หลี่ซานนั่งไม่ติดที่ คิดจะออกไปตามหมอตำแยกลับถูกหลี่หรูอี้ห้ามเอาไว้ “ท่านพ่อ ท่านแม่ใกล้จะคลอดแล้ว หากท่านไม่อยู่ข้างกายย่อมไม่ดีแน่”
หลี่เจี้ยนอันรีบพูดว่า “ท่านพ่อ ข้าจะไปตามหมอตำแย”
หลี่ฝูคังลุกขึ้นยืน รีบจูงมือหลี่เจี้ยนอันเดินออกไปด้วยกัน “น้องสาม น้องสี่ น้องห้า พวกเ้าอยู่เฝ้าท่านแม่ด้วยกันกับท่านพ่อและท่านอารอง พวกเราจะไปเรียกคน”
สองพี่น้องกล่าวจบก็เดินออกไป
หลี่ซานประคองจ้าวซื่อไปที่ห้องนอนอย่างระมัดระวัง หลี่สือที่เดินตามหลังมากล่าวอย่างเป็ห่วงว่า “พี่สะใภ้ เจ็บมากหรือไม่”
“ไม่เจ็บมาก” จ้าวซื่อพยายามอดกลั้นความเ็ป กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ไม่เป็ไร นี่ไม่ใช่การคลอดครั้งแรกของข้า ต้องไม่เป็อะไรแน่นอน”
คนในครอบครัวตื่นเต้นกันจนหน้าซีด หลี่หรูอี้เป็คนที่สงบนิ่งที่สุด กล่าวด้วยน้ำเสียงปกติว่า “พี่สาม ท่านไปตามน้าหม่ากับอู่โก่วจื่อมา พี่สี่ท่านไปต้มน้ำ ท่านพ่อ ท่านกับท่านอาออกไปก่อน ข้าจะดูท่านแม่เอง”
หลี่ซานรู้สึกไม่วางใจ มองไปทางหลี่หรูอี้แล้วกล่าวว่า “เ้าไม่เคยทำคลอดมาก่อน จะเข้าใจเื่พวกนี้ได้อย่างไร”
“ข้ารู้เื่มากมาย ท่านรีบออกไปเถิด” หลี่หรูอี้ส่งสายตาให้หลี่สือ “ท่านอารอง พาท่านพ่อออกไป”
เมื่อสองพี่น้องหลี่ซานออกไปแล้วหลี่หรูอี้ก็จุดตะเกียงให้สว่าง จากนั้นจึงบอกให้จ้าวซื่อนอนลงแล้วปลดผ้าส่วนล่างออก เมื่อมองผ่านแสงตะเกียงไป พบว่าชุดของจ้าวซื่อมีเืเปื้อนอยู่มาก เป็เืสีแดง
เห็นเืย่อมดีกว่าน้ำคร่ำ หากเป็น้ำคร่ำแสดงว่าจ้าวซื่อใกล้จะคลอดแล้ว และอาจทำให้เด็กที่ไม่มีน้ำคร่ำขาดอากาศได้ จะทำให้คลอดยาก หรือคลอดออกมาแล้วพิการ หากสาหัสก็อาจถึงตายได้
จ้าวซื่อเอ่ยถาม “เป็อย่างไรบ้าง”
หลี่หรูอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าขอดูหน่อยว่าปากมดลูกท่านเปิดเท่าใดแล้ว” นางเตรียมเครื่องมือสำหรับทำคลอดไว้ั้แ่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว ประกอบไปด้วยถุงมือที่ทำจากผ้าไหม เข็ม และกรรไกรสำหรับใช้ทางการแพทย์ เป็ต้น
หลี่หรูอี้สวมถุงมือแล้วทำการตรวจให้จ้าวซื่อ การกระทำของนางเป็ไปอย่างอ่อนโยน ไม่ได้เพิ่มความเ็ปให้จ้าวซื่อแต่อย่างใด
ตอนที่จ้าวซื่อตั้งครรภ์ครั้งแรกและครั้งที่สองล้วนเชิญหมอตำแยมาทุกครั้ง ส่วนครรภ์ที่สี่ซึ่งก็คือ หลี่หรูอี้ หมอตำแยยังมาไม่ถึงก็คลอดออกมาก่อน
เื่เกิดมาสิบกว่าปีแล้ว จ้าวซื่อจำได้ไม่ชัดเจนนัก จำได้เพียงว่า ตอนคลอดหลี่หรูอี้ใช้แรงไม่มาก ตอนคลอดบุตรคนโตและบุตรคนรองใช้แรงมากที่สุด
จ้าวซื่ออดถามอีกไม่ได้ว่า “เป็อย่างไรบ้าง”
“เปิดสามนิ้วแล้ว รอให้เปิดถึงสิบนิ้วก่อนก็จะคลอดได้แล้วเ้าค่ะ” หลี่หรูอี้รู้สึกประหลาดใจที่ปากมดลูกของจ้าวซื่อเปิดเร็วเช่นนี้ คงจะเกี่ยวกับเื่ที่ว่า นี่เป็ครรภ์ที่ห้าของจ้าวซื่อ และเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวออกกำลังในวันปกติ
หม่าซื่อและอู่โก่วจื่อวิ่งมาอย่างรีบร้อน มุมปากของอู่โก่วจื่อยังมีเศษโจ๊กเปื้อนอยู่ด้วยซ้ำ ครอบครัวพวกนางกำลังกินข้าวกันอยู่ เมื่อได้ยินหลี่อิงฮว๋ากล่าวว่า จ้าวซื่อจะคลอดแล้ว จึงรีบวางตะเกียบแล้ววิ่งมาทันที
ซื่อโก่วจื่อก็ตามมาด้วย เขากล่าวกับหลี่อิงฮว๋าที่อยู่ด้านนอกว่า “ท่านน้าต้องรออีกหลายวันจึงจะคลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงคลอดก่อนกำหนดได้เล่า?”
