เมื่อหยางเฉินรู้เื่ทั้งหมดเขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าผู้มาเยือนเป็ใคร
ขณะนั้นเองเหล่าชายในชุดสูทสีดำหลายคนก็ออกมาจากรถเมอร์เซเดสเบนซ์ ตามมาด้วยชายวัยกลางคนหนึ่งคนและชายหนุ่มอีกหนึ่งคน
ชายวัยกลางคนอายุราวห้าสิบปีมีเส้นผมสีดำแซมขาว ทรงผมหวีเก็บขึ้นไปพร้อมทาเจลใส่ผมจนเงางามใบหน้ามีริ้วรอยแห่งวัยไม่มากนักเมื่อเทียบกับอายุของเขาดูเหมือนว่าเขาจะดูแลตัวเองเป็อย่างดี
ชายหนุ่มอีกคนสวมชุดสูทสีขาวและผูกเนกไทสีแดงพร้อมท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และรอยยิ้มเป็เอกลักษณ์ที่เจิดจรัสดั่งแสงอาทิตย์่เวลาที่ก้าวขาลงจากรถ เขาก็อยู่ข้างหลังชายชรา และให้ความเคารพเป็อย่างดี
"นั่นคือคุณพ่อของคุณงั้นหรือ?เขาดูแลตัวเองดีจริงๆ เป็ไปได้ว่าเมื่อตอนหนุ่มๆเขาอาจจะหล่อกว่าผม ดูเหมือนคุณจะมียีนที่ดีนะ"หยางเฉินชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่เดินมาทางเขา
อันซินซึ่งไม่เห็นท่าทางใของหยางเฉินแม้แต่น้อยก็เอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
"คุณยังไม่ไปอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าพ่อของฉันรู้สึกจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ"
"ผมไปแน่นอนแต่คุณพ่อของคุณอยู่ต่อหน้าผมเสียแล้ว ถ้าผมไม่ได้ทักทาย มันจะดูเหมือนกับว่าผมหนีหน้าท่าน นอกจากนี้ผมก็ไม่ชอบคำว่า ''หนี''อีกด้วย"
โดยไม่ต้องรอให้อันซินแนะนำพ่อของเธอก็มายืนตรงหน้าหยางเฉินเรียบร้อยแล้ว
"นายจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!"
"พ่อคะถ้าพ่อ้าแก้แค้นล่ะก็ มาลงที่หนูนี่ เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย"อันซินยืนข้างหน้าหยางเฉิน กันเขาจากพ่อของเธอและกล่าวอย่างใจเย็นว่า"หนูคือคนที่ล่อลวงเขาเองตอนนี้ลูกสาวของคุณ… อันซินเป็ผู้หญิงแบบนั้นไปแล้วนอกจากนี้นักข่าวหนังสือพิมพ์ต่างๆ คงจะประกาศไปทั่วแล้วว่าลูกสาวของประธานบริษัทอันไจ้ห้วนล่อลวงชายแปลกหน้าเข้าโรงแรม และแม้กระทั่งพาไปโรงแรมของคู่หมั้นเธอด้วย"
เพียะ!!!
