เมื่อเห็นความประหลาดใจของเสวี่ยปิงหนิงแล้ว หลัวเลี่ยก็รู้ได้ทันทีว่าตรานี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และในขณะเดียวกัน เขาก็ได้รู้ว่าหอเซียวเหยานั้นต้องไม่ธรรมดายิ่งกว่า
“เ้าได้มาจากที่ไหน?” เสวี่ยปิงหนิงก้าวไปข้างหน้า แล้วหยิบตรามาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง “สิ่งนี้คือตราัเงินเซียวเหยาจริงๆ”
หลัวเลี่ยเอ่ย “ได้มาจากอูไท่ไหล”
“หา? ใครนะ?” เสวี่ยปิงหนิงคิดว่านางได้ยินผิดไป
“อูไท่ไหลที่เป็หัวหน้าพ่อบ้านของข้า เขาร้องขอความตาย โดยใช้ตรานี้เพื่อขอให้ข้าฆ่าเขา และเขายังบอกด้วยว่า ตรานี้ในแคว้นเป่ยสุ่ยมีทั้งหมดไม่เกินห้าชิ้น และคนที่เขารู้จักก็ไม่ได้มีมากนัก” หลัวเลี่ยอธิบายง่ายๆ
คนที่ประหลาดใจอย่างเสวี่ยปิงหนิงพยักหน้า “ความจริงแล้วสิ่งที่อูไท่ไหลพูดก็ไม่ผิดนัก เท่าที่ข้ารู้ ในแคว้นเป่ยสุ่ยมีตรานี้เพียงสามชิ้นเท่านั้น และชิ้นนี้เป็ชิ้นที่สี่ สำหรับผู้ที่รู้จักมันก็มีเพียงไม่กี่คน ซึ่งก็คือคณะผู้นำาุโ และอาจมีเพียงไม่กี่คนที่เคยได้ยินเื่นี้”
หลัวเลี่ยกล่าวว่า “พี่ปิงหนิง ท่านช่วยแนะนำตราัเงินเซียวเหยาให้ข้ารู้หน่อยได้หรือไม่”
เสวี่ยปิงหนิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงบอกรายละเอียดแก่เขา
เมื่อจะกล่าวถึงตราชิ้นนี้ ก่อนอื่นต้องอธิบายเกี่ยวกับหอเซียวเหยาให้ชัดเจนเสียก่อน
หากเป็สถานที่ธรรมดา ไม่ว่าจะมีตราัเงินเซียวเหยากี่ชิ้นก็ไม่มีประโยชน์
หอเซียวเหยาแม้ภายนอกจะเป็สถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งของต่างๆ เปรียบดั่งร้านค้า แต่ที่จริงแล้วพวกเขาคอยบงการแคว้นเล็กๆ ไม่ต่ำกว่ายี่สิบแคว้น และแคว้นเล็กๆ เหล่านี้บางแห่งอาจสามารถทำลายแคว้นเป่ยสุ่ยได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
การที่ทั้งสองอาณาจักรใหญ่ในดินแดนเหยียนหวงไม่เคยผนวกแคว้นเล็กๆ ทั้งแปดร้อยแห่งรวมเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เพราะทั้งสองอาณาจักรไม่อยากผนวก แต่เพราะมีกองกำลังขนาดใหญ่เช่นหอเซียวเหยาอยู่ ซึ่งหากเมืองใต้อาณัติของหอเซียวเหยาร่วมกันต่อต้านขึ้นมา พลังของพวกเขาก็สามารถทำให้ทั้งสองอาณาจักรเกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงได้
หอเซียวเหยาที่ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นเป่ยสุ่ย เป็เพียงหนึ่งในสาขาจำนวนนับไม่ถ้วนของหอเซียวเหยา ซึ่งมีสำนักใหญ่ที่แท้จริงตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ข้องเกี่ยวกับแคว้นเล็กๆ แปดร้อยแห่ง
“หอเซียวเหยาในเมืองหลวงของเรา แม้ภายนอกเป็เพียงร้านค้าเล็กๆ แต่ความจริงแล้วมีการจำกัดเฉพาะผู้ที่มีตราเซียวเหยาเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่ชั้นในได้ ภายในชั้นในนั้นจะมีการแลกเปลี่ยนสิ่งของระดับสูง และสามารถเข้าร่วมการประมูลระดับสูงได้ ทำให้มีโอกาสเห็นสมบัติที่หายากมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อของที่้าได้ เพียงเ้าบอกพวกเขาและจ่ายมัดจำบางส่วน พวกเขาล้วนหาให้ได้ทุกอย่าง” เสวี่ยปิงหนิงหยิบตราัเงินเซียวเหยาขึ้นมา “ตราเซียวเหยาทั่วไปนั้น ในเมืองหลวงของเรามีคนั้แ่แปดร้อยถึงหนึ่งพันชิ้น แต่ตราัเงินเซียวเหยานั้นพิเศษยิ่งกว่า”
หลัวเลี่ยที่เพิ่งได้ยินเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของหอเซียวเหยา ก็คิดว่านี่ไม่ง่ายเลย
เสวี่ยปิงหนิงกล่าวต่อ “หอเซียวเหยามอบตราัเงินเซียวเหยา และตราัทองเซียวเหยาให้กับคนนอกอย่างจำกัดจำนวน ว่ากันว่ามีตราระดับสูงที่สูงกว่านี้ แต่ข้าไม่รู้ว่ามันเป็อย่างไร แต่ก่อนอื่นมาอธิบายในระดับต่ำที่สุดก่อน นั่นก็คือตราัเงินเซียวเหยา เมื่อใช้ตรานี้ไม่เพียงเ้าจะได้รับส่วนลดในการซื้อของทั้งหมดเท่านั้น แต่เ้ายังมีสิทธิพิเศษอีกหลายอย่าง เช่นสิทธิ์ในการได้ประมูลก่อน แต่สิทธิ์เหล่านี้ไม่สามารถเทียบได้กับสิทธิ์ที่พิเศษที่สุด นั่นคือการช่วยชีวิต!”
