จริงๆ แล้วหลิ่วเฉิงกับหลิ่วถังไม่ใช่ลูกหลานสายตรงของตระกูลหลิ่ว แต่เป็เพราะพร์และความสามารถจึงได้รับอนุญาตให้ใช้แซ่หลิ่วจากตระกูลหลัก
นอกจากหลิ่วอิง หลิ่วิ และหลิ่วอวิ๋นเทาซึ่งเป็ลูกหลานสายตรงของตระกูลหลิ่วแล้ว หลิ่วเฉิงและหลิ่วถังก็เป็คนในตระกูลหลิ่วที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุด
หลิ่วถังนั้นยิงธนูใส่หลี่เฉวียนไม่สำเร็จ ซ้ำยังถูกจ้าวเหวินจัวฟันมือขวาออกไปครึ่งหนึ่ง ทำให้สูญเสียพลังไปถึงครึ่ง เป็ผลทำให้ถูกเซียวหลิงอวิ๋นสังหารอย่างง่ายดาย!
กระบวนดาบของเซียวหลิงอวิ๋นนั้นถอดแบบมาจากวิชาดาบที่รวดเร็วที่สุดในบรรดาวิชาดาบพื้นฐานสี่กระบวนของสำนักิญญาเมฆา ‘ดาบนางแอ่นเดียวดาย’ กระบวนดาบนี้ของเขารวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด!
เป็กระบวนดาบที่รวดเร็วมาก!
เหล่าผู้ชมเบิกต่างก็ดวงตาเบิกกว้าง หัวใจสั่นสะท้าน!
แต่กระบวนดาบต่อไปของหลิ่วเฉิงเองก็ทำให้เหล่าผู้ชมทั้งหลายต้องใเช่นกัน!
แสงดาบสว่างวาบปรากฏ ราวกับัเขียวที่โผล่ขึ้นจากน่านน้ำ รวดเร็วจนทำให้ผู้คนต้องตบปากตัวเอง เหมือนัที่กระโจนลงทะเลสาบสีเขียวแล้วแหวกผ่าคลื่น!
นี่ก็เป็กระบวนดาบที่รวดเร็วมากเช่นกัน! เหล่าผู้ชมต่างก็สูดลมหายใจเข้าลึก จากกระบวนดาบนี้ของหลิ่วเฉิงเพียงดาบเดียว สามารถรับรู้ได้เลยว่านักยุทธ์ของตระกูลหลิ่วไม่ได้รับชื่อเสียงอันโด่งดังมาง่ายๆ!
“แกร๊ง!”
ดาบสองเล่มเข้าปะทะกัน เกิดเป็เสียงดังกังวานแพร่กระจายออกไปไกลแสนไกล ก้องกังวานราวกับเสียงกลองยามเย็นและระฆังยามเช้าที่ดังมาจากวัดที่อยู่ห่างไกลลิบลับ!
ข้อมือของเซียวหลิงอวิ๋นเกิดการสั่นะเื หากไม่ใช่เพราะตัวเขาไหวพริบดีรีบออกแรงเพิ่ม ดาบภูติน้ำในมือคงจะหลุดมือไปแล้ว หัวใจสั่นสะท้านเล็กน้อย พลังดาบของอีกฝ่ายนั้นรุนแรงมาก ความเร็วของดาบเองก็รวดเร็วมากเช่นกัน เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุดในบรรดานักยุทธ์ของตระกูลหลิ่วที่เขาเคยเผชิญมา!
ในขณะที่ดาบทั้งสองเล่มประสานกัน หลิ่วเฉิงเองก็ตัวสั่นเล็กน้อย ดาบเกล็ดปลาหลังกว้างเองก็ถูกดาบภูติน้ำฟันจนเกิดเป็รอยบากเล็กๆ ขนาดเท่าเมล็ดข้าว
ตัวเขารู้อยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของเขา แต่หลิ่วเฉิงก็ยิ่งมีความตั้งใจที่จะต่อสู้จนตัวตาย จากนั้นจึงอาศัยแรงจากดาบยาวของอีกฝ่าย ะโออกไปด้านข้าง พร้อมบิดข้อมือ หมายจะใช้ท่าที่รุนแรงเข้าต่อสู้กับอีกฝ่ายจนตายกันไปข้าง!
