ยามเย็นเฉิงชิงไปพบฉีเหยียนซง
คนหนึ่งมีใจจะคบหา อีกคนหนึ่งก็้าที่จะให้เฉิงชิงช่วยเหลือ ‘ลูกพี่ลูกน้อง’ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเืคู่นี้สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
ตัวเฉิงชิงเองกำลังอยู่ใน่ไว้ทุกข์จึงไม่อาจดื่มสุราได้ แต่โน้มน้าวให้ฉีเหยียนซงดื่มสุรามากมาย
เฉิงชิงไล่บ่าวรับใช้ข้างกายของฉีเหยียนซงให้ออกไป กล่าวว่า้าพูดคุยเปิดอกกับฉีเหยียนซงเสียหน่อย
ฉีเหยียนซงดื่มจนสมองมึนงงไปหมด เฉิงชิงจึงล้วงความลับอีกครั้ง ฉีเหยียนซงไหนเลยจะเป็คู่มือ
เฉิงชิงเกรงว่าจะเขาจะเข้าใจผิดไปจึงยืนยันกับเขาอีกครั้ง ผลสุดท้ายฉีเหยียนซงก็ขายตนเองจนเกลี้ยง เฉิงชิงจึงดึงหัวข้อสนทนามายังซือซือแห่งหอิเยวี่ย ฉีเหยียนซงก็กล่าวชมเสียงอ้อแอ้ว่าเฉิงชิงตาถึง
“มะ ไม่คิดเลยว่าญาติผู้น้องก็ยังเป็… คนคอเดียวกัน!”
คอเดียวกันบ้านแม่แกสิ
ก่อนแม่จะทะลุมิติมา เคยไปคบหาไอดอลหนุ่ม แต่แม่ไม่เคยไปหาผู้ชายขายตัวเฟ้ย!
เฉิงชิงอยากจะะเิคำหยาบคาย แต่กลับหัวเราะฮี่ๆ ทั้งยังรินเหล้าให้ฉีเหยียนซงอีกสองจอก
นางชมฉีเหยียนซงแล้วชมอีก ทั้งยังดูแคลนตนเองซ้ำไปซ้ำมา กล่าวว่าตระกูลตกต่ำลง การให้ฉีเหยียนซงแต่งกับบุตรสาวคนโตเป็การรังแกกันเกินไป ไม่ทราบว่าญาติผู้พี่ฉีคิดเห็นเช่นไร
ฉีเหยียนซงพอถูกยกยอจนตัวลอยก็สะอึกแล้วเอ่ยความจริงโดยไม่ทันระวัง
“ผู้าุโในตระกูลฉีก็ไม่ยินยอมให้ข้าแต่งญาติผู้น้อง แต่ข้าถูกใจญาติผู้น้อง จึงยินดีที่จะมอบตำแหน่งอนุภรรยาให้แก่นาง นอกจากการที่ไม่สามารถมอบตำแหน่งภรรยาหลวงให้แก่ญาติผู้น้องแล้ว การปฏิบัติดูแลทุกอย่างล้วนเสมอกับภรรยาหลวง… อึก… อึก!”
อนุภรรยา!
พี่สาวของคนอย่างนางตกต่ำถึงขนาดต้องไปเป็อนุคนอื่นเขา?
