เมืองจูเซียน ตระกูลเนี่ย
“ท่านลุงสาม ไม่ดีแล้ว ไม่ดีแล้ว!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในสวนหย่อมตระกูลเนี่ย
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมในเมืองถึงได้เอะอะปานนี้?” ผู้เฒ่าตระกูลเนี่ยถามเสียงแ่
“ข้าเพิ่งไปเรือนน้ำชากงอี้มา มีคนอยู่เต็มไปหมด! ข้าเบียดเข้าไปดูไม่ได้เลย! ข้าได้ยินหวังเค่อมันะโอะไรอยู่ข้างในก็ไม่รู้? ท่านลุงซาน หวังเค่อมันกลับมาแล้ว?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยถามอย่างกังวล
“จะเป็ไปได้อย่างไร? ถ้าหวังเค่อมันกลับมาจริง มีหรือมันจะไม่โดนจับกินทั้งเป็?” ผู้เฒ่าตอบเสียงเย็น
“หรือพวกมันกำลังรุมฆ่าหวังเค่อกันอยู่? พวกเราควรแจ้งท่านประมุขหรือไม่?”
“ทำไม่ได้ ท่านประมุขบอกว่าจะกักตน ตอนนี้ท่านประมุขหายไปไหนข้ายังไม่รู้เลย! เ้าเบียดเข้าไปสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้น?” ผู้เฒ่าสั่งเสียงเข้ม
“ขอรับ!”
คุกน้ำตระกูลเนี่ย
องค์หญิงโยวเยว่หลับตาสื่อจิตกับลูกปัดคำนึงอยู่ในกรงขัง นางเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเรือนน้ำชากงอี้ รับฟังหวังเค่อพลิกดำเป็ขาว ล้างสมองประมุขตระกูลผู้ฝึกฌานยกก๊วนอยู่
เื่เหลวไหลพรรค์นี้หากไม่ได้เห็นเองกับตา นางคงไม่มีวันทำใจเชื่อ
วันนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว
“สิ่งที่เ็ปที่สุดในโลกคือคนยังอยู่ แต่เงินไม่มี!”
พอได้ยินคำพูดของหวังเค่อ องค์หญิงโยวเยว่ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว นางหลุดหัวเราะพรืดออกมา
เสียงหัวเราะนี้ทำให้เนี่ยเทียนป้าที่กำลังฝึกควบคุมกระบี่บินอยู่ต้องลืมตาขึ้นมามององค์หญิงโยวเยว่
นี่เื่อะไรกัน? เมื่อครู่องค์หญิงโยวเยว่เพิ่งส่งเสียงพิลึกออกมาใช่ไหม? เ้าหัวเราะเื่อะไร? หรือจะเสียสติไปแล้ว?
“องค์หญิงโยวเยว่ เ้าหัวเราะอะไร?” เนี่ยเทียนป้าไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดว่าเ้าโชคร้ายนัก!” องค์หญิงโยวเยว่ยิ้มสวน
“โชคร้ายรึ? เหอะ หวังเค่อต่างหากที่โชคร้าย ไม่ใช่ข้า! ครั้งก่อนข้าโดนมันหลอก ครั้งนี้เ้าคิดว่าข้าจะพลาดท่าโดนเ้าหลอกด้วย? อีกอย่าง วิชาโกหกหลอกลวงของเ้ายังห่างชั้นจากหวังเค่ออีกมาก เหอะ!” เนี่ยเทียนป้าแค่นเสียงเย็น ก่อนจะไม่สนใจองค์หญิงโยวเยว่อีก
ใจขององค์หญิงโยวเยว่เวลานี้อยู่บนเวทีสูงเรือนน้ำชากงอี้ นางย่อมไม่คิดต่อปากต่อคำกับเนี่ยเทียนป้า
ภายในภาพนิมิต หวังเค่อเอ่ยปาก “สิ่งที่เ็ปที่สุดในโลกคือคนยังอยู่ แต่เงินไม่มี!” หลังจากนั้น ทั่วทั้งเรือนน้ำชากงอี้พลันกลายเป็เงียบสนิท ความขุ่นข้องหมองใจเริ่มเดือดพล่าน
เ็ปเหลือเกิน! ราวกับโดนมีดดาบทิ่มแทงหัวใจ!
