ป้าหวังตั้งสติ นางมาเพื่อสืบเื่นี้โดยเฉพาะ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มพูดแล้วนางจึงต้องตั้งใจฟั พยายามที่จะไม่พลาดแม้แต่คำเดียว
น่าสงสารก็แต่แม่สื่อจ้าวที่ไม่ค่อยไปหมู่บ้านเสี่ยวหนิว นางไม่รู้เลยว่าป้าหวังที่ในตอนแรกไม่ถูกกับซ่งอวี้ เวลานี้ได้เทใจทั้งดวงไปให้ซ่งอวี้แล้ว ทั้งสองสนิทกันยิ่งกว่าญาติมิตรเสียอีก
"ตระกูลฉีเห็นว่าซ่งอวี้ได้ดิบได้ดีร่ำรวยแล้วจึงใคร่อยากจะให้นางแต่งเข้าตระกูล ทั้งยังบอกอีกว่าในอดีตบิดาของซ่งอวี้มีบุญคุณกับตระกูลฉี ตระกูลฉีไม่อาจลืมบุญคุณ ตระกูลฉีทำราวกับไม่มีใครรู้ แค่หาข้ออ้างมาปิดบังความไร้ยางอายของตนก็เท่านั้น"
แม่สื่อจ้าวรับของขวัญอย่างตรงไปตรงมา ยามนินทาก็ตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน
ป้าหวังหันไปมองแม่สื่อจ้าว สบถคำหยาบในใจ ทว่ากลับถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "ตระกูลฉีเป็คนในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมารบกวนเ้าให้ช่วยทาบทามซ่งอวี้กลับไปเล่า?"
เมื่อพูดถึงจุดแข็งของตนเอง แม่สื่อก็จ้าวอกผายไหล่ผึ่ง พูดด้วยความภาคภูมิใจ "เ้าลองคิดดูเล่า ในอดีตตระกูลฉีถอนหมั้นซ่งอวี้ ทั้งสองตระกูลถือว่าผิดใจกันแล้ว พวกเขาคิดอยากจะสู่ขอซ่งอวี้ ต้องเป็เื่ที่ยากมาก หากไม่ใช่เพราะเชื่อในความสามารถของข้า พวกเขาจะมาหาข้าหรือ?"
แม่สื่อจ้าวชื่นชมตนเองอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย นางขายของอีกแล้ว
"ดังนั้น เื่แต่งงานของหลานชายเ้า ให้ข้าเป็คนดูแลเถอะ ข้าสอดส่องสตรีให้พวกเ้าก่อน รอหลานชายของเ้ามีความคิดจะแต่งงาน ข้าจะได้ส่งชื่อไปให้เลือกทันที ให้หลานชายของเ้าเลือกอย่างถี่ถ้วน เ้าว่าดีหรือไม่?"
ป้าหวังยิ้มตาหยีแล้วพูดขึ้น "เื่นี้ไม่รีบ ข้าต้องถามหลานชายก่อนจึงจะให้คำตอบเ้าได้ เ้าพูดเื่ตระกูลฉีให้ข้าฟังก่อน ตอนข้ากลับไปพูดกับหลานชายข้าจะได้โอ้อวดได้"
แม่สื่อจ้าวพ่ายแพ้อีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดในความเ้าเล่ห์ของป้าหวัง แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรออกมาตรงๆ ได้ จึงได้แต่ข่มความรู้สึกเอาไว้ แล้วนินทาตระกูลฉีต่อ
"เื่ก็เป็เช่นนี้ ยายฉีพูดแล้วว่าขอเพียงข้าเข้าไปในเรือนของยัยหนูซ่งได้ เช่นนั้นนางก็สามารถจัดการเื่นี้ได้ เมื่อถึงเวลาเื่แต่งงานก็ถือว่าสำเร็จแล้ว"
อะไรนะ? เข้าไปในเรือนได้เื่แต่งงานก็ถือว่าสำเร็จแล้ว?
