หนิวเจิ้นซานเพิ่งหยิบลายแทงสมบัติออกมาพอสายตาของเสวียนเทียนเห็นเข้า กระบี่หยกขาวเล่มน้อยกลางหว่างคิ้วก็สะท้านขึ้นมาเบาๆ
ลายแทงสมบัติชิ้นนั้นมีกลิ่นไอเหมือนกับลายแทงสมบัติอีกสองชิ้นในมือของเสวียนเทียนนั่นก็แปลว่า นี่เป็ชิ้นที่สาม ชิ้นสุดท้ายที่ในมือของเสวียนเทียนขาดไป
เสวียนเทียนได้ลายแทงสมบัติสองชิ้นมาด้วยความบังเอิญเขาไม่มีเงื่อนงำลายแทงสมบัติชิ้นที่สามแต่อย่างใด ไม่มีหนทางให้เสาะหาไม่คิดว่าลายแทงสมบัติชิ้นที่สามที่ต่อให้เดินหาจนรองเท้าเหล็กทะลุก็หาไม่พบชิ้นนี้กลับอยู่ในมือของหนิวเจิ้นซานแล้วตอนนี้หนิวเจิ้นซานก็โยนลายแทงสมบัติชิ้นนี้ราวกับเป็ขยะชิ้นหนึ่งมาให้เสวียนเทียน
ถูกแล้ว โยนขยะถึงแม้ว่าปากของหนิวเจิ้นซานจะพูดว่าสิ่งนี้เป็สมบัติล้ำค่าเหลือประมาณแต่แท้จริงแล้ว ในใจของเขามันไม่มีค่าแม้แต่เหรียญเดียวเพราะว่าลายแทงสมบัตินี้ไม่สมบูรณ์หนิวเจิ้นซานได้ลายแทงสมบัติชั้นนี้มาหลายสิบปีแล้ว สืบทอดกันมาจากผู้นำตระกูลถึงสามรุ่นก็ยังไม่สามารถหาข้อมูลใดๆจากแผนที่บนลายแทงสมบัติได้
ลายแทงสมบัติแผ่นนี้ สำหรับหนิวเจิ้นซานเป็ขยะแต่สำหรับเสวียนเทียนเป็สมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง
ในใจเสวียนเทียนยินดียิ่ง แต่ใบหน้าไม่แสดงออกแม้แต่น้อยยื่นมือออกไปรับลายแทงสมบัติชิ้นนั้นไว้ในมือ ความรู้สึกคุ้นเคยแล่นขึ้นมาจากมือเสวียนเทียนยืนยันได้แน่นอนว่านี่เป็ลายแทงสมบัติชิ้นที่สามที่เขาตามหาอยู่
แต่ลายแทงสมบัติชิ้นนี้มีประโยชน์กับเสวียนเทียนเพียงคนเดียวเท่านั้นสำหรับคนอื่นแล้วไม่มีค่าแม้แต่น้อย หนิวเจิ้นซานไม่ลังเลเลยสักนิด เขาโยนมาให้เสวียนเทียนผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนมองลายแทงสมบัติชิ้นนี้เป็ขยะ
หวงฉีซานก็ไม่เว้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พินิจโดยละเอียดแต่แค่กวาดมองลายแทงสมบัติในมือเสวียนเทียนทีหนึ่ง ก็มองออกว่าเป็ลายแทงขาดๆ แผ่นหนึ่งทั้งยังไม่ได้ขาดหายไปเพียงจุดเดียว ถ้าไม่หาลายแทงชิ้นอื่นมาก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย
หวงฉีซานหัวเราะขึ้นมา “หนิวเจิ้นซาน ตกลงกันแล้วว่ารางวัลของที่หนึ่งคือเงินห้าแสนตำลึงแค่ลายแทงขาดไร้ประโยชน์แผ่นเดียว คิดว่าจะหายกันหรือ?”
