ตูมมมม!
อู๋จ้าวที่ได้ยินคำพูดนั้น รอยยิ้มของเขาแปรเปลี่ยนเป็ความโกรธ เขามองเล่ยเฉินด้วยสายตาแห่งความโกรธ ก่อนจะกระชากอาจารย์ของเล่ยเฉินเข้ามาประกบปากจูบอย่างดูดดื่มต่อหน้าทุกคน
แต่ถึงกระนั้น สีหน้าของเล่ยเฉินก็ยังคงสงบนิ่ง ราวกับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความกดดัน ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะบางคนเริ่มโกรธแค้นจนมือกำหมัดแน่น ขณะที่ศิษย์บางคนรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้น อู๋จ้าวก็ะโลงไปกลางลานประลอง พร้อมกับลากอาจารย์ของเล่ยเฉินและอดีตคู่หมั้นของเขาลงไปด้วย ซึ่งผู้าุโของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็เปิดรูปแบบให้เขาเข้ามาก่อนจะปิดมันทันทีเพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาด้วย แต่ผู้พิทักษ์ของอู๋จ้าวไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจากว่าหญิงสาวข้างกายอู๋จ้าวนั้นมีการบ่มเพาะระดับกึ่งจักรพรรดิ และในตัวอู๋จ้าวยังมีเศษจิติญญาของทั้งพ่อของเขาและบรรพบุรุษอีกหลายคนด้วย ด้านล่าง อู๋จ้าวยิ้มก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ แล้วกล่าวเสียงดัง
"มาเลย ข้าจะต่อให้พวกเ้าทุกคนเข้ามาพร้อมกันเลยก็ได้!"
"ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะขยะๆ จะมีดีสักแค่ไหนกันเชียว?"
เสียงเย้ยหยันของเขาทำให้ศิษย์หลายคนโกรธจัด แต่ในขณะเดียวกัน จินเทียน ที่ยืนมองเล่ยเฉินอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมในความสงบนิ่งของเล่ยเฉิน หลังจากเขาเห็นสถานการณ์ทั้งหมดเขาพอจะเดาเื่ได้คร่าวๆ
้าท้องฟ้า มู่หนานซือ เ้าแห่งยอดเขา และผู้าุโคนอื่นๆ กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จากกองกำลังฝ่ายตระกูลอู๋ แรงกดดันอันมหาศาลปะทะกันบนท้องฟ้า จนเหมือนท้องฟ้าจะถล่มลงมาได้ตลอดเวลา แต่แค่ตัวของ มู่หนานซือ คนเดียวก็สามารถต่อสู้กับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เกือบ 15 คนด้วยตัวคนเดียว แต่ก็ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
แต่ในขณะนั้นเอง ร่างของเล่ยเฉินพลันเคลื่อนไหว เขาะโขึ้นไปกลางเวทีประลอง ดวงตาของเขาจ้องมองอู๋จ้าวอย่างเยือกเย็น
"ข้าจะเป็คู่มือให้เ้าเอง"
อู๋จ้าวที่ได้ยินเช่นนั้น หัวเราะออกมาอย่างสะใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า! งั้นข้าก็จะเล่นกับเ้าเอง!"
สิ้นสุดคำพูดของอู๋จ้าว ร่างของเขาก็พุ่งเข้าใส่เล่ยเฉิน หมัดของเขาถูกเสริมพลังพุ่งตรงไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายทันที! โดยอ้อมแรงเอาไว้เมื่อกี้เขาสำรวจข้อมูลของเล่ยเฉินและพบว่ามันอยู่ในระดับแกนทองคำเท่านั้นดังนั้นเขากะจะทรมานมันเล่นสักหน่อย ก่อนจะฆ่าทิ้ง
เมื่ออู๋จ้าวพุ่งเข้ามาพร้อมปล่อยพลังจากการบ่มเพาะระดับิญญาแรกเริ่ม ขั้นที่ 9 เท่านั้นจากระดับการฝึกฝนที่แท้จริงของเขาที่ไม่นับรวมพลังปีศาจอยู่ที่ ขั้นที่ 9 ของการรวมร่าง โดยหวังจะทำให้เล่ยเฉินพิการอีกครั้ง หมัดของเขาเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่สามารถบดขยี้กระดูกของศัตรูได้อย่างง่ายดาย
ทว่าก่อนที่หมัดนั้นมันจะััตัวเล่ยเฉิน ร่างของเขากลับเบี่ยงตัวออกด้านข้างอย่างง่ายดายด้วยความสงบนิ่งและพลิ้วไหว จากนั้นปล่อยหมัดเบาๆ ไปที่ไหล่ขวาของอู๋จ้าว
ทันใดนั้นเอง อู๋จ้าวรู้สึกถึงบางสิ่งผิดปกติ แขนของเขาไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป!