ป้าหวังลอบสืบเงียบๆ "เ้าอย่าหลอกข้า แค่เข้าไปในเรือนได้แล้วการแต่งงานจะถือว่าสำเร็จได้อย่างไร? หากซ่งอวี้ไม่ตกลง แม้พวกเ้าอยากจะทาบทามสู่ขอเพียงใดก็ไร้ประโยชน์"
"ข้าแค่เข้าไปในเรือนเป็พิธีเท่านั้น เมื่อสองปีก่อนตอนถอนหมั้น ตระกูลฉีไม่ได้คืนสัญญาหมั้นให้ซ่งอวี้ ขอเพียงมีสัญญาหมั้นอยู่ ซ่งอวี้จะตอบตกลงหรือไม่ เื่นั้นยังจะสำคัญอยู่อีกหรือ"
"ขอเพียงข้าเข้าไปในเรือนได้ครั้งหนึ่ง แล้วพวกเขาป่าวประกาศกับคนนอกว่าซ่งอวี้ตอบตกลงแล้ว เมื่อถึงเวลานำสัญญาหมั้นออกมา เื่นี้ก็เป็อันตกลงแล้ว หากซ่งอวี้ไม่ยอมแต่งงาน ไม่แน่นางอาจจะต้องกินข้าวในคุกก็ได้"
แม่สื่อจ้าวคิดหาวิธีเข้าไปในเรือนของซ่งอวี้ได้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ปิดบังป้าหวังเล่าให้นางฟังตามตรง เพราะเมื่อก่อนซ่งอวี้กับป้าหวังไม่ถูกกัน
สัญญาหมั้นในยุคสมัยนี้ แท้จริงแล้วคล้ายกับทะเบียนสมรสในยุคปัจจุบัน แค่ว่าในยุคสมัยนี้ต้องมีการจัดพิธีแต่งงาน เชิญคนมาเป็พยาน จึงจะถือว่าเป็สามีภรรยาอย่างแท้จริง
ตามหลักแล้วตอนที่ตระกูลฉีถอนหมั้นซ่งอวี้ หลังจากถอนหมั้นแล้วควรจะคืนสัญญาหมั้นให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่าหลังจากนี้ทั้งสองตระกูลไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก แต่ว่าซ่งอวี้ในตอนนั้นขี้กลัวทั้งยังเป็คนอ่อนแอ แม้จะโดนดูถูกก็ไม่กล้าต่อต้าน หลังจากเกิดเื่นางยิ่งไม่กล้าก้าวเข้าไปในตระกูลฉี
ตระกูลฉีดูแคลนซ่งอวี้จึงไม่เก็บเื่นี้มาใส่ใจ เมื่อเป็เช่นนี้สัญญาหมั้นที่สำคัญเช่นนี้จึงไม่ได้นำไปคืนซ่งอวี้
เวลานี้ซ่งอวี้ร่ำรวยแล้ว ตระกูลฉีอยากจะแต่งนางเข้าตระกูลอีกครั้ง พวกเขาหาสัญญาหมั้นในเรือน คิดไม่ถึงว่าจะเจอสัญญาหมั้นนั้นจริงๆ จึงทำให้พวกเขาสบโอกาส
เช่นเดียวกับที่แม่สื่อจ้าวพูด ขอเพียงนางเข้าไปในเรือนซ่งอวี้ได้ ไม่มีใครรู้ว่าระหว่างพวกนางพูดคุยอะไรกัน เมื่อถึงเวลาคนของตระกูลฉีเพียงป่าวประกาศออกไป บอกว่าซ่งอวี้ตอบตกลงแล้ว ให้สัญญาหมั้นกับพวกนางแล้ว แม้ซ่งอวี้จะมีปากสิบปาก ก็ไม่อาจอธิบายได้
หลังจากนินทาจบ แม่สื่อจ้าวเช็ดปากแล้วกำชับป้าหวังว่าห้ามแพร่งพรายเื่นี้ออกไปเด็ดขาด จากนั้นนางก็ไม่ได้เก็บเื่นี้มาใส่ใจอีก เพราะถึงนางรู้ดีว่า ป้าหวังในอดีตดูแคลนซ่งอวี้เพียงใด ดังนั้นจึงไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าป้าหวังจะนำเื่นี้ไปบอกซ่งอวี้
แต่บนโลกใบนี้ไม่มีเื่ใดที่จะเป็เช่นนั้นเสมอ การมาของป้าหวังในครั้งนี้มาเพื่อสืบเื่ให้ซ่งอวี้ หลังจากทราบเื่ป้าหวังก็เริ่มนั่งไม่นิ่งแล้ว อยากจะรีบกลับไปหารือกับซ่งอวี้
นางหาข้ออ้างบอกว่าจะไปเยี่ยมหลานชายแล้วช่วยถามให้แม่สื่อจ้าว หลังจากออกมาจากเรือนแม่สื่อจ้าว ป้าหวังก็รีบตรงไปที่เรือนของซ่งอวี้ด้วยความร้อนใจ
นางต้องรีบบอกเื่นี้กับซ่งอวี้ หากซ่งอวี้ไม่ได้ระมัดระวังตัวปล่อยแม่สื่อจ้าวเข้าไปในเรือน เช่นนั้นเื่นี้ก็จะแก้ไขได้ยากแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ซ่งอวี้ที่ยังคงศึกษาวิชาการแพทย์ในเรือนก็ถูกป้าหวังลากออกตัวออกมาจากกองสมุนไพรด้วยความร้อนใจ
"ยัยหนูซ่ง เกิดเื่ใหญ่แล้ว เ้าวางงานในมือก่อน แล้วฟังที่ข้าจะบอกกับเ้าให้ดี"
ซ่งอวี้เพิ่งถูกดึงตัวออกมายังคงมึนงงเล็กน้อย เมื่อครู่มีบางคำถามที่นางยังไม่เข้าใจ อยากจะกลับเข้าไปคิดต่อ ป้าหวังเห็นท่าทีของซ่งอวี้ ก็ร้อนใจจนแทบอยากจะกรีดร้อง
"ป้าหวัง ตระกูลฉีไม่อาจมัดตัวข้าไปแต่งงานได้ ไม่ต้องร้อนใจถึงขั้นนี้กระมัง?"
