ด้วยความพยายามหลายวันหลายคืนของคนทั้งกอง ข้าวสาลีก็ถูกเก็บเกี่ยวจนหมดเสียที งานที่เหน็ดเหนื่อยและลำบากที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว แถมผลผลิตปีนี้ยังไม่เลว ทุกครัวเรือนได้ส่วนแบ่งเสบียงมากกว่าปีก่อนไม่น้อยเลยทีเดียว หลายวันมานี้ทุกคนในหมู่บ้านเลยยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ว่าพูดคุยอะไรต้องชมผลผลิตดีสักสองสามประโยค
เพื่อให้รางวัลสำหรับจิตใจอันไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากและเหนื่อยล้าของเหล่าสมาชิก ในกองจึงตัดสินใจฆ่าหมูแบ่งเนื้อกัน!
การฆ่าหมูของกองการผลิตยุคสมัยนี้เป็งานรื่นเริงที่นานๆ ทีจะมีสักครั้ง ใครที่ว่างไม่มีงานทำก็มักจะไปยืนดูในลานสำนักงาน พวกเด็กๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ขั้นแรกจะตั้งกระทะในบริเวณลานกว้างแล้วจุดไฟจนควันขโมง ทั้งยังร้อนระอุไว้สำหรับกำจัดขนหมู จากนั้นค่อยวางเขียงตรงกลางสนาม สำหรับใช้หั่นขาหมูและหัวหมูโดยเฉพาะ พร้อมด้วยราวที่สามารถแขวนหมูเพื่อถลกหนัง
ครั้งเจิ้งหยวนยังเล็กก็เคยร่วมสนุก ดูการฆ่าหมูอยู่ครั้งหนึ่งเหมือนกัน หมูตัวนั้นถูกมัดกีบเท้าทั้งสี่เข้าด้วยกัน บางทีมันคงรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกฆ่า เลยร้องครวญครางเสียงแหลมสูง เจิ้งหยวนวัยเด็กซุกซน เฉินชุ่ยอวิ๋นพยายามปิดตาบุตรสาวไม่ให้เธอดูพวกเขาฆ่ามัน ทว่าเธอกลับเบนหลบจนเห็นหมูถูกเชือดต่อหน้าต่อตา ใบมีดอาบย้อมเป็สีแดง เืหยดติ๋งๆ ลงพื้น ทำเอาเจิ้งหยวนใกลัว นอนฝันร้ายอยู่หลายคืน นับแต่วันนั้นมา เจิ้งหยวนจึงไม่เข้าร่วมงานอีกเลย
การฆ่าหมูคราวนี้ เฉินชุ่ยอวิ๋นก็ไม่ปล่อยหนิวหนิวกับซิงซิงไปร่วมสนุกเหมือนกัน มีเพียงเด็กซนอย่างเจิ้งเทียนเลี่ยงที่ได้ยินว่าฆ่าหมูก็วิ่งหายวับไปทันที
เจิ้งหยวนเพิ่งเลิกงานกลับมา ในมิติเธอมีเนื้อมากเท่าที่้าเลยไม่ตะกละอยากกินเนื้อนัก แต่ก็ถูกบรรยากาศเฝ้ารอเนื้อของคนรอบข้างชักนำ กลับมาจึงถามว่า “แม่ พวกเราได้เนื้อมาเท่าไรเหรอ?”
หนำซ้ำยังไม่สนใจที่ห้องครัวร้อนจัด เธอพูดพลางเดินเข้ามาหา ในมือถือหมวกฟางพัดใบหน้าแดงก่ำ ผมเผ้าเปียกเหงื่อจนจับเป็ก้อน
เฉินชุ่ยอวิ๋ยเห็นสภาพเธอแล้วขมวดคิ้วมุ่น ก่อนว่า “ร้อนขนาดนี้ แกเข้ามาทำอะไร ในห้องโถงมีขวดน้ำเปล่าที่ฉันผึ่งลมให้แก ไปดื่มเถอะ”
เจิ้งหยวนชะเง้อคอมองเข้าไปในห้องครัว “เนื้อล่ะคะ?”
เฉินชุ่ยอวิ๋นโบกมือ พลางเอ่ยยิ้มๆ “ยังไม่เอากลับมา แกรีบไปห้องโถงเถอะ”
เจิ้งหยวนร้อง “อ้อ” เสียงหนึ่ง ตอนเธอกลับมาเห็นคนถือเนื้อกลับบ้าน เลยนึกว่าแบ่งกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คิดๆ ดูคุณพ่อเธอเป็หัวหน้ากอง เขาน่าจะต้องรอแบ่งให้ทุกคนเสร็จก่อนถึงกลับบ้านได้
เจิ้งหยวนเดินไปดื่มน้ำที่ห้องโถง ค่อยย่องกลับเข้าห้องตัวเอง แล้วลงกลอนประตู ฉวยโอกาสเข้ามิติขณะที่ไม่มีใครอยู่ หาสถานที่อาบน้ำเพื่ออาบน้ำข้างในอย่างรวดเร็ว
หลังออกมาคนอื่นๆ ล้วนทยอยเลิกงานกลับมาพอดี เจิ้งหยวนไปช่วยงานเฉินชุ่ยอวิ๋นที่ห้องครัว พักเดียวเจิ้งเจวียนก็พาเจิ้งเทียนเลี่ยงกลับเข้ามา
เจิ้งเจวียนพาเจิ้งเทียนเลี่ยงไปเอาเนื้อสัตว์ที่สำนักงาน แต่ขากลับดันกลับมามือเปล่า ท่าทางดูโกรธกันมากเสียด้วย
เฉินชุ่ยอวิ๋นถาม “เนื้อล่ะ?”
เจิ้งหยวนถามตามมาติดๆ “เนื้อล่ะ?”
เจิ้งเทียนเลี่ยงถลึงตาใส่เจิ้งหยวนแล้วบอก “พี่สาวรอง เป็เพราะพี่!” สิ้นเสียงก็สะบัดเจิ้งเจวียนออก ก่อนวิ่งหนีหายไป
เจิ้งหยวนสับสนงงงวย นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เจิ้งเจวียนสีหน้าอึดอัดคับข้องใจ แต่เธอไม่ได้ระบายใส่เจิ้งหยวน เพียงกล่าวว่า “พ่อให้เนื้อกับครอบครัวลุงใหญ่ไปแล้ว”
เจิ้งหยวนลุกขึ้นพรวด “อะไรนะ?”
เฉินชุ่ยอวิ๋นตะลึงงันไม่ต่างกัน
“ป้าสะใภ้ใหญ่เป็คนมาเอาเนื้อ ถึงตาเธอ เธอก็พูดฉอดๆ ว่าพี่ทำลายชื่อเสียงครอบครัวเธอ แค่ขอโทษไม่มีประโยชน์หรอก ต้องชดใช้ด้วย แถมยังบอกว่าหากรู้สึกผิดต่อครอบครัวเธอจริงๆ ก็ยกเนื้อให้เธอดีกว่า ได้กินเนื้อครอบครัวเธออาจจะหายโกรธได้บ้าง” เจิ้งเจวียนเล่าสถานการณ์ตอนนั้นคร่าวๆ ให้ฟัง และกัดฟันพูด “ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อคิดอะไรอยู่ สุดท้ายเลยยกเนื้อที่ควรเป็ของบ้านเราให้ป้าสะใภ้ใหญ่ไปจริงๆ ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้