เ็ป? ใช่แล้ว ทุกคนครั้งนี้ล้วนแต่เ็ปด้วยกันทั้งหมดทุกคน! ถึงเงินเ่าั้จะได้มาจากการทุจริตฉ้อฉล สั่งสมเวรกรรมมาตลอดหลายปี แต่ยังไงก็ยังเป็เงินของพวกข้าอยู่ดี สูญเสียไปง่ายๆ แบบนี้จะไม่ให้เ็ปยังไงไหว?
เดิมหวังเค่อเสนอขายแผนการลงทุนให้พวกมันก็เพราะพวกมันเป็ทรชน ดังนั้นหวังเค่อจึงไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร
“หวังเค่อ เ้าพูดมากความมีประโยชน์อันใด? แล้วเื่เงินเล่า? ไหนเ้าเขียนจดหมายบอกจะแบ่งเงินจำนวนมาก? แล้วเงินอยู่ไหน?” ประมุขผู้หนึ่งร่ำร้อง
“จริงด้วย หวังเค่อ แล้วเงินอยู่ไหน? สัญญาซื้อขายแผนการลงทุนของข้ายังอยู่เลย นี่ไงหนังสือสัญญา เ้าจ่ายเงินคืนมา ข้าไม่เอาดอกเบี้ยก็ได้ คืนเงินต้นมาให้ข้าก่อน!” แต่ละคนเริ่มะโออกมา
ถึงจุดนี้ ทุกคนต่างยอมรับแล้วว่าเนี่ยเทียนป้าแหกตาตนเอง แต่ยังไม่เห็นเงินเลยสักแดง ใครแหกตาพวกมันสำคัญตรงไหน? แค่เ้าจ่ายเงินมาพวกเราก็พร้อมเชื่อเ้า!
“เอาละ ทีนี้มาพูดเื่เงินกัน!” หวังเค่อะโเสียงดัง
คราวนี้ไม่ต้องให้ “ตัวช่วย” ในฝูงชนเอ่ยปาก ทุกคนพลันเงียบเสียงทันที
“เงินของพวกท่านสามารถแบ่งได้เป็สองส่วน หนึ่งคือเงินที่เนี่ยเทียนป้าคดโกงไปจากประมุขตระกูลทุกท่าน ส่วนที่สองคือเงินค่าแผนการลงทุนที่พวกท่าน้าได้คืน ใช่หรือไม่?” หวังเค่อถาม
“ใช่แล้ว!” ทุกคนต่างขานรับเสียงดัง
“ก่อนจะพูดถึงเื่เงินที่โดนเนี่ยเทียนป้าโกงไป มาพูดเื่เงินค่าแผนการลงทุนก่อน!” หวังเค่อเอ่ย
“ดี!” ทุกคนขานรับเป็เสียงเดียว
“อย่างที่ทุกท่านทราบ ตระกูลหวังข้าถูกเนี่ยเทียนป้าบุกถล่ม! เงินค่าแผนการลงทุนทั้งหมดของพวกท่านล้วนถูกเนี่ยเทียนป้าปล้นชิงไปแล้ว เวลานี้ ในคฤหาสน์ตระกูลเนี่ยมีกองเงินกองทองสุมเป็ูเา ขอเพียงเอาเงินกลับมาได้ ข้าจะคืนเงินให้พวกท่านตามสัญญาเลย!” หวังเค่อพูด
“ว่าอะไร? หมายความว่าถ้าเ้าเอาเงินจากเนี่ยเทียนป้ากลับมาไม่ได้ เ้าก็จะไม่คืนเงิน?” ใครสักคนเอ่ยอย่างโกรธขึ้ง