หนิวเจิ้นซานเอ่ยว่า “สมบัติล้ำค่าเงินห้าแสนตำลึงเทียบกันไม่ติด ไม่ให้พวกเ้าทอนเงินกลับมาก็นับว่าเป็บุญคุณล้นพ้นแล้วเ้ายังคิดจะเอาอย่างไรอีก? แขนลูกชายข้าขาดต้องรีบรักษาข้าไม่ว่างมาต่อรองราคากับเ้าหรอก”
พูดจบหนิวเจิ้นซานก็อุ้มหนิวจื้อเฉียงะโลงจากเวที ไม่รั้งอยู่ต่อรีบพาคนตระกูลหนิวจากไป สำหรับตระกูลหวงแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะครองหมู่บ้านหวงปั้วทั้งหมดนอกจากนั้นยังมีกิจการอีกไม่น้อยในหมู่บ้านอีกสองแห่ง กิจการของตระกูลใหญ่พอตัวแต่กำลังอยู่ใน่เติบโต เงินทุนที่ต้องใช้ค่อนข้างมากทั้งตระกูลก็ยังมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นเงินทองในมือไม่ได้มีมากนัก
ต่อให้ตระกูลหวงได้หมู่บ้านมาจากตระกูลหนิว เฉิงจางตระกูลละแห่ง แล้วจะทำการค้าขึ้นมา ก่อนอื่นก็ต้องใช้เงินทองลงทุน ยามนี้เงินสดในมือมีค่าอย่างยิ่ง
ดังนั้นเงินห้าแสนตำลึง สำหรับตระกูลหนึ่งอาจไม่มากเท่าไรแต่สำหรับตระกูลหวงแล้วเป็เงินทุนที่จำเป็ต้องรีบใช้ ตระกูลหนิว เฉิงจางแพ้เสียหมู่บ้านมาแล้ว ในใจโกรธแค้นอยู่ แน่นอนว่าย่อมไม่คิดจะเสียเงินอีก
“ท่านลุงสอง ลายแทงสมบัติแผ่นนี้ข้าชอบเงินห้าแสนตำลึงนั่นช่างมันเถิด!” เสวียนเทียนเปิดปากพูดกับหวงฉีซานที่กำลังโกรธจนเดือดกำลังจะตามไปเถียงกับหนิวเจิ้นซาน
หวงฉีซานมองเสวียนเทียนทีหนึ่งเห็นแววตาของเสวียนเทียนดูพอใจกับลายแทงสมบัติมากอยู่ จึงไม่พูดอะไรมากอีกฝ่ามือตบเข้าที่บ่าของเสวียนเทียน หัวเราะเสียงดังกล่าว่า
“ได้! เก่งมากเทียนเอ๋อร์ บิดาเ้าพูดไม่ผิดเลย เ้าชนะการประลองทายาทรุ่นหลังครั้งนี้จริงๆ ฮ่าๆๆๆ...คิดจะกินเมืองหวงปั้วพวกเ้าฝันกลางวัน คราวนี้ดียิ่ง พวกเราชนะได้เมืองกลับมาถึงสามเมืองอาณาเขตของตระกูลหวงขยายขึ้นมาอีกมาก ฮ่าๆๆๆ เทียนเอ๋อร์ พวกเรากลับบ้านเอาข่าวดีไปบอกทุกคนกันเถิด!”
