“เ้า…” จินหลิงโมโหกับคำพูดหลินหวั่นชิว “ข้าพูดผิดหรือไร พวกเราต่างเป็บุตรสาวจากตระกูลดี เ้าแสร้งทำเป็หวังดีต้องมีแผนการกระไรเป็แน่”
“ข้าบอกไปแล้วว่าอำนาจในการตัดสินใจอยู่ในมือพวกเ้า เงินของข้าไม่ได้ถูกลมพัดมา ไม่อยากใช้ไปกับการเลี้ยงคนเนรคุณเช่นกัน” หลินหวั่นชิวไม่แม้แต่จะมองนาง พูดอย่างสบายๆ พร้อมกับดื่มชา
“ข้า…เจียงไท่ไท่ ข้ายินดีตามท่านไปทำงานที่ร้านขายผ้า” ในตอนนี้เอง แม่นางคนหนึ่งกัดฟันก้าวออกมาพูดกับหลินหวั่นชิว “ข้าพอจะเย็บปักเป็ ชุดที่ใส่ตอนนี้ข้าก็เย็บเอง”
“อู๋ฮุ่ย เ้าจงคิดให้ดีเถิด หากถูกขายเข้าหอโคมเขียวขึ้นมา ชีวิตเ้าคงจบสิ้นเป็แน่แล้ว!” มีคนร้อนใจ เข้าไปดึงนาง
อู๋ฮุ่ยยิ้มขมขื่น “แต่ข้าไม่อยากแต่งงานกับครัวเรือนทหาร ไม่อยากให้ลูกๆ หลานๆ ตัวเองเป็ทหาร ต้องอกสั่นขวัญแขวนทุกวัน คอยเป็ห่วงว่าคนนี้จะตายหรือไม่ คนโน้นจะาเ็หรือไม่…”
ต่อให้นางถูกขายเข้าหอโคมเขียวเพราะมองเจียงไท่ไท่ผู้นี้ผิดไป ถึงเวลานั้นนางยังเลือกฆ่าตัวตายได้
อยากรอด…ก็ต้องกล้าเสี่ยง
อีกอย่าง นางรู้สึกว่าหยาเหมินไม่น่ากล้าขายพวกนางอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้
“ในเมื่อเ้ายินดี เช่นนั้นก็ลงนามในสัญญาฉบับนี้เถิด” หลินหวั่นชิวพูดกับอู๋ฮุ่ย อู๋ฮุ่ยก้าวไปรับสัญญา
“อ่านรายละเอียดให้ดี เ้าแน่ใจแล้วค่อยลงนาม” หลินหวั่นชิวเตือน
นางเตรียมหนังสือสัญญาไว้ล่วงหน้า ทำซ้ำในเสียนอวี๋หลายฉบับ
อู๋ฮุ่ยพยักหน้า ตั้งใจอ่านสัญญาแล้วลงนามยอมรับ
มีอู๋ฮุ่ยเป็คนนำ แม่นางจำนวนหนึ่งก้าวออกมาตาม พูดสิ่งที่พวกนางทำเป็ จากนั้นรับสัญญาไปลงนาม
คนที่เหลือ บ้างก็ลังเล บ้างก็ก้มหน้าไม่ขยับเขยื้อน
หลินหวั่นชิวไม่มีเวลามารอตลอด ครบกำหนดเวลาก็ลุกขึ้นบอกลาหวงจ้งซาน
จังหวะนี้เองที่มีแม่นางคนหนึ่งร้อนใจ นางก้าวออกมา “เจียงไท่ไท่…ข้าไม่รู้หนังสือ เย็บปักไม่เป็ แต่ข้าทำงานได้ ท่าน…ท่าน…”
หลินหวั่นชิวถามนาง “เ้าอยากไปร้านขายผ้า?”
“อยากเ้าค่ะ!” ต้องอยากอยู่แล้ว นางไม่อยากแต่งงานกับครัวเรือนทหาร ไม่อยากไปโรงทาน โรงทานเป็ที่พักพิงของเด็กกำพร้าและคนชราก็จริง… ทว่าในนั้นมีคนทุกประเภท ไม่ใช่ที่ที่ควรจะไป
ส่วนเื่ที่คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์อย่างจินหลิงพูด…นางรู้สึกว่าเจียงไท่ไท่ดูไม่เหมือนคนเลว
อีกอย่าง หากหัวหน้ามือปราบหวงอยากขายพวกนางก็คงแอบขายไปตั้งนานแล้ว เหตุใดต้องพากลับหยาเหมินและรอจนถึงตอนนี้?
ได้เงินคนเดียวน่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือ?