หลี่อิงฮว๋ากล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “อย่าไปพูดถึงเลย ท่านแม่เล่าเื่สองพ่อลูกบ้านชวีตีท่านอารองให้ท่านพ่อฟังจนเกิดโทสะ พอโกรธก็เจ็บท้องคลอด”
“ท่านน้าเป็คนมีวาสนาย่อมไม่เป็ไรแน่นอน” ซื่อโก่วจื่อกระวนกระวายจนเสียงสั่น
หลี่หรูอี้ให้หม่าซื่อและอู่โก่วจื่ออยู่เป็เพื่อนจ้าวซื่อ ส่วนตนเองเดินออกไปกล่าวว่า “พวกท่านไม่ต้องกังวล ท่านแม่อาการดีมาก อีกไม่นานก็จะคลอดแล้วเ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่ซานก็เบิกตากว้างด้วยความร้อนใจ “หรูอี้ แม่เ้าจะคลอดแล้วหรือ”
“ใช่แล้วเ้าค่ะ อีกไม่นานท่านจะมีบุตรชายเพิ่มอีกสองคนแล้ว ท่านไปย้ายเปลเข้าห้องเถิด จัดเครื่องนอนอะไรให้เรียบร้อย แล้วไปต้มนมแพะให้ดี” หลี่หรูอี้เริ่มจัดแจงงานให้ทุกคน
หลี่ซานเห็นบุตรีสุดที่รักสงบนิ่งเช่นนี้จึงสงบใจตามไปด้วย รีบไปทำงานตามคำสั่งของบุตรี
หลี่หรูอี้หิ้วกล่องยาเดินเข้าไปในห้องนอน
กล่องยานี้ทำจากไม้หงมู่ ด้านในมีเจ็ดชั้น อู่โก่วจื่อใช้เงินหกร้อยทองแดงซื้อมาจากตำบลจินจี เพื่อมอบให้หลี่หรูอี้เป็ของขวัญ
จ้าวซื่อคุยกับหลี่หรูอี้เช่นเดิม ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วเด็กก็ยังไม่คลอด ตอนนี้ปากมดลูกเปิดถึงสิบนิ้วแล้ว ชั่วขณะนี้เป็่เวลาที่เ็ปจนถึงขีดสุด จ้าวซื่อกรีดร้องออกมาเสียงดังจนเกือบทำให้หลังคาถล่ม
อู่โก่วจื่อใจนมือไม้สั่น ยืนแทบไม่ติดที่ ส่วนหม่าซื่อมีประสบการณ์มากจึงคอยช่วยหลี่หรูอี้ทำคลอดอยู่ข้างๆ
หลี่หรูอี้กล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ อย่าร้องเ้าค่ะ เก็บแรงไว้คลอดน้องชายนะเ้าคะ”
จ้าวซื่อไม่อยากร้องแต่นางเจ็บเหลือเกิน ความเ็ปทรมานทำให้นางรู้สึกเหมือนจะตาย
หลี่หรูอี้ร้องว่า “ข้าเห็นหัวน้องชายแล้ว! ท่านแม่ ท่านออกแรงอีกเ้าค่ะ!”