เสวียนเทียนพยักหน้า ในใจคิดอยู่คนเดียวเกรงว่าถึงอาณาเขตของตระกูลหวงจะใหญ่ขึ้น แต่เื่คงไม่ง่ายนัก ถึงตระกูลหนิว เฉิงจางสามตระกูลนั่นจะแพ้เสียหมู่บ้านตระกูลละแห่งให้แก่ตระกูลหวง แต่ก็อาจทิ้งคนของตนไว้จำนวนมากหรือไม่ก็ทำลายให้เสียหาย ให้ตระกูลหวงไม่อาจเติบโตในหมู่บ้านที่ได้ไปในเวลาอันสั้น
การประลองทายาทรุ่นหลังของสี่ตระกูล ตระกูลหนิวตระกูลเฉิง ตระกูลจาง ตระกูลหวงจบลง เสวียนเทียนกับหวงฉีซานและคนอื่นๆกลับไปยังตระกูลหวงที่หมู่บ้านหวงปั้ว
ถึงแม้ว่าลูกหลานจะถูกคนโจมตีทำร้ายจนาเ็หนักทำให้่เทศกาลข้ามปีตระกูลหวงตกอยู่ในความอึมครึมแต่การที่เสวียนเทียนเอาชนะลูกหลานของตระกูลหนิว เฉิง จาง ทั้งสามตระกูลในการประลองทายาทรุ่นหลังแน่นอนย่อมนำความปีติยินดีมาให้บรรดาสมาชิกตระกูลหวง
เมื่อเสวียนเทียนกลับมาถึงหมู่บ้านหวงปั้วคนตระกูลหวงที่รู้ข่าวชัยชนะของการประลองผ่านพิราบสื่อสารอยู่ก่อนแล้ว ทั้งหมดก็มารอรับอยู่ที่นอกหมู่บ้านหวงปั้วแม้กระทั่งหวงหย่วนเฉิงผู้ชราก็ไม่ฟังผู้ใดห้ามปราม ออกมารับเสวียนเทียนพร้อมกับคนอื่นๆด้วย
ในเวลาเดียวกัน ผลการประลองทายาทรุ่นหลังของตระกูลหนิวเฉิง จาง หวง สี่ตระกูลก็แพร่ไปทั่วแต่ละหมู่บ้านของทั้งอำเภอเป่ยโม่อย่างรวดเร็วทายาทตระกูลหวงมียอดอัจฉริยะแห่งยุคปรากฏขึ้นชื่อว่าหวงเทียนพลังวัตรชั้นวิถียุทธ์ขั้นเก้า แต่เอาชนะลูกหลานชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งของสามตระกูลตระกูลหนิว ตระกูลเฉิง ตระกูลจางได้
ผลการต่อสู้ที่ผู้อ่อนแอพลิกชนะผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกยุทธ์ได้ดีที่สุดแล้ว ดังนั้นข่าวนี้จึงแพร่ลามไปทั่วชื่อเสียงของตระกูลหวงเลื่องลือขึ้นมา ใครๆ ก็รู้ข่าวตระกูลหวงได้หมู่บ้านสามหมู่บ้านจากวันนี้เป็ต้นไป อำเภอเป่ยโม่จะไม่ได้มีเพียงสามตระกูลใหญ่แต่เป็สี่ตระกูลใหญ่
เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านหวงปั้ว แน่นอนว่าเสวียนเทียนย่อมกลายเป็จุดรวมสายตาของผู้คนกลายเป็หัวข้อสนทนาของทุกคน และกลายเป็ขวัญใจของผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ทุกคนทุกคนเข้ามาแสดงความยินดีและชื่นชม
ผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็มเสวียนเทียนที่มีเสวียนหงกับหวงเยว่เคียงข้างถึงกลับมาที่ห้องของตนได้เสียงอื้ออึงข้างหูถึงได้สงบเงียบลง
ทั้งหมู่บ้านหวงปั้วเฉลิมฉลองกับชัยชนะครั้งนี้แต่ในใจของหวงเทียนนอกจากตื่นเต้นกับลายแทงสมบัติชิ้นที่สามที่ได้มาสิ่งอื่นใดก็ไม่ได้ตื่นเต้นสนใจอีก
