ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วกัวไฮว่นั่งขัดสมาธิอยู่ในท่าทางที่สงบอยู่บนูเาจำลองแสงจันทร์ทอดมากระทบบนกายของเขาจากนั้นก็เข้าไปภายในร่างกัวไฮว่ดูท่าทางเพลิดเพลินกับการกระทำอย่างนี้เป็อย่างมาก
“เ้าสี่ น้องสี่ คุณสี่ แกอยู่ไหนน่ะ ออกมาเร็ว” เจี่ยหยวนะโพลางเดินออกมาจากในห้อง เนื้อตัวเขาเปียกชุ่มไปหมด ไม่ผิดบนตัวเขาไม่มีแม้แต่ผ้าคลุมส่วนลับ
“พี่สอง ไม่คิดเลยว่าพี่จะมีรสนิยมแบบนี้ แต่พี่เก็บเงินพี่ไปเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เ้าสี่ ตอนนี้ยังจะมามีอารมณ์ล้อเล่นอีก ชุด! เอาชุดฉันมา” เจี่ยหยวนะโเสียงดังลั่นพร้อมกับเอามือบังส่วนลับเอาไว้
“ฮ่า ๆ รีบแต่งตัวให้เสร็จเร็ว ไม่คิดเลยว่าพอพี่สองผอมลงจะหล่อแบบนี้” กัวไฮว่โยนชุดฉางเผาที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วไปให้เจี่ยหยวนพร้อมกับพูดยิ้มๆ
ผ่านไปประมาณสิบกว่านาที เจี่ยหยวนก็ออกมาจากในห้องอีกครั้งส่วนกัวไฮว่ก็ลงมาจากูเาจำลองแล้ว เขามองพี่สองที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับยิ้มเล็ก ๆตรงมุมปาก
“เอาไป อย่าเพิ่งรีบกินนะ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำร้อนมาให้” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆจากนั้นเขาก็ถือกาน้ำชาออกมาจากในห้องแล้วใส่น้ำเย็นเข้าไป เขาเอามือไปอังกาไม่นานกาน้ำก็ร้องขึ้น น้ำเดือดแล้วล่ะ
“เอายาเข้าปากเลย แล้วก็เทน้ำเข้าไปในปาก ไม่ต้องกลัวลวก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ลวก? เ้าสี่ ฉันนับถือแกจริง ๆ นะอย่าว่าแต่ลวกปากเลย ตอนนี้แกให้ฉันไปกินขี้ฉันก็จะกิน” เจี่ยหยวนพูดเสร็จก็เอายาเข้าไปในปากจากนั้นก็กรอกน้ำร้อนเข้าไปในปากตามเมื่อยาโดนน้ำก็ละลาย ไอความเยือกเย็นสายหนึ่งก็เข้าไปในท้องจากบริเวณปากเจี่ยหยวนเผยให้เห็นท่าทางที่แสนจะสบาย
“รู้สึกร้อนวูบวาบตรงท้องหรือเปล่า ค่อย ๆ เอาไอร้อนย้อนขึ้นมาที่ปากไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ นะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
เจี่ยหยวนเป็คนฉลาดมากไม่เช่นนั้นคงไม่ทำธุรกิจจนรุ่งเรืองขนาดนี้ เขาค่อย ๆ เรียนรู้การนำไอร้อนเคลื่อนตรงไปยังในปากของตนเองตามที่กัวไฮว่บอก
“อ๊าก!” เจี่ยหยวนร้องะโเสียงดังจากนั้นก็มีไอร้อนออกมาจากปากขาข้างหนึ่งยกขึ้นจากนั้นก็ตกลงอย่างรุนแรงทำให้หินอ่อนก้อนหนึ่งบนพื้นกินอ่อนก็แหลกสลายกลายเป็ผงภายในพริบตา
“เ้าสี่ ฉัน...ทำไมฉันถึงเหยียบหินอ่อนนี่จนเละล่ะ” เจี่ยหยวนพูดพึมพำ เขาััได้ว่าตอนนี้ในร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงานเขาไม่เคยรู้สึกสบายขนาดนี้มาก่อนเลย
