“ จริงรึ! ไม่ใช่ว่าเ้าจะปลุกพลังได้แล้วนะ เ้าต้องนั่งโคจรพลัง เ้าทำเป็ใช่หรือไม่”
“ เป็สิท่านปู่สอนข้าอยู่ ถึงข้าจะไม่มีพลังก็นั่งสมาธิแล้วทำเหมือนกับการโคจรพลังทุกอย่าง เพียงแต่ข้าไม่มีพลังให้โคจรเท่านั้น”
“ ถ้าอย่างนั้นก็รีบนั่งเลย พวกเราจะได้เดินทางออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน”
“ ไม่ใช่ว่าข้างนอกใกล้มืดค่ำแล้วรึ เราเข้ามาในนี้นานแล้วนะ หรือว่าคืนนี้เราจะนอนในถ้ำนี้ก่อน”
“ ก็ดีเหมือนกันเ้าจะได้นั่งโคจรพลัง ข้าจะคอยระวังอันตรายให้ แต่คงไม่มีใครเข้ามาที่นี่หรอก สัตว์ตัวใหญ่ก็เข้ามาไม่ได้ ในถ้ำก็ไม่ได้มืด”
หนูดำลากหีบใบเดิม กลับมาตั้งไว้ตรงกลางถ้ำเพื่อให้จู๋จื่อนั่งโคจรพลัง มันเห็นว่าพื้นถ้ำแข็งและไม่เรียบ แถมยังเย็นอีกด้วย
จู๋จื่อขึ้นไปนั่งโคจรพลัง บนหีบที่ครึ่งหนึ่งเปียกน้ำ และยังไม่ได้เปิดดูว่าข้างในคืออะไร
เด็กน้อยนั่งอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปสองชั่วยามก็ลืมตาขึ้นมา
“ เ้าเป็ไงบ้างสำเร็จไหม พลังธาตุของเ้าคือธาตุอะไร ”
“ ข้ามองไม่เห็นอะไรเลยมันมืด ไม่รู้ว่ามีธาตุอะไรแต่ข้ารู้สึกว่าตัวเองมีพลังขึ้นมาเยอะเลย แถมสายตาข้าก็ยังดีด้วย ตอนนี้ข้ามองเห็นชัดเจน ถ้าจะอ่านหนังสือไม่ต้องจุดเทียน แค่อาศัยแสงสว่างจากลูกแก้วก็ได้แล้ว”
จู๋จื่อลุกขึ้นแล้วลากหีบที่นั่งไปข้างผนังถ้ำ ตรงที่มีหนังสือและโอสถวางอยู่ ปีนขึ้นไปยืนอยู่บนหีบ
“ ข้า้าแค่หนังสือเท่านั้น โอสถตรงนี้ไม่มีแล้วหนูดำเ้าขนไปหมดแล้วใช่หรือไม่ แล้วตอนนั้นที่เ้าบอกว่ายาแก้พิษเ้าเอาโอสถอะไรให้ข้ากิน”
“ เ้าก็รู้ว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออก ข้าก็ยัดเข้าปากไปส่งเดชยังงั้นแหละ ข้าเห็นเ้ากินเม็ดแรกสีดำ ยาแก้พิษมันก็ต้องเป็สีขาว ขวดมันวางอยู่ตรงนั้นเ้าอ่านดูว่ามันคือโอสถอะไร”
จู๋จื่อเอาหนังสือสองเล่มลงมา “ ตอนนั้นข้ายกยังหนักอยู่เลย ตอนนี้กลับเบาหวิวเหมือนกระดาษแผ่นหนึ่ง”
