การเปลี่ยนแปลงท่าทีของหยางเฉินในครั้งนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
จ้าวหงเยี่ยนรู้สึกว่าบั้นท้ายของเธอถูกโอบด้วยมือที่เร่าร้อนมือหนานั้นเคล้าคลึงบั้นท้ายได้รูปเธอด้วยความพอใจพร้อมหยิกเนื้อนิ่มของเธออีกหลายครั้งนั่นทำให้จ้าวหงเยี่ยนรู้สึกอับอายเป็อย่างมากเธอถึงกับเข่าอ่อนหมดแรงลงอย่างน่าประหลาด และไม่อาจต้านทานใดๆ ได้
รอบๆ เต็มไปด้วยพนักงานจากอวี้เหล่ยมีทั้งสามีและน้องสะใภ้ของเธออยู่ข้างหน้า แต่ชายคนนี้ยังจะจับก้นเธอสิ่งที่แย่ไปมากกว่านั้นคือ เธอไม่มีกำลังจะต่อต้านหรือปฏิเสธใดๆ
จ้าวหงเยี่ยนรู้สึกว่าหัวใจของเธอะโขึ้นมาถึงลำคอมันเป็การกระตุ้นที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าการนั่งรถไฟเหาะเสียอีก เธอกลัวว่าจะมีบางคนที่อยู่รอบๆสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่เธอก็ยังคงรู้สึกสนุกกับมันและอยากจะ...
เมื่อคนคนหนึ่งนั้นถลำลึกไปไกลเกินกว่าที่หัวใจจะรับไว้ พวกเขามักจะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาในเวลานี้หัวใจของจ้าวหงเยี่ยนรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธการกระทำของหยางเฉินได้เลยเพราะ่ล่างของเธอเริ่มรู้สึกชุ่มชื่น...
เป็ไปได้ไหมว่า ที่จริงแล้วเธอเป็ผู้หญิงหลายใจ?
จ้าวหงเยี่ยนดำดิ่งสู่ในห้วงความคิดจนลืมฉากที่น่าอึดอัดใจตรงหน้า
หยูฮุยเห็นผู้หญิงที่เขา้าอยู่ในอ้อมแขนของหยางเฉินและกระทั่งก้นของเธอยังถูกัั เขารู้สึกโกรธเคืองมากจนกัดฟันแน่นและบอกกับพี่ชายโง่เง่าของเขา หยูกวง
“พี่สิ่งที่ชายคนนี้ทำมันเป็การดูถูกพี่ การดูถูกพี่ก็เหมือนดูถูกตระกูลหยูของเราพวกเราไม่สามารถปล่อยเื่นี้ไปได้เด็ดขาด”
หยูกวงโกรธมากกับความไร้มารยาทของหยางเฉินก่อนหน้านี้ยิ่งหยูกวงได้ยินคำอธิบายของน้องชายตนเองเขาก็ถูกครอบงำด้วยความโกรธเกลียดอย่างง่ายดาย “หยางเฉิน แก้ายั่วโทสะตระกูลหยูของเรางั้นหรือ”
“แล้วจะทำไมล่ะ?”
“ไหนแกลองพูดอีกครั้งสิ...แล้วแกจะได้รู้ผลที่ตามมา” หยูกวงถลึงตาถาม
หยางเฉินี้เีคุยต่อเขายิ้มแล้วเหยียดมืออีกข้างเพื่อไปหยิกคางที่ขาวนุ่มของจ้าวหงเยี่ยน
จ้าวหงเยี่ยนยันคงอยู่ในภาวะมึนงงเธอไม่อาจเข้าใจการกระทำนี้ของหยางเฉิน และไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เธออนุญาตให้หยางเฉินทำอะไรก็ได้ที่คางของเธอ ศีรษะของเธอเงยขึ้นเล็กน้อย และใบหน้างดงามของเธอเผชิญหน้ากับหยางเฉินเธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาเพ้อฝัน แต่ใครจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
แต่ทันใดนั้นเองทุกคนก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นหยางเฉินก้มลงจูบจ้าวหงเยี่ยนอย่างไร้ซึ่งความลังเล
ไม่ว่าจะเป็พี่น้องตระกูลหยู หรือพนักงานในบริษัทเมื่อพวกเขาเห็นหยางเฉินจูบกับจ้าวหงเยี่ยน ริมฝีปากของพวกเขาเคลื่อนไหวเล็กน้อยทุกคนข้างนิ่งอึ้งกับฉากการจูบที่เร่าร้อนรุนแรงนี้
ความคิดของจ้าวหงเยี่ยนว่างเปล่าในขณะที่หยางเฉินจูบเธอ ลมหายใจหอบถี่ที่รุนแรงของเขาเหมือนกับสายฟ้าที่แทรกเข้ามาจนจิตใจของเธอหมุนคว้างล่องลอย
เขาจูบฉัน เขากำลังจูบฉัน เขาจูบฉันแล้ว
เมื่อสติสัมปชัญญะของเธอได้พังทลายลงจ้าวหงเยี่ยนไม่เพียงไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้ ก่อนที่เธอจะรู้ตัวหยางเฉินก็รุกล้ำเข้ามาที่ริมฝีปากของเธอพร้อมชอนไชลิ้นอุ่นร้อนเข้ามาในริมฝีปากสีหวาน