แต่ข้อมือของเขายังไม่ทันได้หมุนพลิก ก็เห็นใบดาบของดาบภูติน้ำที่อีกฝ่ายแย่งไปจากหลิ่วิพุ่งมาข้างหน้า หากเขาฟันดาบออกไปตามแผนการเดิม เกรงว่ายังไม่ทันจะได้ใช้ท่าไม้ตายจนเสร็จ ดาบของอีกฝ่ายก็ฟันข้อมือของเขาขาดเสียก่อน!
ตัวเขารู้ดีถึงความคมของดาบภูติน้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตัวเขาที่เป็เพียงนักยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูง หรือต่อให้เป็ผู้ใช้พลังิญญาระดับสูงก็ยังไม่กล้าใช้ตัวเปล่าๆ ปราศจากวิชาป้องกันไปลองรับคมดาบของดาบภูติน้ำเลย จึงรีบโคจรพลังปราณในกายให้ไหลเวียน บิดข้อมือเปลี่ยนจากกระบวนท่าฟันเสยกลายเป็แทงลงแทน!
สิ่งที่ทำให้หลิ่วเฉิงหงุดหงิดอย่างมากในเวลานี้คือ อีกฝ่ายราวกับรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะเปลี่ยนมาใช้กระบวนท่านี้ ในขณะที่เขาเพิ่งเปลี่ยนกระบวนท่า เซียวหลิงอวิ๋นก็เปลี่ยนกระบวนท่าเช่นกัน ดาบภูติน้ำของเขาก็หันใบดาบลงมาครึ่งหนึ่ง พร้อมเร่งความเร็วใบดาบให้เฉียงลง ฟันไปที่ข้อมือข้างที่ถือดาบของหลิ่วเฉิง!
หลิ่วเฉิงหรี่ตาลง แม้ว่าในใจจะไม่พอใจมากแค่ไหนก็ตาม และแม้ว่าในใจของเขาจะตั้งใจต่อสู้จนตัวตายมากแค่ไหน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับดาบนี้ เขาทำได้เพียงกัดฟันและเปลี่ยนกระบวนท่าอีกครั้ง!
ตัวเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะฟันข้อมือของตัวเองขาดได้จริงหรือไม่ แต่หากยังฝืนดึงดันต่อไปจนมือขวากับดาบหายไป แม้แต่โอกาสที่จะได้ต่อสู้จนตัวตายก็จะไม่หลงเหลือ!
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หลิ่วเฉิงกับบรรดาผู้ชมโดยรอบต้องใก็คือ หลิ่วเฉิงแม้จะเปลี่ยนกระบวนท่าอย่างต่อเนื่องท่าแล้วท่าเล่า ก็ยังไม่สามารถหาทางตอบโต้กลับไปได้ อีกฝ่ายเองก็ราวกับล่วงรู้ความคิดเขา คอยเปลี่ยนกระบวนท่าตามอยู่ตลอด สามารถกลายมาเป็ฝ่ายโจมตีก่อนได้ทุกครั้งไป และทุกครั้งที่หลิ่วเฉิง้าสวนกลับ ดาบภูติน้ำในมือของเซียวหลิงอวิ๋นก็จะเป็ฝ่ายรีบไปรอก่อนล่วงหน้า บังคับให้อีกฝ่ายต้องเปลี่ยนกระบวนท่าเพื่อรับมือ!
