รังสีหมัดราวกับทำลายทุกสิ่ง และปิดทางหนีทีไล่ของหานิไว้ทั้งหมด
“น้ำแข็งเยือกผนึก!”
หานิแผดเสียงะโ ก่อนจะวาดฝ่ามือโจมตีต่อเนื่อง ฝ่ามือน้ำแข็งนับไม่ถ้วนพลันแปรเปลี่ยนเป็กรงน้ำแข็ง หมายพยายามตรึงรังสีหมัดของเย่เฟิง ตามมาด้วยเสียงะเิดังกึกก้อง รังสีหมัดเข้าปะทะกับกรงน้ำแข็ง พลังทำลายล้างพลันแผ่กระจายไปทั่ว ทำกรงน้ำแข็งสั่นคลอนจนปรากฏรอยร้าว นาทีต่อมามีเสียงดังตูม กรงน้ำแข็งนั่นแตกะเิเพราะแรงสั่นะเืจากพลังทำลายล้าง ก่อนจะกลายเป็เศษน้ำแข็งและตกลงสู่พื้นดิน
เมื่อหญิงทั้งสองเห็นฉากนี้ต่างก็ใจเต้นแรงและมองด้วยสายตาเหลือเชื่อ หานิมีฝีมือร้ายกาจ อยู่ขั้นยุทธ์แท้สูงสุด แม้แต่พวกนางสองคนก็ต่อกรกับหานิไม่ได้และยากที่จะหนีรอดจากเงื้อมมือของเขา
ทว่าบัดนี้หานิกลับถูกชายหนุ่มขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 กำราบ ทั้งหมดนี้ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก หากพวกนางสองคนไม่เห็นกับตาตัวเองก็คงไม่มีทางเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็ความจริง
“ศิษย์พี่ ไม่คิดว่าคนคนนี้จะมีฝีมือเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ แม้แต่หานิก็ถูกเขากำราบ ดูท่าก่อนหน้านี้ที่เขาสู้กับเราสองคนน่าจะยังออมมือไว้อยู่” หญิงธาตุไฟกล่าวขึ้น
“หากคนคนนี้ไม่สนใจสระน้ำ เกรงว่าเ้ากับข้าก็รักษาชีวิตไว้ไม่ได้!” หญิงธาตุน้ำแข็งกล่าวเสริม และพยายามข่มอารมณ์ของตน
“มิน่าขุนนางใหญ่จากอาณาจักรเว่ยถึงจ่ายค่าหัวเขาด้วยราคาที่สูงขนาดนั้น เห็นทีหาก้าฆ่าคนคนนี้ เกรงว่ามีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์เทวะถึงจะทำสำเร็จ” หญิงธาตุไฟกล่าวพลางถอนใจ
“ปัง!”
ขณะนั้นมีเสียงดังขึ้น หญิงทั้งสองเห็นหานิหลบรังสีหมัดของเย่เฟิงไม่ทัน จึงถูกโจมตีเข้าที่ไหล่ข้างหนึ่ง จนหานิส่งเสียงโอดครวญ และถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าซีดเผือดเกือบตกลงไปในสระน้ำ
“อ่อนหัดแบบนี้ แต่กล้าสั่งให้ข้าฆ่าตัวตาย ช่างน่าขันสิ้นดี!” เย่เฟิงเย้ยหยันหานิ จากนั้นเขาเดินออกมาก่อนจะไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของหานิในนาทีต่อมา และเตรียมสำแดงพลังเพื่อโจมตีหานิ
“ไอ้หนู ไม่คิดว่าเ้าจะมาที่นี่จริง ๆ รีบส่งเหล็กนิลหยกมาซะ!”
แต่ตอนนั้นเองมีเสียงเ็าดังมาจากที่ไหนสักแห่ง พอเย่เฟิงได้ยินก็ไม่ได้โจมตีหานิต่อ แต่หันไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะเห็นชายชราชุดดำปรากฏตัวตรงนั้น
ผมของชายชราผู้นี้สีขาวล้วน รอบกายห้อมล้อมไปด้วยปราณสีดำ ให้ความรู้สึกอันตรายต่อผู้คน
“เฟิงชา เป็เฟิงชา!”
เมื่อหานิและหญิงทั้งสองเห็นชายชราผู้นี้ก็ตาแข็งทื่อระคนหวาดผวา
เฟิงชาคือนักฆ่ามือดีของพันธมิตรชาเซวี่ย เขาเคยทำภารกิจลอบสังหารที่ยากลำบากมานับไม่ถ้วน มียอดฝีมือหลายคนของแดนชิงอวิ๋นตกตายในน้ำมือของเขา ในนั้นรวมทั้งผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งบรรลุขั้นยุทธ์เทวะ เื่นี้ทำแดนชิงอวิ๋นสั่นคลอนไม่น้อย
หลังจากผ่านศึกนั้นก็ทำให้เฟิงชามีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นักฆ่ามือดีขั้นยุทธ์แท้ที่โดดเด่นที่สุดของพันธมิตรชาเซวี่ย
“ฮ่า ๆ ๆ!”