“ฮ่า ๆ พี่สอง ไม่เลว ไม่เลวเลย ต่อไปต้องใจเย็น ๆ หน่อยแล้วนะตอนนี้พี่นับว่าเป็ยอดฝีมือเซียนเทียนระยะต้นแล้วนะ ฮ่า ๆ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “พรุ่งนี้เดี๋ยวผมให้คนมาเปลี่ยนพื้นหินนี่ให้พี่ใหม่แล้วก็ไม่ว่าพี่จะเป็เซียนเทียนระยะแรกหรือระยะหลัง ผมก็จัดการพี่ได้หมดแหละ”
“แกพูดอะไรน่ะ แกบอกว่าตอนนี้ฉันก็เป็ยอดฝีมือเซียนเทียนเหรองั้นก็เหมือนกันกับพี่เย่าใช่ไหม ฉันประลองกับพี่เย่าได้แล้วสินะ”
“กำลังภายในของพวกพี่สองคนพอๆ กัน แต่ถ้าต่อสู้กันล่ะก็พี่เย่าชนะภายในสิบท่าแน่” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“สิบท่า งั้นฉันจะไปลองท้าพี่เย่า ไม่กล้าคิดเลยว่าเละในมือพี่เย่าในสิบท่า” เจี่ยหยวนพูดแล้วหัวเราะเสียงดังราวกับเป็บ้าคลั่ง
“ผมให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเส้นเืหน่อยดีกว่า พี่ฟังไว้ให้ดีนะผมจะพูดแค่รอบเดียว” กัวไฮว่มองเจี่ยหยวนพร้อมกับค่อยๆพูดอธิบาย “เมื่อกี้ผมบอกวิธีฝึกจิตให้พี่ไปชุดนึงคืนนี้แสงจันทร์ส่องสว่าง พี่อย่านอนล่ะ ทำตามที่ผมบอกพี่ไป ลองให้กำลังภายในหมุนไปตามผังเส้นเืที่ผมบอกพี่ไปสักสามสิบหกรอบวัน[1] ก็จะนับว่าคงที่แล้ว”
เจี่ยหยวนเริ่มทำอย่างกัวไฮว่จริง ๆ แล้ว เขานั่งลงบนพื้นจากนั้นก็มีแสงจันทร์ส่องมากระทบบนตัวเขาทำให้เขารู้สึกสบายอย่างไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้ ไฟแห่งความนับถือกัวไฮว่ยังคงลุกโชนอยู่น้องชายต่างสายเืของเขาคนนี้นี่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
เป็เวลาเช้าตรู่ตีห้า เจี่ยหยวนค่อย ๆ ลุกขึ้นมาก่อนหน้านี้เจี่ยหยวนน้ำหนักถึงหนึ่งร้อยหกสิบกิโลกรัมตอนนี้เหลือเพียงแค่เจ็ดสิบห้ากิโลกรัมกัวไฮว่อดมองพี่ชายต่างสายเืของตนอยู่หลายรอบไม่ได้ ไม่คิดเลยว่ายาลดน้ำหนักที่ทำมาจากกากยาจะได้ผลไม่เลวเลย
“เ้าสี่ ขอพี่ถามแกคำถามนึง มันจะโยโย่หรือเปล่าฉันต้องระวังการกินอะไรไหม ฉันไม่อยากอ้วนอีกแล้วล่ะ” เจี่ยหยวนถามขึ้นด้วยความจริงจัง
“ฝึกผังเส้นเืตามที่ผมบอกทุกวัน วันละสองชั่วโมงเลยส่วนเื่กินดื่มไม่ต้องระวัง” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ “แต่ว่าพี่จำเอาไว้นะ ตอนนี้พี่ไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว พี่เป็ผู้บำเพ็ญอย่าเอาพลังยุทธไปทำร้ายใคร ถ้าพี่กล้าใช้พลังมั่วซั่วอย่าว่าแต่คนอื่นจะมาจัดการพี่เลย ผมเนี่ยแหละจะมาจัดการพี่ด้วยมือของตัวเอง”
เจี่ยหยวนเห็นว่ากัวไฮว่ไม่ได้มีท่าทีจะล้อเล่นก็ผงกศีรษะอย่างจริงจังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกมาจากคลินิกแล้วมุ่งหน้าไปยังโรงแรม
“เว่ยปิน อาหารเช้าน้อยไปนะไปบอกห้องครัวด้วยว่าพรุ่งนี้เช้าอาหารต้องมีถึงยี่สิบสี่อย่าง บะหมี่ หมั่นโถวซาลาเปาใส่ไส้ ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยว ขนะเปี๊ยะ ซาลาเปา เกี๊ยวน้ำ ทุกอย่างห้ามขาดนะฉันมาเช้าขนาดนี้ยังไม่มีซาลาเปาใส่ไส้อีกเธออย่าบอกฉันนะว่ากินซาลาเปาใส่ไส้กันไปหมดแล้วน่ะ” เจี่ยหยวนเดินเข้าไปในห้องอาหารของโรงแรมพร้อมกับพูดกับผู้จัดการโถงใหญ่