ตระกูลหวงชนะได้หมู่บ้านสามหมู่บ้านมาดูไปแล้วเหมือนตระกูลหวงฉับพลันก็เติบโตใหญ่คับฟ้า แต่เวลานี้ต่างหากที่จะอันตรายที่สุดตระกูลใหญ่ทั้งสามย่อมไม่ยินดีให้ตระกูลหวงเติบโตใหญ่ขึ้น เพราะยิ่งตระกูลหวงใหญ่ขึ้นก็หมายถึงว่าตระกูลทั้งสามยิ่งตกอยู่ในอันตรายวันหนึ่งอาจถึงขั้นถูกตระกูลหวงล้มกลืนตระกูลไปก็เป็ได้
ดังนั้น หากตระกูลหวงไม่มีความสามารถจะข่มทั้งสามตระกูลให้อยู่อย่างเด็ดขาดเมื่อตระกูลหวงเติบโตจนถึงจุดที่ทั้งสามตระกูลไม่อาจยอมรับได้ ตระกูลหนิว เฉิงจางทั้งสามตระกูลต่อให้ไม่อยากสู้ตายกับตระกูลหวง ก็ต้องสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว
ครั้งนี้สามหมู่บ้านที่ต้องเสียให้แก่ตระกูลหวงถ้าไม่ใช่หมู่บ้านที่ไร้ประโยชน์กับตระกูลหวง ก็ต้องให้ตระกูลหวงดิ้นรนถึงจะตั้งต้นได้มีแค่ผลลัพธ์สองแบบ ไม่ว่าจะผลลัพธ์แบบไหน ก็ไม่ดีต่อตระกูลหวงทั้งสิ้น
“พลัง! ต้องมีพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้! ถ้ามีพลังใยต้องไปกลัวตระกูลขั้นเก้าเล็กๆ สามตระกูลอีก ถ้าตระกูลหนิว เฉิงจางกล้าทำร้ายตระกูลหวง เปิดฉากทำลายเสียก็สิ้นเื่ตอนนี้อำนาจของตระกูลหวงยิ่งใหญ่ขึ้นทุกทียากหลีกเลี่ยงการต่อสู้นองเืกับตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูลอาการาเ็ของพวกผู้ใหญ่เรื้อรังมานานหลายปีแล้ว ถ้าเกิดกำเริบขึ้นมาอีกครั้งอาการาเ็ก็ยิ่งหนักสาหัสยิ่งขึ้น คิดจะให้ตระกูลหวงตั้งหลักมั่นคงในอำเภอเป่ยโม่มีแต่ต้องทำให้พลังแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
ในใจของเสวียนเทียนขบคิดความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งในใจยิ่งคิดยิ่งรุนแรง
“เทียนเอ๋อร์ เก่งมากไม่เสียชื่อเป็ลูกหลานตระกูลเสวียน ไม่เสียชื่อความเก่งกาจของพ่อเ้า!” ในบ้านไม่มีใครอื่น หวงเยว่จับแขนเสวียนเทียน ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี
เสวียนหงยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “ข้ายังมีชื่อเสียงเก่งกล้าอะไรอีกหรือ?แต่เทียนเอ๋อร์ ไม่ทำให้พ่อผิดหวังเลย ข้าเสวียนหงมีคนสืบทอดแล้วข้าดีใจยิ่งนัก แต่ว่าเทียนเอ๋อร์ อย่าได้ผยองยโสเพราะเื่นี้เล่าชั้นวิถียุทธ์ขั้นเก้าชนะชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่ง สำหรับอำเภอเป่ยโม่และอาณาจักรเสินเตาแทบจะเป็ตำนานแต่สำหรับแผ่นดินเสินโจวทั้งหมดแล้ว ในตระกูลขั้นหนึ่ง ขั้นสอง ขั้นสามในกลุ่มอำนาจชั้นสูงเ่าั้ อัจฉริยะเช่นนี้แม้ว่าจะไม่มาก แต่สองมือก็นับไม่หมด”