เสียงฝ่ามือกระทบหน้าดังสนั่น
"เด็กเลว…แก… แกจะให้ฉันโกรธจนตายเลยหรือไง"อันไจ้ห้วน เบิกตากว้างไปด้วยความโกรธ ใบหน้าแดงและเสียงสั่นมือข้างขวาที่ใช้ตบยกขึ้นมาเตรียมปล่อยดอกที่สองได้ทุกเมื่อ
อันซินไม่คิดที่จะหลบเธอหัวเราะขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าหล่อนกำลังสะใจหรือว่าเสียใจกันแน่
"ถ้าพ่อยังไม่พอใจก็ตบต่อเลยค่ะพ่อเป็คนที่ทำให้ฉันมาอยู่ในจุดนี้ หนูไม่เป็อะไรหรอก"
"ทำไมแกถึงทำแบบนี้เมื่อก่อนแกไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังเลย ทำไมตอนนี้ถึง..."อันไจ้ห้วนมองลูกสาวคนเดียวของเขาด้วยสายตาผิดหวัง
อันซินมองไปที่พ่อของเธอแล้วเหลือบมองชายในชุดสูทขาว พร้อมเผยรอยยิ้มเศร้าใจ กล่าวว่า
"ใช่ค่ะเมื่อก่อนหนูเชื่อฟังพ่อมาโดยตลอดเพราะพ่อบอกว่าหนูเป็ความหวังสุดท้ายที่เหลือหลังจากที่แม่จากไป เมื่อหนูอายุเจ็ดขวบพ่ออยากให้หนูเรียนเปียโน และในหนึ่งปีหนูก็ชนะการแข่งขันทุกรายการทั้งหมดในประเทศเมื่อหนูอายุเก้าขวบ พ่ออยากให้หนูเรียนบัลเล่ต์ แล้วเมื่อหนูอายุสิบสามพ่อก็ส่งหนูไปออสเตรีย เพื่อเข้าร่วมคณะเต้นรำรัสเซีย เรียนวาดภาพ การจัดดอกไม้และเรียนทุกอย่างที่เด็กของขุนนางควรจะเรียน ตราบใดที่พ่อ้า หนูก็จะมุ่งมั่นทำมันให้สำเร็จและเมื่อพ่อเลือกไม่ได้ว่าจะให้หนูเข้าเรียนอ๊อกซฟอร์ตหรือเคมบริดจ์ดีหนูเลยทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมด จนจบปริญญาโททั้งสองมหาวิทยาลัยั้แ่เด็กเมื่อพ่อบอกว่าอย่าทำให้แม่ที่จากไปต้องผิดหวังหนูก็จะปลดปล่อยพลังระดับ 100% เพื่อทำมันให้บรรลุทันที"
"แต่..."ดวงตาของอันซินเริ่มขึ้นสีแดง และชื้นไปด้วยน้ำตารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอให้ความรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย ขณะที่เธอกล่าวว่า
"แต่แม่ก็ไม่เคยบังคับให้หนูต้องแต่งงานกับคนที่หนูไม่ชอบ!พ่อกำลังบังคับให้หนูแต่งงานกับเขา!"
พูดจบอันซินก็ชี้ไปยังชายชุดสูทขาวพร้อมด้วยรอยยิ้มเ็า และกล่าวว่า"ชายคนนี้เป็เพียงญาติของคนรักของพ่อและพ่อไม่เคยถามความรู้สึกของหนูหรือแม้กระทั่งจะถามว่า้าจะแต่งกับชายแปลกหน้าคนนี้หรือเปล่าหนูเป็ลูกแท้ๆ ของพ่อ แต่กับผู้หญิงคนหนึ่งพ่อเพิ่งรู้จักแค่สองปี พ่อกลับเชื่อฟังเธอทุกอย่างและลืมสิ่งที่หนูทำเพื่อพ่อมาทั้งหมด… และพ่อกำลังจะบอกว่าทั้งหมดนี้เพื่อแม่ที่ตายไปแล้ว!?"
"พอได้แล้ว!!!"