“ โอสถขวดนี้หรือที่เ้าให้ข้ากิน มันอ่านว่าเพิ่มพลังปราณระดับแปด ช่างมันเถอะเื่มันผ่านไปแล้ว ที่เหลือข้าจะเอาไปให้ท่านปู่ และหนังสือสองเล่มนี้ก็พอ สว่างแล้วพวกเราค่อยออกจากถ้ำนี้ไป”
“ เ้าไม่ดูในหีบหรือว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เผื่อเป็สมบัติเ้าก็เอาไปขายสร้างบ้านสร้างจวนได้นะ จะได้ไม่ต้องอยู่ในป่าไงล่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่กับเ้าด้วย”
“ เ้าจะไปอยู่กับข้าด้วย แล้วเ้าจะไม่คิดถึงป่ารึ ในเมืองที่ข้าเคยจำได้มีพื้นที่แออัด ไม่ได้กว้างเหมือนอยู่ในป่านี้นะ ข้ากะว่าจะอยู่ที่นี่จนโตแล้วค่อยออกไปอยู่ข้างนอก”
จู๋จื่อหาหินก้อนเล็กมาแงะฝาหีบให้เปิดออก มีหนูดำช่วยงัดเปิดฝาหีบ กว่าจะงัดออกได้ก็เล่นเอาทั้งสองหัวหมุนเพราะต้องพลิกซ้ายพลิกขวา
“ ดูสิว่ามันมีอะไรอยู่ในนี้ ถึงได้เปิดยากยิ่งนัก ถ้าเป็เครื่องประดับแก้วแหวนเงินทอง ข้าจะขนไปให้หมด ตอนนี้มีแรงยกแล้ว”
“โอ้!ธนูและลูกธนูอันเล็ก ข้าใช้ได้แต่มันจะยิงอะไรตายหรือเปล่าอันเล็กแค่นี้ มีชุดสีดำอยู่ข้างในนี้ด้วยสร้อยคอ ขายได้ แล้วก็มีไข่มุกแต่ทำไมถึงห่อผ้าด้วย”
“ สมบัติพวกนี้ถ้าเ้าอยากใช้งาน ต้องหยดเืใส่ก่อนนะ ไม่แน่มันอาจจะเป็ของวิเศษก็ได้ เ้าคิดดูขนาดโอสถยังมีระดับสูง แล้วของพวกนี้จะธรรมดาได้ยังไง”
“ จะเป็ไปได้ยังไงขนาดท่านปู่เก่งออกยังงั้น ยังไม่มีของพวกนี้เลย เ้าไม่ต้องมองข้ายังงั้นก็ได้ ข้าจะลองดูแต่จะหาอะไรมาเจาะให้มีเืล่ะ ทำแผลใหญ่ไม่ได้ข้ากลัวเจ็บ”
“ เ้ามีพลังธาตุแล้วไม่เจ็บเยอะหรอก าแก็หายไวด้วย เอาของมีค่าที่อยู่ในหีบนั้น อันไหนมีปลายแหลมเ้าก็ทิ่มนิ้วได้เลย”
“ ข้าต้องหาดูก่อน ถ้ามีตำราโอสถก็ต้องมีเข็มเงินอยู่แถวนี้ด้วยสิ ”จู๋จื่อค้นหาของให้หีบ หนูดำก็มองหาของรอบถ้ำ
“ เ้าไม่ต้องหาแล้วหนูดำข้าเจอแล้ว ไม่ใช่เข็มหรอกแต่เป็จี้ ที่อยู่ติดอยู่กับสร้อยต่างหาก ปลายมันแหลมใช้เจาะนิ้วได้ ”
จู๋จื่อใช้จี้ที่เป็รูปคล้ายกระบี่เล่มเล็ก ทิ่มนิ้วมือบีบเืหยดใส่ของที่อยู่หีบไม่เว้นแม้กระทั่ง ตำราทั้งสองเล่ม
