"พี่สะใภ้ใหญ่ทำไมท่านถึงไม่นอนพักก่อน? " เซียวจื่อเซวียนเห็นเซี่ยยวี่หลัวตามออกมาด้วยจึงรีบเอ่ยถาม
่ก่อนหน้านี้ต้องหักร้างถางพงปลูกถั่วเซี่ยยวี่หลัวจึงแก้นิสัยเดิมที่ต้องนอนกลางวันทุกวัน ตอนนี้ไม่ยุ่งขนาดนั้นแล้ว นางก็ยังไม่นอนงั้นหรือ?
เซี่ยยวี่หลัวโบกมือ “ไม่นอนแล้ว ไปพวกเราไปหาอาหารกันเถอะ! ”
รอให้ชีวิตในแต่ละวันดีขึ้นก่อนค่อยนอนหากตอนนี้ไม่พยายาม ก็จะไม่มีอะไรให้กินแล้ว
เซียวจื่อเซวียนขานตอบรับตะกร้าในมือเซี่ยยวี่หลัวมาสะพายไว้ด้านหลัง
พวกเขามายังสถานที่จับปลาใน่เช้าอีกครั้งเซี่ยยวี่หลัวอยากไปดูในบริเวณโดยรอบว่ายังมีอาหารอย่างอื่นที่กินได้หรือไม่จึงให้เซียวจื่อเซวียนอยู่ริมแม่น้ำคอยจับปลาด้วยวิธีที่นางใช้เพียงลำพัง
ส่วนนางพาเซียวจื่อเมิ่งเดินไปรอบๆ
เซียวจื่อเซวียนเป็ห่วงพวกนาง “พี่สะใภ้ใหญ่พวกท่านอย่าเดินไกลเกินไป”
เขากำลังเป็ห่วงนาง!
เซี่ยยวี่หลัวยิ้ม “รู้แล้วพวกเราจะเดินดูรอบๆ ”
เซียวจื่อเซวียนก็ยิ้มเช่นกัน
เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้พาเซียวจื่อเมิ่งเดินไกลเกินไปเพียงเดินไปตามริมแม่น้ำ เดือนสามเป็่เวลาที่สรรพสิ่งตื่นขึ้นผักป่าจำนวนไม่น้อยล้วนแตกใบอ่อน เซี่ยยวี่หลัวค้นหาตามพงหญ้าอย่างตั้งอกตั้งใจคาดหวังว่าจะพบของอร่อยบ้าง
เพียงแต่หลังจากค้นหาในบริเวณโดยรอบอยู่นาน ริมแม่น้ำก็ดูแล้ว ตรงตีนเขาก็ดูแล้วบนเนินดินเต็มไปด้วยหญ้ารกขึ้นเต็ม แต่ไม่เห็นว่าจะมีของที่กินได้แม้แต่อย่างเดียว
เซี่ยยวี่หลัวจูงมือเซียวจื่อเมิ่งหาพื้นสะอาดเพื่อนั่งพัก
โค้งตัวก้มหน้าหาอยู่นานสองนานเซี่ยยวี่หลัวเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้ว ทั้งสองคนเพิ่งนั่งลงดื่มน้ำไปไม่กี่คำทันใดนั้น ในพงหญ้าสีเขียวมรกตที่อยู่ไม่ห่างนักเหมือนจะมีตัวอะไระโเข้าไป
นั่นคือกระต่าย!
