เล่มที่ 9 บทที่ 242 เคล็ดวิชาผีดิบอสูร
“ฮะ!” เวินโหวได้ยินดังนั้นก็ใขึ้นทันที ศิษย์พี่หลินช่างไม่ธรรมดาเสียจริงๆ นอกจากคุยเล่นกับนักพรตเฮยซานได้แล้ว ยังสนิทกับฟางจวิ้นจากสำนักโยวิอีกด้วย!
“อื้อ ก็ถือว่าสนิทกันพอสมควร” หลินเฟยเอ่ยออกมาโดยไม่ตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย ‘ก็สนิทกันจริงๆนี่นา ก่อนหน้านี้ยังได้หินิญญาพวกเขามาตั้งหลายหมื่น...’
“สุดยอด!”
หลังจากทั้งคู่ปรึกษากันเสร็จ ก็พากันเดินออกมาจากลานที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ก่อนจะขี่หลังเ้าปลาั์มุ่งหน้าไปยังสุสาน เพียงครู่เดียวทั้งคู่ก็มาถึงด้านนอกของสุสาน...
สุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากราวกับวังใต้ดิน กินพื้นที่กว้างขวางไปหลายสิบลี้เลยทีเดียว ตอนที่หลินเฟยและเวินโหวก้าวลงจากหลังปลาั์ทั้งคู่ก็กวาดตามองไปรอบๆ ในใจก็คิดว่าสมกับเป็ถิ่นของสำนักโยวิจริงๆ เพราะรอบๆด้านนั้น นอกจากจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายวังเวงแล้ว ยังมีมารปีศาจโผล่ออกมาเป็ระยะ แม้มารปีศาจเหล่านี้จะเกิดจากการเพาะเลี้ยงของสำนักโยวิก็ตาม เมื่อพวกมันเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามา เ้าอสุรกายนับสิบตนก็พากันหวีดร้องเสียงแหลม ไม่นานก็มีศิษย์สำนักโยวิสองคนตามออกมาทันที
ศิษย์สำนักโยวิทั้งคู่ดูอายุไม่มากนัก น่าจะประมาณยี่สิบถึงสามสิบปีได้ ดูแล้วน่าจะมีขั้นบำเพ็ญมิ่งหุนขั้นหนึ่งถึงขั้นสองเท่านั้น ส่วนคนที่ดูาุโขึ้นมาหน่อยก็มีธงร้อยอสูรอยู่ในมืออีกด้วย เพียงสะบัดเล็กน้อยเท่านั้น ก็มีอสุรกายนับร้อยปรากฏออกมาปิดล้อมหลินเฟยกับเวินโหวเอาไว้ทันที
“พวกเ้าสองคนมาทำอะไร ที่นี่เป็สถานเพาะเลี้ยงผีดิบของสำนักโยวิ ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็รีบไสหัวไปซะ!”
“หึหึ พวกข้ามาหาศิษย์พี่ฟางจวิ้น” เวินโหวพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มร้อย
‘ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ศิษย์พี่หลินของเขาเก่งกาจขนาดนี้กันเล่า แม้แต่นักพรตเฮยซานยังคุยเล่นได้ แถมยังมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับสำนักโยวิอีกด้วย ส่วนตนเองก็สนิทกับศิษย์พี่หลินพอสมควรอีก จะอวดเบ่งสักหน่อยจะเป็อะไรไป?’
“ศิษย์พี่ฟางงั้นหรือ?” อาจเป็เพราะท่าทางของเวินโหวดูมั่นอกมั่นใจมาก จึงทำให้ศิษย์ทั้งสองของสำนักโยวิชะงักไปชั่วครู่ ยิ่งเห็นเวินโหวมีขั้นบำเพ็ญถึงมิ่งหุนเคราะห์หก แถมน้ำเสียงพูดก็ดูมั่นใจมาก ทั้งคู่จึงเริ่มลังเล
‘หรือเขาจะเป็เพื่อนของศิษย์พี่ฟาง?’
‘แม้ศิษย์พี่ฟางจะสั่งไว้ว่าห้ามให้คนนอกเข้ามา แต่ถ้าสองคนนี้เป็เพื่อนศิษย์พี่ฟางจริงๆล่ะ หากไปพูดจาให้ร้ายกับศิษย์พี่ฟางละก็ เกรงว่าพวกเขาจะต้องมีปัญหาแน่...’
