ก้อนถ่านร้อนฉ่าลวกิับางเป็ที่เรียบร้อยแล้วถ้าหากกระชากออกมากะทันหันจะทำให้หลินจงอวี้เ็ปเสมือนหัวใจถูกฉีกขาด
น้าจิ่นเยว่รีบรวบรวมสติสัมปชัญญะ มิรู้ว่าไปหยิบน้ำเย็นมาจากที่ใดนางสาดลงไปั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า ก้อนถ่านสีดำถมึงทึงจึงกลายเป็สีขาวและร่วงหล่นจากร่างหลินจงอวี้
“เสี่ยวอวี้ เสี่ยวอวี้ ตื่นเร็วเข้า! อดทนไว้!”หลินเมิ้งหยาประคองหลินจงอวี้ด้วยความระมัดระวังแผ่นหลังของเขาจะต้องถูกก้อนถ่านลวกจนปวดแสบปวดร้อนอย่างแน่นอน หากไม่จัดการให้ดีแล้วละก็มันอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิต!
ความเ็ปแสนสาหัสทำให้หลินจงอวี้สลบไป
หลินเมิ้งหยาประคองร่างเด็กหนุ่มเอาไว้ในอ้อมกอด ชั่วเวลาบางเศษเสี้ยววินาทีนางรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะสูญเสียเขาไป
ไม่! ไม่มีทาง!
นางมีความรู้ความสามารถทางด้านการแพทย์นางจะช่วยชีวิตของเสี่ยวอวี้เอาไว้ให้ได้!
“พวกเรารีบไปร้านขายยากัน าแของเสี่ยวอวี้จะต้องได้รับการรักษาโดยด่วนป๋ายจื่อ น้าจิ่นเยว่ พวกเ้าจะต้องดึงสติกลับมาให้ดีกว่านี้!”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดในครั้งนี้หลินเมิ้งหยากล้าฟันธงเลยว่าอีกฝ่าย้าทำร้ายนางอย่างแน่นอน
ความโกรธปะทุขึ้นในหัวใจ ใครที่กล้าทำร้ายคนของนางนาง...จะไม่มีวันให้อภัย!
หลินเมิ้งหยาอุ้มหลินจงอวี้ที่อยู่ในอ้อมกอด นางรีบร้องะโพร้อมทั้งพุ่งตัวเข้าไปที่ประตูของร้านขายยา
“โธ่ นี่พวกเ้า...” เ้าของร้านขายยามองดูคนทั้งสี่ ขณะที่คิดจะรั้งเอาไว้เขากลับถูกหลินเมิ้งหยาผลักตัวออกไป
คนทั้งสี่ตรงหน้าดูเป็คนมีฐานะโดยเฉพาะหญิงสาวที่ผลักเขาออกเมื่อครู่ นางมีท่าทางร้อนรนทว่าใบหน้าของนางกลับงดงาม เพียงแต่...สายตาที่มองมาทางเขากลับเจือไว้ซึ่งความเ็าเขารู้สึกหนาวเหน็บไปจนถึงกระดูกสันหลัง
“เถ้าแก่ รบกวนเตรียมมีดให้ข้าหน่อย น้าจิ่นเยว่ข้า้าผ้าสะอาดขนาดใหญ่ ป๋ายจื่อ เ้าไปเตรียมแท่นสะอาดขนาดใหญ่เอาไว้ให้ข้าเร็วเข้า!”
ทุกคนรีบเร่งเข้าไปหาของตามที่หลินเมิ้งหยาสั่ง
นางวางร่างของเสี่ยวอวี้ลงบนเตียง ตัดเสื้อผ้าของเขาออกิัแห้งผอมบางติดกระดูกในเวลานี้ฉีกขาดเพราะถูกถ่านร้อนฉ่านาบร่าง
ร่องรอยาแเผยให้เห็นสีดำแดงของเืและเนื้อหลินเมิ้งหยากัดริมฝีปากล่างเพราะความเ็ปที่หัวใจ ไม่ นางจะต้องสงบนิ่ง!
“เถ้าแก่ ข้า้าิหรูเซียง เซิงสื่อเกา ตี้หยูท่านจีจื่อป๋าย น้ำมันหมู พิมเสน จากนั้นเอาชวนซินเหลียนต้มน้ำ ข้าจะทำการฆ่าเชื้อให้กับเสี่ยวอวี้!”