ลิ้นของพวกเขาพัวพันจนเกิดเสียงอันเร่าร้อนและเซ็กซี่โรแมนติกผู้คนรอบข้างรู้สึกเหมือนตนเองกำลังชมการแสดงที่น่าประทับใจบนเวทีใหญ่พวกเขาเริ่มส่งเสียงชื่นชม และให้กำลังใจพวกเขาทั้งคู่
หยูกวงและหยูฮุยสองพี่น้องมีใบหน้าที่หม่นหมองและซีดเผือด พวกเขายืนนิ่งด้วยความตกตะลึงอยู่ตรงนั้นพร้อมกับปากที่อ้าค้าง
ผ่านไปสักพัก หยางเฉินก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกจากเธอปลดปล่อยเพื่อนร่วมงานของเขาที่หอบหายใจอย่างหนักออกมาอย่างงดงาม
จ้าวหงเยี่ยนยังไม่รู้สึกตัวในทันทีเธอยังคงมองไปที่หยางเฉินด้วยปากที่เผยอออกเล็กน้อยความงามสง่าน่าหลงใหลของเธอทำให้เพื่อนร่วมงานมากมายอิจฉาหยางเฉินมากขึ้น
“ฉัน… ฉัน…ฉัน้าพบหัวหน้าของพวกแก ผู้นำของอวี้เหล่ย ตอนนี้ฉัน้าให้คนเลวที่ทำเื่น่าอับอาย และหยาบช้านี้ถูกไล่ออกจากที่นี่และถูกจับขังอยู่ในคุก” หยูกวงคำรามออกมาด้วยความโกรธเส้นเืบนใบหน้าของเขาปูดบวมออกมา เมื่อเขาชี้นิ้วไปที่หยางเฉินด้วยตัวสั่นเทา
“ใคร้าพบฉัน...”
มีเสียงดังขึ้นในทันทีทันใดพนักงานทุกคนของอวี้เหล่ยต่างแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาและพวกเขาหันกลับไปมองผู้มาเยือนที่กำลังเดินเข้ามาอย่างสุภาพ
หลินรั่วซีผู้สวมชุดเดรสสีดำเดินเข้ามาพร้อมเลขานุการของเธออู๋เยวี่ยและผู้บริหารอีกหลายคน เธอก้าวเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงสีเทาเงินด้วยท่วงท่าสง่างามและไร้อารมณ์ เหมือนกับนางฟ้าที่ไม่ได้แปดเปื้อนสิ่งใด
“สวัสดีครับ/ค่ะ บอสหลิน”
เหล่าพนักงานต้อนรับต่างกล่าวคำทักทายพร้อมโค้งคำนับพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงชื่อเสียงของหลินรั่วซีว่ามีความน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
หลินรั่วซีใช้สายตาเ็ากวาดมองพวกเขา “ฉันไม่ได้จ่ายเงินพวกคุณเพื่อให้พวกคุณมาเดินเอ้อระเหยแบบนี้”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมาพวกเขาเหมือนถูกกระตุ้นจนต้องเพ่นหนีไปทุกทิศทาง บางกลุ่มเบียดกันขึ้นลิฟต์ บางคนวิ่งลงบันได หากไม่เป็เช่นนั้นพวกเขาก็พยายามออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้ ในสายตาพวกเขาหลินรั่วซีแม้จะเป็ผู้หญิงที่งดงาม แต่ความงดงามนี้ก็อาจเป็ปีศาจร้ายได้เช่นกัน
พี่น้องตระกูลหยูรู้สึกใกับการปรากฏตัวของหลินรั่วซีพวกเขาไม่เคยคิดว่าซีอีโอของบริษัทั์ใหญ่จะเป็หญิงสาวคนนี้นอกจากนี้ความเยือกเย็นดุจน้ำแข็งทำให้พวกเขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงไปเลยทีเดียว
จ้าวหงเยี่ยนที่อยู่ในอ้อมแขนของหยางเฉินกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งในทันทีหลังจากที่เธอมองเห็นสายตาที่มองมาโดยบังเอิญของหลินรั่วซีมันเหมือนกับว่าร่างกายของเธอถูกไฟช็อต เธอหลุดจากอ้อมแขนของหยางเฉินก้มศีรษะลงซ่อนใบหน้าเขินอาย ทั้งหมดที่เธอ้าคือหนีออกไปจากตรงนี้แต่ขาของเธอกลับควบคุมไม่ได้ดั่งใจเอาตอนนี้
ดวงตาที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยน้ำตาเธอหันไปหาหยางเฉินเงียบๆ ผู้ชายคนนี้ทำให้ชีวิตของเธอน่าสังเวชแต่เธอไม่สามารถแสดงความโกรธกับเขาได้ เธอรู้สึกเหมือนใกล้จะเป็บ้าเข้าไปทุกที...