เฉิงชิงอดทนจนทนไม่ไหว เท้าเตะไปยังเก้าอี้ใต้ก้นของฉีเหยียนซง หน้าของฉีเหยียนซงโขกลงไปยังเศษอาหารบนโต๊ะอย่างแรง แล้วก็ล้มลงบนพื้นจนศีรษะโขกไปกับขาโต๊ะ ล้มสลบไปในทันที
เฉิงชิงยังคงไม่คลายโทสะ ปากก็ร้องเรียกหาคนให้เข้ามาพลางเตะฉีเหยียนซงที่หมดสติอยู่อย่างสุดแรง
ซือโม่วิ่งเร็วกว่าเด็กรับใช้ของฉีเหยียนซง เป็คนแรกที่บุกเข้ามา เมื่อเห็นฉีเหยียนซงที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็หางตากระตุกอย่างอดไม่อยู่
ซือโม่รู้ดีว่านายน้อยอดใจไม่ไหวอยากต่อยคน
คุณชายรองฉีท่านนี้ก็ช่างวอนโดนต่อยเหลือเกิน
บนหน้าผากของฉีเหยียนซงมีปากแผลหนึ่งเต็มไปด้วยเื เด็กรับใช้ของเขาใจนแข้งขาอ่อนแรง หญิงรับใช้เองก็ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้จึงใทำอะไรไม่ถูก ไม่อาจช่วยเหลือสิ่งใดได้นอกจากเอ่ยเรียกนายน้อยเสียงสั่น
ยังคงเป็แม่ครัวที่ทำอาหารให้ฉีเหยียนซงที่มีประสบการณ์ กอบขี้เถ้าจากใต้เตาในครัวมาห้ามเืที่อยู่บนหัว
“ซือโม่ ยังไม่ไปเชิญหมอมาอีก! เป็ข้าที่ไม่ดีเอง ทำให้ญาติผู้พี่เมาจนหกล้ม ฮึ่ย!”
สีหน้าของเฉิงชิงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เด็กรับใช้และหญิงรับใช้ของฉีเหยียนซงไม่เพียงไม่อาจโทษนาง ยังต้องขอบคุณที่เชิญหมอมาดูแล
หมอมาแล้วก็จับชีพจรแล้วก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไร ดื่มยาสองเทียบก็ได้แล้ว
รอหมอฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กรอกน้ำแกงสร่างเมาให้ฉีเหยียนซงอาเจียนออกมา เ้าตัวจึงค่อยได้สติขึ้นมา
เฉิงชิงหน้าซีดเผือด “ญาติผู้พี่ฟื้นก็ดีแล้ว ครั้งหน้าไม่กล้าคะยั้นคะยอญาติผู้พี่ให้ดื่มสุราอีก ข้ารู้สึกผิดอย่างมาก การฟื้นตัวของญาติผู้พี่มิอาจล่าช้า ข้าจะกลับไปสถานศึกษาก่อน!”
ฉีเหยียนซงยังบอกเฉิงชิงว่าไม่ต้องโทษตัวเอง ทั้งที่ตนเองยังคงมึนงงและไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาส่งได้
เมื่อเฉิงชิงไปแล้ว เด็กรับใช้และหญิงรับใช้ก็ยังกล่าวสนับสนุนอีกว่าดื่มสุราเสียจนเมาเป็การทำร้ายร่างกาย โชคดีที่ครั้งนี้นายน้อยลูกพี่ลูกน้องตระกูลเฉิงอยู่ มิเช่นนั้นหากคืนนี้ฉีเหยียนซงเกิดเหตุร้าย พวกเขาเหล่าคนรับใช้ทั้งหมดคงแย่แน่!
ตนเองดื่มมากจนหกล้ม?
ฉีเหยียนซงขยับร่างกายเล็กน้อย เ็ปทั่วทั้งร่าง
ทุกคนต่างบอกว่าเขาหกล้ม ฉีเหยียนซงเมาจนมึนงงก็คิดไปว่าตนเองดื่มเยอะจนหกล้มจริงๆ
เขาไม่ได้คิดจะดื่มเยอะขนาดนั้น เป็ญาติผู้น้องตระกูลเฉิงจอมเอาเปรียบผู้นั้นที่กล่าวได้ถูกใจ เขาจึงดื่มเข้าไปเยอะโดยไม่รู้ตัว ส่วนตัวเองเอ่ยอะไรกับเฉิงชิงที่โต๊ะเหล้านั้น พอฉีเหยียนซงใช้สมองนึกก็พลันปวดหัวขึ้นมา
แต่ถึงแม้จะดื่มมากแล้วเผลอหลุดปากก็ไม่เป็ไร ญาติผู้น้องเฉิงยกยอเขาโดยตลอด ชัดเจนว่าใส่ใจกับการแต่งงานของตระกูลฉี และใส่ใจเขาผู้เป็ว่าที่พี่เขยมาก
“น่าเสียดาย…”
น่าเสียดายที่อาเขยเสียชีวิตอย่างไร้เกียรติ เขามองญาติผู้น้องเฉิงด้วยสายตาเ็า ญาติทางนี้ไม่อาจกลับมาเป็ใหญ่เป็โตได้แล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะแต่งงานกับญาติผู้น้องหญิงจริงๆ น้องภรรยาที่รู้ใจมีไหวพริบเช่นญาติผู้น้องเฉิงหาไม่ง่ายนัก!
