หลินหวั่นชิวเองก็เหนื่อยเช่นกัน หลังจากที่เปลี่ยนมาใช้ผ้าห่มนุ่มๆ ผืนใหม่ก็หลับลงอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เจียงหงหย่วนมาเรียกนางไปกินข้าว เขามองใบหน้ายามหลับอันสงบของนาง สุดท้ายก็ปลุกไม่ลง
แต่ตอนที่เมียตัวน้อยหลับ คิ้วนางขมวดกันแน่น นึกย้อนถึงภาพที่เห็นยามเขาวิ่งกลับมาถึงบ้าน…ใจของเจียงหงหย่วนก็ตึงแน่นราวกับถูกใครใช้มือบีบ
ใบหน้าขาวใสเหมือนเต้าหู้ของเมียตัวน้อยมีแผลสองสามรอย เกิดจากตอนที่คนพวกนั้นจับหน้านางกดกับพื้น
คิดจะทำลายโฉมกันชัดๆ!
ถึงจะถ่วงน้ำแต่ก็ต้องทำลายโฉมนางด้วย
เจียงหงหย่วนจำได้ว่าคนที่ลงมือคือหลินซย่าจื้อ
ทำลายโฉม…
ถ่วงน้ำ…
หากเขากลับมาช้าอีกแค่นิดเดียว…เมียตัวน้อยคงตายไปแล้ว
เขาจำพวกคนที่ร้องะโให้จับเมียตัวน้อยถ่วงน้ำได้เป็อย่างดี เขาจดบัญชีนี้ไว้แล้ว มีเวลาให้ค่อยๆ คิด!
โดยเฉพาะหลินซย่าจื้อ
เจียงหงหย่วนเป็คนประเภทที่เข้าข้างพวกพ้องตัวเอง ตัวโตแต่ใจแคบ
ให้สู้ศัตรูด้วยรอยยิ้มอะไรนั่น ผายลมเถอะ!
เข้าบ้านเขามาแล้วก็คือครอบครัวเขา คนในครอบครัวเขาถูกรังแก…ฮึ่ม หากไม่แก้แค้นคืน เขาก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว!
เจียงหงหย่วนยกมือคลายคิ้วที่ขมวดเป็ปมของเมียตัวน้อยอย่างอดไม่ได้เสร็จก็ยกชามอาหารออกไป
เขานั่งยองๆ อยู่หน้าประตู พุ้ยอาหารที่เตรียมไว้ให้หลินหวั่นชิวเข้าปากอย่างรวดเร็ว เคี้ยวไม่กี่ครั้งก็กลืน
กินเสร็จก็เข้าไปล้ามชามในห้องครัว ตักข้าวคีบอาหารถ้วยใหม่ให้หลินหวั่นชิวและวางอุ่นบนเตา
เพื่ออุ่นอาหารให้หลินหวั่นชิว ไฟในท้องเตาไม่ได้ดับหมด
“ต้าเกอ…” เจียงหงหนิงเดินมาหน้าห้องครัว กัดปากมองเจียงหงหย่วนอย่างหวาดกลัว
“เอ้อร์เกอฟื้นแล้วขอรับ”
“ฟื้นแล้วก็เอาโจ๊กใส่เนื้อไปให้เอ้อร์เกอของเ้า” เจียงหงหย่วนไม่มองเขา หันไปหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งเดินออกไป
ห่างจากบ้านพวกเขาไม่ไกลมีแม่น้ำเล็กๆ อยู่หนึ่งสาย หากไม่ใช่หน้าหนาว ส่วนใหญ่เขาก็ไปอาบน้ำที่นั่น
“ต้าเกอไม่ไปดูเอ้อร์เกอหน่อยหรือ!” เจียงหงหนิงเดินตามไปสองสามก้าว
เจียงหงหย่วนพูดโดยไม่หันมามอง “ไม่ดู ชีวิตเป็ของเขาเอง ถ้าไม่อยากได้ก็อย่าทำคนอื่นเดือดร้อน!”
เจียงหงหนิงมองแผ่นหลังของเจียงหงหย่วนด้วยดวงตาแดงก่ำ เหตุใดต้าเกอไม่ถามเอ้อร์เกอก็รู้แล้วว่าผู้คนนั้นบริสุทธิ์?