“เ้ารู้สึกยังไงบ้างกับสิ่งของที่เ้าหยดเืใส่ รู้สึกััได้หรือว่ามองเห็นสิ่งของ ที่อยู่ข้างในของที่เ้าหยดเืใส่หรือไม่”
“ ข้ารู้สึกอยากสวมใส่สร้อย ใส่ชุดดำถือธนูนี่คือความรู้สึกข้า หลังจากหยดเืใส่สิ่งของที่วางอยู่ตรงนี้”
“ เป็ไปได้ที่พลังเ้าเพิ่งตื่นยังไม่รู้รู้สึกอะไร งั้นเ้าก็ทำตามความรู้สึกเถอะ อยากสวมใส่สร้อยก็สวมอยากใส่ชุดดำก็ใส่”
จู๋จื่อทำตามหนูดำแนะนำทันที เปลี่ยนมาใส่ชุดสีดำทับชุดเก่า สวมสร้อยคอและเอาธนูมาถือไว้
“ ดูเหมือนชุดดำมันจะหดตัวได้ ตอนแรกที่ข้าใส่มันยังยาวรุ่มร่ามอยู่เลย ตอนนี้มันกับสั้นเท่ากับตัวข้าแล้ว แสดงว่าเป็ของวิเศษงั้นรึ”
“ มันต้องใช่ของวิเศษแน่ เ้าลองตรวจสร้อยคอที่เ้าสวมใส่ดูอีกทีซิ ดูว่าความวิเศษของมันใช้ทำอะไร หรือว่าจี้มันจะขยายเป็ดาบวิเศษได้”
“ ข้างในไม่มีอะไรเลย เป็ที่ว่างเปล่าไม่ได้เป็กระบี่หรือดาบอย่างที่เ้าว่า”
“ จะ…เ้าว่าอะไรนะ เป็ที่ว่างเปล่าอย่างงั้นรึ พื้นที่กว้างไหมใหญ่ขนาดเท่าถ้ำนี่ หรือว่าเล็กกว่าพื้นที่ว่างเปล่าที่เ้าพูดถึงน่ะ”
“ มันเป็พื้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ เท่ากับขนาดห้องในกระท่อมที่ข้านอนอยู่ประมาทห้าห้อง เ้าถามทำไมรึ”
“ ไหนเ้าลองตั้งจิตแล้วเอาหีบใบนี้ ไปวางไว้ตรงพื้นที่ว่างเปล่าที่เ้าพูดสิมันเข้าไปได้ไหม”
หีบที่ตั้งอยู่ตรงหน้าทั้งสองหายไป รวมถึงหนังสือขวดโอสถ“ มันหายเข้าไปอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่าแล้ว ทีนี้จะเอาออกมายังไงล่ะ”
“ เ้าไม่ต้องเอาออกมาทั้งหมดนะ ให้เ้านึกคิดว่าจะเอาอะไรออกมาแค่ชิ้นเดียวพอ”ตำรามาปรากฏต่อหน้าจู๋จื่อ
“ดี…ดีจังเลย! ข้าจะเก็บทุกอย่างให้ถ้ำนี้ไปให้หมด เผื่อจะขายเป็ตำลึงได้ หนูดำเ้าปีนไปเก็บลูกแก้วที่ให้แสงไปด้วยสักสองลูกสิเอาไปวางไว้ในกระท่อม จะได้ไม่ต้องจุดเทียน”
“ มันมีอยู่สามลูก เ้าเอาไปสองถ้ำนี้จะมืดลงทันทีนะ หรือว่าจะเอาลงมาวางไว้ก่อน จะออกจากถ้ำแล้วค่อยเก็บ”หนูดำปีนไปถอดลูกแก้วให้แสงสองลูกออก แล้วเอามาวางไว้บนพื้น
“ครืน ครืนน!!”