“ชู่ว! ให้ประมุขหวังพูดให้จบก่อน!” “ตัวช่วย” ในฝูงชนส่งเสียง
“เถ้าแก่คนเมื่อครู่ถามได้ดี หากข้าเอาเงินกลับมาไม่ได้ ข้าก็จะไม่คืนเงินใช่ไหม? ท่านคิดว่าข้าโอหังเท่าเนี่ยเทียนป้างั้นรึ? ผิดแล้ว ท่านประเมินข้าหวังเค่อต่ำไป ข้าเป็คนค้าขาย ทำธุรกิจมาหลายปี เน้นความน่าเชื่อถือเป็ที่หนึ่ง! ธุรกิจตระกูลหวังข้าดำเนินการด้วยอะไร? มโนธรรม! มโนธรรมน่ะ ท่านรู้จักไหม?” หวังเค่อด่าใส่ฝูงชน
เวลานี้ฝูงชนถูกหวังเค่อด่าแบบนี้ออกมา พลันรู้สึกอึดอัดคับข้องเป็พิเศษโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ข้าหวังเค่อค้าขาย ห้ามผู้ใดเอาเปรียบข้า และไม่คิดเอาเปรียบผู้อื่น! สมุดบัญชีบันทึกคนซื้อแผนการลงทุนเองก็ถูกตระกูลเนี่ยฉกชิงไป ขอเพียงได้สมุดบัญชีเล่มนี้คืนเท่านั้น ข้าหวังเค่อถึงจะคืนเงินได้!” หวังเค่อะโให้ทุกคนได้ยิน
“ประมุขหวัง หากท่านหาสมุดบัญชีไม่เจอ ท่านก็จะไม่คืนเงินรึ?” มีคนถามอย่างร้อนใจ
“ประมุขหวัง ท่านมีเงินหรือเปล่าเนี่ย?”
“หุบปากให้ประมุขหวังพูดก่อน!” บางคนในฝูงชนคัดคำขึ้นมา
“ทุกท่าน ท่านทราบหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างใน่ที่ผ่านมา? ทำไมพรรคอีกาทองคำถึงได้ถอนประกาศจับองค์หญิงโยวเยว่ไป? ทำไมข้าหวังเค่อถึงกล้าย้อนกลับมา?” หวังเค่อมองหน้าทุกคน
ทุกคนต่างเผยสีหน้าสับสน
“เพราะวันนั้น ตระกูลเนี่ยทำลายตระกูลหวังของข้า ส่วนข้ารีบหลบหนีไปพร้อมกับองค์หญิงโยวเยว่! ข้าเดินทางไปส่งมอบตัวองค์หญิงเพื่อขึ้นรางวัลที่สำนักเซียน พรรคอีกาทองคำถึงได้ถอนประกาศจับไป!” หวังเค่ออธิบาย
“ท่านส่งตัวองค์หญิงโยวเยว่ให้พรรคอีกาทองคำ พรรคอีกาทองคำเลยรับท่านเข้าเป็ศิษย์?” ทุกคนถามอย่างแปลกใจ
หวังเค่อไม่ได้เอ่ยปากว่ามันฝากตัวเป็ศิษย์พรรคอีกาทองคำหรือพรรคเทพหมาป่า์ คนเพียงโบกมือออก
“จงมา!”