สายตาของเล่ยเฉินที่เคยสงบเยือกเย็นแปรเปลี่ยนเป็ โทสะอันรุนแรง เขาหมุนตัวอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งเข้าไปใช้นิ้วแทงเข้าไปที่ดวงตาของอู๋จ้าวโดยไม่ลังเล
ฉึก!
"อ๊าาาาาา!!"
เสียงกรีดร้องของอู๋จ้าวดังขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เปล่งเสียงออกมาเต็มที่ ดาบสีดำพลันพุ่งออกจากร่างกายของเล่ยเฉิน แทงทะลุเข้าไปที่ไหล่ซ้ายทำลายเส้นประสาท ณ จุดนั้นทันที ทำให้แขนซ้ายของอู๋จ้าวไม่สามารถขยับได้ ก่อนจะตวัดดาบลงมาเฉือนเส้นเอ็นที่ข้อเท้าทั้งสองด้านของอู๋จ้าว ทำให้ร่างของเขาทรุดฮวบลงไปกับพื้นทันที
แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านั้น ดาบของเล่ยเฉินที่เต็มไปด้วยโทสะพุ่งเข้าหา ตันเถียน ของอู๋จ้าวอย่างไร้ความปรานี
ฉึก!!
"อ๊าาาาาา!"
พลังมหาศาลซัดเข้าไปที่จุดตันเถียนของอู๋จ้าว ทำให้ตันเทียนของเขาพังทลายลง พร้อมกับพลังการบ่มเพาะที่ตกลงอย่างรวดเร็ว
การรวมร่าง ระดับที่ 9
……
การรวมร่าง ระดับที่ 1
……
……
ก่อตั้งิญญา ระดับที่ 1
……
……
ิญญาแรกเริ่ม ระดับที่ 1
……
……
……
แกนทองคำ ระดับที่ 1
……
……
การควบคุมชี่ ระดับที่ 1
ภายในพริบตา การบ่มเพาะของอู๋จ้าวถูกทำลายจนหมดสิ้น
แต่เล่ยเฉินไม่ได้หยุดแค่นั้น เขายกหมัดพุ่งเข้าหาอู๋จ้าวอย่างรวดเร็ว หมัดของเขาพุ่งตรงไปที่กลางอกอีกฝ่าย พร้อมแรงทำลายล้างอันมหาศาล
ฉัวะ!
หมัดของเขาทะลุเข้าไปถึงด้านหลัง ลากเอา กระดูกศักดิ์สิทธิ์ อันเดิมของตัวเล่ยเฉินออกมาพร้อมกันกับหมัดของเขา ก่อนที่เขาจะตวัดดาบที่อยู่ข้างลำตัวของอู๋จ้าวออก จนตัวของอู๋จ้าวขาดครึ่ง
จินเทียน ศิษย์และผู้าุโทุกคน ที่มองเหตุการณ์ต่างตกตะลึง ั้แ่แรกพวกเขาตั้งใจจะเตือนเล่ยเฉินว่า อู๋จ้าวนั้นมีการบ่มเพาะที่สูงกว่าหลายขั้น แต่จากการต่อสู้ที่เกิดขึ้น พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่า ระดับพลังไม่มีความหมายเลย
เพราะทุกอย่างจบลงในเวลาไม่ถึงสามวินาที! อู๋จ้าวที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะอันดับที่ 1 ในรายชื่ออัจฉริยะ กลับแพ้ง่ายๆ แบบนี้เลย
จินเทียนที่เฝ้ามองอยู่พลันคิดขึ้นในใจ
"ต่อให้เป็ระดับนิพพาน หากต่อสู้โดยใช้วิธีของอู๋จ้าว ภาพที่ออกมาก็คงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่"
ทั้งอาจารย์และคู่หมั้นของเล่ยเฉิน คนจากตระกูลอู๋ กองกำลังพันธมิตรต่างใกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูก
ขณะนั้นเอง อดีตอาจารย์ของอู๋จ้าวเห็นว่าเหตุการณ์ไม่สู้ดี นางตัดสินใจลงมือทันที หญิงสาวปล่อยออร่าระดับกึ่งจักรพรรดิ พุ่งตรงไปที่เล่ยเฉิน หวังจะสังหารเขา
แต่ก่อนที่นางจะได้แตะต้องตัวของเล่ยเฉิน รูปแบบบางอย่างพลันปรากฏขึ้น ปกคลุมร่างของนางไว้ พลังของนางลดลงอย่างรวดเร็วราวกับถูกสูบกลืน ก่อนที่ลำแสงสีทองสว่างจ้าจะพุ่งทะลุร่างของนาง เจาะทะลุร่างของนางจนเป็รู อย่างน่าสยดสยอง
จินเทียนรีบหันไปมองต้นตอของการโจมตี ก่อนจะพบว่า หานิ ยืนอยู่ไม่ไกล พร้อมกับกึ่งจักรพรรดิอีก กว่าพันคน
แต่สิ่งที่ทำให้จินเทียนรู้สึกขนลุกก็คือ เขาไม่รู้สึกถึงพลังชีวิตจากพวกเขาเลย!