เมื่อเฟิงชาเห็นท่าทีของหานิก็แค่นเสียงหัวเราะอย่างเ็า “ไอ้หนู เป็อะไรไปเล่า ก็แค่เด็กขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 แต่เหตุใดมีสภาพเช่นนี้ล่ะ? ทำพันธมิตรชาเซวี่ยขายหน้าหมด!”
หานิเห็นเฟิงชามาก็เผยสีหน้าดูไม่ได้ แน่นอนเขารู้ว่าเฟิงชามาทำไม ซึ่งเฟิงชามาเพราะเหล็กนิลหยก แต่หานิ้าใช้เหล็กนิลหยกในการหลอมดาบ แล้วเขาจะส่งให้คนอื่นง่าย ๆ ได้อย่างไรเล่า?
“นี่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับเ้านะ ข้าซ่อนเหล็กนิลหยกไว้ในที่ลับมาก ๆ ที่นั่นมีเพียงข้าที่รู้ ตาเฒ่าเฟิง เ้าล้มเลิกความคิดนั้นไปได้เลย!” หานิกล่าว ซึ่งเหล็กนิลหยกยังอยู่ที่ตัวเขา แต่เขาไม่ได้พูดมันออกไป เพราะเฟิงชาไม่ใช่คนที่เขาจะต่อกรด้วยได้ และจากประสบการณ์ที่เป็นักฆ่ามาหลายปี หานิย่อมรู้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟิงชา
“ซ่อน? ใช่หรือ? ข้าสะกดรอยตามเ้ามาตลอด แต่เ้าเอาเวลาไหนไปซ่อนเหล็กนิลหยกกัน?”
เฟิงชาซักถามด้วยความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พร้อมเหลือบมองเย่เฟิงแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้สนใจมากนัก ถึงอย่างไรเย่เฟิงก็อยู่เพียงขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ซึ่งไม่คุ้มค่าพอที่จะให้เขาสนใจ
“ข้าจะโกหกเ้าไปทำไม?”
หานิกะพริบตาปริบ ๆ “เ้า้าเหล็กนิลหยกก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ หากเ้าช่วยข้ากำจัดคนคนนี้ ข้าจะยกเหล็กนิลหยกให้เ้า!”
เฟิงชาได้ยินเช่นนั้นก็ตาวาบประกายคมกริบ “จริงหรือ?”
“จริงแท้แน่นอน!” หานิพยักหน้าพลางมองเย่เฟิงด้วยท่าทีโอหัง
“คำไหนคำนั้นนะ!” เฟิงชาเหยียดยิ้มอย่างเ็า ในความคิดเขา การฆ่าเย่เฟิงง่ายกว่าฆ่าหานิมาก ถึงอย่างไรหานิก็เป็คนของพันธมิตรชาเซวี่ย
“ไอ้หนู ไม่คิดว่าชีวิตของเ้าจะมีค่าขนาดนี้ แต่โชคร้ายที่มาเจอข้าคนนี้!” เฟิงชากล่าวเสียงเย็นขณะมองเย่เฟิง
หญิงสาวสองคนนั้นเห็นหานิจ้างเฟิงชาฆ่าเย่เฟิงก็เผยสีหน้าดูไม่ได้ เย่เฟิงเป็เพียงคนนอกที่ถูกพวกนางดึงเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกนางก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายลำบาก
“งั้นหรือ?”
เย่เฟิงกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย แล้วยังมองหานิและเฟิงชาตกลงกันอย่างเงียบ ๆ
“ไอ้หนู เ้าไม่กลัวตายหรือ?”
เฟิงชาเห็นเย่เฟิงเฉยเมยไร้ท่าทีหวาดกลัว จึงเอ่ยถามเย่เฟิงเช่นนั้น ด้วยชื่อเสียงของเขา เย่เฟิงควรกลัวจนฉี่ราดจึงจะถูกไม่ใช่หรือ?
“เ้ามีอะไรที่ข้าต้องหวาดกลัว?” เย่เฟิงตอบกลับไปเช่นนั้น
“คนผู้นี้โอหังยิ่งนัก อย่าไปพล่ามไร้สาระกับเขา แล้วรีบลงมือฆ่าเขาซะ!” หานิกล่าวเช่นนั้น เขาไม่้าเห็นเย่เฟิงอยู่บนโลกใบนี้แม้เสี้ยววินาที
“ได้!”
เฟิงชาตอบกลับอย่างไม่ลังเล ทันใดนั้นปราณมีดพวยพุ่งออกจากร่างเฟิงชา ก่อนจะกลายเป็หนวดสีดำมากมายพันรอบกายเขาทันที
“เ้าฆ่าเขาไม่ได้นะ!” วิไลคู่ไฟน้ำแข็งเห็นเฟิงชาจะลงมือฆ่าเย่เฟิงก็รุดไปขวางเฟิงชาทันที
“พวกเ้าเองหรือ?”