อันไจ้ห้วนะโออกมาเสียงดังลั่นและตามด้วยอาการไออย่างรุนแรงจนตัวโยน เขาชี้นิ้วไปที่อันซินและไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
ทันใดนั้นชายชุดสูทขาวทางด้านข้างก็ปรากฏกายออกมาพร้อมกล่าวว่า
"ไม่เป็ไรนะครับคุณลุงอันซินยังเด็กและอยู่ใน่วัยรุ่น เป็เื่ปกติที่เธอจะมีอาการต่อต้าน"
อันไจ้ห้วนได้ยินดังนั้นก็แสดงสีหน้าปลื้มปริ่มและพยักหน้าด้วยความยากลำบาก
"หลิวหยุนเป็ครอบครัวฉันเองที่ทำให้เธอลำบาก… อันซินทำให้เธอต้องเสียหน้าแล้ว"
"หนูไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นหนูไม่เคยสัญญาอะไรกับเขาเลย หนูมีสิทธิที่จะหลับนอนกับใครก็ได้ที่หนู้า"อันซินตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรง
หลิวหยุนไม่สะทกสะท้านเขาช่วยพยุงอันไจ้ห้วนขึ้นมา แล้วหันไปกล่าวกับอันซินว่า
"อันซินอย่าดื้อนักเลยเมื่อพวกเรารู้เื่นี้คุณลุงกับผมเป็ห่วงคุณมาก กลับบ้านกับพวกเราเถอะ"
"นี่เป็เื่ภายในครอบครัวคนนอกอย่ามายุ่ง" อันซินหันหัวไปทางอื่นไม่สนใจหลิวหยุน
หลิวหยุนยังคงไม่โกรธเขาเผยรอยยิ้มอันอบอุ่น
"ไม่เป็ไรครับนี่เป็เื่ของครอบครัวของคุณ แต่ในฐานะเพื่อน ผมหวังว่าพ่อลูกจะพูดคุยกันดีๆมากกว่า ผมรู้ว่าคุณไม่พอใจกับการแต่งงานของเราแม้เราจะได้รู้จักกันเป็ระยะเวลาสั้นๆแต่ความรู้สึกของผมที่มีให้คุณนั้นเป็ของจริงนับั้แ่ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณผมก็ไม่สามารถที่จะลืมคุณได้อีก โปรดให้เวลาผมเถอะหลังจากที่เราแต่งงานกันผมจะแสดงให้คุณเห็นเองว่ามันเหมาะสมที่สุดแล้วที่คุณแต่งกับผม"
"คุณบ้าหรือเปล่า!?คุณยัง้าจะแต่งงานกับฉันอีกเหรอ!?" อันซินมองหลิวหยุนอย่างไม่เชื่อสายตา
"คุณ้าที่จะแต่งงานกับหญิงสำส่อนให้คนอื่นพากันต่อว่าอย่างนั้นเหรอ เมฆาหยกคอร์ปอเรชั่นประธานบริษัทหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบ เป็โรคจิตหรือยังไงกัน?"
เมื่อหยางเฉินได้ยินเื่ราวทั้งหมดเขาไม่สามารถทำอย่างไรได้ แต่กลับรู้สึกประหลาดใจที่ชายหนุ่มหลิวหยุนเป็ทายาทของเมฆาหยกคอร์ปอเรชั่น และปีศาจน้อยอันซินนี้ผู้นี้ ต่างก็ชั่วร้ายอย่างแท้จริง เธอไม่เพียงทำลายชื่อเสียงของเธอเองเท่านั้นแต่เธอยังจะโยนะเิลูกใหญ่ใส่ครอบครัวของคู่หมั้นทำเื่ต่ำช้าอย่างนั้นในโรงแรมของคู่หมั้นหยางเฉินคิดว่าหากเขาไม่พาเธอไปยังโรงแรมนั้น เธอเองนี่แหละจะเป็คนพาเขาไปเอง
หลิวหยุนได้ยินดังนั้นก็ส่ายหัวพลางกล่าวว่า
"ผมจริงจังนะครับ"
อันไจ้ห้วนคิดว่าเมื่อเื่นี้เกิดขึ้นแผนการแต่งงานที่คิดไว้อาจสลายกลายเป็ฝุ่นแต่เขาไม่คาดคิดว่าหลิวหยุนจะเป็คนใจกว้างขนาดนี้
"หลิวหยุนเธอเป็เด็กดีจริงๆ ลูกฉันคนนี้มีตาหามีแววไม่ ไม่ได้เห็นคุณค่าของเธอเลยขนาดเื่นี้เกิดขึ้นเธอยังคงยินดีที่จะแต่งงานต่อ ฉันคิดถูกจริงๆ ที่เลือกเธออันซิน! รีบขอโทษหลิวหยุนซะ!"
อันซินได้ยินดังนั้นก็ะเิเสียงหัวเราะออกมาและหันหน้าหนีทันที
"แก..."อันไจ้ห้วน ความโกรธแค้นสูงขึ้นเป็ทวีคูณทันที "นี่แกจะฆ่าฉันให้ตายเลยหรือไง!"