“จู๋จื่อข้าว่าพวกเราต้องรีบออกไป เสียงเหมือนถ้ำจะถล่มเลย หรือว่าเป็เพราะถอดลูกแก้วออกมา เฮ้ย! ถ้ำเขย่าแล้ววิ่งเร็ว”หนูดำวิ่งมาจับแขนของจู๋จื่อ ที่กำลังจะเก็บลูกแก้วออกวิ่ง
“ เร็วตามข้ามาถ้ำกำลังจะถล่มแล้ว ระวังก้อนหินหล่นใส่หัวเ้าด้วย”หนูดำหยุดพูด แล้วพาจู๋จื่อวิ่งออกจากถ้ำที่มืด ดีที่ทั้งสอง ยังพอมองเห็นทางที่คับแคบได้บ้าง
หนูดำต้องหดร่างให้เล็กลง แล้วออกวิ่งนำทางมีจู๋จื่อวิ่งตามมาติดๆ กว่าทั้งสองจะวิ่งออกมาจากถ้ำได้ก็แทบหมดแรง ดีที่ใส่ชุดดำแต่ใบหน้าและเส้นผมของจู๋จื่อและขนของหนูดำ เต็มไปด้วยฝุ่นเศษหินและใบหญ้าติดอยู่เต็มไปหมด
“ หนูดำถ้ำมันถล่มมาได้ยังไงกัน ข้าไม่เชื่อว่าแค่ถอดลูกแก้วที่มีแสงออกมา ก็สามารถทำให้มันถล่มได้”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ามันเป็กลไกที่ถูกซ่อนไว้ พวกเราอาจจะไม่รู้ก็ได้ ดีแล้วที่เอาชีวิตรอดกันออกมาได้”
“หนูดำหาที่พักกันก่อนเถอะ ตอนนี้ยังเดินทางไม่ได้อันตรายเกินไป อยู่ตรงนี้ก็อันตรายพลังของข้า ไม่รู้ว่าจะต่อสู้กับสัตว์ตัวใหญ่ได้ไหม แต่ดีกว่าเดินทางตอนกลางคืน”
“ ข้าล่ะปวดหัวกับเ้าเสียจริง พลังธาตุตัวเองเป็อะไรก็ไม่รู้ แล้วจะต่อสู้ได้ยังไง แต่ที่ข้ารู้สึกคือว่าเ้าวิ่งได้ไวมากไม่งั้นเ้าตามข้าไม่ทันหรอก”
“ ข้าก็ว่าอย่างงั้นแหละมีความรู้สึกว่าข้าวิ่งได้ไวขึ้น เ้าคิดดูขนาดขาของข้าเล็กสั้นป้อมขนาดนี้ ยังวิ่งตามสัตว์ที่มีพลังอย่างเ้าได้ หรือข้าจะมีพลังธาตุที่วิ่งไว”
“ ธาตุวิ่งไวอย่างนั้นรึข้าไม่เคยได้ยิน หรือว่าจะเป็ธาตุลม หาที่พักได้แล้วเ้าลองโคจรพลังดูอีกรอบหนึ่ง และบังคับมาที่ฝ่ามือจะดูว่ามันคือธาตุอะไรกันแน่”
ทั้งสองเดินทางออกจากถ้ำที่ถล่มมาไกลพอประมาณ จึงตกลงพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่มีโพรงไม้ขนาดใหญ่ให้ทั้งสองเข้าไปนั่งอาศัยอยู่ได้
“ พักตรงนี้ก็ดูปลอดภัยดี เ้านั่งโคจรพลังแล้วบังคับมาที่ฝ่ามือ ดูว่าพลังธาตุของเ้าคือสิ่งใดกัน”
จู๋จื่อนั่งโคจรพลังแล้วบังคับมาที่ฝ่ามือ“ เ้ามองเห็นอะไรหรือไม่ ข้าบังคับมาแล้วพลังที่เ้าว่า ตอนนี้อยู่ที่กลางฝ่ามือข้า”
“ ว่างเปล่า กลางฝ่ามือของเ้าว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดปรากฏอยู่เลย หรือพลังธาตุของเ้าจะล่องหนได้กัน”