หากเป็หนึ่งหรือสองครั้งก็อาจจะเป็เพียงเื่บังเอิญ แต่เมื่อเป็ห้าถึงแปดครั้งเช่นนี้แล้ว ก็ทำให้ผู้คนใไม่น้อย!
หลิ่วเฉิงไม่ใช่แค่นักยุทธ์ธรรมดาๆ แต่เป็หนึ่งในนักยุทธ์ระดับสูงหลายร้อยคนของตระกูลหลิ่ว แม้ว่าจะไม่ได้สังกัดในสำนักใหญ่ต่างๆ แต่ก็ควรได้รับการยกย่องว่าเป็ผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่โดดเด่น!
หากมองไปทั่วทั้งแคว้นมู่อวิ๋นแล้ว ต่อให้เป็นักยุทธ์ในระดับเดียวกัน คงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถสังหารเขาได้ภายในเจ็ดถึงแปดกระบวนดาบ โดยที่หลิ่วเฉิงไม่สามารถโต้กลับได้แม้แต่ครั้งเดียว!
และในเวลานี้เหตุการณ์นั้นได้ปรากฏขึ้นแล้ว แต่คู่ต่อสู้ของเขากลับเป็เพียงนักยุทธ์ระดับหกเท่านั้น!
“อายุยังน้อย แต่วิชาดาบนั้นเข้าถึงระดับผู้ใช้พลังิญญาแล้ว ใช้ดาบหยุดกระบวนดาบ แม้จะเปลี่ยนกระบวนทีหลังแต่ก็ชิงความได้เปรียบก่อน ตระกูลเซียวมีอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว!” เจิ้งอวิ๋นหลงถอนหายใจ!
“เปลี่ยนกระบวนทีหลัง แต่กลับเป็ฝ่ายนำหน้าอีกฝ่ายก่อนหนึ่งก้าว นี่คือแก่นแท้ของวิชาดาบที่จะบรรลุไปสู่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่ อายุยังน้อยแต่มีพร์ถึงเพียงนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ เก่งกาจ เก่งกาจ นับั้แ่โบราณกาลมา วีรบุรุษมักปรากฏตัวในวัยหนุ่มสาว คำโบราณนี้ไม่เคยหลอกลวงจริงๆ!” หลิวอวิ๋นฉีเองก็ถอนหายใจ!
กลับกัน ทางด้านหลิ่วอิงกลับมีสีหน้าไม่ดีอย่างมากมาก เจตนาฆ่าในใจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อัจฉริยะเช่นนี้หากเติบโตขึ้น ตระกูลหลิ่วยังจะมีที่ยืนเหลืออยู่อีกหรือ?
หลิ่วเฉิงทั้งรู้สึกไม่ดี โมโห และอับอาย อารมณ์ต่างๆ ทับซ้อนกันจนทำให้เขาโกรธจนแทบคลั่ง!
“ว๊าก!” เขาะเิเสียงคำรามออกมา ต่อให้ตัวตายก็ไม่สามารถระบายความอึดอัดนี้ไปได้ ดวงตาของหลิ่วเฉิงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและดุดัน ดาบเกล็ดปลาหลังกว้างในมือฟาดฟันออกไปอย่างรุนแรงโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น!
เซียวหลิงอวิ๋นที่มีสีหน้าเรียบเฉย มีเพียงจิตสังหารที่ปรากฏขึ้นมาแวบเดียวในดวงตา เผยให้เห็นถึงความคิดที่แท้จริงของเขา!
ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วสินะ!
เขาบิดข้อมือเบาๆ ดาบภูติน้ำกวาดเป็เส้นบางๆ อย่างว่องไว!
องศาที่เลือกในครั้งนี้แยบยลมาก โอกาสที่คว้าเอาไว้ก็แม่นยำมากไม่แพ้กัน เป็่เวลาที่หลิ่วเฉิงกำลังโกรธจัดจนไม่ได้คำนึงถึงการป้องกัน!