ซ่งอวี้จนปัญญา คล้ายคนรอบตัวจะร้อนใจยิ่งกว่านาง คนที่ถูกจ้องทำร้ายในตอนนี้คือตัวนางไม่ใช่หรือ?
ป้าหวังมองบน ซ่งอวี้ไม่ได้ดั่งใจนางจริงๆ "เ้าจะไปรู้อะไร? หากวันนี้ข้าไม่บอกเ้า ไม่แน่วันพรุ่งนี้เ้าอาจจะตกหลุมพรางพวกเขาแล้วก็ได้"
หลังจากนั้นป้าหวังก็เล่าเื่ที่นางรู้มาจากแม่สื่อจ้าวให้ซ่งอวี้ฟังอย่างละเอียด พูดจบนางก็สรุปให้ฟังว่า "เพราะเ้าไม่ได้เอาสัญญาหมั้นกลับมา ดังนั้นเวลานี้พวกเขาจึงคิดที่จะใช้สัญญาหมั้นเป็หลุมพราง ขอเพียงแม่สื่อจ้าวเข้ามาในเรือนเ้าได้ครั้งหนึ่ง เ้าก็ไม่อาจพูดอะไรได้แล้ว ไม่ควรจะร้อนใจกับเื่นี้หรือ?"
เวลานี้ซ่งอวี้ตกตะลึง ถึงอย่างไรนางก็ไม่คุ้นเคยกับยุคสมัยนี้ มีธรรมเนียมมากมายที่นางไม่ค่อยเข้าใจ ยกตัวอย่างเช่นความสำคัญของสัญญาหมั้น
ซ่งอวี้ขมวดคิ้วเป็ปม "สัญญาหมั้นสำคัญขนาดนี้เชียวหรือ?" ฟังความหมายของป้าหวัง สัญญาหมั้นมีความสำคัญพอๆ กับทะเบียนสมรสในยุคปัจจุบัน?
ป้าหวังพยักหน้า กัดฟันเล็กน้อย
"ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมีแผนการสกปรกเช่นนี้ คิดที่จะใช้สัญญาหมั้นมาผูกมัดเ้า พวกเขาอยากจะให้การแต่งงานนี้เกิดขึ้นจริง อยากจะให้เ้าตกที่นั่งลำบาก เรียกฟ้าฟ้าไม่ตอบ เรียกดินดินไม่ขาน
การกระทำไร้คุณธรรมเช่นนี้กล่าวได้ว่าชั่วร้ายยิ่งนัก
แม้คนในหมู่บ้านจะชอบจับกลุ่มนินทา แต่ความเป็จริงโดยมากล้วนเป็เพราะมีเวลาว่าง ไม่มีอะไรให้ทำ จึงจับกลุ่มนินทาฆ่าเวลาเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาร้าย
แต่เื่นี้ไม่เหมือนกัน คนดีๆ ที่ไหนจะวางแผนร้ายเช่นนี้เพื่อให้สตรีคนหนึ่งแต่งเข้าตระกูล? ทั้งยังคิดอยากจะได้ทรัพย์สินของผู้อื่น อยากได้เงินทองเ่าั้หรือ?
ซ่งอวี้เพิ่งรู้สึกว่าเื่นี้รับมือยาก
สตรีเป็ฝ่ายเสียเปรียบมาโดยตลอด ขอเพียงมีข่าวลือ ทุกคนล้วนคิดว่าสตรีไม่รักนวลสงวนตัว ล้วนไม่บอกว่าเป็ความผิดของบุรุษ