ในขณะนั้นเองหยางเฉินที่ถูกเพิกเฉยก็ทนไม่ได้ จึงเอ่ยถามขึ้นว่า
"เอ่อ…ถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่นแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับวันนี้ผมสายมากแล้ว ไม่สามารถอยู่ได้นานไปกว่านี้"
มีไม่กี่คนที่จำได้ว่าตัวเอกของเื่ยังคงอยู่ตรงนี้
ต่อหน้าคนแปลกหน้าอย่างหยางเฉินที่แอบขโมยลูกสาวของเขาไป มีหรือที่คนอย่างอันไจ้ห้วนจะสามารถญาติดีกับหยางเฉินแต่ความโกรธของเขากลับกลายเป็รอยยิ้ม
"นายยัง้าที่จะไปทำงาน?นายคิดว่าหลังจากทำเื่ใหญ่ขนาดนี้แล้วจะสามารถจากไปได้โดยง่ายอย่างนั้นหรือ?"
"แล้วลุงอยากจะทำอะไรล่ะครับ?"เฉินหยางฝืนยิ้มกล่าวต่อว่า "เื่มันเกิดไปแล้วผมไม่สามารถนำความบริสุทธิ์ของลูกสาวคุณกลับมาได้ ใช่มั้ยครับ?"
"แก...ไอ้สารเลว!"อันไจ้ห้วนไม่คิดว่าหยางเฉินจะไม่กลัวซ้ำยังแสดงออกราวกับว่าเื่เหล่านี้เป็เื่ธรรมดา
ท่าทีของหลิวหยุนเปลี่ยนไปทันทีเขาหันมากล่าวกับหยางเฉินอย่างอบอุ่น
"ขอโทษนะครับขอผมทราบชื่อของคุณได้ไหม?"
"ผมหยางเฉินครับผมรู้ว่าคุณหลิ่วคงไม่ชอบใจนักที่ผมพรากความบริสุทธิ์ของคู่หมั้นคุณไปคุณจะด่าจะว่าผมอย่างไรก็ได้ ผมเข้าใจดีว่าไม่มีใครชอบหรอกหากคู่หมั้นของพวกเขาถูกทำแบบนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่ได้เป็ผู้หญิงของคุณก็ตาม"หยางเฉินพูดพลางลูบหัวตัวเอง
หลิวหยุนยังคงรักษารอยยิ้มพิมพ์ใจไว้บนใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วกล่าวว่า
"คุณหยางช่างเป็คนที่เข้าใจอะไรถ่องแท้แต่ผมนั้นไม่คิดจะแก้แค้นคุณเลย ผมเพียงหวังว่าเื่นี้จะจบลงอย่างสงบอันซินเป็คู่หมั้นของผม และผมก็รักเธออุบัติเหตุครั้งนี้เป็เพราะผมดูแลเธอไม่ดีเอง ผมไม่สามารถไปโทษใครได้ถ้าคุณหยางยินดีเราสามารถจบเื่นี้ได้อย่างราบรื่น ตราบใดที่คุณหยางไม่พูดอะไรไปและปฏิเสธถึงเื่ที่เกิดขึ้น แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว"
"ปฏิเสธ?นักข่าวต่างพากันกลับไปหมด แล้วผมจะปฏิเสธได้อย่างไร"หยางเฉินตอบ
หลิวหยุนยิ้มอย่างมั่นใจกล่าวว่า
"คุณหยางอาจยังไม่รู้แต่บริษัทสื่อภายใต้เมฆาหยกคอร์ปอเรชั่นของผมนั้นค่อนข้างมีประสิทธิภาพฉะนั้นแล้วคุณหยางไม่จำเป็ต้องกังวลว่าจะข่าวหรือภาพใดๆที่ส่งผลกระทบในเชิงลบของคุณ สิ่งที่เราต้องทำคือการปฏิเสธเื่ที่เกิดขึ้นนี้ผมขอรับประกันว่าทั้งอันซินและคุณหยางจะไม่มีปัญหาใดๆ ในอนาคต"
หยางเฉินเข้าใจสิ่งที่ประธานหนุ่มพูดเขามีความสามารถที่จะควบคุมการเป็ไปของสื่อในเมืองจงไห่ได้นั่นเอง
อันไจ้ห้วนปรบมือให้หลิวหยุนด้วยความสุข
"หลานชายหลิวหยุนเธอเป็คนดีอย่างแท้จริง ตระกูลหลิ่วแน่นอนว่าไม่สามารถเทียบกับตระกูลสามัญธรรมดาของพวกเรา หากเป็เช่นนี้ฉันก็โล่งใจแต่เมื่อมองไปที่ลูกโง่คนนี้แล้ว ถึงแม้เธอจะแต่งเข้าตระกูลหลิ่วไปแล้วแต่แน่นอนว่าเธอจะต้องพบกับความรังเกียจจากคนในตระกูล!"