แม้จะต่อยตีอีกฝ่ายไปแล้วแต่เฉิงชิงก็ยังไม่คลายโทสะ
เมื่อนึกถึงฉีเหยียนซงที่ทำตัวประหนึ่งมีเมตตา กล่าวว่าจะให้บุตรสาวคนโตเป็อนุภรรยาอย่างเรียบเฉย เฉิงชิงก็คิดอยากจะกลับไปต่อยฉีเหยียนซงอีกครั้ง
คำพูดของฉีเหยียนซงเมื่อดื่มจนเมาแล้วก็คือความคิดที่แท้จริง อย่างที่ว่ากันว่าคนมักจะคายความจริงหลังสุรา
รู้สึกว่าทั้งสองตระกูลนี้ไม่เหมาะสมกันแล้ว ถอนหมั้นก็ถอนหมั้นสิ ด้านหนึ่งรังเกียจตระกูลฉี ส่วนอีกด้านก็น้ำลายไหลกับความงามของบุตรสาวคนโตจน้าจะรับเป็อนุภรรยา!
ถึงจะเป็อนุภรรยาผู้มีเกียรติมาจากตระกูลดี ก็ยังคงถือว่าเป็อนุภรรยาอยู่ดี ถึงจะพูดให้น่าฟังแต่ก็ต้องเคารพภรรยาหลวงอยู่ดี บุตรที่ให้กำเนิดก็เป็บุตรอนุ… ถึงบุตรสาวคนโตจะไม่แต่งกับฉีเหยียนซง ก็ยังคงเป็หลานสาวนอกตระกูลทางสายเือยู่ดี เป็ญาติดีๆ ไม่ชอบ นอกเสียจากว่าบุตรสาวคนโตจะสมองพังไปแล้ว ถึง้าจะเป็อนุภรรยาที่กายเป็นายครึ่งหนึ่ง เป็บ่าวอีกครึ่งหนึ่ง!
ฉีเหยียนซงก็รู้ดี คิดว่าตนเองนิสัยเหมือนสุนัข บุตรสาวคนโตก็จะไม่แต่งงานกับเขาแล้ว แล้วจะยอมเป็อนุภรรยาหรือ?
ญาติผู้น้องทางสายเืที่ไร้พ่อขาดแม่ ถึงจะไม่ดูแลด้วยความสงสารนัก แต่ก็ไม่ควรเหยียบย่ำกันเช่นนี้
นี่คือการคิดว่าบุตรสาวคนโตไร้ที่พึ่ง รู้สึกว่านางหลิ่วที่เป็มารดาเลี้ยงไม่มีทางปฏิบัติต่อบุตรสาวคนโตอย่างจริงใจ เฉิงชิง ‘น้องชาย’ ผู้นี้ก็ยังอายุยังน้อย ฝากความหวังไว้ไม่ได้ ถึงได้มักมากจะให้บุตรสาวคนโตเป็อนุภรรยาแทนภรรยาหลวง!
เฉิงชิงด่าทอหลายประโยค ซือโม่ฟังแล้วก็ได้แต่เบิกตาอ้าปากค้าง
“คุณชายรองตระกูลฉีอาจจะเสียสติไปแล้ว ขอเพียงนายน้อยยินยอม คุณหนูใหญ่ก็จะยินยอมด้วยตนเองเช่นกัน แต่คนในตระกูลเองไม่มีทางยินยอมเป็แน่! ตระกูลเฉิงสูงส่งถึงเพียงนี้ แต่ไหนแต่ไรมาคุณหนูในตระกูลไม่มีผู้ใดไปเป็ภรรยาน้อยให้แก่ผู้อื่น——”
ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋มีอิทธิพลมาก ข้ารับใช้ในบ้านของตระกูลเฉิงก็ล้วนมีความทะนงตนที่มิอาจอธิบายได้ อย่างซือโม่ซึ่งเป็เด็กเกิดในตระกูลที่รู้หนังสือเช่นนี้ ยิ่งภูมิใจในตระกูลเฉิงจากก้นบึ้งของจิตใจ
ฉีเหยียนซงจะให้บุตรสาวคนโตเป็อนุภรรยา อย่าว่าแต่เฉิงชิงที่โกรธเลย ซือโม่เองก็รู้สึกได้รับความอับอายอย่างใหญ่หลวง!