หยางเฉินยิ้มอย่างขมขื่นและยืนลูบจมูกตัวเองโดยไม่พูดอะไร ความตั้งใจเดิมของเขาคือการทำให้แผนของพี่น้องตระกูลหยูยุ่งเหยิงและความคิดนั้นก็ปลิวไปเพราะการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของหลินรั่วซี สิ่งต่างๆพลันเลวร้ายลงไปอีกเมื่อหลินรั่วซีแผ่รังสีอาฆาตออกมาดูเหมือนว่าเธอจะเห็นการจูบที่ร้อนแรงของเขากับจ้าวหงเยี่ยนเข้าให้แล้ว
ต่อหน้าภรรยาของเขา มิหนำซ้ำภายในบริษัทของภรรยาของเขาการจูบเพื่อนร่วมงานของเขา ถ้าภรรยาของเขาเป็คนอื่นไม่ใช่หลินรั่วซีผู้หญิงคนนั้นคงเข้ามาฉีกเขาออกเป็ชิ้นๆ ด้วยฟันและเล็บของเธอเรียบร้อยไปแล้ว
“ฉันเป็ประธานผู้จัดการและซีอีโอของอวี้เหล่ยชื่อหลินรั่วซี มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ยคะ?” หลินรั่วซีแค่มองไปที่หยางเฉินครู่หนึ่งจากนั้นก็เมินเขาและหันไปถามพี่น้องตระกูลหยู
ในที่สุดหยูกวงกลับมามีสติเขาฝืนยืนขึ้นอย่างยากลำบาก
“ผมคือหัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสาร GuangHua Daily และ Righteous Magazine และเป็ลูกชายคนโตของตระกูลหยูชื่อหยูกวง คนนี้คือน้องชายของผมหยูฮุย บริษัทของคุณมีผู้ชายคนหนึ่งชื่อหยางเฉินเขาเป็ชู้กับภรรยาของผม จ้าวหงเยี่ยน เขาทำสิ่งที่เลวทรามในที่สาธารณะสิ่งที่ไม่ว่ามนุษย์หรือเทพก็ต้องโกรธแค้น ในฐานะซีอีโอของบริษัทผมเชื่อว่าคุณหลิน ควรไล่พวกเขาออกทั้งคู่”
ชู้? หลินรั่วซีมองหยางเฉินด้วยแววตาสงสัยจากนั้นสายตาของเธอก็มาหยุดอยู่ที่จ้าวหงเยี่ยนครู่หนึ่งเธอรู้สึกว่าจ้าวหงเยี่ยนคนนี้เป็ผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่งผู้ชายคนนี้มาตรฐานสูงเหลือเกินเมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วร่างกายของหลินรั่วซีก็พลันหมดเรี่ยวแรง
ถึงแม้ว่าฉันจะรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้เ้าชู้ไปเรื่อยแต่ผู้หญิงคนนี้มีสามีแล้ว เขาถึงขนาดควบคุมตนเองไม่ได้เชียวหรือ?