หลินเมิ้งหยาเรียนสาขาการแพทย์มานานกว่าห้าปี นางยังคงจดจำคำพูดในชั่วโมงเรียนการผ่าตัดครั้งแรกของอาจารย์ได้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนเป็หมอจะต้องสงบนิ่งจึงจะสามารถช่วยชีวิตคนไข้ได้
ทุกคนทำได้เพียงยืนมองนางล้างแผลให้กับหลินจงอวี้อย่างมีลำดับขั้นตอนจากนั้นนางจึงทายาให้กับเขา
“พระชายา! พวกท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่!” ทันทีที่รักษาาแจนเสร็จร่างของพ่อบ้านเติ้งพลันปรากฏอยู่ที่หน้าประตูร้าน
เขาที่เพิ่งจะเดินจากไปจู่ๆ ก็ได้ยินว่าเกิดเื่ขึ้นที่รถม้าแต่เมื่อกลับมาถึง เขาพบว่ารถม้าถูกทำลายจนเหลือเพียงเศษไม้แล้ว
ทว่าเขากลับติดอยู่ในกลุ่มฝูงชน ดังนั้นจึงไม่อาจตามมาได้ทัน
เขาคิดจะเร่งรุดไปที่หยาหางแต่กลับเห็นสีหน้ากระวนกระวายของป๋ายจื่ออยู่ด้านหน้าร้านเขาจึงรู้ว่าพระชายาอยู่ในร้านยาแห่งนี้
“ข้าไม่เป็ไร แต่เสี่ยวอวี้ได้รับาเ็ตอนนี้ข้าอยากรีบพาเขากลับไปยังตำหนักโดยเร็วที่สุด จะช้าไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว!”
ภายในร้านขายยาขนาดเล็ก หลินเมิ้งหยายืนอยู่หน้าเตียงของเสี่ยวอวี้ั์ตาเผยให้เห็นความเ็า
พ่อบ้านเติ้งเตรียมการเอาไว้แล้วไม่นานรถม้าของตำหนักก็จอดลงที่ประตูหน้าร้านขายยา
บนถนนในเวลานี้กลับมาเป็ปกติแล้ว
แม้จะมีผู้คนขวักไขว่อยู่ทางด้านนอกทว่ากลับไม่มีใครกล้าขวางทางรถม้า การเดินทางปลอดโปร่ง ไม่ล่าช้าเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีไม่นานก็กลับมาถึงตำหนัก
ทันทีที่เสี่ยวอวี้ถึงตำหนักหมอประจำตำหนักรีบพาตัวเขาไปรักษาทันที โชคดีที่ตัวเองช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ทันอีกทั้งยังใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นาแของเสี่ยวอวี้จึงไม่สาหัสมากกว่าเดิม
หลินเมิ้งหยานั่งอยู่ภายในห้องของตนเองทว่านางกลับไม่จุดไฟหรือทำให้เกิดแสงสว่างใดๆ
ใครกัน?ใครที่สามารถลงมือโดยไร้ร่องรอยกลางถนนเช่นนั้น อีกทั้งยังคิดจะใช้ก้อนถ่านเ่าั้ทำร้ายตนเอง
มือ...กำก้อนถ่านที่แอบหยิบกลับมาเมื่อตอนกลางวันเอาไว้แน่น
ถ่านก้อนนี้...ดูเหมือนจะไม่ใช่ของที่หาได้ทั่วไป
“ใครก็ได้เข้ามาที ไปตามคนดูแลถ่านหินใน่ฤดูหนาวมาพบข้า!” ด้านนอกบ่าวเฝ้าหน้าประตูรีบออกคำสั่ง
เวลาเพียงครึ่งถ้วยชาผู้ควบคุมดูแลถ่านคุกเข่าลงภายในตำหนักชิงหลาน
“ที่ข้าเรียกเ้ามาในวันนี้ ก็เพราะข้าอยากให้เ้าดูหน่อยว่าถ่านก้อนนี้แตกต่างอะไรจากถ่านทั่วไป”แสงเทียนในห้องถูกจุดจนสว่างหลังจากที่บ่าวรับใช้ได้เห็นใบหน้างดงามประหนึ่งนางฟ้าของพระชายาแล้ว อยู่ๆ เขาก็รู้สึกหนาวเหน็บ
ดวงตาของหลินเมิ้งหยาแฝงไว้ซึ่งความอาฆาต
คนคนนั้น หากนางจับตัวมาได้แล้วละก็ จะต้องชดใช้เป็สิบเท่า!
