เสียงแฟลชจากกล้องดังระรัวราวพายุสายฟ้า ห้องโถงงานแถลงข่าวกลางเมืองเต็มไปด้วยนักข่าวกว่าร้อยคน โลโก้ Lunaria ถูกฉายบนจอ LED ขนาดใหญ่ด้านหลัง เสียงซุบซิบและการเรียกชื่อไม่หยุดเมื่อทั้งห้าสาวก้าวเข้าสู่เวที
ยูกะ เดินนำด้วยรัศมีเย็นสง่า ดวงตาอำพันสะท้อนแสงแฟลชจนเหมือนประกายจันทร์ รินะ ก้าวตามราวพี่สาวผู้คอยคุมบรรยากาศ ใบหน้าเต็มรอยยิ้มอุ่น เซนะ ยืนมั่นคงเหมือนเสาหิน ผมสีน้ำเงินเหล็กเงาวับ มิยู ก้าวช้า ๆ ดวงตาลาเวนเดอร์หลบกล้องแต่ยังพยายามส่งยิ้ม และ โคโตะ โบกมือซุกซนเรียกเสียงหัวเราะ
เสียงพิธีกรเชิญพวกเธอนั่งเรียงกันบนเวทีสูง แฟลชวาบจนแทบมองไม่เห็น ทันทีที่ไมค์ถูกส่งมาถึง ยูกะพูดด้วยเสียงเรียบแต่ทรงพลัง
“พวกเราดีใจที่ได้พบทุกคน และนี่เป็เพียงก้าวแรกของการเดินทาง”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นแม้เป็งานสื่ออย่างเป็ทางการ นักข่าวถามถาโถม เื่แรงบันดาลใจ เพลงที่ชอบ ความฝันในอนาคต รินะตอบด้วยรอยยิ้มละมุน เซนะให้คำตอบตรงสั้นแต่เฉียบ มิยูเสียงเบาแต่จริงใจ โคโตะพูดตื่นเต้นจนหลายคนจดบันทึกด้วยรอยยิ้ม
จากภายนอก ภาพของ Lunaria ยังสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
แต่หลังเวที บรรยากาศอีกแบบกำลังรออยู่
ห้องพักศิลปิน เต็มไปด้วยขวดน้ำ ผ้าเช็ดหน้า และเอกสารคิวงานที่กองเป็ตั้ง ผู้จัดการยื่นตารางใหม่ลงบนโต๊ะยาว
“สัปดาห์นี้จะมีการอัดรายการสามรายการ ซ้อมใหญ่หนึ่งครั้ง และถ่ายโฆษณาเพิ่มอีกหนึ่งวัน”
เสียงถอนหายใจดังจากโคโตะทันที
“สามรายการ? แล้วฉันจะได้ซ้อมกลองตอนไหนอะ!”
เซนะเลิกคิ้ว
“เราต้องซ้อม ถ้าไม่มีเวลาซ้อม ความพังรออยู่แน่”
รินะรีบยกมือห้าม
“ใจเย็น ๆ ฟังผู้จัดการก่อน”
ยูกะเงียบ นั่งกอดแขนมองกระดาษ ตารางแน่นจนแทบไม่เห็นช่องว่างสำหรับพัก เธอไม่พูด แต่ดวงตานิ่งราวกำลังคำนวณว่าจะทำอย่างไรถึงจะสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานตัวเอง
มิยูก้มหน้าลูบตุ๊กตาที่ซ่อนในกระเป๋า เธอกลืนน้ำลายอย่างกังวล ความเงียบของเธอชัดเจนยิ่งกว่าคำพูด
เย็นวันเดียวกัน ทั้งวงถูกพาไปถ่ายโฆษณาสำหรับเครื่องประดับธีมจันทร์ สตูดิโอไฟร้อนอบอ้าว แฟนคลับผู้โชคดีจำนวนหนึ่งถูกเชิญมาเป็สักขีพยาน
ทุกการโพสท่า ทุกการยิ้ม ต้องเป๊ะตามช่างภาพสั่ง
“ยูกะ หันหน้านิด ซ้ายอีก! ดีมาก! รินะ ยิ้มเพิ่มหน่อย! โคโตะ ลดท่าซนลงนิด!”
เสียงแฟลชดังไม่หยุด ร่างกายที่เหนื่อยจากงานเช้าถูกบังคับให้ออกภาพสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม
รินะพยายามรักษารอยยิ้ม แต่เมื่อหันไปเห็นโคโตะนั่งหลับคาเก้าอี้ใน่พัก เธอรีบถอดเสื้อคลุมบางไปคลุมให้ ยิ้มอ่อนโยนแล้วหันกลับมาสวมหน้ากากนักแสดงอีกครั้ง
เซนะจัดกีตาร์ในมุมถ่ายอย่างแข็งขัน แต่แอบเม้มปากเพราะไหล่เริ่มเจ็บจากการโพสท่านานเกินไป
มิยูกอดตุ๊กตาแน่นใน่พักสั้น ๆ เธอหันไปยิ้มบางให้แฟนที่ยกป้าย “Miyu Angel” รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมานิด
ยูกะยืนกลางฉากในชุดกำมะหยี่ดำ ดวงตาอำพันยังเปล่งรัศมี Moon Queen แต่เมื่อแฟลชดับลงชั่ววินาที เธอสูดหายใจลึกเหมือนจะล้ม
คืนนั้น เมื่อกลับถึงโรงแรม ทั้งห้าทรุดลงบนโซฟาในห้องพักรวม
โคโตะบ่นเสียงดัง
“ฉันอยากตีจริง ๆ ไม่ใช่แค่โพสต์ทำท่าเหมือนตี”
เซนะพึมพำเรียบ ๆ
“เราต้องทำงานที่ไม่อยากทำ เพื่อให้ได้โอกาสทำงานที่อยากทำ”
รินะยื่นแก้วน้ำให้น้องเล็ก
“อดทนหน่อยนะโคโตะ เราทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกัน”
มิยูพยักช้า ๆ
“แต่…พวกเราอยู่ด้วยกันใช่ไหม”
เสียงเบาแต่ทำให้ทุกคนเงียบไป
ยูกะนั่งนิ่ง สายตาจ้องออกนอกหน้าต่าง แสงไฟเมืองใหญ่สาดเข้ามาในห้อง เธอพูดแ่เบา
“เราต้องไม่ปล่อยให้ใครเห็นความเหนื่อย…เด็ดขาด”
ภาพนอกห้องคือป้ายโฆษณา Lunaria ขนาดมหึมาติดอยู่บนตึกสูงกลางกรุง ห้าร่างยิ้มสดใสท่ามกลางแสงจันทร์จำลอง
แต่ในห้องเล็ก ๆ นี้ ห้าสาวนั่งพิงกันอย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้าที่ไม่มีแฟลชกล้องส่องเผยความจริงที่ไม่มีใครภายนอกเห็น
ใต้แสงไฟแฟลช พวกเธอยังคงเป็เทพีจันทร์ แต่เื้ั ความเหนื่อยล้าเริ่มทับถมทีละน้อย