ก่อนหน้านี้เธอและผู้บริหารระดับสูงหลายคนได้เข้ามาตรวจสอบภายในบริษัทและพบเื่พวกนี้แม้ว่าเธอ้าหลบเลี่ยงมัน แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป
หลินรั่วซีรู้สึกโกรธและขมขื่นกลับกลายเป็ว่าตัวเธอเองที่เป็คนตั้งกฎเกณฑ์ที่ไม่ให้เป็การรบกวนชีวิตส่วนตัวผู้อื่นแถมเธอเองก็ไม่ได้ทำหน้าที่ของภรรยาอย่างเต็มที่เธอจึงไม่ได้เข้าไปควบคุมชีวิตของหยางเฉินในส่วนนี้เธอเพียงปิดตาข้างหนึ่งสำหรับการกระทำของเขา แม้ว่าเธอจะโกรธ เธอก็ทำได้เพียงเก็บมันเอาไว้
หลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างหลินรั่วซีก็ส่งข้อความไปถามอู๋เยวี่ยด้วยการรัวนิ้วลงไปบนแป้นพิมพ์มือถือโดยความเร็วปานสายฟ้าฟาด
“เลขาอู๋ในบริษัทของเรามีกฎห้ามไม่ให้พนักงานมีความสัมพันธ์ต่อกันหรือไม่?”
“ไม่มีกฎดังกล่าวในข้อห้ามค่ะบอส”อู๋เยวี่ยตอบตรงไปตรงมา
“ฉันต้องขอโทษด้วยเื่นี้ไม่ใช่ธุระของฉัน นี่ถือเป็เื่ระหว่างพนักงานกรุณาจัดการกันเป็การส่วนตัวด้วยค่ะ” พูดจบหลินรั่วซีก็เตรียมตัวจากไปทันที
หยูกวงไม่ยอมให้เื่นี้จบลงเช่นนี้แน่? เขารู้ว่าคำตอบของหลินรั่วซีเป็เหมือนโล่ปกป้องหยางเฉินและจ้าวหงเยี่ยนดังนั้นเขาจึงกล่าวออกมาด้วยความเดือดดาลว่า
“คุณหลิน คุณมันไร้ความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าผู้ประกอบการ คุณควรรับผิดชอบต่อสังคมเมื่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามศีลธรรมเกิดขึ้นเช่นนี้ คุณควรตัดสินอย่างเด็ดขาดถ้าคุณไม่ทำอะไรสักอย่าง และปล่อยพวกเขาลอยนวลผมจะเขียนในนิตยสารของผมว่าบริษัทของคุณมีวัฒนธรรมในองค์กรที่เลวทรามอย่างแน่นอนผมจะให้ประกาศทั้งโลกได้รู้ว่าอวี้เหล่ยสนับสนุนให้คนเป็ชู้กัน”
ใบหน้างดงามแต่เต็มไปด้วยความเ็าของหลินรั่วซีหันกลับไปมองเขา “คุณหยูไม่ทราบว่าคำพูดที่คุณกล่าวมา ฉันจะถือว่าเป็การข่มขู่อย่างหนึ่งได้หรือไม่?”
“ถ้าคุณหลินยืนกรานจะมองมันเป็แบบนั้น”หยูกวงรู้สึกพึงพอใจเป็อย่างมาก เขาเชื่อว่าหลินรั่วซีกลัวจริงๆในตอนนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทั์ใหญ่แบบนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการเสียชื่อเสียง
หลินรั่วซีหันไปหาอู๋เยวี่ยที่อยู่ระหว่างการค้นหาบางอย่างในทันที
“อู๋เยวี่ย หาเสร็จหรือยัง?”
"บอสค่ะ ตามข้อมูลแล้ว GuanghuaDaily และ Righteous Magazine เป็สิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับการเมืองซึ่งดำเนินการมามากกว่า 30 ปี ก่อตั้งโดยตระกูลหยูเนื้อหาที่ตีพิมพ์หลักถูกกำกับดูแลโดยจีนตอนใต้โดยตรง แบรนด์นี้มีมูลค่าทั้งสิ้น 5.65ล้านดอลลาร์หยวน ทรัพย์สินของตระกูลหยูประมาณการแล้วมีทั้งสิ้น 12ล้านดอลลาร์หยวนค่ะ” อู๋เยวี่ยเป็เหมือนกับระบบเอไอที่ประมวลผลอย่างรวดเร็วเธอเข้าใจบุคลิกของหลินรั่วซีและเตรียมการเอาไว้ั้แ่ต้นดังนั้นเธอจึงสามารถรายงานข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
หลินรั่วซีพยักหน้าเธอส่งสัญญาณให้อู๋เยวี่ยด้วยมือที่ขาวผ่องและสมส่วน
อู๋เยวี่ยสามารถเข้าใจความหมายของหลินรั่วซีทันทีเธอดึงเอาสมุดเช็คออกมากระเป๋าเอกสาร และวางมันไว้บนมือของหลินรั่วซี
พี่น้องตระกูลหยูไม่รู้ว่าหลินรั่วซีกำลังทำอะไรแต่พวกเขารู้สึกประสาทเสียไม่ใช่น้อย แม้ในความเป็จริงแล้วเื่นี้จะดูไร้สาระหญิงสาวที่งดงามผู้นี้เอาแต่เงียบมาตลอดแต่ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาสองคนรู้สึกกลัว
จ้าวหงเยี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่เดิมเธอก็รู้สึกกังวลอยู่แล้วว่าเพราะเื่ของตัวเองอาจส่งผลหยางเฉินถูกไล่ออกตอนนี้ดูเหมือนซีอีโอจะไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นเธอมองไปที่หยางเฉินที่ยืนเคียงข้างเธออย่างห่วงใยและก็ต้องรู้สึกประหลาดเมื่อเห็นว่าคนข้างๆ ยังคงมีรอยยิ้มที่ปราศจากความกังวลบนใบหน้าโอ้พระเ้า หน้าเขาจะหนาเกินไปมั้ย?