ในฐานะนักฆ่าของพันธมิตรชาเซวี่ยเหมือนกัน เฟิงชาย่อมรู้จักวิไลคู่ไฟน้ำแข็ง เขาเห็นพวกนางขวางทางเขาก็พูดขึ้นว่า “หลบไป อย่าทำข้าเสียเื่!”
“พวกโง่เง่า คู่ต่อสู้ของพวกเ้าคือข้า!” หานิเดินมา ก่อนกล่าวเช่นนั้นกับวิไลคู่ไฟน้ำแข็ง แต่เมื่อหญิงทั้งสองเห็นหานิมาก็เผยสีหน้าดูไม่ได้
“ไอ้หนู ในเมื่อเ้ารนหาที่ตาย งั้นข้าจะสงเคราะห์เ้าเอง!” เฟิงชากล่าวจบก็เห็นหนวดที่ห้อมล้อมร่างเขาพุ่งไปหาเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง
เย่เฟิงกะพริบตาปริบ ๆ นี่เป็ครั้งแรกของเขาที่สู้กับผู้ฝึกยุทธ์ชำนาญพลังแห่งความมืด เขาจำต้องเก็บประสบการณ์ให้มากขึ้นเสียหน่อย
จากนั้นเย่เฟิงก็แทงหอกโจมตีทันที พลันรังสีหอกกลายเป็ลำแสงทำลายล้าง ก่อนจะเข้าปะทะกับหนวดแห่งความมืดเ่าั้ ตามมาด้วยเสียงปังตูมไม่หยุด หนวดแห่งความมืดถูกรังสีหอกของเย่เฟิงทำลายจนกลายเป็ปราณมืด และสลายหายไปกับสายลม
“ไอ้หนู ไม่คิดว่าเ้าจะมีฝีมือเช่นนี้ ต่อไปข้าจะสำแดงพลังที่แท้จริงของข้าแล้ว!”
เฟิงชาเห็นเย่เฟิงรับมือกับการโจมตีแรกได้ง่ายดายก็นิ่งอึ้งเล็กน้อย แต่จู่ ๆ ปราณมืดที่ทรงพลังกว่าตอนแรกปะทุออกจากร่างเขา เฟิงชาผสานมือควบแน่นปราณและเห็นแขนของเขาสั่นเทาในนาทีต่อมา จากนั้นเขาวาดฝ่ามือแห่งความมืดเข้าโจมตีเย่เฟิง พลอยทำให้ห้วงอากาศสั่นไหวไปด้วยราวกับจะถล่มลงเช่นนั้น
“หอกดุจั!”
เย่เฟิงแผดเสียงะโ ก่อนจะแทงหอกออกไป สองการโจมตีเข้าปะทะกัน ตามมาด้วยเสียงะเิดังกึกก้อง คลื่นทำลายล้างแผ่กระจายเป็บริเวณกว้าง ทั้งสองคนต่างเซถอยหลังคนละหนึ่งก้าว และยังมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นเยือกแฝงจิตสังหาร
“ตบะของชายชราผู้นี้ใกล้เคียงกับขั้นยุทธ์เทวะ ซ้ำยังเป็คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา ข้าต้องจริงจังแล้วสิ!” เย่เฟิงคิดในใจ
ขณะเดียวกันหานิก็เริ่มโจมตีหญิงสาวสองคนนั้น ทั้งสามคนเปิดศึกอย่างบ้าคลั่ง แต่เพื่อที่จะต่อต้านหานิ หญิงสาวสองคนถึงกับเผยไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา จึงสามารถต้านทานไว้ได้ชั่วคราว
“วูบ!”
ทันใดนั้นอำนาจฟ้าดินพวยพุ่งออกจากร่างเย่เฟิง ซึ่งเป็อำนาจฟ้าดินที่เกือบบรรลุขั้นกายา่กลาง จึงทรงอานุภาพเป็อย่างมาก บรรยากาศเปลี่ยนไปกดดัน ให้ความรู้สึกหายใจไม่ออก แต่นาทีต่อมาเห็นเขาแทงหอกออกไป รังสีหอกนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างที่น่าหวาดกลัว และผสานด้วยอำนาจฟ้าดินขั้นกายาสูงสุด เพียงหนึ่งหอกก็มีพลังที่น่าทึ่ง และเป้าหมายของมันก็คือลำคอของเฟิงชา
ร่างเฟิงชากลายเป็เงาดำที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง จากนั้นวาดฝ่ามือแห่งความมืดเข้าโจมตีเช่นกัน
“ไปให้พ้น!”
เย่เฟิงแผดเสียงะโ จากนั้นวาดฝ่ามือภูผาพิฆาตที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้างเข้าโจมตี เมื่อสองการโจมตีเข้าปะทะกันก็ตามมาด้วยเสียงะเิดังกึกก้อง
อย่างไรก็ตามพวกเขาสองคนมีฝีมือพอ ๆ กัน จึงตีเสมอกันอีกครั้ง เฟิงชาตัวสั่นสะท้านและเซถอยหลังไปอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนเย่เฟิงก็ไม่ได้ดีไปกว่าเท่าไร เขาถูกปราณมืดจู่โจมร่างกาย จึงอดตัวแข็งทื่อไม่ได้