กระบี่บินเล่มหนึ่งบินวนรอบตัวหวังเค่อในพริบตา ทิ้งร่องรอยลากยาวเป็สายจนทุกคนตาแดงก่ำ
“กระบี่บิน? นี่ก็คือกระบี่บิน ท่านมีอาวุธวิเศษที่ชนชั้นดวงธาตุทองคำยังหาไม่ได้ได้ยังไง?” ทุกคนต่างอุทาน
สำหรับเมืองเซียนธรรมดาทั่วไปแล้ว กระบี่บินก็คือตำนานอย่างหนึ่ง! เวลานี้มันกลับปรากฏขึ้นตรงหน้าหวังเค่อ
“ข้าฝากตัวเป็ศิษย์สำนักเซียนเลยได้รับกระบี่บินมา ยากเย็นตรงไหน?” หวังเค่อพลิกมือเรียกกระบี่บินกลับมา
ถึงจุดนี้ ยังจะมีใครไม่เชื่อถือคำพูดหวังเค่ออีก? ขณะเดียวกัน ต่างก็มีคนพึมพำว่าหวังเค่อมีวาสนาไม่หยุด แม้ทั้งตระกูลจะล้มตายจนหมด ตัวเ้าเข้าร่วมสำนักเซียน ตำแหน่งศิษย์พรรคอีกาทองคำห้าที่ เ้าแลกอีกสี่ตำแหน่งที่เหลือกับกระบี่บินไปใช่มั้ย?
“ท่านคิดว่าข้าหวังเค่อจ่ายเงินคืนได้หรือไม่?” หวังเค่อมองทุกคน
มันฝากตัวเป็ศิษย์พรรคอีกาทองคำแล้ว มันจะไม่มีเงินได้ยังไง? แค่กระบี่บินนี่เล่มเดียวยังแพงกว่าเงินที่พวกเรารวมกันซื้อแผนการลงทุนเสียอีก!
“ข้าคิดว่าพวกท่านบางคนคงทำหนังสือสัญญาหายไปแล้ว ถูกไหม?” หวังเค่อกวาดตามองทุกคน
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าท่านตายไปแล้ว ก็เลยฉีกสัญญาทิ้งด้วยโทสะ!”
“ข้าก็เหมือนกัน ข้านำหนังสือสัญญาไปให้ตระกูลเนี่ยดู แต่พวกมันดันฉีกทิ้งเฉยเลย!”
.........
.........
......
......
คนโชคร้ายบางส่วนในฝูงคนเอ่ย
...
...
“หนังสือสัญญาเสียหายไปแล้วไม่เป็ไร ขอเพียงนำสมุดบัญชีตระกูลหวังข้ากลับมาได้ ข้าก็จะชดใช้เงินให้ตามที่ระบุไว้ ทุกท่าน! ท่านคิดว่าข้าควรนำสมุดบัญชีกลับมาหรือไม่?” หวังเค่อมองหน้าทุกคนอีกครั้ง
“ต้องสิ ต้องอยู่แล้ว!” ฝูงชนเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
“แต่เวลาผ่านมานานปานนี้แล้ว สมุดบัญชีจะไม่ถูกตระกูลเนี่ยทำลายทิ้งไปแล้วหรือ?” ประมุขคนหนึ่งขมวดคิ้ว
“ถูกต้อง นี่ยังเป็เหตุผลที่ข้ามาพบพวกท่านทุกคนก่อน ต่อให้สมุดบัญชีถูกทำลายไปก็ไม่เป็ไร ตระกูลหวังข้ายังมีสมุดบัญชีสำรองอยู่!” หวังเค่อว่า
“โอ้?” ทุกคนต่างชะงักไป สมุดบัญชีสำรอง?
“สมุดบัญชีสำรองเล่มนี้อยู่ในมือฮูหยินข้าเอง! ขอเพียงพวกท่านหาตัวฮูหยินข้าพบ ความจริงทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผย!” หวังเค่ออธิบาย
“ฮูหยินท่าน? ทำไมพวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อน?” ฝูงชนถามอย่างแตกตื่น
ตั้งสิบปี ไฉนพวกเราไม่เคยทราบว่าท่านมีฮูหยินด้วย?