เซียวจื่อเมิ่งกำลังจะส่งเสียงอุทานก็ถูกเซี่ยยวี่หลัวปิดปากไว้ ก่อนกล่าวเสียงเบา "อย่าส่งเสียง! "
กระต่ายนั้นตื่นตัวมากมีลมพัดหญ้าไหวแม้เพียงนิดเดียวก็จะรู้ตัว
เซียวจื่อเมิ่งรีบปิดปากไว้เซี่ยยวี่หลัวขยับไปกระซิบข้างหูนาง "เ้าย่อตัวอยู่ตรงนี้อย่าขยับข้าจะลองไปดู"
ที่นี่มีกระต่ายตัวใหญ่ถึงเพียงนี้ด้วยไม่แน่ว่าระแวกนี้อาจมีโพรงกระต่าย
เ้าตัวสีขาวดุจหิมะทำหูตั้งฟังความเคลื่อนไหวรอบด้านหลังจากพบว่าไม่มีอันตรายใดๆ มันก็ย่อตัวลง ะโผ่านพงหญ้าแห่งหนึ่งจากนั้นจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เซี่ยยวี่หลัวย่องเข้าใกล้เงียบๆเมื่อเห็นว่าข้างเนินดินตรงตีนเขาที่อยู่ข้างพงหญ้า มีพุ่มไม้เล็กปิดอยู่ก็พบว่าด้านในมีโพรงอยู่หนึ่งโพรง
โพรงถูกขุดลึกลงไปบนดินโคลนตรงปากโพรงมีรอยเท้ายุ่งเหยิงจำนวนมาก แต่หากมองโดยละเอียดรอยเท้านั่นคล้ายกับดอกเหมยสามกลีบที่ยังไม่ได้ผลิบานโดยสมบูรณ์
รอยเท้ากระต่ายก็เป็รูปทรงดอกเหมย!
นี่คือโพรงกระต่าย!
เมื่อค้นพบโพรงนี้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกตื่นเต้นยินดียิ่งนัก นางก็ไม่กล้าผลีผลามรีบหาดินโคลนก้อนใหญ่ในระแวกนั้นปิดกั้นปากโพรงไว้จากนั้นจึงโบกมือให้เซียวจื่อเมิ่ง ะโโดยกดเสียงให้ต่ำ "รีบไปตามพี่รองของเ้ามาบอกเขาว่าพวกเราพบโพรงกระต่าย"
เซียวจื่อเมิ่งได้ยินดังนั้นจึงรีบะโลงไปด้วยความดีใจ สาวเท้าวิ่งไปทางเซียวจื่อเซวียนทันที
ส่วนเซี่ยยวี่หลัวก็ย่อตัวลงคอยเฝ้าดูปากทางเข้าโพรงกระต่าย ครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าจะต้อนกระต่ายออกมาอย่างไร
กระต่ายขุดโพรงจะขุดลึกมากนอกจากนั้นปากทางเข้าโพรงก็จะแคบ ภายในกว้างมาก ทางข้างในโพรงคดเคี้ยวยื่นมือเข้าไปจับไม่ได้เลย
ต่อให้จับได้ก็อันตรายมากหากมีศัตรูบุกรุกเข้าไปในโพรง กระต่ายก็กัดคนเป็
เซี่ยยวี่หลัวนึกถึงวิดีโอและบทความเกี่ยวกับการจับกระต่ายที่นางเคยดูภายในใจก็ค่อยๆคิดวิธีได้
ขุดหลุมหรือจุดควันไฟก็ได้
เซียวจื่อเซวียนได้ยินว่าพี่สะใภ้ใหญ่พบโพรงกระต่ายก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ทางเขาจับปลาได้สองตัวแล้วเก็บตะกร้าเสร็จก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
กระต่ายนั้นจับยากมากต่อให้พบโพรงกระต่ายแล้วจะทำอะไรได้ โพรงกระต่ายลึกมาก จับยากยิ่งนัก
เซียวจื่อเมิ่งจูงมือเซียวจื่อเซวียนวิ่งไป"พี่สะใภ้ใหญ่บอกให้ท่านนำของไปด้วยพี่สะใภ้ใหญ่บอกว่านางย่อมมีวิธี"
เมื่อได้ยินว่าพี่สะใภ้ใหญ่มีวิธีเซียวจื่อเซวียนก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีรีบหิ้วข้าวของทั้งหมดวิ่งตามเซียวจื่อเมิ่งมา
เซี่ยยวี่หลัวยังย่อตัวเฝ้าอยู่ตรงปากทางเข้าโพรง!
นางกองดินโคลนจำนวนมากเพื่ออุดโพรงไว้ป้องกันไม่ให้กระต่ายหนีไป
เมื่อครู่เซี่ยยวี่หลัวเห็นเพียงแวบเดียวนั่นเป็กระต่ายสีขาวดุจหิมะทั้งตัว หากจับเป็ได้ แค่ขนก็สามารถขายได้ราคาดีแล้ว!
เซียวจื่อเซวียนวิ่งมา "พี่สะใภ้ใหญ่..."