“ตราบใดที่เ้าถือตราัเงินเซียวเหยาอยู่ หอเซียวเหยาจะปกป้องชีวิตของเ้าหนึ่งครั้ง ไม่ว่าเงื่อนไขจะเป็เช่นไร หรือแม้ว่าพวกเขาจะต้องต่อต้านอาณาจักรใด พวกเขาก็จะปกป้องผู้ถือตราจากความตายให้ได้ โดยกำหนดเวลาสำหรับเงื่อนไขนี้คือสามปี หลังจากพ้นสามปีไป พวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเ้าอีก”
ปกป้องชีวิตสามปี?
หลัวเลี่ยเอ่ย “แล้วทำไมอูไท่ไหลจึงไม่ใช้มัน? หรือว่าเป็ของปลอม”
“ไม่ มันเป็ของจริงแน่นอน” เสวี่ยปิงหนิงยิ้ม “แต่ที่เขาไม่สามารถใช้ตราัเงินเซียวเหยาเพื่อช่วยชีวิตตัวเองได้ เป็เพราะตราของเขายังไม่ได้เปิดใช้งาน”
“หมายความว่าอย่างไร” หลัวเลี่ยงงงวย
เสวี่ยปิงหนิงเอ่ย “ในหอเซียวเหยามีหลายวิธีเพื่อขอรับตราัเงินเซียวเหยา แน่นอนว่าวิธีการเหล่านี้ยากมาก เพราะหากเป็สถานการณ์ปกติ แม้เป็ถึงฮ่องเต้ของแคว้นเล็กๆ แคว้นหนึ่งก็อาจไม่สามารถนำตรามาได้ ข้าคิดว่าอูไท่ไหลอาจได้รับตราัเงินเซียวเหยามาโดยบังเอิญ เพราะตราัเงินเซียวเหยาชิ้นนี้จำเป็ต้องเปิดใช้งานด้วยตัวเอง และวิธีการเปิดคือหยดเืัที่อยู่ในระดับทลายยุทธ์ลงไปหนึ่งหยด”
หลัวเลี่ยหัวเราะและพูดว่า “ไม่มีทาง แค่เืัระดับทลายยุทธ์ อูไท่ไหลก็หาไม่ได้อย่างนั้นหรือ”
“เ้าคิดว่าทุกคนเป็เช่นเ้าหมดหรือ” เสวี่ยปิงหนิงมองไปที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า “เ้าไปถามเอาเถิด จะมีกี่ราชวงศ์ในแปดร้อยเมืองเล็กๆ ที่มีหยดเืัในระดับทลายยุทธ์? ระดับทลายยุทธ์นี้นับว่าอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงระดับกายทองคำ และัที่มีอายุยืนยาวบำเพ็ญตบะได้ถึงระดับนี้ นอกจากในโลกภพจิตัแล้ว ก็ยากที่จะพบได้ทั่วไป หรือต่อให้เป็ในโลกภพจิตั ก็นับว่าพบได้ไม่ง่ายเลย นับประสาอะไรกับเืัที่รวบรวมด้วยแก่นแท้เพียงหยดเดียว”
“เช่นนั้นข้าก็โชคดีแล้ว” หลัวเลี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เสวี่ยปิงหนิงกล่าวว่า “มานี่สิ พี่สาวจะเปิดใช้ให้เ้า”
หลัวเลี่ยโน้มตัวเข้าไปใกล้ และลมหายใจของผู้ชายที่แข็งแกร่งก็เป่ารดลงบนใบหน้าของเสวี่ยปิงหนิง ทำให้ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ
ภายใต้การแนะนำของนาง หลัวเลี่ยหยิบขวดเืัระดับทลายยุทธ์ออกมา และหยดลงบนลวดลายดอกไม้แปลกๆ ที่ด้านหลังของตราัเงินเซียวเหยา เมื่อเห็นว่าลวดลายดอกไม้แปลกๆ เริ่มจางหายไป หลัวเลี่ยจึงยื่นนิ้วออกไปััเบาๆ ที่หยดเืั และค่อยๆ ลากปลายนิ้วเพื่อเขียนชื่อตัวเอง
พรึ่บ!