เขาไม่เข้าใจ
เขาเฝ้าเอ้อร์เกอตลอดเพราะอยากให้ฟื้นแล้วถามให้รู้เื่
ต้าเกอโมโหแล้ว
ก็ใช่นะ เขาเกือบทำให้ต้าเกอขาดทุน หากผู้คนนั้นตาย หมูป่าของต้าเกอคงเสียเปล่า
เขาจำคำของเอ้อร์เกอได้ ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมเข้าหอกับต้าเกอ
เมียที่ยังไม่ทันเข้าหอเกือบตาย ต้าเกอจะโมโหก็ไม่แปลก
เจียงหงหย่วนรีบอาบน้ำในแม่น้ำให้เสร็จ ซักเสื้อผ้าสกปรกให้เรียบร้อยแล้วรีบกลับบ้าน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขาไม่สนใจเจียงหงหนิงที่ยืนรอ พูดติดอ่างอยู่หน้าประตู ตากเสื้อผ้าและเดินเข้าห้อง
เขาจุดตะเกียงน้ำมัน แสงไฟขนาดเท่าเม็ดถั่วช่วยไล่ความมืดออกไปบางส่วน ใต้แสงตะเกียงที่ส่ายไหว เมียตัวน้อยกำลังนอนหลับสนิท
เจียงหงหย่วนใส่สมุนไพรที่เก็บจากริมแม่น้ำเข้าปากเคี้ยวแล้วทาบนหน้าหลินหวั่นชิว
หลินหวั่นชิวยกมือปัด สมุนไพรร่วงตกบนหมอน
เจียงหงหย่วนรีบเก็บกากยา เขาคิดไปคิดมา ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าขึ้นเตียง ดึงนางเขาอ้อมแขนและกุมมือนาง จากนั้นจึงเคี้ยวสมุนไพรและคายออกมาทาให้นางอีกครั้ง
เป็ไปตามคาด หลินหวั่นชิวขยับไปมาอย่างไม่สบายตัว เจียงหงหย่วนใช้ขาข้างหนึ่งกดขานาง มือหนึ่งรวบเอว กดมือนางไว้ มืออีกข้างสอดผ่านใต้คอนางไปกดศีรษะอ่อนนุ่มเข้ากับอกตัวเอง
อื้ม
การบังคับได้ผลจริงด้วย หลินหวั่นชิวไม่ขยับตัวอีก เสียงอู้อี้เหมือนนกพิราบดังออกมาจากลำคอแต่ก็ถือว่าสงบนิ่ง
นางหลับสนิท
แต่เจียงหงหย่วนกลับนอนไม่หลับ
ร่างกายนุ่มนิ่มส่งกลิ่นหอมอยู่ในอ้อมอก กลิ่นของหญิงสาวลอยปะทะจมูก ในหัวเขาะเิดังปัง เืทั่วร่างไหลไปกองที่จุดเดียว ปืนใหญ่ที่หลับใหลตื่นขึ้นทันที มันกระตุกแล้วผงาดขึ้นป่าวประกาศว่าเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วอย่างองอาจ พร้อมยิงปืนใหญ่ได้ทุกเมื่อ
ให้ตายเถอะ
ปืนใหญ่กำลังอาละวาดเร่งให้เขาเข้าโจมตีศัตรูอย่างบ้าคลั่ง
เจียงหงหย่วนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง อยากแนบร่างกับหลินหวั่นชิวแต่ก็กลัวยาบนหน้านางจะหลุด ได้แต่อดทนไว้
มองได้ แตะต้องได้ ลูบได้ แต่กินไม่ได้ เจียงหงหย่วนทรมานเหมือนถูกเผาบนเปลวไฟร้อนระอุ
ทันใดนั้นเอง โลหิตอุ่นร้อนสายหนึ่งไหลออกทางจมูก เจียงหงหย่วนสบถในใจ ยกมือและขาตัวเองออกจากตัวหลินหวั่นชิวด้วยความระมัดระวัง รีบลุกจากเตียงไปราดน้ำเย็นใส่ร่างที่ลานบ้าน
เมื่อเพลิงร้อนในร่างดับลงและเืกำเดาหยุดไหล เจียงหงหย่วนจึงกลับเข้าห้อง
แต่เขาไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้หลินหวั่นชิวแล้ว สุดท้ายก็ปีนกลับขึ้นเตียงอย่างระมัดระวัง เอาตัวนอนชิดกับกำแพง
เขายังคงไม่หลับตา เอาแต่จ้องหน้าหลินหวั่นชิว กลัวนางพลิกตัวหรือขยับจนยาบนหน้าหลุด
หลินหวั่นชิวตื่นขึ้นเพราะความหิว นางลืมตาขึ้นกลางความมืด เห็นดวงตาคู่หนึ่งจ้องมาที่ตัวเองเหมือนหมาป่า และที่สำคัญไปกว่านั้น นางได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย…
“มารดามันเถอะ…”
นางดีดตัวลุกขึ้นด้วยความใ