยอย่างเ็าว่า “ข้าจะตัดญาติกับพวกท่าน จะไปหาพี่รองทำไม?”
เขาไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาจ้องจะเอาสูตรเม่าไช่! เพื่อสูตรเม่าไช่เพียงอย่างเดียว ถึงกับยอมทำลายชีวิตเหลียนเอ๋อร์! นี่หรือคือพ่อแม่ของเขา น้องสาวแท้ๆ ของเขา ยังสู้พี่รองที่ไม่ได้เป็พี่น้องร่วมสายเืไม่ได้!
ไม่สิ พวกเขาจะไปเทียบกับบ้านของพี่รองได้อย่างไร? คนพวกนี้เป็พวกอกตัญญู เป็หมาป่าหิวโซ หากไม่ขูดรีดพวกเขาจนหมดเนื้อหมดตัว ก็คงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ
“อะไรนะ เ้าสาม เ้าพูดว่าอะไร?” ผู้เฒ่าอวิ๋นแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
ไม่ใช่แค่เขา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็คิดว่าตนเองหูฝาดไปแล้ว
แววตาของอวิ๋นโส่วเย่ามุ่งมั่น เอ่ยคำอย่างชัดเจนว่า “ข้าจะตัดญาติกับพวกท่าน ตัดญาติกับตระกูลอวิ๋น จากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก!”
“โส่วเย่า เื่ตัดญาติไม่ใช่เื่เล่นๆ นะ!”
“ใช่ๆ พวกเรารู้ว่าเ้าเสียใจเื่ของเหลียนเอ๋อร์ แต่เื่ตัดญาติเป็เื่ที่เ้าจะเอามาพูดเล่นได้หรือ?”
ผู้ใหญ่บ้านกับหัวหน้าตระกูลต่างก็ตกตะลึง ส่วนชาวบ้านที่ยืนมุงดูอยู่รอบๆ ก็เบิกตากว้าง มองอวิ๋นโส่วเย่าอย่างเหลือเชื่อ
ผู้เฒ่าอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออก ส่วนเถาซื่อหลังจากที่มึนงงไปครู่หนึ่ง ก็กรีดร้องแล้วพุ่งเข้าหาอวิ๋นโส่วเย่าทันที “ข้าจะตีเ้า ไอ้ลูกอกตัญญู ตัดญาติ...”
แต่มือที่เหวี่ยงขึ้นยังไม่ทันได้ตกลงมา ก็ถูกโม่ซ่านที่ก้าวเข้าไปขวางไว้ คว้าแขนของเถาซื่อเอาไว้แน่น ก่อนจะเหวี่ยงออกไปด้านข้างอย่างไม่ไยดี
หลังจากจัดการกับเถาซื่อเสร็จ โม่ซ่านก็เหลือบมองผู้เฒ่าอวิ๋นอย่างเ็า เอ่ยว่า “วันนี้การปกป้องนายท่านสามก็เป็หน้าที่ของข้าเช่นกัน”
คำพูดเพียงประโยคเดียว ก็ทำให้ผู้เฒ่าอวิ๋นเถียงไม่ออก หากเถาซื่อไม่ลงมือตีอวิ๋นโส่วเย่า นางก็ไม่ลงมือ นางเป็แค่บ่าวรับใช้ ต้องทำตามคำสั่งของเ้านายอย่างเคร่งครัด ยิ่งไปกว่านั้น เื่นี้โทษอวิ๋นเจียวไม่ได้ การที่นางสั่งให้สาวใช้ปกป้องญาติผู้ใหญ่ นับว่าไม่ผิด!
ผู้เฒ่าอวิ๋นกับเถาซื่อได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน เถาซื่ออยากจะโวยวาย แต่พอสบตากับโม่ซ่าน นางก็ตัวหดกลับไป สาวน้อยคนนี้เป็คนที่ลงมือไม่ยั้ง
เถาซื่อเป็คนที่รังแกคนในบ้านเก่ง แต่กลับขี้ขลาดตาขาว พอถูกเหวี่ยงลงพื้นเป็ครั้งที่สอง จนรู้สึกเจ็บก้น นางก็ได้แต่ทนเจ็บ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง
“เ้าสาม อย่าดื้อสิ คิดถึงเหลียนเอ๋อร์บ้าง แค่ไปขอสูตรจากพี่รองของเ้า มันยากเย็นขนาดนั้นเชียวหรือ?” กล่าวจบก็หันไปบอกเจียงต้าไห่ว่า “เื่สินเดิมลืมๆ มันไปเถอะ บ้านเ้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเงินทอง”
เจียงต้าไหรีบเอ่ยรับ “ตกลง เชื่อท่านพ่อขอรับ พี่สาม เื่สินเดิมไม่ต้องแล้ว ข้าขอแค่สูตรก็พอ ท่านกับพี่รองสนิทกัน ไปขอร้องพี่รองเถิด พี่รองต้องยอมให้ท่านแน่”
อวิ๋นโส่วเย่าไม่แม้แต่จะเหลือบมองเจียงต้าไห่ เพียงแต่พูดซ้ำอีกครั้งว่า “ข้าจะตัดญาติ!”
การตัดญาตินั้นแตกต่างจากการตัดออกจากตระกูลและการแยกบ้าน หากถูกตัดออกจากตระกูลหรือแยกบ้าน สายเืยังคงตัดกันไม่ขาด เ้าจะเป็ลูกของใครก็ยังคงเป็ลูกของคนนั้นอยู่วันยังค่ำ
แต่การตัดญาตินั้นหมายถึงการตัดญาติขาดมิตรกับพ่อแม่พี่น้อง ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ อีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ในต้าเยี่ยที่ยึดถือจารีตประเพณีอย่างเคร่งครัด ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับคำว่า ‘กตัญญู’ เป็อันดับแรก
โดยปกติแล้วการตัดญาติมักจะเป็ฝ่ายพ่อแม่ที่เป็คนเอ่ยปาก แต่หากเป็ฝ่ายลูกที่เอ่ยปากขอตัดขาดกับพ่อแม่ จะถือว่าเป็การอกตัญญูอย่างร้ายแรง
ในกฎของตระกูลอวิ๋นระบุเอาไว้ว่า หากพ่อแม่้าจะตัดขาดกับลูก ก็สามารถตัดขาดได้ทันที เพียงแค่คิดให้ดีก่อนก็พอ แต่หากเป็ฝ่ายลูกที่้าจะตัดขาดกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอันใดก็ตาม จะต้องถูกตัดมือข้างหนึ่งและขาข้างหนึ่ง ถือเป็การคืนบุญคุณที่พ่อแม่ให้กำเนิดมา