หรือจะพาเข้าไปก่อนดีล่ะ?
“เช่นนั้นก็ตามมา...”
สุดท้ายหลินเฟยและเวินโหวก็ได้เข้ามาในสุสาน สุสานนี้นับว่ากว้างขวางมากเลยทีเดียว มีทั้งศาลาและภาพวาดฝาผนังเป็จำนวนมาก ดูแล้วงดงามตระการตาไม่น้อย
หลินเฟยและเวินโหวเดินตามศิษย์ทั้งสองของสำนักโยวิเข้ามา หลังจากเดินผ่านทางสายยาวมากมายแล้วก็ยังต้องทะลุผ่านอุทยานอีกสามถึงสี่แห่งกว่าจะมาถึงใจกลางสุสาน ศิษย์สำนักโยวิที่ดูาุโกว่ากดกลไกที่ซ่อนอยู่ในูเาจำลองเบาๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงลากอันหนักอึ้งดังขึ้น
จากนั้นประตูหินบานใหญ่เบื้องหน้าก็ค่อยๆ เปิดออกช้าๆ
“เข้ามาสิ ศิษย์พี่ฟางอยู่ด้านใน”
และในขณะเดียวกันฟางจวิ้นก็กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ส่วนลึกใจกลางสุสาน ด้านหลังของเขาก็ผีดิบอสูรสูงสามจ้าง ใบหน้าเขียวคล้ำมีเขี้ยวงอก กำลังคำรามดังออกมาเป็ระยะ
รอบข้างก็มีเสาหินแปลกประหลาดสิบแปดต้นรายล้อมอยู่ พื้นผิวเสาหินที่หนาใหญ่เหล่านี้ บ้างก็เป็ภาพวาดน่าสะพรึงกลัว บ้างก็เป็ภาพมารปีศาจกำลังกรีดร้องโหยหวน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสมจริงอย่างมาก ราวกับว่าเป็ของจริง...
หลังจากฟางจวิ้นวาดมือจนเกิดเป็ค่ายกล เ้าตัวก็อ้าปากออก ทันใดนั้นผีดิบอสูรที่อยู่ด้านหลังก็อ้าปากตาม
พริบตาถัดมาภาพวาดบนเสาหินทั้งสิบแปดต้นก็ราวกับถูกปลุกขึ้นมา บัดนี้พวกมันกำลังกรีดร้องโหยหวนอย่างน่าสะพรึงกลัว กลิ่นซากศพผสมปนเปกับไออสูรกลายเป็กลุ่มหมอกควัน กระทั่งสุดท้ายก็ถูกผีดิบอสูรที่อยู่ด้านหลังฟางจวิ้นสูบกินไปจนหมด
เสาหินทั้งสิบแปดต้นนี้เกิดจากสิ่งมีชีวิตจำนวนมากทับถมกัน สิ่งเหล่านี้ถูกจับมาฝังทั้งเป็ และสุดท้ายก็ตายอย่างทุกข์ทรมาน หลังจากที่ตายไปก็เกิดแรงอาฆาตรุนแรง ทำให้ดวงิญญาเ่าั้กลายเป็ผีร้ายและมารปีศาจ ส่วนซากศพก็ถูกไออสูรกัดกิน พอนานวันเข้าก็กลายเป็ผีดิบ...
