จวบจนกระทั่งหลินฟูเหรินผู้เฒ่าเดินเข้ามาอู๋กงกงจึงได้สติขึ้น
เขารีบร้อนเผยยิ้มออกมา “หลินฟูเหรินผู้เฒ่า เป็เื่ที่น่ายินดียิ่งนัก! ซูไท่อีกำลังพยายามเดินทางมาอย่างเต็มที่ ท่านโปรดดูแลท่านแม่ทัพเฉิงให้ดี เหล่านู๋จักต้องส่งสารมอบไปยังฮ๋องเต้เสียก่อน ฮ่องเต้จะได้ไม่มีใจพะวง!”
“ให้ฮ่องเต้ทรงกังวลเสียแล้ว พระองค์ทรงดูแลเช่นนี้ ขอให้ท่านกงกงโปรดคารวะแสดงความขอบพระทัยแทนข้าด้วย”
“เหล่านู๋ [1] จะนำคำของฟูเหรินส่งถึงอย่างแน่นอน”
อู๋กงกงรีบร้อนจะจากไป ทว่าเมื่อไปถึงหน้าประตูกลับหันไปมองที่กูเฟยเยี่ยน เมื่อกูเฟยเยี่ยนหันไปสบตา เขาก็รีบหันหน้าหนีแล้วเดินจากไป
กูเฟยเยี่ยนยิ่งรู้สึกว่าอู๋กงกงผู้นี้มีบางอย่างผิดปกติ
ั้แ่ที่ซูไท่อีออกใบสั่งยา ใบสั่งยาจะถูกส่งมาที่ห้องยาสำนักหมอหลวง และห้องยาสำนักหมอหลวงก็จะจัดเตรียมยา ในกระบวนการทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็ใบสั่งยาหรือยาสมุนไพรล้วนต้องผ่านมือขันทีทั้งสิ้น หาก้าขโมยแก้ไขใบสั่งยาจริงๆ แล้วก็ไม่ยากเลย
ด้วยคุณงามความดีและอำนาจการทหารของตระกูลเฉิง ฮ่องเต้แม้มีความระแวดระวัง ทว่าไม่น่าจะเป็ไปได้ที่จะลงมืออย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาณาจักรเทียนเหยียนก่อตั้งได้เพียงเก้าปี รากฐานยังไม่มั่นคง เป็โอกาสในการใช้คน! เพียงแต่นอกจากฮ่องเต้แล้วผู้ที่สามารถเรียกใช้อู๋กงกงบ่าวรับใช้าุโผู้นี้ได้ภายในพระราชวังดูท่าว่าคงมีไม่กี่คน?
กูเฟยเยี่ยนกำลังพิจารณาใคร่ครวญ หลินฟูเหรินผู้เฒ่าก็ได้เดินเข้ามา นางไม่แม้แต่จะเรียกกูเฟยเยี่ยนว่า “นังหนู” แต่เรียกว่า “สาวน้อย” แทน
“สาวน้อย เ้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร อยู่ภายใต้การทำงานของอาจารย์แพทย์ท่านใด? ”
ในขณะที่นางมาถึงนางได้รายงานชื่อเสียงเรียงนามแล้ว แต่ดูท่าว่าหลินฟูเหรินผู้เฒ่าคงไม่ได้สังเกต นางจึงตอบกลับไปว่า “หม่อมฉันกูเฟยเยี่ยน เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็แพทย์หญิง ยังไม่ได้รับการแบ่งงานจากอาจารย์แพทย์ท่านใดเ้าค่ะ”
ผู้ใดจะไปรู้จู่ๆ สีหน้าของหลินฟูเหรินผู้เฒ่าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “กูเฟยเยี่ยน? ครอบครัวเ้าคือเ้าเมืองทางด้านเขตแดนตะวันออกผู้นั้น…ตระกูลกูผู้ที่หมั้นหมายกับแม่ทัพฉี? เป็เ้าหรือ…? ”
การหมั้นหมาย!?