หลังจากที่เขาเขียนเสร็จ ด้านหลังของตราก็เกิดแสงเปล่งประกายออกมา และดูเหมือนคำว่า ‘หลัวเลี่ย’ จะสลักอยู่บนนั้น ราวกับว่ามันถูกรวมเข้ากับตราแล้ว
เพียงเท่านี้ ตราัเงินเซียวเหยาก็ได้รับการเปิดใช้งานอย่างเป็ทางการ
เสวี่ยปิงหนิงลากหลัวเลี่ยไปซื้อของที่หอเซียวเหยาทันที
ในตอนนี้หลัวเลี่ยยังไม่รู้ว่าตรานี้สามารถทำอะไรได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเข้าไปในหอเซียวเหยา ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อน และไปหาซูชิวเชิงก่อน
หลัวเลี่ยชื่นชมในความภักดีและความสามารถของซูชิวเชิงเป็อย่างมาก เขาจึงเอาเืัระดับทลายยุทธ์มอบให้กับซูชิวเชิงเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาบอกกับซูชิวเชิงว่า เขาได้รับมันในด่านที่สี่ของบททดสอบผู้พิชิต
ซูชิวเชิงซาบซึ้งใจเป็อย่างมาก
เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับแก่น์แล้ว แต่เขาไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับวังชะตาได้เลย หากมีหยดเืัในระดับทลายยุทธ์นี้มาช่วยชำระล้างร่างกาย คงจะช่วยให้เขาก้าวเข้าสู่ระดับวังชะตาได้อย่างแน่นอน และความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ทำให้เขาสามารถช่วยเหลือหลัวเลี่ยได้ในอนาคต เนื่องจากตอนนี้ในแคว้นเป่ยสุ่ย ผู้ที่มีวรยุทธ์ในระดับแก่น์และวังชะตานั้นมีน้อยมาก
และสำหรับอูไท่ไหลแล้ว หากมันปรารถนาที่จะตาย เช่นนั้นก็ให้ตายไปเสียเถิด
หลังจากจัดการเื่ต่างๆ เสร็จแล้ว หลัวเลี่ยที่เพิ่งกลับมาก็ถูกเสวี่ยปิงหนิงลากออกจากวัง และตรงไปที่หอเซียวเหยาทันที
เมื่อเข้าสู่อาณาเขตของหอเซียวเหยา จะเห็นด้านนอกที่เป็สถานที่ค้าขายขนาดใหญ่มาก มีผู้คนเดินไปมาพลุกพล่าน แต่เสวี่ยปิงหนิงกลับไม่ได้มองเลยด้วยซ้ำ นางพาหลัวเลี่ยไปทางด้านหลัง
ตรงทางเข้ามีผู้คุ้มกันอยู่
เสวี่ยปิงหนิงแสดงตราเซียวเหยาระดับทั่วไปของนางที่มีสิทธิ์เพียงสามารถเข้าไปประมูลได้ แล้วผู้คุ้มกันพวกนั้นก็ปล่อยให้นางสามารถเข้าไปได้
เมื่อถึงตาของหลัวเลี่ย หลังจากที่เขานำตราัเงินเซียวเหยาออกมา ผู้คุ้มกันก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า และส่งใบรายการสิ่งของประมูลให้เขาทันที พร้อมทั้งแจ้งว่าห้องรับรองพิเศษหมายเลขสามจากทั้งหมดห้าห้องในพื้นที่การค้าด้านในจะถูกใช้โดยหลัวเลี่ย
“ดูเหมือนจะมีประโยชน์ทีเดียว” หลัวเลี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
เสวี่ยปิงหนิงกล่าวว่า “นี่เป็เพียงสิทธิ์เล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนี้เ้าจะได้รู้ว่าตรานี้มีประโยชน์เพียงใด”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน พวกเขาก็เข้าสู่พื้นที่การค้าด้านในแล้ว
พื้นที่ภายในไม่ใหญ่มากนัก เนื้อที่ประมาณหกถึงเจ็ดร้อยตารางเมตร มีสิ่งของมากมายวางอยู่ และมีคนสี่สิบถึงห้าสิบคนที่กระจัดกระจายกันไปเลือกของ
สิ่งของที่ขายในหอเซียวเหยาไม่ได้ใช้แค่เงินในการแลกเปลี่ยนซื้อขายเท่านั้น แต่บางรายการยังระบุอย่างชัดเจนว่าต้องแลกเปลี่ยนกับอย่างอื่นด้วย
เมื่อพวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่ที่นี่ สายตาก็เหลือบไปเห็นของที่วางขายซึ่งสะดุดตาเป็พิเศษ หลัวเลี่ยจ้องมองด้วยความงุนงง ขณะที่เสวี่ยปิงหนิงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับเขาเพื่อไม่ให้เขามอง