ดังนั้นที่แห่งนี้จึงมีไออสูรและกลิ่นซากศพเข้มข้นปกคลุมไปทั่วสุสาน ค่ายกลทุกอย่างในสุสานจึงถูกเก็บรักษาเป็อย่างดีเพราะมีไออสูรและกลิ่นซากศพคอยหล่อเลี้ยงเอาไว้ และในทางกลับกันเพราะมีสุสานแห่งนี้อยู่ จึงสามารถกดข่มเหล่าสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ได้ชั่วกัปชั่วกัลป์
หากดวงิญญาที่ตายเพราะการฝังทั้งเป็เหล่านี้ไม่สลายไป ไออสูรและกลิ่นซากศพก็ย่อมไม่มีวันหมดไป สำหรับฟางจวิ้นแล้ว ที่นี่จึงไม่ต่างอะไรกับสถานที่บำเพ็ญชั้นเลิศ
เพราะฟางจวิ้นฝึกเคล็ดวิชาผีดิบอสูร ผีดิบคู่กายจึงมีความโดดเด่นของิญญาอาฆาตและผีดิบ นอกจากจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งปานเหล็กกล้าแล้ว มันยังสามารถหายตัวไปไหนมาไหนได้อย่างไร้ร่องรอยอีกด้วย
แต่ว่าข้อบกพร่องของเคล็ดวิชานี้ก็นับว่าร้ายแรงมากทีเดียว เพราะต้องบำเพ็ญด้วยไออสูรและกลิ่นซากศพพร้อมกัน จึงต้องใช้เวลาบำเพ็ญที่ยาวนาน
เพราะเหตุนี้จึงทำให้ฟางจวิ้นถูกจงหยางกดข่มอยู่ตลอด จึงไม่อาจเอาชนะได้
ไออสูรและกลิ่นซากศพเข้มข้นนี้เอง ยังมีต้นกำเนิดเดียวกันอีกด้วย จึงทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการหลอมรวมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน แค่นี้ก็ประหยัดเวลาได้เกือบครึ่งแล้ว
ไออสูรและกลิ่นซากศพถูกฟางจวิ้นสูบกินเข้าไป หลังจากผ่านการบำเพ็ญเพียงครู่เดียว กลิ่นอายในตัวก็แข็งแกร่งขึ้น ผีดิบอสูรคู่กายที่อยู่ด้านหลังก็คำรามเสียงดัง ทันใดนั้นไออสูรและกลิ่นซากศพก็ปั่นป่วนขึ้นมา จากนั้นผีดิบอสูรก็สูงขึ้นหนึ่งฉื่อเลยทีเดียว
หลังจากนั้นไม่นานฟางจวิ้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น และใบหน้าของเขาก็แช่มชื่นเป็ที่สุด...
‘หลายปีมานี้เ้ากดข่มข้ามาตลอด แต่มันก็แค่อดีตเท่านั้น บัดนี้ข้าได้สุสานแห่งนี้มาครองแล้ว จึงทำให้ขั้นบำเพ็ญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ดูท่าจะต้องบรรลุขั้นจิงตันก่อนเ้าเป็แน่ ถึงตอนนั้นผีดิบอสูรของข้าก็จะบรรลุเป็กุ่ยหวัง ดังนั้นก็จะไม่มีข้อจำกัดด้านไออสูรและกลิ่นซากศพอีกต่อไป และข้านี่แหละก็จะกลายเป็ฝ่ายกดข่มเ้า จนไม่อาจโงหัวขึ้นมาได้อีก...’
ขณะที่ฟางจวิ้นกำลังคิดได้ใจอยู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนย่างกรายเข้ามา
“ศิษย์พี่ฟาง เพื่อนของท่านมาเยี่ยม พวกข้าจึงนำทางมาให้”
“รู้แล้วๆ ลำบากพวกเ้าอีกแล้วสินะ” ฟางจวิ้นได้ยินเช่นนั้นก็ตอบรับทันทีโดยไม่ทันคิด
จากนั้นก็ชะงักลงทันที ‘เพื่อนงั้นหรือ?’
‘ไม่สิ...’
‘ข้ามีเพื่อนด้วยหรือ?’
“ยินดีด้วยนะศิษย์พี่ฟาง...” ขณะที่ฟางจวิ้นกำลังงุนงงอยู่นั้น เวินโหวก็ยกมือคารวะแสดงความยินดีทันที แถมยังเดินตรงเข้ามาหาอีกด้วย
“ยินดีกับศิษย์พี่ฟางด้วยนะ ที่บุกสุสานและสังหารอสุรกายกุ่ยหวังได้สำเร็จ!”
“...” ฟางจวิ้นตะลึงอยู่นาน ในที่สุดก็หันไปถามศิษย์น้องตนเองด้วยความสงสัย
“สองคนนี้ คือใครงั้นหรือ?”
“หา?” ศิษย์สำนักโยวิทั้งสองได้ยินดังนั้นก็ใขึ้นทันที ก่อนจะเอ่ยตะกุกตะกักออกมา
“พะ...พวกเขาบอกว่าเป็เพื่อนของศิษย์พี่ฟางน่ะ...”
“พอมีคนบอกว่าใช่ก็คิดว่าใช่งั้นหรือ มีสมองบ้างหรือเปล่า!” ฟางจวิ้นได้ยินดังนั้นก็โกรธจัดจนแทบะเิ พลางจ้องมองศิษย์น้องตนเองด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ ก่อนจะด่ากราดออกไป
“ไสหัวไปซะ!”
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------