กลับไปที่อู๋จ้าว ผู้ซึ่งตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช เขานอนจมกองเืของตัวเอง ดวงตามืดบอด สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ร่างกายเต็มไปด้วยาแฉกรรจ์ พร้อมมองเห็นหมัดของเล่ยเฉินที่กำลังพุ่งเข้ามาที่หัวของเขาอย่างช้าๆ
เขาหอบหายใจหนัก ก่อนจะพยายามส่งเสียงออกมา "ระบบ! ระบบ! ระบบ!!"
เขาพยายามเรียกระบบของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ไอ้ระบบสุนัข! แกหายไปไหน! ช่วยฉันสิวะ!"
แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับแม้แต่น้อย... สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย
แต่ใน่เสี้ยววินาทีก่อนที่เขาจะสิ้นใจ พลังบางอย่างในร่างของเขาพลันกระตุ้นออกมา
ร่างิญญาของหญิงสาวปริศนา ร่างิญญาของพ่อเขาและบรรพบุรุษอีกหลายคนปรากฏขึ้นจากร่างของเขา ท่ามกลางพลังลึกลับที่หมุนวนอยู่รอบตัว
ทว่าเพียงชั่วพริบตา...
ฉึก!!
คลื่นน้ำสีฟ้า พุ่งเข้าแทงทะลุร่างิญญาของหญิงสาวคนนั้นรวมถึงคนอื่นๆ ก่อนที่พวกเขาจะสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
บนท้องฟ้า ณ สนามรบระหว่างจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ฉีหลานคง ที่กำลังต่อสู้กับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลอู๋ เหลือบตามองภาพนั้น ก่อนจะหัวเราะเบาๆ พร้อมกล่าวขึ้น
"โอ้... บรรพบุรุษลงมือแล้วสินะ"
ขณะนั้น หานิ โบกมือส่งสัญญาณ หุ่นเชิดระดับกึ่งจักรพรรดิ ทั้งหมดพุ่งตรงเข้าหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 33 คนจากตระกูลอู๋ และ อีกหลายกองกำลังทันที
เสียงลมตัดผ่านอากาศ ดาบพลังิญญาส่องประกายวูบวาบ แรงกดดันอันมหาศาลจากหุ่นเชิดเหล่านี้ทำให้สนามรบปั่นป่วนไปทั่ว
เ้าแห่งยอดเขา และ ผู้าุโของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ ต่างปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าโจมตีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 33 คนทันที
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง ขณะที่ศึกระหว่างยอดฝีมือระดับสูงปะทุขึ้น
แต่แล้วในชั่วขณะนั้นเอง คลื่นพลังมหาศาลแห่งหยินหยางพลันพุ่งทะยานลงมาจากฟากฟ้า พุ่งตรงเข้าหาหานิอย่างรุนแรง
กระนั้น หานิสร้างดาบแสงขึ้นมาในมือของเขาก่อนจะสะบัดดาบออกไปในเสี้ยววินาที แสงสีขาวสะท้อนฟากฟ้า ราวกับจะผ่าทะลุ์ ดาบนั้นทำลายคลื่นพลังหยินหยางได้อย่างสิ้นซาก ก่อนที่เขาจะหันไปมองเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง
สายตาของหานิจับจ้องไปยังหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้า ด้านหลังของนางทอดยาวไปด้วยเรือเหาะนับหมื่นลำ ลอยเรียงรายเต็มท้องฟ้า และทหารมากมายหลาย 10 ล้านนาย แสงสะท้อนของธงประจำราชวงศ์สะบัดไหวไปมา
ใบหน้านั้น... เขาจำได้ทันที มันเป็ใบหน้าเดียวกับเล่ยเฉิน และจากธงของราชวงศ์หยินหยาง ทำให้เขาเดาได้เลยว่านางคือ... แม่ของเล่ยเฉิน