“ฮูหยินข้าไม่เคยออกไปนอกบ้านตลอดสิบปี พวกท่านย่อมไม่รู้จัก แต่ทุกท่านต้องเคยเห็นนางแน่!” หวังเค่ออธิบาย
“ว่าอะไร?” ทุกคนสับสน
หวังเค่อโบกมือ ภาพเหมือนม้วนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เมื่อคลี่กางออก ภาพเหมือนของอิสตรีหน้าตางดงามก็เผยโฉม ทุกคนต่างพากันตั้งใจดู
“หา? ที่แท้เป็นาง?” ทุกคนอุทาน
ภายในคุกน้ำตระกูลเนี่ย องค์หญิงโยวเยว่พลันหน้าแดงก่ำ เพราะหญิงในภาพเหมือนก็คือนางเอง
“ใครเป็ฮูหยินของเ้ากัน?” องค์หญิงโยวเยว่พึมพำเบาๆ ด้วยดวงหน้าขึ้นสี
ในสวนหย่อมเรือนน้ำชากงอี้ ประมุขตระกูลทุกคนต่างเบิกตามองภาพเหมือน ภาพนี้จะดูคุ้นตาเกินไปแล้ว นี่ไม่ใช่ “องค์หญิงโยวเยว่” ที่จางเสินซวีและเนี่ยเทียนป้าให้พวกเราออกตามหาหรอกหรือ?
“ในตระกูลหวังเรา สตรีเป็คนคุมเงิน นางซุกซ่อนเงินทองไว้ตามสถานที่ต่างๆ มากมาย ดังนั้น หลังจากเนี่ยเทียนป้าทำลายตระกูลหวังข้าแล้ว มันก็ยังไม่พอใจ มัน้าฮุบเงินทั้งหมดของตระกูลหวัง ดังนั้นจึงคิดจับตัวฮูหยินของข้าไปเค้นข้อมูล! มันอ้างว่านางเป็องค์หญิงโยวเยว่? มันเลยอยากให้พวกท่านช่วยมันตามหา? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ผายลม! เนี่ยเทียนป้ามันทำเหมือนพวกท่านโง่!” หวังเค่อด่าทุกคนอีกครั้ง
เหล่าประมุข “...!”
บรรดาสานุศิษย์ตระกูลผู้ฝึกฌานทั้งหลายต่างเส้นเืบนขมับปูดโปน โทสะเดือดพล่าน
ที่แท้นั่นกลับไม่ใช่องค์หญิงโยวเยว่ แต่เป็ฮูหยินของหวังเค่อ?
“ข้าบอกพวกท่านได้เลยว่าฮูหยินข้าถูกเนี่ยเทียนป้าจับตัวไว้! เพื่อความปลอดภัย นางจึงยอมบอกตำแหน่งที่ซ่อนเงินบางส่วนไป เงินเ่าั้ถูกเนี่ยเทียนป้าชิงไปหมดแล้ว! แต่ยังเหลือจุดซ่อนเงินอีกหลายแห่ง ฮูหยินของข้าสมควรถ่วงเวลาเพื่อรอข้าไปช่วยเหลือ! ฮูหยินข้าถูกจับขังไว้ที่ไหนสักแห่งในตระกูลเนี่ย! ขอเพียงฮูหยินของข้าปลอดภัย รายชื่อผู้ซื้อแผนการลงทุนทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผย! เงินค่าแผนการลงทุนจะถูกจ่ายคืนให้พวกท่านทั้งหมด! พวกท่านยินดีไปช่วยฮูหยินข้าด้วยกันหรือไม่?” หวังเค่อะโ
“ไป!” กลุ่มคนที่ซื้อแผนการลงทุนต่างส่งเสียงะโ
“วันนี้ ข้าหวังเค่อกลับมาเพื่อทวงแค้นให้ตระกูลหวังข้าที่ต้องตายอย่างอนาถ! และเพื่อช่วยเหลือฮูหยินของข้า! ข้ายังจะสะสางบัญชีหนี้สินแก่พวกท่านทุกคน! ตามหาเนี่ยเทียนป้า ทวงความเป็ธรรมให้ทุกคน!” หวังเค่อตะเบ็งเสียงลั่น