เวลานี้ หลินรั่วซีเขียนเช็คเสร็จแล้วเธอฉีกมันออกและยื่นส่วนที่เหลือให้อู๋เยวี่ย
“เช็คธนาคารสวิสนี้มาจากบัญชีส่วนตัวของฉันมันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการเงินของบริษัท สกุลเงินคือดอลลาร์หยวน และมีมูลค่า20ล้าน 4ล้านคือส่วนที่เกินจากมูลค่าของสิ่งพิมพ์ทั้งหมดและสินทรัพย์ของตระกูลรวมกันมันสามารถเบิกและถอนจากสาขาของธนาคารสวิส
ถ้าคุณหยูตั้งใจจะรายงานเื่ในวันนี้ฉันก็ไม่คิดจะไปเป็ศัตรูกับพวกคุณ ฉันจะซื้อบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์เ่าั้ แม้ว่าเราจะจัดการดูแลแค่สิ่งพิมพ์เกี่ยวกับแฟชั่นเท่านั้นแต่บริษัทของฉันก็มีสินทรัพย์มากกว่า 9 หมื่นล้านมันไม่ใช่เื่ยากที่จะให้มีบริษัทนิตยสารการเมืองอีกสักแห่งอยู่ภายใต้การดูแลของเราอย่าสงสัยการแก้ปัญหาของฉัน ต่อหน้าเงินทุนที่มีสิทธิ์ขาด โอกาสการชนะของคุณก็เท่ากับศูนย์”
เมื่อพูดจบหลินรั่วซีส่งเช็คให้กับอู๋เยวี่ยที่ยืนอยู่ข้างเธอ
“เลขาอู๋ถ้าคุณเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มไม่เข้าท่า ก็ใช้วิธีนั้นตามที่ฉันได้พูดไว้นะ”
“ได้ค่ะบอส” อู๋เยวี่ยเก็บเช็คจำนวน20 ล้านดอลลาร์หยวนลงกระเป๋าเอกสารด้วยท่าทีสบายใจ
ทั้งหยูกวงและน้องชายต่างหน้าซีดกันไปตามๆ กันขาของพวกเขาสั่นเทาอย่างไร้เหตุผลขณะที่พวกเขามองไปที่หลินรั่วซีที่จากไปพร้อมกับคณะบริหารอย่างหมดหนทางถ้าบริษัทของพวกเขาถูกซื้อไปจริงๆ ต่อให้พวกเขามีเงินพวกเขาก็ไม่สามารถสร้างนิตยสารที่มีชื่อเสียงภายในไม่กี่ปีเช่นนี้ได้อีกหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นแล้วพวกเขาจะใช้จ่ายกันอย่างล้างผลาญโดยไม่มีรายได้ได้อย่างไรพวกเขาไม่กล้าคิดถึงผลที่จะตามมาอย่างแน่นอน
ขณะที่ทุกคนคิดว่าเื่นี้ดำเนินมาถึงตอนจบอู๋เยวี่ยที่เดินตามหลินรั่วซีโดยเว้นระยะห่างเล็กน้อย ก็หันหลังเดินกลับมาหาหยางเฉินและจ้าวหงเยี่ยนเหมือนกับหุ่นยนต์เธอกล่าวขึ้นว่า
“บอสหลิน้าพบคุณทั้งคู่รายงานตัวที่ห้องของท่านภายใน 5 นาทีนะคะ”