“อืม! ลูกทราบแล้ว”เสวียนเทียนพยักหน้า กล่าวต่อ “ท่านพ่อท่านแม่ ข้ารู้สึกว่าแม้ข้าจะได้ชัยชนะมาแต่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะวางใจเฉลิมฉลองได้ ตระกูลหนิว เฉิงจางทั้งสามตระกูลย่อมไม่ยอมปล่อยให้ตระกูลหวงใหญ่โตขึ้นถ้าหากอำนาจของตระกูลหวงคุกคามอำนาจของพวกเขา พวกเขาคงหันอาวุธเข้าสู้กับตระกูลหวงข่มเหงตระกูลหวงแน่ ดังนั้น ครั้งนี้พวกเขาเสียหมู่บ้านสามหมู่บ้านให้แก่พวกเราถ้าหมู่บ้านเ่าั้ไม่ไร้ประโยชน์กับตระกูลหวงก็เกรงว่าพวกเขาคงจะเริ่มต่อสู้นองเืกับตระกูลหวงสถานการณ์นี้ไม่ดีกับตระกูลหวงสักเท่าไรนัก”
เสวียนหงกับหวงเยว่สบตากันทีหนึ่ง ดวงตาที่สบกันของทั้งสองมีความประหลาดใจในใจคิดเหมือนกัน ‘เทียนเอ๋อร์อายุยังน้อยแต่ความคิดความอ่านต่อเื่ราวต่างๆ กลับเป็ผู้ใหญ่นัก’
เสวียนหงตอบว่า “นี่เป็เื่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าฉากหน้าของตระกูลหวงจะเฉลิมฉลองอย่างยินดีแต่ในที่มืดก็เตรียมพร้อมต่อสู้นองเืกับสามตระกูลไว้แล้ว หากตระกูลหนิว เฉิงจางทั้งสามตระกูลกล้าลงมือจริงๆ บีบตระกูลหวงจนสุดหนทาง ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ต้องเผยวิชาลับของตระกูลเสวียนกับตระกูลหวงไม่สนว่าคนผู้นั้นจะหาเจอ ทำลายสามตระกูลนี้เสีย”
เสวียนเทียนกล่าวว่า “ท่านพ่อพวกท่านไม่จำเป็ต้องลงมือหรอก พยายามอย่าลงมือ ถ้าดึงคนผู้นั้นมาพวกเราคงพบหายนะอย่างแท้จริงจากการประลองทายาทรุ่นหลังครั้งนี้ พลังของสมุนไพร ‘หลินจือหยก’ ในร่างของข้าถูกดูดซับไว้เกือบหมดแล้วอีกไม่นานก็คงทะลุชั้นวิถียุทธ์ขั้นสิบ ใช้เวลาไม่นานรอให้ข้าก้าวขึ้นชั้นเบิกนภาข้าก็สามารถกำจัดตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลได้แล้ว”
ระหว่างที่พูดเสวียนเทียนก็หยิบลายแทงสมบัติทั้งสามแผ่นออกมาจากอกเสื้อพูดต่อว่า “วันนี้ เพื่อที่จะเบี้ยวเงินห้าแสนตำลึงหนิวเจิ้นซานโยนลายแทงสมบัติชิ้นนี้ราวกับเป็ขยะมาให้ข้าเขาไม่รู้ว่าที่ตัวข้ามีลายแทงสมบัติอีกสองชิ้นพอดี ขาดก็เพียงชิ้นที่สามที่ซ่อนสมบัตินี้อยู่ใกล้กับอำเภอเป่ยโม่ ข้ารวมลายแทงทั้งสามชิ้นเป็หนึ่งอาจจะหาสมบัติพบ ได้พบโชคดีก็เป็ได้”
“โอ้!”
เสวียนหงกับหวงเยว่ดวงตาสว่างวาบเสวียนหงพูดอย่างยินดีว่า “ข้าได้ยินท่านลุงสองของเ้าบอกว่าหนิวเจิ้นซานให้ลายแทงขาดแผ่นหนึ่งกับเ้า เ้ากลับยินดีรับมาที่แท้เ้ามีลายแทงอีกสองแผ่น ครั้งนี้หนิวเจิ้นซานนับว่าช่วยได้มากทีเดียว”
เสวียนเทียนซ้อนลายแทงทั้งสามแผ่นเข้าด้วยกันจริงดังคาด ลายแทงทั้งสามแผ่นเชื่อมต่อกันสนิทพอดีส่วนที่ขาดของลายแทงแต่ละแผ่นได้ลายแทงอีกสองแผ่นเสริม กลายเป็แผนที่ที่สมบูรณ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้