“ทูลพระชายาถ่านก้อนนี้เหมือนถ่านหยินเซียงที่ผลิตในเยว่โจวพ่ะย่ะค่ะ”
“โอ้?เ้าลองบอกข้าทีสิว่ามีตรงไหนที่แตกต่างถ่านทั่วไป?” คิ้วเลิกสูงขึ้นนาง...ทายถูกซินะ
เหตุเพราะอยู่กับบรรดาถ่านที่เป็เชื้อเพลิงทุกวันดังนั้นบ่าวผู้นั้นจึงมีความรู้กว่าคนทั่วไป
“ถ่านหยินเซียงที่ผลิตในเยว่โจวจะใช้ไม้ป๋ายเซียงในการเผาไม่เหมือนกับถ่านทั่วไป ไม้ป๋ายเซียงค่อนข้างแข็งและต้องใช้ไฟค่อนข้างแรงดังนั้นเมื่อเผาออกมาเป็ถ่านแล้วจึงมีลักษณะแข็งกว่าถ่านทั่วไปอีกอย่างหลังจากเผาแล้วจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เฉพาะตัว แต่ถึงกระนั้นระยะการเผาไหม้ของถ่านชนิดนี้ยังนานกว่าถ่านชนิดอื่นอีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดเขม่าควัน ดังนั้นบรรดาคุณหนูจึงชอบนำมาใช้แทนกำยานทว่าราคาของถ่านชนิดนี้เองก็แพงเอาเื่ ที่เมืองหลวงแห่งนี้นอกจากในพระราชวังแล้ว ก็มีเพียงห้าหกตระกูลเท่านั้นที่ใช้มัน”
คำพูดของบ่าวคนนั้นทำให้หลินเมิ้งหยารู้สึกงงงวย
หากอ้างอิงจากตามคำพูดนั่นหมายความว่าถ่านราคาแพงเช่นนี้มีเพียงคุณหนูในตระกูลชั้นสูงใช้เท่านั้นทว่าตนเองไม่เคยออกไปเดินเพ่นพ่านที่ไหนแล้วตนเองจะไปสร้างความแค้นเคืองให้ใครได้กัน?
สมองพลันปรากฏแสงประกายบางอย่าง หรือจะเป็...นาง?
แต่ก็ยังผิดปกติอยู่ดี ในเวลานั้นมีเพียงรถม้าของตนเองผู้เดียว
เด็กคนนั้นเป็คนหยิ่งยโสไม่มีทางเลยที่นางจะยอมอยู่ปะปนกับชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แล้วตกลงถ่านเหล่านี้มาจากที่ใดกันแน่?
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว แม่นมหยู รางวัล”
หลินเมิ้งหยาห่อก้อนถ่านขนาดเล็กเอาไว้ในผ้าเช็ดหน้า นางรู้แล้วว่าต่อให้รีบร้อนไปก็ไม่ช่วยอะไร
คนคนนั้นทำร้ายนางครั้งแรกไม่สำเร็จ จักต้องมีครั้งที่สองอย่างแน่นอน
ดูท่าแล้วมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะจับตัวบงการได้ภายใต้แสงเทียน ั์ตาของหลินเมิ้งหยาพลันเผยให้เห็นความกระวนกระวาย
ภายในห้องอ่านหนังสือที่อยู่ไม่ไกล หลงเทียนอวี้สวมใส่ชุดฝึกวิทยายุทธ์แม้จะเป็ชุดที่ดูเรียบง่าย แต่กลับไม่ทำให้สง่าราศีของเขาเสื่อมลง
คิ้วของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย ภายในห้องมีเพียงความเงียบงันไม่มีใครอาจล่วงรู้ความคิดอ่านของเขาได้
“ตรวจสอบชัดเจนหรือยังว่าผู้ใดเป็คนบงการสร้างความวุ่นวายบนถนนในครั้งนี้?” ตอนบ่าย เย่เข้ามารายงานเขาเื่บนถนนวันนี้แล้ว
หากไม่ใช่เพราะหลินจงอวี้ยอมสละตนเพื่อช่วยหลินเมิ้งหยาแล้วละก็เกรงว่าคนที่ิัมอดไหม้เสียหายจะกลายเป็ผู้หญิงคนนั้นแทน
“ยังพ่ะย่ะค่ะ เื่ราวในครานี้แปลกประหลาดยิ่งนัก ข้าน้อยไร้ความสามารถท่านอ๋องได้โปรดลงโทษข้าน้อยด้วย!” พ่อบ้านเติ้งคุกเข่าอยู่บนพื้นเพื่อรอรับโทษทัณฑ์
“ลุกขึ้นเถิด ข้าไม่โทษเ้าหรอกแต่เ้าหาเบาะแสไม่ได้เลยแม้แต่น้อยจริงหรือ?” แม้หลินเมิ้งหยาจะเป็เพียงเครื่องมือสำหรับเขา
อีกทั้งความเป็ความตายของนางยังไม่เกี่ยวกับเขา
แต่ว่า...คนที่กล้าลงมืออุกอาจทำร้ายนางกลางถนนเช่นนั้นก็มิต่างอะไรจากการยั่วยุเขาผู้นี้
คนที่เข้ามายั่วยุเขา แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพบจุดจบที่สวยงาม
พ่อบ้านเติ้งครุ่นคิด ก่อนตอบได้เพียง “ตอนนั้นมีชาวบ้านอยู่มากมายข้าน้อยไปถึงหลังจากที่เกิดเื่ขึ้นกับพระชายาแล้ว เบาะแสถูกทำลายข้าน้อยจึงไม่อาจมั่นใจได้พ่ะย่ะค่ะ”
หลงเทียนอวี้พยักหน้าลง พ่อบ้านเติ้งเป็คนน่าเชื่อถือหากแม้แต่เขาเองก็พูดเช่นนี้ ดูท่าแล้วคนที่้าทำร้ายหลินเมิ้งหยาตอนนี้คงหลบอยู่ในเงามืดและกำลังรอที่จะเคลื่อนไหวต่อไปแน่
“เสริมกำลังคุ้มครองพระชายา แต่อย่าได้เผยตัว อีกอย่าง หากพบใครน่าสงสัยจะต้องจับมาไต่สวนให้หมด เปิ่นหวัง1จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเป็ครั้งที่สองเข้าใจแล้วหรือไม่?”