เซี่ยยวี่หลัว "นำตะบันไฟมาด้วยหรือไม่? "
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า "นำมาด้วย"
ออกจากบ้านไม่รู้ว่าจะเผชิญกับอะไรบ้างเซียวจื่อเซวียนจะพกตะบันไฟและมีดไว้ เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน
เซี่ยยวี่หลัว "ดี ให้ข้าพวกเ้ารีบไปเก็บหญ้าแห้งมาเล็กน้อย เอาแบบที่เผาไหม้ได้ง่าย"
นางจะเผาหญ้าแห้งตรงหน้าโพรงหญ้าแห้งจะก่อให้เกิดควันขโมง เมื่อควันลอยเข้าไปในโพรงกระต่ายกระต่ายก็จะทนไม่ไหว จนต้องออกจากโพรง
สองพี่น้องนำหญ้าแห้งจำนวนมากมาให้เซี่ยยวี่หลัวอย่างรวดเร็วเซี่ยยวี่หลัวนำดินโคลนที่ปิดโพรงไว้ออกอย่างระมัดระวัง นางกลัวว่ากระต่ายััได้ถึงอันตรายแล้วจะหนีไปแต่กระต่ายตัวใหญ่นั่นไม่ได้ออกมา
หลังจากเซี่ยยวี่หลัวใช้ตะบันไฟจุดหญ้าก็ใส่หญ้าแห้งที่ลุกไหม้เข้าไปในโพรง จากนั้นจึงใช้ปากเป่าอย่างต่อเนื่องควันที่เกิดจากการเผาหญ้าแห้งลอยเข้าไปในโพรง เซี่ยยวี่หลัวเพิ่มหญ้าแห้งอีกจำนวนหนึ่งจากนั้นจึงนำตะข้องปากแคบแต่ด้านในกว้างมาอุดไว้ตรงปากโพรง
นางให้เซียวจื่อเซวียนค้ำด้านล่างของตะข้องไว้แนบติดกับปากโพรงให้สนิท ส่วนเซี่ยยวี่หลัวก็มองผ่านช่องเล็กๆตรงปากทางเข้าโพรงเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหว
หลังจากหญ้าแห้งไหม้หมดแล้ว เซี่ยยวี่หลัวเห็นวัตถุสีขาวเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วจากนั้น ก็มีเสียงแ่เบาดังขึ้นในตะข้อง เหมือนมีอะไรหล่นเข้าไป
จากนั้นจึงเป็เสียงที่สองเสียงที่สาม เสียงที่สี่ เซี่ยยวี่หลัวเห็นอย่างชัดเจนว่าเป็กระต่ายตัวเล็กสี่ตัว ตัวสุดท้ายที่ออกมา คือกระต่ายสีขาวดุจหิมะตัวใหญ่ที่เมื่อครู่นี้เซี่ยยวี่หลัวเห็นอยู่ด้านนอกมันก็มุดเข้าไปในตะข้องจนเกิดเสียง "แกร้ก" เสียงดังกว่าเมื่อครู่นี้เสียอีก
แม่กระต่ายให้ลูกกระต่ายหนีออกมาก่อนนางตามอยู่หลังสุด กระต่ายทั้งหมดน่าจะอยู่ในนี้แล้ว
เซี่ยยวี่หลัวรีบนำฝาปิดตะข้องมาปิดไว้ยกตะข้องขึ้น มีเสียง "แกร่กแกร่ก" ดังอยู่ครู่หนึ่งตะข้องหนักกว่าเดิมไม่น้อย
เซี่ยยวี่หลัวแง้มฝาดูเล็กน้อยก็เห็นกระต่ายสีขาวดุจหิมะอยู่เต็ม
"หนึ่ง สอง สามสี่ ห้า..." เซี่ยยวี่หลัวลองนับดูรู้สึกตื่นเต้นดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร "ลูกกระต่ายสี่ตัวกระต่ายตัวใหญ่อีกหนึ่งตัว"
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งต่างก็รีบขยับเข้ามาดูกระต่ายขนสีขาวดุจหิมะ แต่ละตัวแววตาฉายประกายตื่นกลัว
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกดีใจยิ่ง "จื่อเซวียนกระต่ายนี่ขายได้หรือไม่? "
หากขายได้กระต่ายนี่น่าจะขายได้เงินมากทีเดียว!
เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยท่าทางตื่นเต้น"ขายได้ ขายได้!บ้านท่านปู่เซียวรับซื้อ! โดยเฉพาะตัวที่ยังมีชีวิตรับซื้อในราคาสูงมาก"
เซียวเหลียงมักจะแวะกลับมาที่หมู่บ้านสกุลเซียวบางครั้งหากคนในหมู่บ้านล่าสัตว์ป่ากลับมาได้ ก็จะนำไปขายให้ท่านปู่เซียวจากนั้นเซียวเหลียงก็จะนำไปขายที่ภัตตาคารในตัวเมือง
ตอนนี้เซียวเหลียงร่วมงานกับภัตตาคารที่อยู่ในตัวเมืองจึงขายสัตว์ป่าได้สะดวกมาก ทั้งยังได้ราคาไม่เลวเทียบกับการที่ชาวบ้านในหมู่บ้านนำไปขายในตัวเมืองเองก็ได้เงินน้อยกว่ากันไม่มากนัก แบบนี้ทั้งสะดวกทั้งขายได้เร็วทุกคนจึงชอบให้เซียวเหลียงไปขายต่อ
จับกระต่ายได้ห้าตัวเซี่ยยวี่หลัวดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร แม้แต่เื่ที่หาผักป่าไม่เจอก็ไม่คิดมากแล้ว
พวกเขาไปริมแม่น้ำอีกครั้งจับปลายาวประมาณหนึ่งนิ้วได้อีกห้าถึงหกตัว อาศัย่ที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินรีบกลับบ้านก่อน
หลังจากพวกเขากลับถึงบ้านเซี่ยยวี่หลัวดูกระต่ายห้าตัวในตะข้อง จับกระต่ายสีขาวตัวใหญ่ออกมา กระต่ายหนักมากเกรงว่าจะหนักสี่ถึงห้าจิน นอกจากนั้น กระต่ายตัวใหญ่เป็สีขาวหิมะทั้งตัวไม่มีสีอื่นปนแม้แต่น้อย หากจัดการหนังและขนให้ดี ก็สามารถขยายได้ราคาดีเช่นกัน
แต่เซี่ยยวี่หลัวจัดการหนังและขนไม่เป็ได้แต่ปล่อยไป
ขายแบบที่ยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะขายได้ราคาดีเหมือนกัน!
กระต่ายน้อยสี่ตัวที่เหลืออยู่ในตะข้องปากเล็กสามกลีบขมุบขมิบ แหงนหน้ามองดูภายนอกตะข้องสีขาวหิมะทั้งตัวไม่มีสีอื่นเจือปน ตัวกระต่ายทั้งอ้วนและกลมดวงตาสีแดงดูสดใสน่ารัก เห็นแล้วก็รู้สึกชอบจนไม่อยากปล่อยไป
ดวงตาคู่โตของเซียวจื่อเมิ่งเปล่งประกายระยิบระยับขณะนำหญ้าที่ตัดมาป้อนให้กระต่ายน้อยกิน"เ้ากระต่ายน้อยกินข้าวได้แล้ว..."
เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าเซียวจื่อเมิ่งชอบถึงเพียงนั้นจึงคิดอะไรบางอย่างได้ "จื่อเมิ่ง เราขายกระต่ายตัวใหญ่เสีย ส่วนกระต่ายน้อยสี่ตัวนี่เราเก็บไว้ให้เ้าเลี้ยงดีหรือไม่? "
เซียวจื่อเมิ่งแสดงสีหน้ายินดี "จริงหรือ?ข้าเลี้ยงพวกมันได้งั้นหรือ? "
"ได้แน่นอนเ้าเลี้ยงกระต่ายเหล่านี้ไว้ รอให้เลี้ยงจนโต เราค่อยขายแบบนี้จะได้ราคาดีกว่าขายกระต่ายตัวเล็กมาก! เ้ายอมเลี้ยงไว้หรือไม่? "
"ข้ายอม ข้ายอม!พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าจะดูแลพวกมันอย่างดีแน่นอน! " เซียวจื่อเมิ่งยิ้มจนเห็นแต่ฟันแทบไม่เห็นตา เซียวจื่อเซวียนก็รู้สึกดีใจ "พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าก็จะช่วยเลี้ยงกระต่ายกับจื่อเมิ่งด้วย"
"ได้เ้านำกระต่ายตัวนี้ไปขายที่บ้านท่านปู่เซียว จำไว้ ระหว่างทางอย่าให้คนอื่นเห็นหากเห็นเข้าก็อย่าบอกว่าเราจับได้อย่างไร เข้าใจหรือไม่? " เซี่ยยวี่หลัวไม่รู้ว่าคนอื่นรู้วิธีจับกระต่ายแบบนี้หรือไม่ แต่หากไม่รู้มีคนรู้น้อยลงหนึ่งคน ต่อไปนางก็จะจับกระต่ายเพิ่มได้อีกหนึ่งโพรง
ตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้กินเซี่ยยวี่หลัวยังไม่อาจแบ่งปันวิธีการจับกระต่ายของตัวเองได้
เซียวจื่อเซวียนย่อมเข้าใจพยักหน้าพลางตอบรับใส่กระต่ายไว้ในตะกร้าก่อนจะรีบเดินไปบ้านท่านปู่เซียวอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางไม่ได้พบกับใครเมื่อถึงบ้านท่านปู่เซียว ก็เห็นรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูท่านอาเซียวเหลียงมาแล้ว
เซียวจื่อเซวียนเอ่ยเรียกท่านปู่เซียวและท่านอาเซียวเหลียงด้วยความตื่นเต้นเซียวเหลียงเดินออกมา เมื่อเห็นเซียวจื่อเซวียน จึงโบกมือ "จื่อเซวียนมางั้นหรือ?รีบเข้ามาเร็ว อาเอาขนมมาด้วย เข้ามากินสักสองชิ้น! "
เซียวจื่อเซวียนเข้าไปไม่ได้รับขนมที่เซียวเหลียงยื่นให้ เพียงกล่าว "ท่านอาเซียวเหลียงท่านรับซื้อสัตว์ป่าใช่หรือไม่? "
"รับสิ รับสิ! "เซียวเหลียงกล่าว "เ้าไปจับสัตว์ป่ามางั้นหรือ? "
เซียวจื่อเซวียนเปิดฝาตะกร้ากระต่ายสีขาวตัวใหญ่ที่ขนขาวดุจหิมะไม่มีสีอื่นปนแม้แต่น้อยกำลังะโโลดเต้นอยู่ด้านใน
ยังมีชีวิตอยู่!
เซียวเหลียงเคยล่าสัตว์เคยจับกระต่ายมาไม่น้อย และเคยรับซื้อกระต่ายมาไม่น้อยแต่กระต่ายตัวเป็ๆที่ไม่มีขนสีอื่นผสมเลยแบบตัวนี้ก็ถือว่าหาได้ยากจึงแสดงสีหน้าใระคนประหลาดใจ "เ้าเป็คนจับ? "
"พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าเป็คนจับ! "เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
"พี่สะใภ้ใหญ่ของเ้าเป็คนจับ? "เซียวเหลียงตกตะลึงในห้วงภวังค์หวนคิดถึงสตรีผู้บอบบางที่พบคราวก่อนคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย!
เขาไม่ได้ถามว่าจับมาได้อย่างไรเพียงกล่าวอย่างชื่นชม "กระต่ายนี่ไม่เลวเลย! กระต่ายที่สวยขนาดนี้ขายได้ราคาดีทีเดียว! "
เนื้อของมันสามารถนำไปขายที่ภัตตาคารได้หลังจากแปรรูปหนังและขนแล้วสามารถนำไปขายที่ร้านรับซื้อขน ผืนเล็กเท่านี้ปกติขายได้แค่ประมาณสิบอิแปะ แต่ผืนนี้ต่างกัน ผืนนี้ขนเป็ประกายเงางามทั้งยังเป็สีขาวหิมะไม่มีสีอื่นปนแม้แต่เส้นเดียว อย่างน้อยราคาก็สูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว!
ขนกระต่ายนั้นหาง่ายแต่ของดีเยี่ยมแบบนี้หาได้ยากนัก!