“คุณกัวไฮว่ เพื่อนคุณคนนี้เป็ใครกันเหรอครับ รู้จักผมด้วยเหรอ” เว่ยปินมองเจี่ยหยวนแวบหนึ่งก่อนจะหันไปถามกัวไฮว่ที่อยู่ข้างๆ เจี่ยหยวน
“ผู้จัดการโถงใหญ่โรงแรมหยวนอินเตอร์ใครจะไม่รู้จักกันล่ะ ไม่ต้องสนเขาหรอกเขาเป็ญาติห่างๆ ของพี่สอง พวกเรากินอะไรนิดหน่อยก็พอแล้ว” กัวไฮว่พูดหยอกล้อ
“ญาติคุณหยวนเองเหรอครับ คุณรอเดี๋ยวนะครับถ้าอยากกินซาลาเปาใส่ไส้เดี๋ยวผมให้ในครับทำให้ตอนนี้เลย” เว่ยปินพูดเสร็จก็วิ่งตรงไปยังห้องครัว ในใจยังคิดอยู่เลยว่าครอบครัวคุณหยวนนี่น่าสนใจดีนะ ชอบกินซาลาเปาใส่ไส้กันทั้งนั้นเลยซาลาเปาใส่ไส้ที่มันอร่อยตรงไหนกันนะ
“อะแฮ่ม ๆ เ้าสี่ เด็กนี่จำฉันไม่ได้เหรอว่าเป็ใคร” เจี่ยหยวนมองเว่ยปินที่วิ่งไปพร้อมกับถามยิ้ม ๆ
“ผมบอกพี่แล้วไงว่าให้พี่เตรียมใจไว้ก่อน อย่าว่าแต่เว่ยปินเลยผมว่าถ้าตอนนี้พี่กลับบ้านตระกูลเจี่ย จะเข้าทางประตูใหญ่ได้ไหมยังไม่รู้เลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “กินเสร็จพี่กลับบริษัทไปเถอะทางนี้ผมยังต้องพาพนักงานไปจัดการเื่คลินิกอีก วันเสาร์ต้องมานะพี่ติดต่อพี่ใหญ่กับพี่สามให้หน่อยสิ พวกเราไม่เจอกันสักพักแล้วนี่นา”
เจี่ยหยวนไม่ได้ทานอะไรเยอะแยะ เขาทานเพียงแค่ข้าวต้มสองชามหมั่นโถวหนึ่งลูกและกับข้าวจานเล็ก ๆเมื่อเขากินเสร็จก็ออกจากโรงแรมไปโดยไม่ทันรอซาลาเปาใส่ไส้ของเว่ยปินจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่ของหยวนอินเตอร์
“พี่หยวน พี่ทำรถหายหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันเห็นไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ขับรถพี่อยู่น่ะแถมยังโบกมือให้ฉันอีก” เจี่ยหยวนขับรถไปได้ไม่ไกลโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เพื่อนที่ไปได้ดีกับทางธุรกิจคนหนึ่งพูดด้วยเสียงดัง
“ไม่หายนะ แกเห็นที่ไหนเหรอ” เจี่ยหยวนพูดเสียงดัง
“ถนนเซวียนอู่ เมื่อกี้เลย” ปลายสายพูดขึ้น “ให้ตาย ทำไมแกถึงได้มีโทรศัพท์ของเจี่ยหยวนเนี่ย ไอ้หนูฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็ใคร รีบเอาโทรศัพท์ไปให้ที่หยวนอินเตอร์เลยไม่งั้นแกต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นนะ”
“ไอ้น้อง ฉันเจี่ยหยวนเอง คนที่แกเห็นเมื่อกี้ก็ฉัน ฉันลดน้ำหนักแล้วล่ะจำไม่ได้ล่ะสิ” เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ กับโทรศัพท์
“คุณพระ ดูท่ายังไม่สำนึกผิดอีก ได้ แกรอเลยนะคนที่ขโมยรถเมื่อกี้คือแกใช่ไหม แกรอเลยนะ ถ้าแกกล้าขับออกไปจากถนนเซวียนอู่ ฉันซุนเจี้ยน จะไปหาเื่กับโคตรแม่แกแน่” พูดเสร็จอีกฝั่งก็วางสายไป
[1] หมายถึงการหมุนรอบสามร้อยหกสิบองศา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้