รถม้าของตำหนักถูกทำลายบนถนน แม้แต่พระชายายังถูกปองร้ายดูท่าว่าฝูหยิน2ของเมืองหลวงจะอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่านี้แล้ว!
แต่การออกไปนอกบ้านของหลินเมิ้งหยาในวันนี้เป็เื่ที่แทบจะเป็ไปไม่ได้คนกลุ่มนั้นรู้ได้อย่างไรว่านางจะไปยังเส้นทางไหน?
หรือว่า...ภายในตำหนักของเขาจะมีคนสอดแนม?
เมื่อคิดได้ดังนี้ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่น หากเป็เช่นนั้นจริงเกรงว่าตำหนักของเขาจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ความหม่นหมองปรากฏขึ้นภายในดวงตาของหลงเทียนอวี้ หากภายในตำหนักอวี้แห่งนี้มีคนสอดแนมจริงๆแล้วละก็ เขาจะกระชากคนคนนั้นออกมา จากนั้นก็กำจัดทิ้งเสีย
แผนการในครั้งนี้จำเป็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้หญิงคนนั้น
เขาลุกขึ้นแล้วออกจากห้องอ่านหนังสือไปหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่โง่!
ตำหนักทางทิศตะวันออกของตำหนักชิงหลาน หลินเมิ้งหยายกชามซุปไก่ร้อนๆเข้ามานั่งลงข้างเตียงของหลินจงอวี้แล้วป้อนเขา
่เวลาพลบค่ำ หลินจงอวี้เริ่มมีไข้
แม้จะรู้ว่านี่เป็เื่ปกติ ทว่านางอดไม่ได้ที่จะเ็ปใจ
“พี่สาว...ข้าเจ็บเหลือเกิน...”หลินจงอวี้ที่เพิ่งตื่นขึ้นหลังจากสลบไปกะพริบตาปริบๆั์ตาของเขาแทบจะไร้ซึ่งชีวิตชีวา
ช่างเป็เด็กดีอะไรเช่นนี้ อยู่ๆ หลินเมิ้งหยาก็รู้สึกแสบร้อนที่จมูกอีกทั้งยังมิอาจห้ามความเปียกชื้นที่ขอบตา
“เด็กโง่ ทำไมต้องรับถ่านร้อนๆ นั้นแทนข้า?เ้ารู้หรือไม่ว่าหากถ่านแม้แต่ก้อนเดียวโดนใบหน้าของเ้าเ้าจะกลายเป็คนอัปลักษณ์ไปชั่วกัปชั่วกัลป์!”
นางหยิกใบหน้าเรียวเล็กของเด็กหนุ่มทว่าหัวใจกำลังรู้สึกซาบซึ้งเกินพรรณนา
เขาพยายามเงยหน้าขึ้นทว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายกลับกระทบไปที่าแบริเวณหลังแต่ถึงอย่างนั้นหลินจงอวี้ก็ยังพยายามใช้สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ใจจ้องมองไปทางหลินเมิ้งหยา
“พี่สาวเป็คนช่วยชีวิตข้า ถ้าไม่มีพี่สาว ก็ไม่มีเสี่ยวอวี้ แม้เสี่ยวอวี้จะต้องตายแต่ก็ต้องปกป้องพี่สาวเอาไว้ให้ได้” แม้เสียงที่ส่งออกมาจะนุ่มนวลทว่าน้ำเสียงกลับเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
หลินเมิ้งหยาลูบไล้ศีรษะของเด็กหนุ่ม นางรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในหัวใจ
******************************
1 เปิ่นหวังคือคำแสดงตัวขององค์ชาย
2 ฝูหยินคือข้าหลวงบริหารงานระดับจังหวัด