จ้าวซื่อปวดจนแทบสลบทั้งยังมีเหงื่อท่วมตัว มือทั้งสองกำแน่น เค้นเรี่ยวแรงออกมาหมดตัว รู้สึกว่าท่อนล่างมีของลื่นๆ ราวกับปลาตัวใหญ่ไหลออกมา ทารกคนแรกก็คลอดออกมาเช่นนี้เอง
หลี่หรูอี้รีบใช้สุราเช็ดทำความสะอาดกรรไกร แล้วนำไปเผากับไฟตะเกียง จากนั้นจึงนำกรรไกรที่ผ่านการฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้วมาตัดสายรก
หม่าซื่อรับทารกที่กำลังร้องไห้เสียงดังมาจากมือของหลี่หรูอี้ นางมองสังเกตทารกอย่างละเอียด จากนั้นจึงหัวเราะ “น้องสาว เป็ลูกชาย ยินดีกับเ้าและสามีด้วย”
“ยังมีน้องชายอีกคนหนึ่งเ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านรีบออกแรงเร็วเข้า!” เสียงหลี่หรูอี้ดังยิ่งขึ้นกระทั่งกลบเสียงของหม่าซื่อจนมิด
“ซู่เหมย!” หลี่ซานที่อยู่ด้านนอกส่งเสียงเรียกด้วยความกังวลสุดเปรียบ ชั่วขณะนี้เขาเข้าใจแล้วว่า เหตุใดหลี่หรูอี้จึงไม่ยอมให้เขาไปตามหมอตำแย กลับรั้นจะให้เขาอยู่ที่บ้านเสียให้ได้ ที่แท้ยามที่จ้าวซื่อคลอดบุตรก็เ็ปทรมานเพียงนี้เชียว ไม่ง่ายเลยจริงๆ
“แว้!” เสียงร้องกระจ่างใสของทารกดังสนั่นห้องอีกครั้ง
“คลอดแล้ว คลอดอีกคนหนึ่งแล้ว เป็เด็กชาย!” หม่าซื่อยิ้มไม่หุบ นางทราบดีว่าหลี่ซานกำลังรอข่าวอยู่ด้านนอก จึงวิ่งไปที่ประตูแล้วะโเสียงดัง “น้องสาว น้องเขย ยินดีกับพวกเ้าจริงๆ ได้ลูกชายอีกสองคนแล้ว”
หลี่ซานกล่าวเสียงแ่ “ซู่เหมย เ้ายังดีอยู่หรือไม่”
“มีพวกเราอยู่ ท่านแม่ย่อมสบายดี” หลี่หรูอี้ไม่สนใจดูใบหน้าของทารกน้อย รีบตัดสายรกให้ทารกอีกครั้ง จากนั้นจึงส่งเขาให้อู่โก่วจื่อแล้วกล่าวยิ้มๆ ว่า “ดูเถิด เ้าใถึงเพียงนี้เชียว มีข้าอยู่เ้ากลัวอะไร”
“ใช่แล้ว” อู่โก่วจื่อนับว่ามีประสบการณ์อุ้มเด็กอยู่มาก จ้าวซื่อก็ไม่ร้องว่าเ็ปอีก คราวนี้อู่โก่วจื่อจึงไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย
หลี่หรูอี้จัดการทำความสะอาดให้จ้าวซื่ออย่างรวดเร็ว นางเช็ดเืบนร่างและส่วนต่างๆ ของจ้าวซื่อจนสะอาด แล้วเดินออกไปบอกหลี่ซาน หลี่อิงฮว๋า และหลี่ิ่หาน ให้นำถังไม้ไปใส่น้ำเข้ามา ทั้งยังกำชับไปด้วยว่า “คนมากเกินไป พวกท่านวางของไว้แล้วออกไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วพวกท่านค่อยเข้ามาใหม่”
ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเื จ้าวซื่อคลอดอย่างปลอดภัย นับว่าคลอดได้อย่างราบรื่นมาก แต่จะอย่างไรยามสตรีคลอดบุตรก็ต้องเสียเืมากเป็เื่ธรรมดา
หลี่ซานและบุตรชายอีกสองคนยังไม่วางใจ จึงมองไปทางจ้าวซื่ออยู่พักใหญ่แล้วค่อยเดินออกไป เมื่อเดินออกไปแล้วค่อยนึกขึ้นได้ว่าพวกตนลืมดูทารกน้อย
หลี่หรูอี้จัดแจงให้หม่าซื่อและอู่โก่วจื่อพาทารกทั้งสองคนไปอาบน้ำล้างตัว ทั้งยังกำชับให้ด้วยว่า “อย่าให้น้ำถูกสายสะดือของน้องชายข้าเป็อันขาด”
“ได้ เ้าวางใจเถิด” หม่าซื่อไปทำตามที่หลี่หรูอี้บอก
อู่โก่วจื่อกล่าวด้วยใบหน้าเลื่อมใส “หรูอี้ เ้ารู้เื่มากมายจริงๆ”
หลี่หรูอี้ทำความสะอาดร่างกายให้จ้าวซื่อด้วยตนเอง การเคลื่อนไหวยังคงอ่อนโยนและแ่เบาเป็อย่างยิ่ง ทำให้จ้าวซื่อซาบซึ้งจนน้ำตาไหล
ในใจของหลี่หรูอี้รู้สึกทั้งนับถือและเลื่อมใสที่จ้าวซื่อคลอดเด็กออกมาได้อีกสองคนแล้ว เมื่อเห็นจ้าวซื่อมีน้ำตาเต็มหน้า จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ท่านคลอดลูกชายได้อีกสองคนแล้ว ดีใจจนน้ำตาไหลเชียวหรือเ้าคะ”
จ้าวซื่อกล่าวทั้งน้ำตา “หรูอี้ ชาติก่อนข้าคงสะสมบุญกุศลมามากกระมัง จึงได้มีลูกสาวที่ดีเช่นเ้า”
“ใช่แล้ว ผู้ใดจะไปคิดว่าหรูอี้เพิ่งอายุเพียงเท่านี้ ก็ทำคลอดให้เ้าได้แล้ว หรูอี้ดีมากจริงๆ” จากนั้นหม่าซื่อก็กล่าวขึ้นบ้าง “อู่โก่วจื่อของข้าก็ดีเช่นกัน”
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้