แสงดาบรวดเร็วดุจสายฟ้าตัดไปที่ข้อมือของหลิ่วเฉิง!
ความดุดันในดวงตาของหลิ่วเฉิงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ครั้งนี้โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนกระบวนท่า พลังอันมหาศาลหลั่งไหลเข้าไปที่มือของเขา ขับเคลื่อนดาบเกล็ดปลาหลังกว้าง ในขณะที่ทั้งห้านิ้วของเขากำลังจะคลายออก ดาบก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วอันน่าใ ฟันไปที่เซียวหลิงอวิ๋น!
หลิ่วเฉิงคิดจะฟันอีกฝ่ายให้ได้สักครั้ง ต่อให้มือของเขาจะขาดก็ตาม ถึงแม้ตาบจะหลุดมือไปแล้วแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยพลังปราณจำนวนมากในตัวดาบ ทรงพลังไม่น้อยไปกว่าการที่เขาถือดาบในมือและฟันออกไปอย่างรุนแรงเลย!
หลิ่วเฉิงเชื่อว่าขอเพียงโดนตัวอีกฝ่าย บุตรชายตระกูลเซียวคนนี้ก็จะต้องได้าเ็สาหัส ต่อให้ไม่ตายก็ต้องพิการ!
เมื่อเผชิญหน้ากับดาบที่หลุดมือของหลิ่วเฉิง ฝ่ามือซ้ายของเซียวหลิงอวิ๋นก็กวัดแกว่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉัวะ!” พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นเบาๆ ดาบภูติน้ำได้ตัดข้อมือขวาของหลิ่วเฉิงออกอย่างง่ายดาย!
และในขณะเดียวกัน ฝ่ามือซ้ายของเซียวหลิงอวิ๋นที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเขียวราวค้อนใหญ่ ก็กระแทกไปที่ด้านข้างจนเกิดเสียงดัง “แกร๊ง” ดาบพลันเบี่ยงทิศทางออกไป และเฉี่ยวที่ด้านซ้ายของเซียวหลิงอวิ๋น!
“ฉัวะๆๆ!” แสงดาบรวดเร็วดุจสายฟ้า ทั้งเืและชิ้นเนื้อปลิวว่อนไปหมด!
หลังจากสามดาบผ่านไป!
ร่างกายอันทรงพลังของหลิ่วเฉิงก็ลงไปคุกเข่าเสียงดัง ‘ตุบ’ ทันที ก่อนจะล้มลงไป!
ห่างออกไป “อ๊าก!” เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังขึ้น!
เซียวหลิงอวิ๋นและคนอื่นๆ ต่างก็หันไปมองที่นั่นพร้อมกัน!
พบว่าเป็หลี่เฉวียนที่แทงหวังจัวด้วยดาบจนทะลุร่าง!
จนถึงตอนนี้ นอกเหนือจากหลิ่วอิงกับอีกสองคน คนในตระกูลหลิ่วที่เหลือต่างก็กลายเป็ศพอยู่ในมณฑลเชียนเจ๋อแล้ว
‘กุบกับๆ ครืดดดด!’ “ฮี้!” เสียงกีบม้าดังสนั่นและเสียงม้าร้องที่ดังลั่นเพราะถูกดึงเชือกบังเหียนบังคับให้หยุด ในที่สุดเหล่านักยุทธ์ของตระกูลเซียวก็มาถึงแล้ว!
เซียวว่านจุนพาคนขี่ม้ามากกว่ายี่สิบคน ทุกคนต่างก็มีสีหน้าใ มองไปยังเซียวหลิงอวิ๋นที่ยืนเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางกองเือย่างสง่าผ่าเผยไกลออกไปถึงร้อยหมี่ รอบกายเขามีศพนอนจมกองเืเจ็ดถึงแปดศพ เห็นได้ชัดว่าต่างก็เป็นักยุทธ์ของตระกูลหลิ่วทั้งสิ้น!
