ในเวลาต่อมา
ศักรินทร์รอรถตู้อยู่พักใหญ่ๆ สายตาเหลือบมองฟ้าฝนตั้งเค้าครึ้มคำราม แต่รถตู้ก็ยังไม่มาเสียที
ฝนเริ่มโปรยเม็ดเปาะแปะลงมากระทบหลังคาศาลาลมที่ศักรินทร์กำลังอาศัยหลบฝน ทอดสายตามองฝ่าเม็ดฝนไปด้วยอาการกระวนกระวาย
นั่งรออยู่นานรถตู้ก็ยังไม่มา ด้วยความใจร้อนอยากไปให้ถึงกรุงเทพฯ ทำให้ศักรินทร์ตัดสินใจเดินออกมาโบกมือเรียกรถสิบล้อบรรทุกอ้อยคันหนึ่งที่วิ่งผ่านมาพอดี ด้วยคิดว่าถ้าขอติดรถเข้าไปในเมือง ก็น่าจะมีรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ เป็อีกทางเลือกที่ไม่ต้องนั่งรอรถตู้คันสุดท้าย ซึ่งตอนนี้ศักรินทร์เริ่มไม่แน่ใจว่าวิ่งผ่านไปแล้วหรือยัง
“พี่ครับ... ”
ศักรินทร์เดินออกมาโบกไม้โบกมือพร้อมกับะโถาม เมื่อโชเฟอร์รถสิบล้อเบรครถชะลอความเร็ว เทียบเข้ามาจอดใกล้กับศาลาลมที่แลเห็นร่างอ้อนแอ้นบอบบางยืนรออยู่
“มีอะไรไอ้น้องชาย”
คนในรถชะโงกใบหน้าออกมาถาม
“ขอผมติดรถไปด้วยได้ไหมครับ”
ศักรินทร์ถามแข่งกับเสียงฝนที่โปรยปรายลงมากระทบหลังคาสังกะสีของศาลาลม ดังโครมครืนแข่งกับเสียงฟ้าคำราม
“ได้สิ… ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
โชเฟอร์รถสิบล้อซึ่งเป็ชายวัยกลางคน ผิวดำ ใบหน้าคมเข้ม มีหนวดเคราจัดว่าหล่อ แม้จะนั่งอยู่ในรถ หากก็พอจะเดาได้ว่าต้องเป็ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เปิดประตูรถออกมาส่งยิ้มหวานให้ศักรินทร์
“ขอบใจครับพี่”
ศักรินทร์ดีใจ ส่งยิ้มหวานให้พี่โชเฟอร์หน้าเข้ม
“รีบขึ้นมาเถอะเดี๋ยวจะเปียก”
คนขับสิบล้อรีบบอก ชายหนุ่มหิ้วกระเป๋าสัมภาระ ก้าวเดินอ้อมมาอีกด้าน รีบเปิดประตูขึ้นมานั่งเคียงข้างกับคนขับ
“เอ็งจะไปไหน… ”
โชเฟอร์ถามพลางเหลือบมองชายหนุ่มแวบหนึ่ง เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางที่ศักรินทร์สวมใส่เปียกชื้นไปด้วยน้ำฝน ทำให้เนื้อผ้าแนบเน้นสรีระ แลเห็นเม็ดหัวนมสีแดง แทงเนื้อผ้าตั้งเด่ขึ้นมาอวดจุกนมสะดุดตา
ความขาวเนียนสะอาดสะอ้านของผิวพรรณและใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเด็กหนุ่มคนนี้ ทำให้โชเฟอร์สิบล้อแอบกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเอื๊อกด้วยความลืมตัว