“ดี! ประมุขหวังปราดเปรื่องนัก!” เหล่าคนที่เสียหนังสือสัญญาไปะโกลับ
“ประมุขหวัง ท่านอยากให้พวกเราเป็กองหนุนช่วยท่านจัดการตระกูลเนี่ย?” ประมุขคนหนึ่งมองออกจึงถามเสียงเย็น
รอบด้านเงียบเสียงลง ทุกคนต่างมองดูหวังเค่อ
“ถูกต้อง ประมุขทุกท่าน พวกท่านไม่เต็มใจ?” หวังเค่อถามตรงๆ
ไม่มีใครนึกว่าหวังเค่อจะขวานผ่าซากขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนต่างรอหวังเค่อกล่าวต่อ
“เหอะ ทำไมพวกเราต้องช่วยท่านด้วย? อีกอย่าง ท่านคิดว่าตระกูลเนี่ยจัดการง่ายนักรึ?” ประมุขคนนั้นแค่นเสียงเ็า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตระกูลผู้ฝึกฌานทั้งเมืองต่างปะทะกับตระกูลเนี่ยเป็ระยะ แต่พวกมันก็ไม่เคยชนะสักครั้ง ทุกคนย่อมไม่กล้าเปิดหน้าแตกหักกับตระกูลเนี่ย
“จัดการยากตรงไหน? ข้าลองสอบถามมาแล้ว พวกท่านแพ้ตระกูลเนี่ยมาใช่หรือไม่?” หวังเค่อแค่นเสียง
“แพ้แล้วอย่างไร?” ประมุขคนนั้นถามด้วยสีหน้าเ็า
“โง่เง่า โง่เขลาเกินเยียวยา!” หวังเค่อตะคอก
“ท่านว่าอะไร?” ประมุขผู้นั้นเบิกตาโพลง
“ตระกูลเนี่ยคือตระกูลผู้ฝึกฌานอันดับหนึ่งแห่งเมืองจูเซียน แตะต้องพวกมัน มีตรงไหนไม่โง่เขลา?” หวังเค่อยังด่าไม่หยุด
“หา?” ทุกคนชะงักไป
เ้าเพิ่งขอให้พวกเราไปช่วยกันรุมตระกูลเนี่ยอยู่เลยไม่ใช่รึ? ทำไมจู่ๆ บอกว่าแตะต้องตระกูลเนี่ยเป็เื่โง่เขลาเสียได้?
“ตระกูลพวกท่านเพียงลำพังย่อมรับมือตระกูลเนี่ยไม่ไหว! แต่ทำไมพวกท่านไม่ร่วมมือบุกเข้าไปพร้อมกันล่ะ? ตระกูลเนี่ยมีคนเท่าไหร่? พวกท่านรวมกันมีเท่าไหร่? ตระกูลเนี่ยมีขั้นเซียนเทียนกี่คน? พวกท่านรวมกันมีเซียนเทียนกี่คน? จำนวนพวกท่านเยอะกว่าตระกูลเนี่ยตั้งหลายเท่า แต่สุดท้ายพวกท่านกลับแบ่งแยกกันลงมือทีละตระกูล หากนี่ไม่เรียกโง่ แล้วจะให้เรียกอะไร?” หวังเค่อด่า
“ท่านคิดว่าแค่พวกเรารวมตัวกันก็จะชนะ? แล้วเนี่ยเทียนป้าที่บรรลุขีดสุดเซียนเทียนล่ะ? พวกเราเป็คู่มือมันได้ที่ไหน?” ประมุขคนหนึ่งะโสวน
“นั่นเป็เพราะประมุขตระกูลอย่างพวกท่านรักตัวกลัวตายต่างหาก! พวกท่านกลัวจะถูกเนี่ยเทียนป้าฆ่า ก็เลยไม่กล้าลงมือสุดกำลัง! พวกท่านลงมือด้วยกันไม่ได้รึ?” หวังเค่อถามเสียงเย็น
สีหน้าประมุขตระกูลทั้งหลายหม่นลงเล็กน้อย ไม่มีใครเอ่ยปากอีก
จริงอยู่ที่ถ้าพวกมันร่วมมือกัน บางทีเนี่ยเทียนป้าก็อาจเอาชนะไม่ได้ แต่พวกเราก็ต้องมีาเ็ล้มตายกันบ้าง ถ้าข้าเป็คนที่ตายขึ้นมาจะทำยังไง? ข้าแค่อยากได้เงิน ไม่ได้อยากตายซะหน่อย?