"เื่นี้ไม่ต้องห่วงครับคุณลุงถ้าใครกล้าพูดถึงอันซินในทางที่ไม่ดี แน่นอนว่าผมจะปกป้องเธอให้ถึงที่สุด"หลิวหยุนกล่าวพลางมองอันซินด้วยความรักใคร่
ท่าทางของอันซินเปลี่ยนไปทันทีไม่ใช่เพราะสายตาอันลึกล้ำของหลิวหยุนแต่เป็เพราะวิธีการของหลิวหยุนที่ทำให้เธอจนปัญญา ตามแผนการที่วางไว้ของเธอคือการใช้สื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ และทำให้งานแต่งต้องล้มเลิก
ตอนนี้ความหวังเดียวของเธอคือต้องให้หยางเฉินเลือกที่จะไม่ปฏิเสธเื่นี้และยอมรับอย่างตรงไปตรงมา นั่นถึงจะสามารถทำให้เลือกทั้งหมดที่เธอทำไม่สูญเปล่าเพราะคำพูดที่ออกมาจากผู้ก่อเหตุย่อมต้องน่าเชื่อถือที่สุด!
แต่ถ้าหยางเฉินพูดความจริงว่าจะหมายความว่าเขาจะต้องแบกรับชื่อเสียงที่ไม่ดีซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาโดยตรง...
ใครกันที่จะยอมแบกรับเื่แบบนี้!?
อันซินหน้าซีดเผือดเธอหันไปมองหยางเฉินที่ยังคงเงียบ ผู้ซึ่งเอาความบริสุทธิ์ของเธอไปเขาจะยังคงอัศวินผู้กล้าหาญของเธอและช่วยเธอจากสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้หรือไม่?
ทันใดนั้นหยางเฉินก็หยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเลิกคิ้วและจุดไฟ จากนั้นพ่นควันออกมาดั่งเช่นเกษตรกรที่มาจากบ้านนอกดูแล้วช่างแตกต่างจากหลิวหยุนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ
หลิวหยุนยังคงมีรอยยิ้มที่มั่นใจราวกับว่านี่คือลักษณะตามธรรมชาติของชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าหยางเฉินยังคงนิ่งเงียบราวกับกำลังพิจารณาถึงบางสิ่ง เขาไม่ได้กังวลใดๆพร้อมกล่าวว่า
"คุณหยางรู้สึกว่านี่เป็เื่ยากที่จะทำใช่มั้ยครับถ้าหากคุณหยางไม่ว่าอะไร ผมยินดีจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับคุณตราบใดที่คุณหยางช่วยปิดปากเงียบ และปกป้องทั้งคุณและชื่อเสียงของคู่หมั้นของผมเท่านั้นก็เพียงพอ..."
"ไม่ต้อง"หยางเฉินโบกมือพลางเป่าควันออกมาเขาขมวดคิ้วมองไปที่อันซินด้วยสีหน้ายุ่งยาก แล้วยิ้มให้หลิวหยุนที่ทำท่าทางราวกับว่าสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง
"ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งผมไม่คิดว่าตัวเองเป็คนดี และไม่คิดว่าตัวเองเป็คนขี้ขลาดแต่ถ้าจะให้บอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากทำเื่แบบนั้นกับผู้หญิงไปแล้วผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้