ในเวลาเดียวกัน ร่างของอู๋จ้าวก็ปลดปล่อยพลังสีแดงดำออกมาอย่างบ้าคลั่ง คลื่นอำนาจที่แผ่ออกมาทำให้พื้นดินใต้ฝ่าเท้าสั่นะเื แต่เล่ยเฉินไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น เขายังคงชกเข้าไปที่หัวของอู๋จ้าว มุ่งหมายสังหารอู๋จ้าวให้ตายทันที
แต่ก่อนที่หมัดนั้นจะัักับอู๋จ้าว จู่ๆ ร่างของหญิงสาวหลายคนก็ปรากฏขึ้นเื้ัของเขา
หนิงซิน... อดีตคู่หมั้นของเล่ยเฉิน จางฟู่... อดีตอาจารย์ของเล่ยเฉิน และสาวใช้หลายคนที่โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ที่ปล่อยออร่าของนักบุญ จนไปถึงกึ่งจักรพรรดิออกมา
จางฟู่ในยามนี้ดวงตาไร้ความเยื่อใยใดๆ ต่อเล่ยเฉิน นางไม่เหลือแม้ความทรงจำหรือความผูกพันในอดีตอีกต่อไป ถึงแม้ร่างกายของนางเต็มไปด้วยาแ แม้ระดับการบ่มเพาะจะตกลงจากกึ่งจักรพรรดิ เหลือเพียงระดับนักบุญจากการโจมตีของหานิ จริงๆ นางควรตายแล้วแต่นางมีร่างกายพิเศษบางอย่าง ที่ทำให้นางมีหลายชีวิต
พวกนางทุกคนต่างเป็ธิดาแห่งโชคชะตาภายใต้การควบคุมของอู๋จ้าว พวกนางไม่ลังเลที่จะลอบโจมตีเข้าใส่เล่ยเฉินจากด้านหลังเพื่อช่วยชีวิตของอู๋จ้าวเอาไว้ คลื่นพลังมากมายกำลังพุ่งเข้าใส่เล่ยเฉิน
“เล่ยเฉิน ข้ามีชีวิตที่ดีแล้ว เ้าหยุดมาทำลายชีวิตดีของข้าได้แล้ว”
“ปล่อยนายน้อยเดี๋ยวนี้”
“เป็แค่ไอ้ขี้แพ้ที่แม้แต่คู่หมั้นตัวเองยังรักษาไว้ไม่ได้ กล้ามาแตะต้องนายน้อยของพวกเรางั้นเหรอ!?”
“ตายซะ”
“ถอยออกไปซะ ไอ้ขี้แพ้!!”
ติง!! ติง! ติง!! ติง! ติง!! ติง!
การโจมตีของหญิงสาวเ่าั้ถูกป้องกันไว้ได้ทั้งหมด พร้อมปรากฏ ร่างของหรงหลี่เซียน ซูไป๋หนิง ฮ่าวหยาง จินเทียน รวมถึงผู้าุโอีกหลายคนแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์มายืนขวางรับการโจมตีของหญิงสาวเ่าั้เอาไว้
“จะแตะต้องพี่ใหญ่ของเรา! ฝันไปก่อนก็แล้วกัน” หรงหลี่เซียนตวาดเสียงอย่างขบขัน
“ไม่เสือกสิ” ฮ่าวหยางพูดขึ้นด้วยแววตาแห่งความเยือกเย็น
พวกเขามองหน้ากันอยู่สักพักก่อนที่ศิษย์ของหานิและจินเทียนจะหยิบยาบางอย่างขึ้นมากินทันที
ตูมมมมมมม
ออร่าของทั้ง 5 คนพุ่งทะยานขึ้นไปยังระดับนักบุญทันที
“ตายซะ” หรงหลี่เซียนะโขึ้น
คลื่นพลังัทอง พลังแห่งความว่างเปล่า คลื่นน้ำแข็ง ลูกไฟขนาดั์ คลื่นดาบ พลังธาตุหลากชนิด และอาคมทำลายล้าง และการโจมตีอีกมากมาย ถูกปลดปล่อยออกพร้อมกันอย่างรวดเร็ว มันคือการโจมตีของหรงหลี่เซียน ซูไป๋หนิง ฮ่าวหยาง จินเทียน รวมถึงผู้าุโอีกหลายคนแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายน้ำะ พุ่งเข้าใส่หนิงซิน จางฟู่ และสาวใช้ทุกคนอย่างรวดเร็ว
ตูม! ตูม! ตูม!
ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงะเิดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ แสงจากการปะทะทำให้แม้แต่ฟากฟ้าก็สั่นไหว พื้นดินแตกร้าวราวกับวัยสิ้นโลก และบนท้องฟ้าออร่าแห่งความศักดิ์สิทธิ์พุ่งลงมาจากบนด้วยความมึนงง ว่ามันจะช่วยฝ่ายไหนดี