“กล่าวได้เพียงว่าเนี่ยเทียนป้าข่มขวัญพวกท่านเกินไป พวกท่านล้วนกลัวตายแต่ก็กลัวคนอื่นจะฉวยโอกาส ดังนั้นจึงไม่กล้าร่วมมือกันจัดการเนี่ยเทียนป้า! แต่พวกท่านคิดว่าข้ากลัวหรือเปล่า?” หวังเค่อมองประมุขตระกูลทั้งหลาย
สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยน ในใจนึกถึงกระบี่บินของหวังเค่อ
“ั้แ่นี้ไป ข้าจะจัดการเนี่ยเทียนป้าเอง พวกท่านยังกล้าไปทวงหนี้ที่ตระกูลเนี่ยกันอยู่หรือไม่?” หวังเค่อมองหน้าประมุขตระกูลทุกคน
ประมุขทั้งหลายสีหน้าแปรเปลี่ยน จริงด้วย หวังเค่อมีกระบี่บิน มันต้องจัดการเนี่ยเทียนป้าได้แน่ หวังเค่อจัดการเนี่ยเทียนป้าเสร็จ ศิษย์ทั่วไปของตระกูลเนี่ยพวกมันยังต้องกลัวอีกหรือ?
“ประมุขหวัง ท่านแน่ใจนะ?” ประมุขคนหนึ่งขมวดคิ้วถาม
เมื่อหวังเค่อได้ยินเช่นนี้ มันก็รู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มคล้อยตามแล้ว
“เอาละ ตอนนี้ข้าจะไปช่วยฮูหยินที่ตระกูลเนี่ยแล้ว! ไปทวงแค้นให้ตระกูลหวังข้า! พร้อมกันนี้ ข้าก็จะทวงคืนเงินตระกูลข้าที่ถูกตระกูลเนี่ยชิงไปด้วย ทุกท่าน ใครอยากจะไปกับข้าบ้าง ไปตระกูลเนี่ยร่วมกับข้า ทวงเงินที่หามาอย่างยากลำบากกลับคืน! พอได้เงินแล้ว อย่างแรกข้าจะชดใช้ค่าแผนการลงทุนให้ตามหนังสือสัญญา หากยังมีเงินเหลือ ข้าหวังเค่อไม่ขอรับเงิน แต่แบ่งส่วนแจกจ่ายให้แก่พวกท่าน! ส่วนคนที่ไม่อยากไป พวกท่านก็ดูอยู่ที่นี่ไปก็แล้วกัน เงินของท่านที่โดนตระกูลเนี่ยหลอกเอาไปก็อย่าหวังจะได้คืน เพราะหลังจากวันนี้ไป เมืองจูเซียนจะไม่มีตระกูลเนี่ยอีก!” หวังเค่อะโดังลั่น
“ข้าไป!”
“ข้าไปด้วย!”
“ประมุขหวัง พวกเราจะไปกับท่าน!”
“โค่นเนี่ยเทียนป้า! ช่วยเหลือฮูหยินหวัง! ทวงเงินของเราคืน!”
.........
“โค่นเนี่ยเทียนป้า! ช่วยเหลือฮูหยินหวัง! ทวงเงินของเราคืน!”
......
.........
...
.........
สวนหย่อมด้านหลังเรือนน้ำชากงอี้เต็มไปด้วยเสียงร้องะโ
......
นี่ไม่ใช่การทวงหนี้ แต่เป็การฆ่าคนปล้นเงิน!
มีกระบี่บินของหวังเค่อรับมือเนี่ยเทียนป้า พวกเรายังต้องกลัวอะไรอีก? พวกเราอยากทวงเงินที่หามาอย่างยากลำบากคืน นี่เป็เงินที่พวกเราสมควรได้รับ! ต้องชดใช้เงินคืนมาถึงจะถูก!