“ ช่างมันเถอะขอให้ข้ามีแรงและพลังก็พอ ไว้กลับไปถามท่านปู่เอา ท่านปู่น่าจะรู้”
“ เ้าพักผ่อนเถอะข้าจะเฝ้ายามให้ อีกไม่กี่ชั่วยามน่าจะสว่างแล้ว เราจะได้เดินทางกลับ ก่อนที่ท่านปู่ของเ้าจะกลับมา”
พอเริ่มมีแสงสว่างหนูดำและจู๋จื่อก็พากันเดินทางกลับ หนูดำวิ่งนำหน้าจู๋จื่อวิ่งตามหลัง
“ หนูดำหยุดก่อน เ้าไม่เห็นหรือว่าตรงนี้มีผลไม้ มันอาจจะอร่อยเหมือนอย่างที่เ้าชอบก็ได้ เก็บก่อนเถอะกลับไปถึงที่บ้าน ท่านปู่อาจจะไม่ให้กลับออกมาก็ได้”
“ หนูดำเ้าดู ข้าปีนต้นไม้ได้ว่องไวเหมือนลิงเลย ข้าจะปีนให้ไปถึงยอดตรง ที่มีผลไม้ลูกใหญ่อยู่ตรงนั้น เ้าไม่ต้องขึ้นมาเดี๋ยวข้าจะเก็บลงไปให้กิน”
หนูดำมองดูเด็กน้อยที่ปีนเก็บผลไม้อยู่บนต้น ความฝันของมันเป็จริงแล้ว มันอยากมีเพื่อนท่องเที่ยวในป่าปีนเก็บผลไม้กิน มันเป็ถึงอสูรที่อยู่โลกอื่น แต่ถูกบางสิ่งบางอย่างดึงดูดมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน
มันต้องอยู่อย่างโดดเดียวไม่มีเพื่อน สัตว์แถวนี้ถ้าเป็ตัวเล็กก็ไม่มีพลัง ถ้าเป็ตัวใหญ่มันกลัวจะถูกรังแก เพราะพลังมันลดลงเรื่อยๆต้องวิ่งเล่นในป่าตัวเดียวมาแสนนาน ยังดีที่ยังพอมีกลิ่นอายของสัตว์อสูรหลงเหลืออยู่ ทำให้พวกสัตว์ป่าไม่อยากเข้าใกล้
“มันอร่อยมากข้าเก็บมาเยอะเลยจะไปฝากท่านปู่ด้วย เ้าชิมดูว่ามันอร่อยไหม มันน่าจะเป็ผลท้อนะข้ากินลูกเดียวก็อิ่มแล้ว”
“ อืม! มันอร่อยกว่าที่ปู่ของเ้าเก็บมานั่นแหละ ไม่รู้ว่าท่านผู้เฒ่าป่านนี้จะออกมาจากเขาวงกตได้หรือยัง”
“ หนูดำแล้วถ้าเกิดท่านปู่ของข้าตกอยู่ในอันตรายล่ะ ถ้าเกิดว่าท่านไม่ได้อยู่ที่เขาวงกต แต่าเ็จากการต่อสู้กับสัตว์อสูร หรือว่าเราจะออกตามท่านปู่ดี”
“ เ้าต้องรีบกลับไปดูที่กระท่อมก่อน ถ้าเกิดไม่อยู่ที่นั่น พวกเราออกตามหาก็ได้ เ้ามีโอสถอยู่ไม่ใช่รึ ถ้าเกิดปู่ของเ้าได้รับาเ็ อาจจะรอโอสถจากเ้าอยู่ก็ได้”
“ ถ้าอย่างนั้นเรารีบกลับกันเถอะ ถ้าไม่เก็บแล้วผลไม้ เอาไว้วันหลังกลับมาเก็บก็ได้อีกหลายต้นที่เหลือ เ้าวิ่งนำทางข้าได้เลยหนูดำ”
หนูดำขยายร่างให้จู๋จื่อนั่ง มันเห็นว่าปลอดภัยกว่า ไม่ต้องกลัวพลัดหลงกันด้วย ่สายก็กลับมาถึงกระท่อมแล้ว
“ ท่านปู่ ท่านอยู่ไหนข้ากลับมาแล้ว”จู๋จื่อเรียกหาท่านปู่รอบกระท่อมไม่เห็น เลยเข้าไปที่ห้องไม่มีร่องรอยของปู่เข้ามานอนในคืน ที่ผ่านมา