“หากอยากไปก็ย่อมได้ ให้เวลาเ้าเรียนรู้สามเดือน ไม่ว่าจะการตัดผ้าหรือเย็บปัก ในสามเดือนนี้ ข้าดูแลแค่อาหารและที่อยู่ของเ้า ไม่มีค่าแรง มีความรู้เบื้องต้นและช่วยงานได้เมื่อไร เมื่อนั้นจึงจะได้ค่าแรง แน่นอนว่าระดับของฝีมือเกี่ยวโยงกับจำนวนค่าแรงที่พวกเ้าจะได้ด้วยเช่นกัน จะตั้งใจร่ำเรียนเพียงใดก็อยู่ที่พวกเ้าแล้ว หากเรียนไม่ได้จริงๆ ขอแค่มีความขยัน จะทำงานใช้แรงงานก็ย่อมได้เช่นกัน แต่เงินเดือนคงไม่ถึงห้าร้อยอีแปะ”
“ขอบคุณไท่ไท่เ้าค่ะ!” แม่นางคนนี้ดีใจมาก นางกลัวจริงๆ ว่าเจียงไท่ไท่จะไม่รับตัวเอง
ต้องบอกก่อนว่าสาวใช้ที่ทำงานใช้แรงงานแทบไม่ต้องให้เงินด้วยซ้ำ
“เจียงไท่ไท่เป็คนดี!” แม่นางคนนี้คุกเข่าให้หลินหวั่นชิวด้วยความซาบซึ้ง
“ถุย ระวังถูกเอาไปขายแล้วยังช่วยผู้อื่นนับเงินอีก!” จินหลิงพูดถากถางแบบไม่หลบเลี่ยง แม้แม่นางคนอื่นๆ จะไม่ได้ด่าออกมา ทว่าสายตาที่มองหลินหวั่นชิวเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ส่วนสายตาที่มองบรรดาแม่นางที่ลงนามในสัญญามีความเห็นใจและสงสาร
ประหนึ่งพวกนางถูกขายเข้าหอโคมเขียวแล้วอย่างไรอย่างนั้น
หลินหวั่นชิวไม่สนใจพวกจินหลิง เบี่ยงตัวหลบไม่รับการคุกเข่าจากแม่นางคนนั้น ประคองให้ลุกขึ้น
หากเป็บ่าวใช้ที่ซื้อมาก็ว่าไปอย่าง การคุกเข่าคำนับศีรษะให้เ้านายเป็กฎของยุคนี้ นางต้องทำตาม
แต่แม่นางเหล่านี้ไม่ใช่บ่าวใช้ที่นางซื้อมา พวกนางเป็อิสระ…
หลังจากลงนามในสัญญาเสร็จ หลินหวั่นชิวบอกลาหวงจ้งซาน นางต้องพาแม่นางเหล่านี้ไปที่ร้านขายผ้า ต้องไปดูร้านขายผ้าและเตรียมการเช่นกัน
แม่นางที่เหลือ ไม่ว่าจะคนที่ลังเลก็ดี คนที่รู้สึกว่าหลินหวั่นชิวเป็คนไม่ดีก็ดี หวงจ้งซานให้ยายเฒ่ามาพาออกไป ควรจัดสรรอย่างไรก็จัดสรร
ไม่มีวาสนาได้มีชีวิตที่ดีเอง จะโทษผู้ใดได้เล่า?
หลินหวั่นชิวออกไปแล้ว แต่เจียงหงหย่วนยังไม่ไป เขายังมีเื่จะคุยกับหวงจ้งซาน
“น้องสะใภ้ไม่เลวเลย!” หวงจ้งซานเอ่ยชม วิธีพูดของนางก่อนหน้านี้ไม่เหมือนภรรยาตระกูลสามัญเลยสักนิด เหมือนมาจากตระกูลขุนนางมากกว่า วางตัวดีมาก
เพียงไม่กี่คำก็สยบแม่นางเหล่านี้อยู่หมัด
แม้ท้ายที่สุดจะมีคนเลือกอยู่ต่อเกินครึ่ง แต่อย่างน้อยก็ไม่มีผู้ใดกล้าพูดเหมือนจินหลิง
แม่นางกลุ่มนี้ค่อนข้างยุ่งยาก สร้างปัญหาให้ยายเฒ่าในหยาเหมินแทบทุกวัน
ไม่ร้องไห้อยากตายก็รังเกียจที่หยาเหมินดูแลตรงโน้นตรงนี้ไม่ดี
บางคนะโอวดว่าบิดาตัวเองเป็ผู้ใด รอให้ออกไปแล้วจะสั่งสอนพวกเขาที่คิดว่าตัวเองแน่
เหอะ โอกาสรอดพ้นจากทะเลทุกข์มาวางอยู่ตรงหน้าแต่ไม่เอา เขาอยากเห็นนักว่าพวกนางออกไปแล้วจะทำกระไรได้กัน
ภรรยาของเขาย่อมดีที่สุดในใต้หล้าอยู่แล้ว
เจียงหงหย่วนไม่ตอบ แต่เขาภาคภูมิในใจมาก
เจียงไฉรออยู่ด้านนอก หลินหวั่นชิวขึ้นรถม้าคันเดียวกับแม่นางทั้งหลาย ระหว่างทาง นางถามถึงสถานการณ์ทางบ้านของแต่ละคน บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงหลังจากได้พูดคุยกัน
เมื่อถึงจุดหมาย หลินหวั่นชิวก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกนางเกือบทั้งหมดแล้ว
“พวกเ้าไปพักก่อนเถิด ร้านขายผ้ายังต้องเตรียมการอีกระยะ แต่วันพรุ่งข้าจะให้คนส่งผ้ากับอุปกรณ์มาให้ ข้าจะให้แบบแปลนเช่นกัน พวกเ้าสามารถช่วยกันทำชุดตามแบบออกมาให้ข้าดูก่อนได้”
แม่นางทั้งหลายเพิ่งจะโล่งอกก็ตอนที่ถูกหลินหวั่นชิวพามาที่ร้านค้าขนาดสองลาน
ต้องยอมรับว่าการตามหลินหวั่นชิวมาไม่ต่างกับการวางเดิมพัน อย่างไรเสียพวกนางก็ยังกลัวว่าจะถูกขาย
หากจะถูกขาย หลินหวั่นชิวคงพาพวกนางไปที่หอโคมเขียวแล้ว ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมาเช่นนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้