เฉิงชิงยิ้มหยัน “นี่ต้องเป็ความคิดของฉีเหยียนซงเองเป็แน่ ตระกูลฉีเองก็มีความคิดที่จะถอนหมั้น คงไม่มีความคิดที่จะให้พี่ใหญ่ไปเป็อนุภรรยา หากพี่ใหญ่ไปเป็อนุภรรยาให้ผู้อื่น สตรีที่ยังไม่แต่งงานทั้งตระกูลก็จะได้รับความอับอาย เป็การล่วงเกินตระกูลเฉิงทั้งตระกูล!”
ไม่ว่าตระกูลเฉิงจะปฏิบัติต่อครอบครัวเฉิงชิงอย่างไร คนนอกก็มองทั้งหมดเป็ตระกูลเฉิงด้วยกันอยู่ดี ตระกูลฉีไม่้าแต่งงานได้ แต่้าที่จะตั้งตนเป็ศัตรูกับตระกูลเฉิงนี่ถือว่าสมองผิดปกติ
เฉิงชิงนึกไปถึงความคิดเห็นของการเป็สตรีมีคุณธรรมเ่าั้ของนางหลิ่วแล้วก็ปวดหัวขึ้นมา นางหลิ่วคิดว่านางก่อเื่เพราะคิดที่จะล้มการแต่งงานนี้ บัดนี้หากกล่าวว่าฉีเหยียนซงคิดจะรับบุตรสาวคนโตเป็อนุภรรยา นางหลิ่วย่อมคิดว่าเฉิงชิงแต่งเื่ขึ้นเป็แน่
เฉิงชิงคิดกลับไปกลับมา เื่นี้ก็ยังคงต้องรบกวนท่านย่า
เื่นี้อาจเกี่ยวพันไปถึงชื่อเสียงของสตรีที่ยังไม่แต่งงานภายในตระกูล ไม่ใช่แค่เื่ของครอบครัวเฉิงชิงแล้ว นางหลิ่วคือฮูหยินผู้นำตระกูลเฉิง เฉิงชิงรู้สึกว่าจำเป็ต้องให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วย
แน่นอนว่าบุตรสาวคนโตก็สมควรรู้ด้วย
ไม่เช่นนั้นหากบุตรสาวคนโตระวังตัวจากไอ้คนหื่นกามฉีเหยียนซงไม่พอ เผลอหลงกลขึ้นมาอีกรอบจะทำอย่างไร?
เฉิงชิงสั่งการซือโม่ ซือโม่พยักหน้าติดต่อกัน สุดท้ายเฉิงชิงก็ยังคงต้องเรียกให้ซือเยี่ยนวิ่งไปตำบลอู่ซินสักรอบ
“เรียกชาวนามาพบข้าหนึ่งคน… ต้องมีความสามารถด้านเพาะปลูกเป็พิเศษ”
เพาะปลูกเป็ก็ไม่แน่ว่าจะปลูกดอกไม้เป็
แต่เื่แบบนี้ควรมอบหมายให้มืออาชีพไปจัดการเป็ดีที่สุด
นางไม่เพียงแค่้าเปลี่ยนการแต่งงานให้พี่สาวคนโต ทางพี่รองและพี่สามก็ต้องเก็บสะสมสินเดิมด้วยเช่นกัน ความคิดของเฉินชิงในตอนนี้ ไม่ได้หยุดอยู่กับการเปลี่ยนเนินเขาที่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์เพื่อตั้งใจที่จะสะสมสินเ้าสาวเท่านั้น แต่ถ้า้ารับราชการก็ต้องมีเงินเช่นกัน!