บรรดาคนที่ซื้อแผนการลงทุนย่อมเต็มใจจะไป ตระกูลผู้ฝึกฌานทั้งหมดเองหลังจากลังเลสักพักก็ตกลงใจอย่างไม่ลังเล ไม่ต้องกล่าวถึงความแค้นเคืองในใจที่ถูกเนี่ยเทียนป้าข่มเหง แต่ถ้าพวกมันเข้าร่วมช้ากว่านี้ เกิดตระกูลเนี่ยล่มสลาย หนี้สินของพวกมันไม่พ้นกลายเป็ผายลมหรอกหรือ?
“ดี งั้นอย่ารอช้า รีบไปกันเลย!” หวังเค่อปลุกใจ
“ดี~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงะโดังลั่นทั่วเมืองจูเซียน
หวังเค่อนำหน้า ยอดยุทธ์เกือบทั้งเมืองจูเซียนเดินตามหลัง พวกมันต่างถูไม้ถูมือด้วยตาแดงก่ำ
ทันทีที่เปิดประตูเรือนน้ำชากงอี้ออกมา ทั้งหมดก็เจอหน้ากลุ่มศิษย์ตระกูลเนี่ยที่มาสืบข่าวเข้าพอดี
“นั่นศิษย์ตระกูลเนี่ย อย่าให้มันหนีไปได้! หยุดมัน!” มีคนะโขึ้นมา
ไม่ต้องให้หวังเค่อเอ่ยปาก ก่อนที่เหล่าศิษย์ตระกูลเนี่ยจะทันได้ขยับตัว พวกมันก็ถูกยอดฝีมือฝูงใหญ่รุมกระทืบจนหน้าปูดตาบวมแล้ว
“พวกเ้ารนหาที่ตายแล้ว ไม่รู้หรือไงว่าข้าเป็ใคร? ข้าคือเนี่ยจิงหยุน ปล่อยข้านะ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยร่ำร้อง
“เ้าเคยอัดข้ามาก่อน ครั้งที่แล้วตอนข้าไปทวงเงินที่บ้านเ้า เ้าเตะข้าตั้งสามเท้า!” ใครสักคนในฝูงชนะโ
“มัดตัวมันไว้ ลากไปบ้านตระกูลเนี่ย!” หวังเค่อสั่งการ
“ทราบ!”
ไม่นาน กลุ่มศิษย์ตระกูลเนี่ยที่มาสืบข่าวก็ถูกจับมัดจนหมด
“โค่นเนี่ยเทียนป้า! ช่วยเหลือฮูหยินหวัง! ทวงเงินของเราคืน…!”
ฝูงชนะโคำขวัญเดินส่ายอาดๆ ไปทั่วเมือง พวกมันเดินขบวนผ่านถนนหนทางที่พลุกพล่านที่สุดในเมืองจูเซียน ชาวเมืองจูเซียนมากมายต่างมองด้วยสายตาสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดเื่อะไรขึ้น ก่อนพวกมันจะชี้นิ้วไปยังป้ายที่ลูกน้องหวังเค่อแบกมาด้วยอย่างประหลาดใจ
ฝูงชนที่ตามมาจากเรือนน้ำชากงอี้ไม่ทราบว่าลูกน้องหวังเค่อเขียนป้ายใหญ่โตเชิดมาตามขบวนั้แ่เมื่อไหร่ ทุกคนในเมืองจูเซียนที่ไม่รู้เื่ต่างก็ได้รับทราบถึงเหตุผล
ป้ายเดินขบวนเขียนว่า
“โค่นโจรชั่วเนี่ยเทียนป้า!”
“เมื่อมีการกดขี่ ย่อมมีการต่อต้าน!”
“กำจัดตระกูลเนี่ย เนื้อร้ายเมืองจูเซียน!”
“ตระกูลเนี่ยไร้น้ำใจ ออกจากเมืองจูเซียนไปซะ!”
………
……
…
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้