เพื่อที่จะช่วยชีวิตคน กูเฟยเยี่ยนจึงลืมเลือนเื่นี้ไปเสียสนิท ในตอนนี้ถึงจะนึกขึ้นได้
เ้าของร่างเดิมนั้นมีการหมั้นหมายจริงๆ คู่หมั้นคือท่านชายของท่านแม่ทัพตระกูลฉี ฉีอวี้
ตระกูลกูและตระกูลฉีเดิมทีล้วนเป็ตระกูลที่เก่งกาจทางด้านวรยุทธ์แห่งดินแดนเสวียนคง เป็พันธมิตรกันมารุ่นต่อรุ่น แต่เมื่อสิบปีที่แล้วในแวดวงของผู้ฝึกวรยุทธ์ของดินแดนเสวียนคงพบเจอกับมหันตภัย ครอบครัวตระกูลกูตกต่ำลง ตระกูลฉีผูกสัมพันธไมตรีต่อราชวงศ์จวิน ก่อตั้งกองกำลังทหาร กลายมาเป็หนึ่งในสองกองกำลังผู้ก่อตั้งอาณาจักรเทียนเหยียน
ความสามารถของทั้งสองตระกูลเกิดความแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ครอบครัวตระกูลฉีไม่เพียงแต่ไม่มองตระกูลกูอยู่ในสายตาแล้ว ยังยึกยักไม่ยอมแต่งงาน ไม่ยอมรับการหมั้นหมาย
กูเฟยเยี่ยนมองไปที่ใบหน้าโกรธแค้นของหลินฟูเหรินผู้เฒ่าก็เข้าใจได้คร่าวๆ ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
นางคิดว่าผู้ที่ขโมยปรับแก้ไขใบสั่งยา้าให้นางผู้ที่เป็คู่หมั้นตระกูลฉี กลายเป็แพะรับบาปอย่างแน่นอน
ตระกูลเฉิงและตระกูลฉีมีความเกลียดชังแค้นเคืองกันเป็อย่างยิ่ง!
ตระกูลเฉิงควบคุมทหารม้า ตระกูลฉีควบคุมทหารราบ ตระกูลเฉิงควบคุมค่ายทหารนครบาลเขตแดนตะวันออก ตระกูลฉีควบคุมค่ายทหารนครบาลเขตแดนตะวันตก
สองตระกูลนี้กลายมาเป็แขนซ้ายและขวาขององค์ฮ่องเต้เทียนเหยียน ฐานะเท่าเทียมกัน ฝีมือไล่เลี่ยกัน สามปีที่ผ่านมาแม่ทัพตระกูลฉี ฉีซื่อิตัดสินใจผิดพลาดที่ไม่ส่งกองกำลังทหารออกมา ส่งผลให้แม่ทัพเฉิงผู้เฒ่าเสียชีวิตในสนามรบ ทุกคนล้วนคิดว่าฉีซื่อินั้นเจตนา มีเพียงแต่ฮ่องเต้ที่ทรงไม่เชื่อและลงโทษเพื่อเป็การตักเตือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ั้แ่นั้นมาตระกูลเฉิงก็จดจำความแค้นต่อตระกูลฉี แม้กระทั่งทหารทั้งกองทัพของตระกูลเฉิงก็ล้วนเกลียดตระกูลฉี
กูเฟยเยี่ยนยิ่งคิดมากเพียงใดแผ่นหลังก็เย็นสะท้านมากขึ้นเท่านั้น
นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดผู้ร้ายจึง้าโยนความผิดมาไว้ที่นาง ผู้เป็เพียงแพทย์หญิงตัวเล็กๆ ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ตระกูลฉี สมเหตุสมผลเป็อย่างมากในการเจตนาก่ออาชญากรรม!
ความรับผิดชอบนี้ใหญ่โตมโหฬาร!
“หึ ที่แท้เ้าก็คือคู่หมั้นของฉีอวี้? คิดไม่ถึงเอาเสียเลย!”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าขัดจังหวะอารมณ์ความคิดกูเฟยเยี่ยน น้ำเสียงเปลี่ยนไปเป็โหดร้าย ว่าที่ลูกสะใภ้ของศัตรูช่วยชีวิตลูกชายตนเอง ในสายตาของนาง เหตุนี้เป็ความอัปยศเป็อย่างยิ่ง ดังนั้นจึงลบล้างจิตสำนึกในบุญคุณที่มีต่อกูเฟยเยี่ยนออกไปได้อย่างง่ายดาย
นางหมุนกาย ไม่แม้แต่จะมองกูเฟยเยี่ยนอีก น้ำเสียงเย็นเฉียบ “ใครก็ได้ ปูนบำเหน็จหนึ่งร้อยเหรียญทองให้นางแล้วให้นางรีบไสหัวออกไปให้พ้น!”
ภายในใจกูเฟยเยี่ยนรับรู้ว่าตระกูลเฉิงมีความเกลียดแค้นอย่างฝังลึกต่อตระกูลกูจึงเกียจคร้านเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียง ใครจะไปรู้ว่าหลินฟูเหรินผู้เฒ่าจะนำเหรียญทองที่ได้รับมาจากหญิงรับใช้ โยนมาทางใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนอย่างเหี้ยมโหด
กูเฟยเยี่ยนรีบร้อนหลบหลีก เฉียดไปเพียงแค่นิดเดียวก็จะโดนเข้าเต็มๆ หลินฟูเหรินผู้เฒ่ายังไม่ยอมเลิกรา ประณามด้วยความโกรธ “หยิบเงินแล้วไสหัวไป! ค่ายทหารตระกูลเฉิงของพวกเราไม่มีที่ให้คนตระกูลฉียืน!”
กูเฟยเยี่ยนสุดที่จะอดทนได้ นางโกรธเป็อย่างยิ่ง!
—————————
[1] เหล่านู๋ หมายถึง คำที่บ่าวชราใช้เรียกตนเอง